16 กันยายน 2566 16:28 น.

ดินแดนพันธสัญญา

คีตากะ

จากเอเดนสวนสรวงล่วงแหล่งหล้า
อาดัมและเอวาตกสวรรค์
เกิดมนุษย์คู่แรกแบกโทษทัณฑ์
แพร่เผ่าพันธุ์ต่อไปในโลกา
ถึงโนอาห์มนุษย์สุดโหดร้าย
มุ่งทำลายชีวิตจิตบาปหนา
ฝนตกสี่สิบวันตามบัญชา
เกิดมหาอุทกภัยในตำนาน
เกิดเมโสโปเตเมียแหล่งจารีต
หว่างไทกรีส-ยูเฟรตีสลุ่มละหาน
แหล่งกสิกรรมล้ำหน้าชลประทาน
แรกจดจารสุเมเรียนเริ่มเขียนคำ
ถึงบาบิโลนเรืองรุ่งเฟื่องฟุ้งสุด
ใจมนุษย์เสื่อมทรามลามถลำ
ชอบพูดจาบลาบลาภาษาคำ
วัฒนธรรมสูญสลายมลายไป
จากอาดัม โนอาห์ อับราฮัม
เกิดสายธรรมสองศาสน์ชาติยิ่งใหญ่
ทั้งชาวคริตส์อิสอัคยิวโยงใย
อิสลามได้มุฮัมมัดสายอิชมาเอล
ชนชาติยิวยาโคป โยเซฟหลาน
ย้ายถิ่นฐานสู่อียิปต์ลิบตาเห็น
รุ่นโมเสสยิวเป็นทาสชาติลำเค็ญ
ถูกฆ่าเข่นทรมานนานหลายปี
พระเจ้าใช้ให้โมเสสปลดปล่อยทาส
จากอำนาจฟาโรห์พายิวหนี
ทะเลแดงถูกแหวกแทรกวารี
คืนถิ่นที่คานาอันตามสัญญา
พระองค์มอบบัญญัติสิบประการ
ให้ลูกหลานชาวยิวยึดรักษา
หลงร่อนเร่ทะเลทรายหลายเพลา
สู่ดินแดนพันธสัญญาสี่สิบปี
ถึงเยซูนาซาเร็ธ เบธเลเฮม
จรดเยรูซาเล็มเมืองชินสีห์ 
สู่มักกะฮ์ถัดมาห้าร้อยปี
มุฮัมมัดเผยวจีแห่งอัลลอฮ์
จากดินแดนเมโสโปเตเมีย
สู่เปอร์เซียอาหรับจรดใต้หนอ
เกิดมนุษย์หลายเผ่าแยกเหล่ากอ
ล้วนแม่พ่อเดียวกันสร้างสรรค์มา...
16 กันยายน 2566 10:39 น.

ใครที่เธอรัก ใครที่รักเธอ

คีตากะ

จงรักแต่อย่าทุกข์เพียงสุขสันต์
จงรักแต่อย่าหวั่นยึดมั่นไหน
จงรักแต่อย่าหวังคาดดั่งใจ
จงรักและก้าวไปในเสรี
จงเชื่อว่าสัจจะชนะแน่
จงเชื่อจิตเดิมแท้พระชินสีห์
จงเชื่อในคุณงามและความดี
จงเชื่อถ้อยวจีแห่งพุทธา
จงเรียนรู้ปล่อยวางทุกอย่างสิ้น
จงเรียนรู้ชีวินอุเบกขา
จงเรียนรู้จักตัวตนพ้นมายา
จงเรียนรู้อัตตาพาทุกข์ทน
จงอย่าปล่อยให้จิตใจใช้กลเล่ห์
จงอย่าเขวหนทางแห่งมรรคผล
จงอย่ายึดถือมั่นในตัวตน
จงล่วงพ้นคนสัตว์ฉากทัศน์ใด
จงมองฉันคือเธออีกคนหนึ่ง
จงมองฉันลึกซึ้งใช่ใครไหน
จงมองฉันแค่ภาพลวงปราศกายใจ
จงมองฉันแท้ไซร้ไม่มีจริง...
28 สิงหาคม 2566 08:49 น.

ม้าสี่ตัวบัวสี่เหล่า

คีตากะ

พุทธพจน์ภาษิตลิขิตเขียน
กาลจำเนียรก่อนเก่าเขาศึกษา
ระดับความรู้แจ้งแห่งปัญญา
เฉกฝึกม้าให้เชื่องเปรื่องอินทรีย์
ชายผู้หนึ่งน้อมเกล้าเฝ้าพุทธะ
อาชีวะฝึกม้าเป็นสารถี
ตถาคตตรัสปุจฉาถามพาที
ถึงวิธีฝึกม้าจงสาธยาย
ชายฝึกม้าสารถีเกสีตอบ
ในระบอบฝึกม้าอาขยาย
มีวิถีสี่แบบอย่างแยบคาย
ทูลถวายน้อมเกล้าเล่าความนัย
ม้าหนึ่งฝึกเพียงละม่อมพร้อมสยบ
อาหารครบน้ำดีเปลี่ยนนิสัย
เอ่ยวาจาฟังเพราะเสนาะใจ
ก็เชื่องได้ดั่งอุบลบานพ้นธาร
ม้าสองฝึกรุนแรงใช้แทงปฏัก
ยากยิ่งจักเชื่อเชื่องเปลืองสังขาร
บ้างลงแส้ผูกขาพันธนาการ
งดอาหารความพยศจึงหมดลง
ม้าสามดั่งอุบลปริ่มพ้นน้ำ
เบาหนักทำเพาะบ่มสมประสงค์
บ้างรุนแรงบ้างละม่อมยอมเชื่องลง
อาชาคงใช้ประโยชน์สิ้นโทษภัย
ม้าสี่ราวอุบลงอกเพิ่งออกเหง้า
เป็นอาหารปลาเต่ามิเอาไหน
จะฝึกฝนเสียเปล่าเขลาเกินไป
ฝึกไม่ได้ให้ฆ่าทิ้งอิงปาจารย์...
14 สิงหาคม 2566 14:46 น.

เสื่อม

คีตากะ

เสื่อมสัตย์ศีลสิ้นธรรมาอารยะ
เสื่อมศรัทธาปสาทะมนุสสา
เสื่อมทรามพรหมวิหารสี่มีเมตตา
เสื่อมปรัชญาฟ้าหมองครองปฐพี
สู่หุบเหวคำสาปปวงบาปเคาะห์
สู่คำเยาะเย้ยหยันยันภูตผี
สู่โทษทัณฑ์จากสรวงล่วงอเวจี
สู่อัคนีแห่งไฟประลัยกัลป์
สูญเสียธรรมจะดำดิ่งสิ่งอาเพศ
สูญเทเวศน์ที่ปกปักจักอาสัญ
สูญสิ้นปราชญ์ย่อมตกตายไปตามกัน
สูญเผ่าพันธุ์เพราะอวิชชาพามืดมน
จบสิ้นยุคเกิดแลดับปรับสมดุล
จบบุญคุณความแค้นแสนสับสน
จบผูกพันชาตินี่ที่วกวน
จบสิ้นคนตามบัญชาฟ้าลงทัณฑ์
หน้าสุดท้ายประวัติศาสตร์สิ้นชาติภพ
หน้าสุดท้ายจุดจบพบโศกศัลย์
ห้าสุดท้ายแห่งมนุษย์สุดสิ้นกัน
หน้าสุดท้ายก่อนความฝันวันต่อไป..(เริ่มต้นยุคหินอีกครั้ง)
6 มิถุนายน 2566 16:32 น.

ยิ้มเย้ยยุทธจักร

คีตากะ

images?q=tbn:ANd9GcQzzm0wodT9TTo0-_GcDfs
หัวร่อ...ให้โลกหล้าพาขันแข่ง
มุ่งแก่งแย่งกระดูกโตโกลาหล
ทำร้ายกันหยันเย้ยเผยเล่ห์กล
บนถนนสู่สุสานลานประลอง
หัวร่อ...ให้ชนชั้นปัญญาปราชญ์
หลงอำนาจมัวเมาเฝ้ากลัดหนอง
เหยียบซากศพช่วงชิงสิ่งหมายปอง
สุดท้ายกองเป็นศพกลบฝังดิน
หัวร่อ...ให้ชีวิตติดตรวนโซ่
ประชันโอ่เพลงเศร้าเฝ้าติฉิน
ยุ่งวุ่นวายภารกิจจิตชาชิน
หลงลืมสิ้นความตายขายชีวา
หัวร่อ...ให้ขุนเขาทอดเงาเขียว
ดูโดดเดี่ยวแต่สงบพบหรรษา
หัวร่อให้สุริยันและจันทรา
คงแต้มฟ้างามสง่าน่ายลชม
หัวร่อ...ให้ธารามหาสมุทร
มิสิ้นสุดระลอกคลื่นดื่นถาถม
เก่าไปใหม่มาตามกระแสลม
ล้วนจ่อมจมลับหายไปตามกาล
หัวร่อ...ให้ลาภยศและชื่อเสียง
ประหนึ่งเยี่ยงเมรัยให้หอมหวาน
หมื่นหยดหยาดเมามายก็ไม่ปาน
เพียงร้าวรานยามสร่างร่างทรุดโทรม
หัวร่อ...ให้สัจธรรมค้ำจุนหล้า
ดั่งมารดาสรรพสิ่งยิ่งแสงโสม
คงเยียวยารักษาปลอบประโลม
ซ่อนพักตร์โฉมสะคราญไว้ในหมอกจาง...
ไม่มีข้อความส่งถึงคีตากะ