30 มกราคม 2551 20:45 น.

หอพัก ยักย้าย กลายเป็น เรือนหอ

วิจิตรวาทะลักษณ์

          เมื่อหอพักนักศึกษาเวลานี้
กลายเป็นที่หอรักนักศึกษา
เพราะต่างคนก็ต่างคู่อยู่ชายคา
เป็นสามีภรรยาพึ่งพากัน

	          ตอนกลางวันหมั่นเรียนเพียรศึกษา
ท่องตำราอ่านเขียนเพียรขยัน
พอตกค่ำร่ำหาแต่หน้ากัน
ร่วมรังสรรค์วิชารักประจักษ์ใจ

	          ทดลองอยู่คู่กันฉันชู้สาว
โลกีย์คาวจังบังบดความสดใส
ด้วยเดียงสาวัยรุ่นยังกรุ่นใน
ยังมิรู้ผิดใดไหนชั่วดี

	          ไม่ยับยั้งชั่งใจไว้วันหน้า
ยังไม่ถึงซึ่งเวลามาทางนี้
วัยแห่งเจ้าควรหรือมาถือดี
มีสามีภรรยาเวลาเรียน

	          พ่ออยู่บ้านสานส่งมิสงสาร
ทนทำงานกระเสือกสนจนคลื่นเหียน
หวังวิชาลูกจำเมื้อร่ำเรียน
จะมาเปลี่ยนวิถีจนที่ตนเป็น

	          นึกว่าลูกพักคู่อยู่กับเพื่อน
คอยพูดเตือนช่วยกันผ่านทุกเข็ญ
แต่ความจริงสิ่งที่ทำยังลำเค็ญ
ไม่นึกเห็นคำแม่แกสั่งมา

	          ว่าลูกเอ๋ยเรื่องรักพักไว้ก่อน
รักผ่อนๆ  ลูกทำได้แม่ไม่ว่า
แต่ความสาวสวยซึ้งเคยตรึงตรา
จะหมดค่าเมื่อหนูง่ายให้ชายชม

	          อย่าให้เรื่องหอพักนักศึกษา
ถูกเปลี่ยนค่าเป็นห้องหอพอเสพสม
คำนิสิตนักศึกษาน่าชื่นชม
อย่าให้จมจูบดินเพราะกลิ่นกาม
				
23 มกราคม 2551 20:57 น.

สูงสุดสู่สามัญ

วิจิตรวาทะลักษณ์

          เมื่อเทคโนโลยีที่ล้ำรุด
เจริญไปถึงขีดสุดรุดล้ำหน้า
นวัตกรรมอุตสาหกรรมนำพัฒนา
สู่โลกาอภิวัฒน์วิบัติชน

	          ในขณะที่วัตถุลุรุดหน้า
เจริญพร้อมวัฒนาพาเกิดผล
แต่จิตใจกลับหล้าหลังดั่งเหล่าชน
ที่เกิดบนโลกกลับนับล้านปี

	          วิถีทางวิถีชนบนโลกล้วน
ต่างครบถ้วนความเถื่อนแทบเบือนหนี
ทั้งฆ่าฟันขันแข่งแรงโลกีย์
บังเกิดมีทั้งหล้าน่าเศร้าใจ

	          ความดิบเถื่อนสันดานบาปคราบคราวเลือด
กลับแดงเดือดเลือดสาดประกาศใกล้
ความเจริญยิ่งรุ่งโรจน์กระโดดไกล
อันจิตใจก็ยิ่งต่ำลงดำดิน

	          เทคโนโลยีความเจริญเกินจำกัด
มิได้พัฒนาจิตคนคิดสิ้น
วิญาณบาปสันดานต่ำเคยดำดิน
จึงฟื้นคืนมากัดกินจนสิ้นคน

	          พวกผีห่าซาตานกร้านทั้งหล้า
อวิชชาคลุมแผ่นดินทุกถิ่นหน
แต่ไอ้พวกเทคโนฯโอ้อวดตน
ว่าคือชนพัฒนาโลกาไกล
    
	          ยังก้มหน้าก้มตาหาวิถี
ที่พึงมีเลิศล้ำนำสมัย
ไม่เหลียวมองว่าความต่ำนำจิตใจ
ของผู้คนไปถึงไหนในปัจจุบัน

	          เมื่อไปถึงจุดสูงสุดอันรุดเลิศ
ก็คงเกิดความวิบัติจนอัดอั้น
จากสูงสุดคงหยุดอยู่สู่สามัญ
จนสูญสิ้นเผ่าพันธุ์นิรันดร
				
21 มกราคม 2551 19:11 น.

เนื้อหนังและมังสา

วิจิตรวาทะลักษณ์

               ..........คนถ่าย..........

          เนื้อของฉัน  หนังของฉัน  กายของฉัน
จะอวดองค์  ทรงชั้น  อันเลิศหรู
เอาตีแผ่  เรือนร่าง  อ้างคนดู
สิทธิ์ฉันอยู่  กับฉัน  มันทำไม

	          จะถ่ายแบบ  ของลับ  หรือไม่ลับ
ขอถามกลับ  ฉันทำลง  ผิดตรงไหน
ไม่ได้ถอด  เสื้อวาง  ข้างหัวใคร
อย่ามัวมา  ด่าใส่  ให้แค้นเคือง

	          ค่าตอบแทน  แสนคุ้ม  จึงรุมถ่าย
แค่เรือนกาย  ขายกิน  ก็สิ้นเรื่อง
เพราะทางบ้าน  ยากเข็น  เป็นฝืดเคือง
จึงยอมเปลื้อง  เครื่องกาย  หมายเงินทอง


               .........คนซื้อ..........

          ถ่ายกันเลย  ถ่ายเข้าไป  ถ่ายให้หมด
อายคงอด  ถ้าหมดวัย  ใครจะจ้อง
จะไปสน  ทำไม  ได้เงินทอง
ไว้เลี้ยงพี่  เลี้ยงน้อง  อยู่ท้องนา

	          ถอดหมดเลย  ใส่ทำไม  ให้เคืองขัด
อยากจะเห็น  ให้ชัดชัด  ชัดทั้งหน้า
มีของดี  อายทำไม  ให้เคืองตา
เอาออกมา  โชว์คน  ให้สนใจ

	          ท่านขายกาย  ขายร่าง  ทางภาพลักษณ์
เพื่อแลกหลัก  เงินหมื่น  มายื่นให้
เราเสียเงิน  ซื้อมา  อย่าว่าไร
ก็ได้ความ  สุขใจ  ไม่ต่างกัน


          ..........เรา..........

          อนิจจา  ค่าของเงิน  มันเกินนัก
เป็นแรงผลัก  เปลือยกาย  หมายแข่งขัน
แม้เรือนร่าง  ต่างต้อง  ของสำคัญ
ยังเอามัน  ขายสิ้น  กินราคา

	          วิถีทาง  สร้างตน  ล้นหลากนัก
จงรู้จัก  เข็มแข็ง  แสวงหา
อาจลำบาก  ไปบ้าง  บางเวลา
แต่คุ้มค่า  เมื่อทำตน  เป็นคนดี

	          เกิดแต่ตม  อาจต่ำต้อย  ด้อยค่านัก
แต่ให้เรา  รู้จัก  รักหน้าที่
เกิดแต่ตม  อาจต้อยต่ำ  ตามตนมี
แต่ศักดิ์ศรี  อย่าต้อยต่ำ  ไปตามตม
				
20 มกราคม 2551 16:32 น.

เส้นทางสายมัจจุราช

วิจิตรวาทะลักษณ์

          รับคำสั่งจากนายในหน้าที่
สิ้นเดือนนี้ลงชายแดนแสนผวา
เพราะผองเพื่อนที่ลงไปในยะลา
มิเคยรอดกลับมาสักคราคน

	          โทรบอกแม่บอกพ่อบอกต่อญาติ
ขอลงไปรับใช้ชาติดูสักหน
จะดีร้ายตายอยู่จะสู้ทน
เพราะได้ชื่อว่าคือคนของแผ่นดิน

	          แม่เสียงสั่นกลั้นน้ำตาว่าลูกเอ๋ย
ไม่ละเลยหน้าที่เป็นศรีถิ่น
ขอความดีจงปกปักษ์รักษ์ชีวิน
เฟื่อปกป้องแผ่นดินถิ่นผองไทย

	          แม่อยู่บ้านจะสวดมนต์บนบานพระ
ให้ลูกมีชัยชนะเหนือโจรใต้
ขอความดีจงคุ้มครองกันผองภัย
ให้ลูกได้กลับมาหาครอบครัว

	          ถึงสิ้นเดือนเหมือนใจมันไหวสั่น
เมื่อถึงวันเดินทางต่างคิดทั่ว
ถึงยะลาใจกลั้นก็สั่นรัว
ดั่งฟ้ามัวมืดหม่นพระคนเลว

	          ชะตากรรมวันหน้าหารู้ไม่
จะถูกใครระเบิดร่างกลางแหลกเหลว
หรือถูกยิงทิ้งร่างกลางไฟเปลว
เพราะพวกเลวแฝงตัวทั่วแดนดิน

	          แม้รู้ตัวว่าต้องตายในไม่ช้า
แต่ตราบใดไฟยะลาไม่สูญสิ้น
หากยังมีลมหายใจให้ชีวิน
กูจะสู้เพื่อแผ่นดินถิ่นผองไทย

	          แด่วิญญาณทหารกล้าผู้ลาลับ
ผู้เนื่องนับวีรกรรมสำคัญให้
จงหลับเถิดสู่สวรรค์อันอำไพ
เราคนไทยจดจำท่านนิรันดร
				
14 มกราคม 2551 19:43 น.

อหังการ ลูกหลานเทวดา

วิจิตรวาทะลักษณ์

          เมื่อลูกหลานเทวาดาลงมาเกิด
จึงพร้อมเพริศบารมีที่คุ้มหัว
จะอวดเก่งเบ่งดีไม่มีกลัว
จะทำชั่วมั่วกรรมก็ตามใจ

	          ส่งลูกเข้าโรงเรียนเพื่อเขียนอ่าน
ไม่ต้องสอบก็ผ่านสู่ชั้นใหม่
เพราะเครื่องคอมฯพร้อมทุนหนุนส่งไป
ที่แม่พ่อเคยให้ในโรงเรียน

	          ปากก็ฝากลูกฉันท่านดูหน่อย
อย่าให้พลอยดื้อด้านฝึกอ่านเขียน
หากทำผิดคิดโทษโปรดติเตียน
ไม้เรียวเฆี่ยนก็เชิญถ้าเกินทน

	          บารมีแม่พ่อก่อความกล้า
ลูกเทวดาจึงแผลงฤทธิ์คิดอกุศล
เบ่งบารมีเดินกร่างอ้างพ่อตน
ว่าเป็นคนให้ทุนหนุนที่นี่
  
	          เริ่มหนีเรียนเขียนอ่านฉันไม่สน
ครูจะบ่นก็เชิญฉันเดินหนี
การโรงเรียนการบ้านฉันไม่มี
ใครกล้าตีเชิญสิถ้าอยากตาย

	          ทนไมไหวครูใหญ่เหลือใจกลั้น
จึงฟาดฟันความโอหังด้วยหลังหวาย
ควรสำนึกกลับร้องด่าว่ามึงตาย
กูจะย้ายมึงออกนอกโรงเรียน

	          วันต่อมาคำสั่งดั่งว่าไว้
ก็มาถึงครูใหญ่ใกล้เกษียณ
ว่าเชิญท่านเปลี่ยนสลับกลับโรงเรียน
ไปอยู่จนท่านเกษียณอย่าเปลี่ยนมา

	          อหังการลูกเทวาลงมาเกิด
จึงพร้อมเพริศความโอหังช่างงามหน้า
อีกไม่นานเหล่าลูกหลานเทวดา
คงบอกว่า พ่อแม่ รังแกฉัน  เพราะมันเอง
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวิจิตรวาทะลักษณ์
Lovings  วิจิตรวาทะลักษณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวิจิตรวาทะลักษณ์
Lovings  วิจิตรวาทะลักษณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวิจิตรวาทะลักษณ์
Lovings  วิจิตรวาทะลักษณ์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงวิจิตรวาทะลักษณ์