1 กรกฎาคม 2565 18:38 น.

ว่าวป่านขาด

คีตากะ

VALojz.jpg
ปานดั่งว่าววิลาวัณย์ชั้นเวหาส
สายป่านขาดปลิวลอยถอยไถล
ปราศทิศทางหว่างฟ้าลมพาไป
สู่แห่งหนตำบลใดให้คลาดคลา
หมายติดตามก็ยากแท้จะแลเห็น
ด้วยยามเย็นใกล้ค่ำย่ำเวหา
จะรั้งรอก็เกรงใครไปนำพา
ให้อุราร้อนรนกระวนกระวาย
ฝากอินทร์พรหมยมพญาพาปกปัก
ดูแลรักษ์เจ้าไว้อย่าให้หาย
จะตกหล่นหนใดอย่าได้วาย
อำพรางกายเก็บไว้กว่าได้เจอ
แสนเสียดายว่าวน้อยล่องลอยฟ้า
เคยทายท้าอำนาจลมชื่นชมเสมอ
กางปีกงามท่ามฟ้าพาละเมอ
หมายพบเจออีกครั้งดั่งเลื่อนลอย...
26 มิถุนายน 2565 00:21 น.

น่าเสียดาย

คีตากะ

โลกธาตุพิลาสล้ำในต่ำใต้
ดาวดวงใดฤาเปรียบเทียบเทียมหา
ถึงจันทรอรสะอางพรายพร่างตา
แต่นิจจาเลือนรางร้างชีวิน
ธรรมชาติดาษดาน่าชมทัศน์
หมู่มวลสัตว์ชัฏป่ากระแสสินธุ์
หลากห้วยหนองคลองบึงถึงวาริน
ร้อยรวมสิ้นสู่ชเลถ่ายเทชล
ขุนเขาเขียวเคี้ยวคดจรดขอบฟ้า
น้ำตกบ่าทุกยามท่ามไพรสณฑ์
มวลบุปผชาติดาษเดียรแวะเวียนยล
ชื่นกมลคลายเศร้าเคล้าสุคันธ์
ยินเสียงเพลงผิวไผ่ในไพรป่า
พิศดารายามค่ำล้ำสวรรค์
ฟังเสียงฝนหล่นหลั่งดั่งวารวัน
เกษมสันต์ทุกยามความทุกข์คลาย
ศีลธรรมค้ำจุนโอบอุ้มโลก
ผ่านวิโยคด้วยธรรมนำเฉิดฉาย
เพลานี้วิกฤติชิดกล้ำกลาย
ชนทั้งหลายปราศศีลสิ้นธรรมา
จึ่งปรากฏพิบัติภัยในหลายหลาก
ทั้งข้าวยากสงครามโรคลามหา
ค่อยกำจัดมนุษย์สุดโศกา
วันพิพากษาชนทุศีลให้สิ้นไป...
***ฆ่าสัตว์ (เพื่ออาหาร) เป็นเหตุ
อาจบางทีสายเกินไปที่จะแก้ไข...
12 พฤษภาคม 2565 22:40 น.

กลิ่นเถ้าธุลีศรีอยุธยา

คีตากะ

จากปฐมทวารวดีศรีเมืองมิ่ง
ร่องรอยทิ้งซากอิฐแทนปริศนา
จากกรุงเทพทวาราวดีศรีอยุธยา
ซากวัดวากรุงเก่ากลิ่นเถ้าไฟ
กาลเพลากลบฝังความหลังลับ
ทวีทับทุกข์เทวษเหตุล่มสมัย
การแก่งแย่งอำนาจขาดสีลมัย
ชีวาลัยล่วงลับสุดนับคณา
สองคชสารสัประยุทธ์สุดวิปโยค
หญ้าน้อยโศกย่อยยับรับทุกขา
ผลัดเปลี่ยนกี่แผ่นดินสิ้นนครา
พ่ายกรรมาแพ้กาลแหลกลาญลง
รุ่งเรืองก็ล่มสลายในปลายสุด
พระสัมพุทธตรัสไว้ให้คลายหลง
เพียงคุณงามความดีที่ดำรง
สืบชาติพงศ์จนถึงซึ่งนฤพาน...
4 พฤษภาคม 2565 23:37 น.

สงครามเส็งเคร็ง

คีตากะ

วางดาบจึ่งบรรลุสรรเพชุดา
พระพุทธาพจนารถประกาศสอน
มหาโจรองคุลีมาลแต่กาลก่อน
โลภโกรธหลงดุจดาบซ่อนกัดกร่อนจินต์
ชีวิตแลกด้วยชีวิตอย่าคิดหนี
ทวีปทั้งสี่ดุจพี่น้องเกี่ยวข้องสิ้น
ฆ่ากันไปได้อะไรในแดนดิน
เพียงมลทินกรรมชั่วติดตัวไป
ผลปาณาติบาตอำนาจเหลือ
ขาดเอื้อเฟื้อเมตตาพาหม่นไหม้
ย้อนผลส่งสงครามรุกลามไป
ปานดั่งไฟไหม้ป่าพาวอดวาย
นี่แหละหนามนุษย์สุดประเสริฐ
ล้ำเลอเลิศปัญญาน่าใจหาย
สร้างอาวุธฆ่ากันอันตราย
โลกวุ่นวายปานนรกอกระกำ....
27 เมษายน 2565 22:25 น.

เนกขัม

คีตากะ

จับหัวหรือจับหางจงอางร้าย
ย่อมมิวายถูกแว้งกัดต้องบัดสี
สะสมบุญตุนบาปตราบชีวี
ยากหมายหนีห้วงทุกข์จ้องรุกราน
หลงละเมอเวียนวนบนกองขยะ
ย่อมยากละความเหม็นเป็นสุขศานติ์
กว่านอนลงดงดอกสุมามาลย์
จึ่งประทิ่นกลิ่นหวานสราญใจ
มาตรอยู่บ้านวิหารถ้ำหรือจำวัด
ครองคฤหัสถ์บรรพชิตสถิตไหน
แสวงหาสารัตถะประโยชน์ใด
ธรรมหาได้เปลี่ยนแปรแค่จิตต่าง
ถึงโลกแตกจักรวาลพานล่วงลับ
ชีวิตดับลับไปให้หม่นหมาง
ไม่หลงเหลือสิ่งใดให้เปล่าว่าง
สิ้นทุกอย่างแต่ธรรมยังดำรง....
ไม่มีข้อความส่งถึงคีตากะ