14 สิงหาคม 2548 20:54 น.

เรือจ้างกลางแม่น้ำสายเลือด

วิจิตรวาทะลักษณ์

          เสียงวังเวง  เพลงสงคราม  ตามขับขาน
ในทุกย่าน  ผ่านเสียงปืน  อันขื่นขม
ระเบิดผ่าน  ร่านประดัง  ดั่งระรม
เพลงโศกตรม  จึงพรมพรั่ง  ดังระแวง

          มีเรือจ้าง  กลางแม่น้ำ  แห่งสายเลือด
ที่ถูกเชือด  ให้เลือดสาด  หาดระแหง
อุดมการณ์  ครูยิ่งใหญ่  ไม่เปลี่ยนแปลง
จึงลงแรง  เสี่ยงความตาย  หมายวิชา

	          เพื่อนครูเขา  หลายชีวิต  ปลิดจากร่าง
ให้เวิ้งว้าง  คงถึงตน  บนเบื้องหน้า
เห็นเด็กน้อย  ยังรอสอน  ป้อนวิชา
จึงยังกล้า  ยืนหยัด  มิปัดไป

	          ทั้งพ่อแม่  เพื่อนพี่น้อง  ร้องให้กลับ
อีกนานับ  หลากปัญหา  มาแข้ไข
เหนื่อยจากสอน  ยังพอทน  มิบ่นใด
แต่เหนื่อยใจ  มันหนักอึ้ง  จึ่งคร่ำครวญ

	          แต่ละวัน  เสียงปืนดัง  ยังไม่หาย
กี่คนตาย  กี่คนร้อง  ก้องโหยหวน
กี่ชีวิต  ต้องโศกเศร้า  เฝ้ารัญจวน
กี่เสียงครวญ  ประโคมคู่  อยู่ทุกวัน

	          ขอเอาด้าม  แดนขวานไทย  ใช้ฝังศพ
ให้ดินกลบ  ฝังร่าง  ครูอย่างฉัน
ให้เขารู้  ว่าศรัทธา  จรรยาบรรณ
ของครูนั้น  ไม่ย่อท้อ  ต่อสิ่งใด

	          อุทิศแล้ว  จิตวิญญาณ  อันแรงกล้า
เพื่อนำพา  เด็กสู่ทาง อย่างสดใส
หากเขาอยาก  ให้ลูกเขา  โง่เง่าไป
รออะไร  ฆ่าฉันสิ  มิขัดเคือง

          วิจิตรวาทะลักษณ์
          วันอาทิตย์ที่  14  สิงหาคม  2548
          21.01  น.
				
14 สิงหาคม 2548 17:31 น.

ศรัทธาสถาบัน

วิจิตรวาทะลักษณ์

                    สถาบัน  อันสูงค่า  น่านับถือ
นั่นก็คือ  แหล่งสถาน  การศึกษา
ที่สั่งสม  บ่มสาน  การวิชา
สู่นิสิต นักศึกษา สถาบัน

	                       กว่าจะผ่าน กี่ด่านมา ณ ที่นี้
เตรียมเอ็นทรานซ์  นานกี่ปี  ที่มุ่งมั่น
คนกี่หมื่น  กี่ล้าน  ขานแข่งกัน
ต้องฝ่าฟัน  กี่เรื่องราว  ให้ร้าวใจ

	                      จนได้สวม  ชุดนิสิต  ติดตราชื่อ
ว่าคุณคือ  นักศึกษา  ตราสดใส
เข็มกลัดตรา  สถาบัน  อันเกรียงไกร
จึงปักอยู่  หน้าอกให้  ได้เชิดชู

	                    เดินไปไหน  มาไหน  ใครยกย่อง
ว่าคือผอง  ปัญญาชน  จนหนาหู
เสื้อขาวงาม  จึงเลอเลิศ  คำเชิดชู
ว่าคือผู้  เปี่ยมปัญญา  วิชาการ

	                   แต่ทำไม  ใส่เสื้อมัด  รัดทรวงอก
จนล้นหก  กระดุมปริ  มีทุกย่าน
กระโปรงสั้น  จนเห็นก้น  คนทัดทาน
บ้างแหวกผ่าน  โชว์ขอบเจ๋ง  กางเกงใน

                             บ้างเช่าหอ  อยู่เป็นคู่  ฉันชู้สาว
โลกีย์คาว  จึงครอบงำ  ความสดใส
หากตั้งครรภ์  ก็บอกหมอ  รออะไร
ทำแท้งให้  แป้บเดียวหนอ  ไม่รอรี

	                 มีมือถือ  ไว้ใช้  เครื่องหลายหมื่น
ตอนกลางคืน  เที่ยวบาร์คลับ  กลับเช้าจี้
เสื่อผ้าล้ำ  นำแฟชั่น  ฉันดูดี
เงินไม่มี  ก็ขอเสี่ย  มาเคลียคลอ

	                เข็มกลัดใคร  ชื่อใหญ่กว่า  ราคาสูง
ให้เสี่ยจูง  สู่ห้องหับ  ไม่กลับหอ
สถาบัน  ของใครใหญ่  ใช้ค้ำคอ
ค่าตัวต่อ  ก็สูงนำ  ไปตามกัน

	               สถาบัน  อันสูงค่า  น่านับถือ
ควรแล้วหรือ  ถูกตีค่า  ว่าอย่างนั้น
นี่นะหรือ  คือศรัทธา  สถาบัน
ที่เธอฝัน  เข้ามาเรียน  เขียนวิชา

                                     วิจิตรวาทะลักษณ์
                                     วันอาทิตย์ ที่ 14  สิงหาคม  2548
                                     17.40  น.

				
13 สิงหาคม 2548 22:24 น.

แด่คุณดอกรัก ดอกไม้ที่ไม่เคยแพ้

วิจิตรวาทะลักษณ์

          คุณคือหนึ่ง  สตรี  ที่แกร่งกล้า
ที่ฟันฝ่า  เรื่องเลวร้าย  มาหลายหน
คุณคือหนึ่ง  แห่งศรัทธา  มหาชน
บรรทัดฐาน  สิทธิแห่งคน  จะยลยิน

	          แม้ตาคุณ  จะมืดมัว  สลัวร่าง
แต่หนทาง  แห่งจิตใจ  คุณไม่สิ้น
สายธารธรรม  แห่งน้ำใจ  จะไหลริน
ถมทางดิน  เพื่อเกื้อหนุน  ให้คุณเดิน

	          คุณยังมี  ดวงตา  ดวงที่สาม
อันงดงาม  ที่เราท่าน  สรรเสริญ
คือคุณมี  ลูกสาว  พาก้าวเดิน
จงดำเนิน  เพื่อศักดิ์ศรี  วิถีชน

	          คุณอาจจน  ด้วยเงินตรา  มาเสริมสร้าง
สู่หนทาง  แห่งเศรษฐี  ที่เป็นผล
แต่คุณรวย  ด้วยศักดิ์ศรี  วิถีชน
ความเป็นคน  คุณยิ่งใหญ่  ใช่ธรรมดา

	          เงินแปดแสน  ที่คุณได้  อาจไม่มาก
แต่ถ้าหาก  คิดให้ดี  มันมีค่า
ทำให้รู้  ว่าเขานี้  ตีราคา
สองดวงตา  แค่แปดแสน  น่าแค้นใจ

	          เงินแปดแสน  ได้ดวงตา  มาคืนหรือ
แต่ใช้ซื้อ  ความปราณี  ที่หมอให้
ค่าคนจน  ช่างน่าขำ  ต่ำกระไร
เงินแปดแสน  สมควรได้  ใช่แล้วฤา

	          จะอุธรณ์  ก็เชิญเถิด  เปิดทางแล้ว
เพราะเทือกแถว  พวกคนจน  ใช่คนหรือ
จึงรังแก  แต่ยังไม่  ได้ลงมือ
นี่นะหรือ  คือคุณค่า  ตราแห่งคน

	          ตุลาการ  แห่งคนจน  บนถิ่นนี้
ตัดสินแล้ว  ว่าคนมี  ศักดิ์ศรีผล
คุณชนะ  ในหัวใจ  ของคนจน
แม้เบื้องบน  ว่าคุณแพ้  แคร์ทำไม

          วิจิตรวาทะลักษณ์
          วันเสาร์ที่  13  สิงหาคม  2548
          22 : 27
				
13 สิงหาคม 2548 22:14 น.

ของฝากจากบ้านนอก

วิจิตรวาทะลักษณ์

          ได้รับกล่อง  ของฝาก  จากบ้านนอก
จ่าหน้าซอง  ถึงบางกอก  บอกลูกสาว
ตัวหนังสือ  ที่จ่าหน้า  ขายาวยาว
บอกเรื่องราว  ถึงที่มา  ว่าคือใคร

	          ตั้งแต่เล็ก  แม่หาให้  ใส่ปากท้อง
มิเคยพร่อง  ทั้งข้าวปลา  แม่หาให้
จนบัดนี้  ลูกใหญ่กล้า  มาอยู่ไกล
แม่ยังได้  ส่งของป่า  มาสู่กิน

	          ทั้งเห็ดปลวก  เห็ดไคร  ใส่ถุงหิ้ว
ยอดผักติ้ว  เก็บมาให้  ไม่ลืมสิ้น
บอกปลาแดก  กับลวกข่า  ช่างน่ากิน
ตักตำนิน  กับผักใส่  ได้ส่งมา

	          ทั้งหน่อไม้  ไผ่บง  ลำตรงตั้ง
แม่ก็ยัง  มัดใส่  ไว้คอยท่า
ใบย่านาง  ผักชะอม  ผสมมา
หมกไข่ปลา  ห่อใบตอง  รองอย่างดี

	          ส้มปลาน้อย  ส้มผักเสี้ยน  แม่เพียรคั้น
คั่วจักจั่น  ต้มบักแนบ  แซ่บอีหลี
อีกหมกฮวก  ที่แม่ย่าง  สุกอย่างดี
คั่วกุดจี่  ตั๊กแตน  แสนโอชา

	           แมงดาหอม  บ่นใส่ปลา  มาฝากด้วย
หมกหยวกกล้วย  ใส่เนื้อหมู  ดูมากค่า
ซุบหน่อไม้  ใส่ใบขิง  ยิ่งโอชา
ปิ้งปลาร้า  ห่อใบตอง  ของคู่กัน

	          ผักกะแยง  อ่อมใส่กบ  ให้ครบสูตร
ใบมะกรูด  บองปลาร้า  น่าชิมชั้น
พร้อมของกิน  ถิ่นบ้านป่า  สารพัน
ที่แม่นั้น  ส่งมาให้  ได้ทุกคราว

	          ได้รับกล่อง  ของฝาก  จากบ้านอก
พร้อมคำบอก  แม่ฝากมา  หาลูกสาว
คิดฮอดเจ้า  เด้ออีหล่า  น้ำตาพราว
เมื่อถึงคราว  จะกลับบ้าน  ถิ่นฐานตน

          วิจิตรวาทะลักษณ์
          13  สิงหาคม  2548
          22 :  23
				
13 สิงหาคม 2548 22:06 น.

แม่ที่ถูกลืม

วิจิตรวาทะลักษณ์

          ยายบุญมี  ตื่นแต่เช้า  เข้าครัวก่อน
ก่อไฟฟอน  หุงข้าวปลา  ทำอาหาร
เครื่องหวานคาว  สารพัด  จัดใส่จาน
ตะกร้าสาน  ใส่จานข้าว  เอาเรียงลง

	          บัวดอกขาว  สามดอกรัด  มัดเป็นช่อ
ใบเตยห่อ  เป็นช่อชั้น  งานประสงค์
แซมกล้วยไม้  ระบายศรี  ตรีไตรรงค์
น้ำหอมสรง  เตรียมหยาดน้ำ  ตามพิธี

	          หลังเตรียมของ  ไปวัดวา  ตะกร้าตั้ง
ก็หันหลัง  ไปอาบน้ำ  ชำระศรี
ปะแป้งหอม  ขมิ้นทา  มาอย่างดี
ห่มอินทรีย์  ด้วยชุดขาว  พราวพิไล

	          ด้วยสงสัย  ยายจึงถาม  ความแน่วแน่
จะพาแม่  ไปใส่บาตร ที่วัดไหน
ฝ่ายลูกตอบ  มาเถอะน่า  อย่าร่ำไร
แล้วบึ่งรถ  พาแม่ไป  ในทันที

	          จากเช้าตรู่  สู่สาย  ผ่านหลายวัด
กลับเลาะลัด  ไปวัดไกล  ไม่คุ้นที่
ถึงจุดหมาย  พาแม่ตรง  ลงทันที
แล้วเร่งจี้  พาแม่ไป  ในศาลา

	          แม่ไหว้พระ  อยู่นี่ก่อน  ค่อยย้อนกลับ
ผมไปรับ  เพื่อนเกลอหน่อย  เขาคอยหน้า
เสร็จแล้วผม  จะย้อนกลับ  มารับนา
แล้วจะพา  แม่นั้น  กลับบ้านเรา

	          จากเช้าสาย  จนบ่ายเที่ยง  ไร้เสียงลูก
ราตรีผูก  ห่มพนา  ยิ่งน่าเศร้า
ไร้แวววี่  ลูกจะกลับ  มารับเอา
รู้ตัวแล้ว  ว่าลูกเขา  เอาลอยแพ

	          อยากกลับบ้าน  ก็ไม่รู้  บ้านอยู่ไหน
ที่ทำได้  นั่งรอนับ  วันกลับแน่
หลายวันผ่าน  ลูกไปลับ  กลับไม่แล
ทิ้งให้แม่  นอนอ้างว้าง  ข้างศาลา

	          อาศัยข้าว  จากชาวบ้าน  เขาทานให้
จึงเข้าใจ  ในถ้อยคำ  เขาย้ำว่า
แม่คนเดียว  เลี้ยงลูกได้  หลายคนมา
ลูกหลายคน  หนึ่งมารดา  ไม่มาดู


          วิจิตวาทะลักษณ์
          13  สิงหาคม  2548
          22 : 10  น.
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวิจิตรวาทะลักษณ์
Lovings  วิจิตรวาทะลักษณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวิจิตรวาทะลักษณ์
Lovings  วิจิตรวาทะลักษณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวิจิตรวาทะลักษณ์
Lovings  วิจิตรวาทะลักษณ์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงวิจิตรวาทะลักษณ์