22 มกราคม 2553 20:53 น.

~.. มนตร์เสน่ห์ ว่านเสน่ห์จันทร์ ..~ (ฉบับห่อ)

กิ่งโศก

index.php?PHPSESSID=8585011e822638592b0f1264167399.jpg1264167208.jpg1264166466.jpg

                 ๒๒ มกราคม ๒๕๕๓

..ว่ากันว่า ยามหลงป่าในดินแดนแห้งแล้ง..หากได้กลิ่นว่า เสน่ห์จันทร์ ทางทิศใดแล้ว ย่อมมีแหล่งน้ำที่นั่น..
..และว่ากันว่า..กลิ่นดอกเสน่ห์จันทร์ โชยไปในที่มีหญิงชาย ใกล้ชิดกัน จะบังเกิดการเสียตัว..ณ ถิ่นนั้น..

ที่มา...จากนวนิยาย ยาวที่สุดในประเทศ และในโลก ด้วยมั้ง 
				
14 มกราคม 2553 16:32 น.

~.. ขับลำนำ ตำนานเอื้องแซะ ..~(ฉบับห่อ)

กิ่งโศก

bella-1237446311-125-25-80-211.jpg1263519964.jpg1263520016.jpg1263520061.jpg1263520105.jpg
     + กิ่งโศก +

๑๔  มกราคม ๒๕๕๓
ด้วยมีใครคนหนึ่งโพสหาหนังสือ เอื้องแซะ เมืองนาย บอกว่าเป็นหนังสือต้องห้าม (สมัยก่อน) หุหุ เลยหาในกูเกิ้ล เจอดอกไม้ ที่เรียกว่าเอื้องแซะ งามๆ พร้อมบอกว่าเป็นดอกไม้ของสูง มีตำนานด้วย				
12 มกราคม 2553 13:09 น.

~.. น้ำใจ....นาง ..~

กิ่งโศก

1263174716.jpg
  ๏ บริภาษพากย์ถ้อยถั่งโถมถม
เนื้อคำคมกรีดควั่นสะบั้นเฉือน
สะทกสะท้อนสะท้านสะเทือน
น้ำตาเกลื่อนติดแก้มรอยแต้มตี

  ๏ สายใยขาดตัดเยื่อไม่เหลือยาง
แบ่งเส้นข้างขีดขั้นวารวิถี
เสียงกรวดน้ำคว่ำขันคลุ้งธุลี
แลชาตินี้ชาติไหนให้ไกลกัน

  ๏ เนตรสายกร้าวสบกล้าดุจตาเสือ
พิโรธเรื่อก่ำแดงสาดแสงหยัน
กึ่งคำเย้ยเอ่ยย้ำช้ำจาบัลย์
ลืมความครันครั้งหนึ่งคำนึงเนา

  ๏ รอยแนบอกกกปลอบป้ายน้ำตา
ยามเจ้าล้าโลมใจให้คลายเหงา
คำหยอกเอินเขินองค์ของนงค์เยาว์
ยังก้องเร้ารู้รับสดับยิน

  ๏ ยลใครใครย่อมรู้ว่าคู่แท้
เกี่ยวก้อยแม่จรหมายใจถวิล
สองมือชี้มัจฉาแวกวาริน
เหนือโขดขินชมชู้สกุณา

  ๏ อกข้าเอ๋ยเคยทำกรรมแก่เขา
ภาพผืนเก่าวับหายบนปลายฟ้า
เจ็บด้วยคำพร่ำแทรกเสียดอุรา
คมศาสตราเล่มใดก็ไม่เทียม

  ๏ ผิดเพราะทางห่างไกลจึงใช่เหตุ
ผิดเพราะพิษอาเพทจึงอายเหนียม
ผิดเพราะช้ายืดยาดหรือจนเจียม
ผิดเพราะเขียมคำถ้อยว่ารักเธอ ๚ะ



            + กิ่งโศก +

๑๒ มกราคม ๒๕๕๓				
10 มกราคม 2553 14:06 น.

~.. หวงยิ่งแม่นา ..~ (ฉบับโคลงห่อกลอน)

กิ่งโศก

1263106557.jpg
๏ แสนหวงสุดห่วงห้วงแหนสมร
สวาทวอนรสร่ำเร้าถวิล
คะนึงโหยน้าวหาอยู่อาจินตน์
เสน่ห์นิลเนตรน้องเหมือนต้องมนต์

๏ จงอางหวงไข่ห้ามคนคร้ามเห็น
ใช่เทียบเช่นเศษเสี้ยวเรียวขุมขน
ยากยุงไต่ไรตอมรุมล้อมยล
ผจงจับขับพ้นมิระคาง

๏ เกินกว่าพลายปลายงาโง้งงามงอน
งวงสอดชิดปิดซ่อนนัยน์ตาขวาง
ระแวงหวาดหวั่นไหวมิวายวาง
หวงของช้างยังน้อยกว่าเรียมมี

๏ ยิ่งกว่าป่ารักถิ่นสิขเรศ
วนาเขตแข่งล้อช่อฉวี
อ้อมกิ่งโอบใบเอื้อมอฎวี
หาเทียมพี่พรอดกอดนั้นเกินใคร

๏ หรือจะเปรียบกว่าปลาว่ารักน้ำ
ว่ายวนซ้ำซับซ่าศลาศัย
แลลืมดินด้วยมอบหมดฤทัย
นั่นยิ่งไกลเทียบพี่ที่ให้เธอ ๚

+ กิ่งโศก +
๑๐ มกราคม ๒๕๕๓
				
22 ธันวาคม 2552 11:59 น.

~.. ขอขอบคุณมิตรสหาย ..~

กิ่งโศก

thak.jpg
๏ ขอขอบคุณพี่น้อง.......แนบใน ใจเฮย
ตรึงจิตนานนับไกล.....เกิดกว้าง
อารีโอบเอื้อไอ.............อบอุ่น
กำซาบซ่านแทรกสร้าง.........มิตรซร้องหมายชม ๚

๏ พรเลิศจากพี่ป้า.......กันนา
ย้อนยกยอนำพา.......สร่างไข้
หวน-วนกลับคุณา......คืนพี่
สุขมิสร่างซาได้.......รับแล้วหฤหรรษ์๚

๏ เฌอมาลย์นำส่งให้......จตุพร
สร่างโศกโรคพ้นจร.......สลัดทิ้ง
มาลัยพร่างย้อนศร......มาสู่
ให้นุชพิสุทธิ์พริ้ง.....เพริศแพร้วยิ่งเทอญ๚

๏ ยาเอยยาปวดแก้.........โรคา
ร้อยทุกข์พันหมื่นมา.........ข่มแก้
หลุดหมองหม่นร้างรา.....กำหราบ
โอสถปลดเปลื้องแท้....ทอดค้างคอยถอน๚

๏ นักสืบนี้ใช่ไร้  .......เรียงนาม
ยังบ่งบอกทุกยาม.....เยี่ยงนี้
มีมากยิ่งจิตงาม........แง้มหยาด
สาดส่องประกายชี้......แทรกเย้ายอแสง๚

๏ ประภัสสรส่องแก้ว.......ประไพ
มากจิตรในน้ำใจ.........จับแล้ว
คอยหาห่วงถามไม-.....ตรีจิตร  แม่นอ
กำซาบกำจายแจ้ว......จวบนี้มิคลาย๚

๏ พรพจน์หยดจากฟ้า......ฉ่ำฝน
เย็นจับระยับจน.......ชื่นแล้
มิตรหมายนฤมล........โคล่อน   แม่เฮย
เพียงมิลืมเพื่อนแท้.....จิตสล้างเริงฝน๚

๏ รมณียาหนุ่มนี้........นำพร
ไตรรัตน์แห่งบวร....ประเสริฐล้ำ
รับแล้วแห่งอาทร.....แทนบอก
คงผูกพันชูค้ำ.......มัดคล้องรัดแขน๚

๏ หยดหนึ่งเทียนส่องให้......เห็นแสง   สว่างนา
สาดแทรกมิครางแครง.....คิดจ้อง
เปลวปลายเด่นสีแดง.......มิดับ
ใครใคร่ผูกไมตรีน้อง.....นุชนี้อรชร๚

๏ แม่พิมของชาตินี้........พิมนาง
เฝ้าหมั่นแจวเรือหาง.....ส่งเจ้า
หวังหนึ่งต่อเติมวาง......กำหนด
เหล่าศิษย์สู่ฝั่งเหย้า.......ย่อมซึ้งแต่ตน๚

๏ ฉางน้อยเจ้านุชน้อง.....นฤมล
แม้นจักเจ้าซุกซน.......อยู่บ้าง
น้ำใจกลับมากยิ่งจน.....เกินคาด
ขอสุขภิรมณ์สร้าง.......แด่เจ้าเถิดหนอ๚

๏ ฝากฝันนามพี่ผู้.......เมตตา
เพียงหนึ่งน้องโศกา.....ก่อนครั้ง
ดึงปลุกปลอบนำพา......ฉุดลุก
ไม้หักจึงสานรั้ง........รุดสู้เผชิญ.๚

๏ ปรางค์ทิพย์ดุจทิพย์เพี้ยง......ผกามาศ
งามส่องประกายผาด........ผ่องแก้ว    
ขอสุขสวัสดิ์หยาด.......แยงทาบ
พรส่งหวนย้อนแพร้ว......พาดพ้องกรองได๚

๏ แค่คำทายทักนั้น......แน่นใน
มิตรมากมีปานใด.....ใช่ล้า
เพียงเอ่ยปากเผยใจ....จับจิต
โอ้ว่าเพียงลูกหว้า......หว่านต้นไมตรี๚

๏ คำเอ่ยเผยบอกไว้......อินสวน  พี่พี่
ยังติดตรึงคล้ายตรวน........ผูกข้อ
ดุจดินด่างดานพรวน......พื้นพลิก
จึ่งสุกใสโลมล้อ......หลบร้อนผ่อนลง๚

๏ อนงค์นางหนึ่งนั้น......มิตรสหาย
มิห่างร้างมลาย........หลบเร้น
คงเคียงอยู่ทักทาย.....มิขาด
คือเพื่อนเสมือนเน้น.....หน่ายนั้นหามี๚

๏ กิตติกานต์เด่นด้วย.....ไมตรี
บ่ห่างหายหน่ายหนี....หลบหน้า
แลเยือนพบย่อมมี.......ทายทัก
ขอแม่จงจรัสจ้า......เฉกด้วยนามนาง๚

๏ นามวิชัยใช่เชื้อ....พ่ายใด
ชำนะเหนือโพยภัย......เฉียดกล้ำ
ขอบคุณยิ่งคำนัย......ส่งสุข
ผลส่งคืนท่านย้ำ.....ยื่นให้มากโข๚

๏ สุขส่งสอดแทรกสร้าง........ ธันวันตรี
สมดั่งมิตรคิดดี........ส่งให้
จำเริญรุจน์ฤทธี.......มากบ่ม
ร้ายพ่ายหน่ายมิใกล้......ห่างสิ้นสหลีกหนี ๚

๏ ไหมไทยคงค่าล้น........แลเห็น
งามจิตผกายเย็น.......หย่อนแล้ว
อย่าได้พบลำเค็ญ.....มาสู่
เดือนเด่นเช่นไหมแก้ว.....เกริกก้องเกรียงไกร๚


๏ ครู..ผู้ประสิทธิ์แก้ว.......ก่อกานท์
แก้ว..ส่องเจียร์จดจาร......เจิดได้
ประเสริฐ..ยิ่งทุกกาล.....สานก่อ
ยอยกจึงนบไว้.........ว่านี้พระคุณ๚

๏ กระดาษทรายขัดเกลี้ยง......หลอมเกลา  ศิษย์นา
ครูหนึ่งนุชแฝงเงา.........นักสู้
สอนสั่งยุวเยาว์......ยากอยู่
แรงรักปักใจรู้.........ชีพนี้มุ่งสอน ๚

๏ พิมญดานุชน้อง.........นวลงาม
งามจิตมิขิ้งขาม.........เสน่ห์เน้น
งามกายยิ่งกว่านาม......บ่งบอก
ขอแต่จำเริญเต้น.....ไต่เต้าในงาน๚

๏ วงค์ตะวันทอทาบฟ้า.......ทอดนวล
งามงดจรดพฤกต์สวน......ส่องสล้าง
แลเด่นฉาบยินยวล........ยลหยอด
จรัสรุ่งรุ้งมิร้าง..........คู่หล้าค้างโลม๚

๏ ใบตองอ่อนสดด้วย.......ดื่นเขียว
ตองห่อจีบแลเรียว.......รีดโง้ง
จักสานสอดต่อเทียว.....เคหะ เทียมแฮ
ชั้นช่อแซมวงโค้ง.......เด่นต้องแตะตา๚

๏ เสมอจุกใช่ก่อพ้น.......เกินเศียร
ยังหมั่นหมายแวะเวียน......พากษ์ไว้
ขอบคุณยิ่งคำเขียน.....ล้อหลอก
มิตรภาพคงผูกได้.....กว่าถ้อยอื่นเผย๚

๏ ขอบคุณพี่ช่อฯนี้......แนบนาน
เคยบอกแนะประสาน....ช่องชี้
น้องหนีหน่ายคนพาล....แพ้พ่าย  ใจเนอ
จึงพี่ปลอบน้องนี้....หน่ายร้างคอยหลอน๚

๏ ได้พบคนเด่นด้วย.....คอนพู   ทนเฮย
สุขยิ่งกว่าวธู.......ส่งยิ้ม
ไมตรีจิตพื้นปู.....ทางบอก
สานส่งสนิทลิ้ม.....รสซ้อนซ่านทรวง ๚

๏ ราชิกาชื่อพ้อง.....สนิทใน
ดุจดั่งนางหนึ่งใด.....พบแล้ว
น้ำจิตชั่งวิไล.......ดุจร่าง
มิ่งมิตรอันเพริดแพร้ว....แห่งบ้านนี้หนอ๚

๏ ยิปซีชื่อแปลกนั้น...ใช่แปร  อื่นนอ
กลับมากเกินมิตรแล.....ช่อชั้น
ยินดีนักใช่แช.....เชือนเลื่อน
ใจผูกพันติดครั้น.....ค่อยย้ายชิดเคียง๚

๏ แสงเพชรส่งวาบเวิ้ง......ทางจร
นำส่องคนแรมรอน......ย่างก้าว
ผกายแจ่มดุจวอน.....ชวนว่า
จรัสจึ่งแจ้งอะคร้าว.....จับจ้องจอดใจ๚

๏ นราสิริล้ำ.......โลมชม
จุ๋นจุ่นใครยังงม.....คิดง้าง
ทายทักจากพี่สม....ใจนึก
เพียงแค่นี้อิ่มอ้าง...เอิบแล้วเต็มทรวง๚

๏ วิทย์ศิริรุ่งเค้น........คำโคลง
เคยพบแลจรรโลง.....ขับร้อง
มือใหม่หัดขับโขลง...บ่แจ่ม
เชิญแนะชี้ช่องคล้อง......ขีดเหล้นโคลงหลอน๚

๏ นามก่องกิกหยิกแก้ม......เหล่าสาว
เอินหยอกเพลินแพรวพราว...พิศไว้
เวียนแวะสู่ทุกคราว.....เสมอยิ่ง
พี่มั่นเสมอได้.......ใช่ทิ้งกลางครัน๚

๏ อัลมิตราหนึ่งผู้.......มั่นคง
แม้นเฉกเช่นอนงค์.....หนึ่งนั้น
หากจักแกร่งเกินอง....หญิงอื่น
ยืนหยัดต้านลมกั้น......ลู่ก้องโถมกลืน๚

๏ กุลาคนมากพร้อม......กานท์กวี
ถ่ายพจน์ชูวจี........จึ่งแต้ม
สอดส่องสู่พาที......มิตรภาพ
น้องพี่พึ่งพาแย้ม.....อยู่ยิ้มข้างเคียง ๚

๏ มะกรูดกุ๊ดจี่น้อง.......พิไล
เจิดแจ่มแอร่มวัย.......จรัสแจ้ง
เบิกบานซ่านปราศัย......ทุกเมื่อ
บุญส่งสุขใช่แสร้ง......ว่าสร้างชั่วคราว ๚

๏ เรรินรินใส่น้ำ.........ไมตรี
ยอยกเพ่งมณี.........เลิศล้ำ
ประกายแจ่มขจี......ทรงค่า
ซึมซับรับรอยย้ำ......หย่อนรู้อยู่เสมอ ๚

๏ ตัวเล็กด้วยนุชน้อง......นิ่มนาง
ทักส่งสุขบอกวาง.......ฝากไว้
จำเริญแด่แม่ปรางค์.....ปราชญ์เปรื่อง
สิริลักษณ์เทียมได้.......ยากแล้วใครเหมือน ๚

๏ ดอกบัวพิศุทธิ์เพี้ยง.......มาลัย
เอื้อแห่งอาทรใจ...........ทุกครั้ง
ไร้ทุกข์โรคห่างไกล.....อย่าเฉียด
ให้เบ่งบานก้านรั้ง......ช่อรุ้งกำจร ๚

๏ เพียงพลิ้วปลิวสู่พื้น......ภพใด
สุขจักก่อหอมไกล.......ทั่วหล้า
ยามสบสู่หทัย.......สุขยิ่ง  แท้นอ
สรรพสิ่งดีดื่นฟ้า......ฝากให้สมสนอง ๚

๏ น้ำตาลหวานหว่านเร้า.......โลมใจ
รับรสซ่านชอนไช.......แทรกสิ้น
ไร้ขมขื่นใดใด.........ผันผ่าน
ใครใคร่ชิมรสลิ้น.....ซาบซึ้งตรึงนาน ๚

๏ ก้าวที่กล้าย่างก้าว......มั่นเดิน
มาสู่พร้อมสรรเสริญ......ส่งให้
พรใดมากคุณเกิน......ขานกล่าว
จงสู่เธอผู้ได้.......มากด้วยไมตรี ๚

๏ พี่รันพลันเยี่ยมน้อง.......คนจน
จึงอิ่มเต็มกมล.........มากแล้ว
ครอบครัวสุขอำพน.....โภคทรัพย์
พรเลิศประเสริฐแก้ว....ส่งย้อนคืนคำ ๚

๏ กีรติดั่งว่าไว้.........เกิ่รนคำ
ยังฝากแฝงถ้อยนำ......หน่อเนื้อ
ขอบคุณแวะเวียนทำ.....บอกข่าว
จงแจ่มจำรัสเชื้อ.......เช่นนั้นเนิ่นนาน ๚

๏ อรุโณโผล่แจ้ง.......กำจาย
ไร้ทุกข์สุขสมหมาย....รุ่งแล้ว
เลียมโลมไล่หม่นคลาย......ข่มขับ
รอรุ่งประกายแก้ว.......ก่อก้านสุริโย ๚

๏ เพียงแพรวแวววับฟ้า......เกร็ดงาม
ประดับจับทุกโมงยาม.......ระยับแย้ม
เบื้องบนแต่งเต็มตาม......ระดาษ
แลจึ่งตลึงแต้ม.....ต่างต้องมองตาม ๚

๏ กวีน้อยหนุ่มผู้....พากเพียร
เชิงเชี่ยวโชว์จารเขียน......ดื่นห้อง
ใครเห็นชอบแวะเวียน........ต่อตอบ
จึ่งเร่งสรรสร้างซร้อง.........ผลิตให้ยลชม ๚

๏ ตรากลมโตเต่งตั้ง.......หน่วยตา
จำรัสแห่งดารา..........เด่นห้วง
ฉายแสงฉ่ำอาภา........ขับสว่าง
เพ็ญพร่างหลบหลีกจ้วง......แข่งสู้รัศมี ๚

๏  ขออภัยชื่อนั้น.......หล่นหลุด
จึงบอกออกเผยผลุด.....ทุกผู้
กิ่งโศกซาบซึ้งสุด......จักเอ่ย
หากชื่อใครหายรู้......จักต้องขออภัย ๚ะ๛

				
Calendar
Calendar
Lovers  2 คน เลิฟกิ่งโศก
Lovings  กิ่งโศก เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกิ่งโศก
Lovings  กิ่งโศก เลิฟ 2 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกิ่งโศก