สุริโยอับแสงอ่อนแรงฉาย ค่อยค่อยหายลับลาฟ้าสลัว รัตติกาลกรายหาอุรารัว รายรอบตัวความมืดช่างชืดเย็น เจ้าเรไรกรีดร่ำรำพันเสียง เป็นคู่เคียงเพียงหนึ่งที่พึงเห็น จมภวังค์ดุจเดิมดั่งเริ่มเป็น ผู้ลำเค็ญอีกคราไร้ค่ามอง เพียงลมแผ่วต้องกายมิวายหวั่น ร่วงสวรรค์ขาดชู้เป็นคู่สอง เหลือแต่ซากวิญญาน้ำตานอง ลมสนองผิวกายยังอายลม รวยระรินกลิ่นใดทำให้หอม คล้ายเคยดอมเคล้ากลิ่นแล้วสิ้นขม แต่ห่างหายสายตาไม่มาชม เพราะมัวดมกุหลาบแดงแสลงใจ ห