7 กันยายน 2556 22:56 น.

๏..จันทรคาธ..๏ ( กลอนห่อฯ ฉบับรกสัมผัส)

กิ่งโศก

  ๏ เนตรโพลงบ่งภาพให้ ....     เล็งเห็น
กบจะกลืนเดือนเพ็ญ  ....       พร่างฟ้า
เขี้ยวแสยะเยือกเย็น  ....       ขย้ำขยับ  อ้านา
เดือนเคลื่อนหลบเชื่องช้า ....    นรลุ้นช่วยเหลือ ๚ะ๛
  ๏ เนตรเบิกโพลงบ่งเพลิงเผาเวิ้งภพ
ราหูข่มโหมขบตะปบแข
จันทรเจ้าเท้าจ้ำหนีย่ำแจ
บังเมฆคั่นม่านแคร่หลบแลเคียง
  ๏ อสุรีเหลิงฤทธิ์ลิขิตฤกษ์
คำรนซ้องร้องเศิกก้องเกริกเสียง
ขย้ำอัดยัด-อมดวงกลมเอียง
อัคนีพะเนียงแตกเสี่ยงนับ
  ๏ เหล่าผู้คนโพ้นคุ้งสะดุ้งคาด-
เคาะเกราะสั่นกลั่นสาดสารพัดสรรพ
หวังช่วยไล่ส่ายร้องทั้งผองรับ
ปืนผาข่มพรมขับนานับครั้ง
  ๏ กี่รอบปีรี่ป่วนรุกหวนปล้ำ
กี่แรมเดือนเลือนด่ำระห่ำดั่ง
กี่คืนวันคั่นเวรเป็นภวังค์
กี่ศตวรรษชาติหวังยั้งนิวรณ์
  ๏ รอคอยคราวดาวเคลื่อนพรากเรือนเคราะห์
เพ-ลาทัณฑ์ผลาญกระเทาะลัดเลาะถอน
อสูรคืนกลืนจันทร์รอผันจร
พร่ำมนตราอมรนำพรเมือง ๚ะ๛
         + กิ่งโศก +
    ๗ กันยายน ๒๕๕๖
8 กันยายน 2556 11:44 น.

๏..ครั้นมารย่ำเมือง ..๏ (กลอน-รก สัมผัส)

กิ่งโศก

    ๏ ระแหงแหล่งเหือดสิ้น  ....   ซบกระเซ็น    
ด่างระดะกระเด็น ......       ดอก-ริ้ว
นรกจกเปรตเป็น ......        แปลงร่าง รานฮา
กระทืบกระแทกกริ้ว ....    หลู่ฟ้าเย้ยสวรรค์ ๚ะ๛
   ๏ ทั่วระแหงแหล่งฮ้ายบรรลัยเหี้ยน
ผีห่าเชือดเหือดเสี้ยนจวนเจียนสิ้น
อกว้างดายวายด่าวทบท่าวดิน
ใต้มณฑณมลทินตกถิ่นทาง
  ๏ เปลวแสงหรี่สีเลือนเสมือนลับ
โคมเอยเด่นเอนดับพลันอับด่าง
ในฝันขื่นฝืนคร่ารุ่มระคาง
เหือดหายร่วงห้วงร้างพับวางลง
  ๏ ภัยพิบัติพัดบ่าโถมถาบั่น
จากหัตถ์ชนโหนชั้นห้ำหั่นส่ง
เติมฟืนไพล่ไฟผลาญให้รานพง
ชนอัปรีย์อี๊ปลงกลหลงเป็น
  ๏ ความยากอื่นยื่นอังบดบังอัต
เหลือโลภค้างรั้งคัดวิบัติเข็ญ
ตัวกูโดยโกยด่วนล้วนประเด็น
ใบ้รู้ย้อนร้อนเย็นรำเค็ญยิน
  ๏ มารผลาญทรัพย์เพลินฉีกโขกจิกแส่
กระเซ็นทั่วชั่วแถแย่ทุกถิ่น
เหล่ากาลีกิเลสอาเพศ-ริน
โหมรุมกัดรัดกินพุงปลิ้นกาง
  ๏ พระหลักเมืองเมลืองโรจน์ท่านโปรดรู้
ช่วยยั้งชาติหยัดชูคงคู่สร้าง
ป้องร้ายถมล่มเถื่อนขับเคลื่อนทาง
พร่าชั่วร้ายฉายล้างราบม้างลง ๚ะ๛
         + กิ่งโศก+
    ๖ กันยายน ๒๕๕๖
16 สิงหาคม 2556 21:16 น.

๏..Take Me to Your Heart..๏ กลอนห่อโคลง

กิ่งโศก

   ๏ จะซุกซ่อนแทรกเร้น......ฝังรอย รานฮา
กลบ-ลบตะเข็บฝอย ......อดีตร้าว
กระตุ้นตื่นขื่นถอย ...... รันทด ฟื้นเนอ 
สืบเสาะแสวงก้าว ......  ใหม่สร้างรังสรรค์  ๚ะ๛   
  ๏ ซุกซ่อนเร้นเสียดร้าวใต้เงาลึก
ยังตราตรึกผนึกย้ำถึงคำหยัน
เดียวดายท่ามบาทวิถีผู้มีทัณฑ์
กระซิบพรั่นสั่นขั้วกลางหัวใจ
 
  ๏ ผืนแผ่นดินถิ่นกว้างย่ำย่างก้าว
หาหนึ่งเด่นเพ็ญอะคร้าวราวแขไข
 ปฏิพัทธ์ฉันเถิดอรทัย 
จับมือฉันมั่นไว้อย่าได้วาง
 
  ๏ โปรดสำแดงแจ้งรักประจักษ์รู้ 
สมเป็นเช่นยอดชู้มิรู้สร่าง
 ถึงไม่เที่ยงคงทนบนเส้นทาง
แต่สองเราเคล้าข้างไม่ร้างเคียง
 
  ๏ จะผันแปรเช่นใช่ก็ไม่ทราบ 
ศิโรราบจับซบบรรจบเสียง
 เถิดจูงใจผูกจิตจุมพิตเพียง
 พร้อมอ้อมโอบกอดเยี่ยงมิเบี่ยงโย้
  ๏ พูดด้วยพจน์จรดล้ำถ้อยคำรัก 
ว่าฉันพร้อมยอมภักดิ์จมปลักโผล่
 ให้เริงหลง-งง-เงย-ก้มเกยโง 
โลมรักผลิปริโขเติบโตคง
  ๏ ณ คาบนี้สิพร้อมน้อมพบเพื่อน 
แม้นมิตรเยือนสงสัยนัยประสงค์
โปรดรู้ใต้กรอบตาเบื้องหน้าตรง  
ถ้วนล้วนกรงวงภาพรับทราบพอ  ๚ะ๛
      + กิ่งโศก+
ศุกร์ ที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๖
ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๙ ปี มะเส็ง
ฟังเสียงรอสายทางโทรศัพท์ที่เป็นเพลงฝรั่ง ที่เราฟังไม่ออก ฟังทุกวันและทุกวัน มันก็เลยคุ้นหู ไปดูไปอ่านเลยลองผันมันเป็นบทกวี มั่วๆเอาตามความรู้สึกอะครับ
Take Me To Your Heat...
9 สิงหาคม 2556 09:16 น.

๏..บุพการี..๏

กิ่งโศก

    ๏ “มาตาปิตุ”แม้น .... เหมือนพรหม
เฉก“บุรพเทวะ”สม ....   เช่นผู้
”คุรุ” แรกอุดม     ....   โดยศาสตร์  ปฐมเนอ
“อาหุเนยโย”รู้     ....   เลิศล้วนอรหันต์  ๚ะ๛
 ๏ อัน"มาตาปิตุ”ควรคู่ตั้ง
ดำรงค์รั้งร่มไม้โพธิ์ไทรเสมือน
ยกเทินสูงเยี่ยงเด่นกว่าเพ็ญเดือน
คือเครื่องเตือนเยือนย้ำกตัญญู
 ๏ เทียบบิดรมารดามีค่าดุจ-
พรหมวิหารพิสุทธิ์-สี่แด่สู
เมตตาก่อการุณค้ำจุนชู
มุทิตารู้อยู่อุเบกขาย้ำ
 ๏ คือเทวะผู้สรรคอยคั่นชี้
ปกป้องภัยพ่ายหนีตีกระหน่ำ
ถนอมเนื้อเชื้อชอบมิบอบช้ำ
รักเกินใครกล่าวคำนำเทียบเคียง
 ๏ คือปฐมบรมครูผู้เริ่มสอน-
เกลาปัญญากล้าก่อนจะคลอนเกี่ยง
วางวิถีบาทเอนไม่เบนเอียง
ให้รู้หลบทบเบี่ยงเลี่ยงอบาย
 ๏ คืออรหันต์บุคคลยึดยลครบ
วิสุทธิ์เทพรู้ภพบรรจบหมาย
เนื้อนาบุญหนุนแกร่งก่อแรงกาย
สาธุชนหญิงชายจงใคร่ตรอง
๏ ผู้บุตรเอยผู้ดำรงค์สืบพงศา
โปรดแลหาผู้สร้างท่านทั้งสอง
ยามท่านอยู่ดูแลตามครรลอง
ประพฤติครองต่อผู้มีพระคุณ  ๚ะ๛
    + กิ่งโศก +
๙ สิงหาคม ๒๕๕๖
ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๙ ปีมะเส็ง
..ใกล้วันแม่..กิ่งโศกขอน้อมรำลึกถึง บุพการีทั้งสอง ..แม้นบัดนี้จะคงมีแต่พ่อเฒ่า พระองค์เดียวในบ้านที่ยังเป็นที่
ยึดเหนี่ยวสายสัมพันธ์ในครอบครัว..ส่วนแม่ ตอนนี้ท่านสถิตย์บนฟ้าบนสรวงสวรรค์แล้ว ลูกขอประพฤติดี กระทำดี เพื่อทดแทนพระคุณ
ของแม่..ส่วนพ่อลูกจะขอทดแทนพระคุณท่านเท่าที่บุตรพึงกระทำได้ ...
1 สิงหาคม 2556 10:37 น.

๏.. เงา(แอบ)แฝง..๏ กลอนห่อฯ

กิ่งโศก

     ๏ "เงา"ทอดท่ามทิวาสุริยวัฏ
เคลื่อนคล้อยห้อยเห็นชัดรัศมีฉาย
เลียนอย่างหยอกล้อหยันย้ำบรรยาย
จวบรัตติกาลผ่านกรายลับหายกลืน ๚ะ๛
   ๏ เงาฉายงายโชติเช้า ....บังแสง
สุริย์ฉายสำแดง ....  ยิ่งล้อ
คนเคลื่อนเลื่อนให้แคลง ... คงเล่น ล้อเฮย
จะย่างนั่งวิ่งห้อ.... ก็ห้อมตะล่อมเหมือน
  ๏ คล้ายเพื่อนคล้ายแฝดคล้าย....สองคน
ตรองกิริยาฉงน .... ต่างคล้าย
ภาพดำม่านหม่นจน ... มืดจับ เจื่อนเฮย
ขยับยกตกตามย้าย .... เยี่ยงเย้าหยอกเอิน
  ๏ ต่างเพลินต่างเพริดใต้ ....ตาวัน
ท่ามทิวาเฉิดฉันท์ .... ปรากฏไซร้
ห่างหว่างระยะหัน .... เห็นกำเนิด เงานา
หนึ่งมืดหนึ่งสว่างให้ .... แบ่งข้างสองเขลา
 
  ๏ ลางเงาลางเกิดซ้อน .... ซ่อนลึก
ครอบกรอบก่อต่อตรึก .... ตริรู้ 
งำจิตขีดสำนึก ....ชะงัก งันฮา
แผลงปรับเปลี่ยนแปลงผู้ .... พลิกใต้เงางำ
  ๏ คำกล่าวเงานั้นย่อม .... คู่ตัว 
เงาว่างบ่เห็นหัว ..... เหตุสิ้น-
ชีพวิบัติขลาดกลัว .... ลางก่อ ร้ายแฮ 
ด่าวชะตาแตกดิ้น .... ดับต้องตามเกณฑ์
  ๏ เงาตัวเห็นสะท้อน.... ตัวตน
เงาจิตย่อมกลืนกล .... กลบกล้ำ
คือผลิปริแปลงผล .... ปลายสุด แท้เนอ
สรรพสิ่งบังเกิดซ้ำ .... สืบตั้งแต่อัตตา ๚ะ๛
                 + กิ่งโศก +
           ๑ สิงหาคม ๒๕๕๖
     แรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๘ ปีมะเส็ง
เงานั้น ย่อมสำแดงสถานะ โดยเสมอเพื่อนเสมือนญาติ ยิ่งมิตร
Calendar
Calendar
Lovers  2 คน เลิฟกิ่งโศก
Lovings  กิ่งโศก เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกิ่งโศก
Lovings  กิ่งโศก เลิฟ 2 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกิ่งโศก