14 กรกฎาคม 2555 22:39 น.

ราตรียังดุริยางค์

กวีปกรณ์

เรไรร่วมงานประสานเสียง
จิ้งหรีดร่วมเรียบเรียงสำเนียงผสม
จักจั่นยังไม่หลับขับคลอลม
ยังนิยมยามนี้ยังมีไหน

จันทรากระพริบทำกริยา
หมื่นดาราเริงระบำพราวไสว
วาทกรกบอึ่งรำพึงไป
สวยงามหาใดได้เทียมทัน

หรี่โคมไฟหัวนอนตอนใกล้เช้า
โรงละครโรงเก่าเอาม่านกั้น
เด็กน้อยผลอยหลับแต่หัววัน
เพียงฉันยังนอนอ่านบทกวี

ไก่แจ้แจ้งปลุกยามใกล้แจ้ง
อาทิตย์ยิ้มแก้มแดงประแป้งหมี่
ยายตื่นตำน้ำพริกผัดกะหล่ำปลี
เณรทำวัตรทันทีที่โบสถ์งาม

ระฆังร้องก้องวัดดังโมงโมง
ไอ้ด่างหอนตัวโกงอกเบ่งกล้าม
เด็กน้อยงัวเงียขึ้นตื่นตาม
กล่องข้าวน้อยใส่ย่ามไปโรงเรียน

แม่ค้าขายข้าวแกงผัดแป้งขาว
มีพี่สาวผมยาวกระโปรงเหี่ยน
อีกฝั่งฟากถนนนาโล่งเตียน
นายอำเภอยังไม่เปลี่ยนจักรยาน

กระดิ่งดังลั่นแล้วเข้าแถวก่อน
เพลงชาติท่อนสุดท้ายก้องทั้งย่าน
ครูใหญ่ขึ้นนำสวดมนต์เสียตั้งนาน
มานี เพชร วีระอ่านพระอภัยมณี

ผีเสื้อสวมเสื้อสีคนละลาย
แดงเหลืองแลดูคล้ายกำมะหยี่
โทรทัศน์แจ้งข่าวพระกรณียฯ
ภารโรงเสื้อชมพูสีทานมื้อกลางวัน

บุษบา ชาตรี เดินเตะฝุ่น
อภิรักษ์ ทักษิณหุ้นโครงการฝัน
ทุ่งนาร้างปลูกเรือน อีกเขื่อนกั้น
ภูเขาเคยเคียงตะวันกลายควันปูน

ตึกรามบ้านช่องหลายห้องหับ
ผู้มีสิทธิ์เปิดรับก่อนเสียศูนย์
ใกล้ตึกแกรมมี่มีดอกคูน
ช่องเก้าฉายการ์ตูนอุลตร้าแมน

นักศึกษาเย็นย่ำก็ฮัมเพลง
เฉลย-เก็งประมวล-หมายขายเป็นแผ่น
เลดี้กาก้ากลัวน้ำท่วมขอเปลี่ยนแพลน
หรีดเรไรขึ้นแท่นแทนทันที

ดอกหญ้ายังโยกย้ายซ้ายไปขวา
ดวงดารายังดาษดื่นทุกพื้นที่
ดวงจันทร์ไม่เต็มดวงบ้างก็มี
จั๊กจั่นเล่นดนตรีเหมือนทุกคืน!				
13 กรกฎาคม 2555 23:51 น.

ประจำทาง

กวีปกรณ์

สายฝนหยุดแล้วเหลือเพียงฟ้า
กับเมฆครึ้มบางตาในยามค่ำ
ความมืดนั้นเดินทางมาประจำ
อาจยังมีบางคนช้ำเป็นธรรมดา

บนทางเท้านีออนสว่างฉาย
หญ้าริมทางโยกย้ายซ้ายไปขวา
ป้ายรถเมล์ผู้โดยสารเหลือบางตา
ตู้จดหมายไร้ค่ากว่าวานวัน

คนช่างฝันอ่านนิยายริมชายคา
สองหนุ่มสาวสนทนาเพียงสั้นสั้น
รถประจำทางจอดเพราะออดลั่น
ถึงเวลาจากกันแล้วขวัญใจ

เสียงสัญญาณขานเรียกร้องเป็นเพลง
ความคิดถึงบรรเลงสัมผัสได้
หนึ่งบรรทัดข้อความที่ฝากไว้
ปลายทางตอบกลับไปในทันที

ความเงียบเข้าครอบงำประจำทาง
ใครบางคนอ้างว้างไร้แบตเตอรี่
บทเพลงเศร้าท่อนสุดท้ายจบพอดี
ปาดน้ำตาเร็วรี่แล้วลุกยืน

กระเป๋ารถจ่ายตั๋วเมื่อจ่ายตังค์
เบาะข้างข้างมานั่ง-เขาคนอื่น
ยิ้มทักทายทั้งรับและส่งคืน
รถเทียบป้ายน้ำตารื้นเป็นประจำ

เปิดห้องพักเอนกายหมายพักผ่อน
บนจานข้าวเคยร้อนเมื่อก่อนค่ำ
กลับเย็นชืดจืดรสคล้ายฝนพรำ
จึงสะสางความช้ำแล้วเข้านอน

พรุ่งนี้ฉันจะตื่นตามตะวัน
ทิ้งแสงจันทร์เงินงามไว้กับหมอน
ทิ้งความเงียบไว้ท่ามกลางจราจร
ทิ้งเพลงเศร้าบางท่อนในกลอนกานท์				
13 กรกฎาคม 2555 03:58 น.

ความเศร้าในบทกวี

กวีปกรณ์

สายฝนฝากความเสียใจไว้กับฟ้า
เพียงสายลมพัดมา-น้ำตาไหล
พายุฝากความกล้ำกลืนสะอื้นใจ
เพียงแปร่บปราบคราใดดังครืนครืน

ฉันขับรถฝ่าสายฝนถนนหลวง
บังคับใจไม่เป็นห่วง-เขาคนอื่น
วิทยุฉันปรับฟังเพลงบางคลื่น
ถนนลื่นบางครั้งต้องตั้งใจ

จุดหมายคือห้องหับที่ดับมืด
อากาศหนาวเย็นชืด-ชอบร้องไห้
จุดเทียนหอมห้องกลับสว่างไฟ
ผ้าเช็ดตัวหยิบใช้เพียงเช็ดตัว

นั่งอยู่ริมหน้าต่างข้างเตาผิง
แผ่นหลังอิงอุ่นกายไปจนทั่ว
กลิ่นกาแฟหอมจางลอยจากครัว
อีกหนึ่งความหมองมัวระหว่างวัน

อ่านกวีนิพนธ์ของคนเศร้า
เปียกปอนความเหงา-คนช่างฝัน
สายฝนยังโปรยจางอยู่อย่างนั้น
โทรทัศน์ประกาศพลันฝนหยุดแล้ว!				
11 กรกฎาคม 2555 12:37 น.

คืนเดียวกันนั้น

กวีปกรณ์

ท่วงทำนองความรักเรียบเรียงใหม่
ความเปลี่ยนแปลงแปรไปจนไหวหวาม
ยามยินแสนเศร้าใจในทุกยาม
ผลงานงามเธอสร้างสาแก่ใจ

ก่อนเคยร่วมร้อยเรียงแต่เพียงสุข
เป็นแรงปลุก/ปลอบขวัญคราร้องไห้
คำว่ารักแม้ไม่คัดเขียนลงไป
ก็ดังก้องทรวงในให้ได้ยิน

จนค่ำหนึ่งถึงเช้าครั้งเราห่าง
คำเธออ้าง-เหตุใด-เชื่อใจสิ้น
ในค่ำคืนหมื่นฝนโรยร่วงริน
ฉันบอกรักโบยบินจนสิ้นคืน

และภายในค่ำคืนที่ตื่นรอ
ฉันร้องไห้จนท้อ-จำทนฝืน
จิบกาแฟหอมกรุ่นอย่างกล้ำกลืน
บางครั้งยืนคอยรับเธอกลับมา

ภายในค่ำคืนเดียวกันนี้เอง
ฉันได้เขียนบทเพลงถวิลหา
ความคิดถึงถ่ายทอดด้วยอักษรา
ล้านหยดหมึกน้ำตาในคราเดียว

ทำนองเพลงฉันใช้ทำนองเดิม
แค่เขียนคำรักเพิ่มอย่างเปล่าเปลี่ยว
บันทึกภาพจันทร์ฉายคลับคล้ายเคียว
ทุกตึกร้าง/ทางเลี้ยวเที่ยวหาเธอ
				
10 กรกฎาคม 2555 09:12 น.

ฉันผู้มีความรักเต็มหัวใจเธอผู้จากไปอย่างไร้รัก

กวีปกรณ์

ฉันผู้มีความรักเต็มหัวใจ
จะเคียงข้าง/ห่างไกลใช่อุปสรรค
แม้นกี่หมื่นปีแสงไกลยังใกล้นัก
ฉันจึงปล่อยให้รักได้เดินทาง

เพราะความรักนั้นอยู่เต็มหัวใจ
คืนจะมืดเพียงไหนยังใสสว่าง
ดาวจะยังสวยงามท่ามฟ้ากว้าง
ถึงแม้ความอ้างว้างมาเยือนใจ

ดังนั้นฉันจึงได้เรียนรู้
ดาวสวยงามมีอยู่เกินนับได้
และความรักมากมีค่าเพียงใด
เมื่อความรักเดินทางไกลไปจากทรวง

ถึงเธอผู้จากไปอย่างไร้รัก
และถอดทิ้งแหวนสลักถ้อยบางท่วง-
คำสัญญาไร้ค่าเพียงคำลวง
สิ้นไร้ซึ่งความหวงห่วงอาทร

นิรันดร์กาลรานไปเพียงใจห่าง
ดุจสายลมโชยบางนั้นจางผ่อน
ความชิดใกล้เผาใจจนรุ่มร้อน
เธอจึงถอนคำมั่นในสัญญา

ดังนั้นเธอจึงจรจากไป
กลับแปรเป็นคนใหม่กลายแปลกหน้า
จะกี่คำฉุดยื้อซื้อเวลา
เพียงรอกาลเทียบท่าพาเธอไกล				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 1 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกวีปกรณ์