21 พฤษภาคม 2551 20:14 น.

พนมรุ้ง...รำพัน

วิจิตรวาทะลักษณ์

          อนิจจา  ปราสาท  อำนาจขอม
ที่พรั่งพร้อม  ศิลปกรรม  อันล้ำค่า
มาแตกหัก  ปรักพัง  ล่างศิลา
เพราะน้ำมือ  คนชั่วช้า  มาราวี

	          บนสะพาน  นาคราช  บังอาจทุบ
เศียรนาคยุบ  บุบพัง  ยังหลายที่
แลองค์เทพ  ทวารบาล  ผ่านธรณี
ยังถูกตี  แขนหัก  ปากพังไป

	          โคนนทิ  หมอบราบ  อยู่กับพื้น
ยังหยิบยื่น  ความต่ำ  ทำลายได้
ทุบทั้งปาก  ทุบทั้งเขา  ไม่เข้าใจ
ว่าเหตุใด  จึงกล้า  ขึ้นมาทำ

	          ศิวลึงค์  ก็ทุบฐาน  จนถลอก
แล้วกลิ้งออก  โยนลง  ตรงรางน้ำ
รูปปั้นสิงห์  ยืนคู่  อยู่ประจำ
ก็ถูกคน  ใจต่ำ  มาทำลาย

	          พนมรุ้ง  ศิลปกรรม  อันล้ำค่า
ตระหง่านตา  กว่าพันปี  มิมีหาย
เทวสถาน  อันควรค่า  ไศวนิกาย
ถูกทำลาย  ให้พัง  ยังชั่วคืน

	          พนมรุ้ง  รำพัน  สั่นสะท้าน
เป็นน้ำฝน  ไหลผ่าน  สั่นสะอื้น
คนทั้งไทย  ใจหาย  ในชั่วคืน
ต้องกล้ำกลืน  น้ำตาหลั่ง  ไม่ต่างกัน

	          ขออันเชิญ  พระศิวะ  นารายณ์เทพ
แลพระพรม  ผู้ทรงเสพย์  ทิพย์สวรรค์
ประทับองค์  ทรงหล้า  มาลงทัณฑ์
ให้พวกมัน  แตกดับ  นับนี้ไป

	          ถึงรอยรูป  เทวสถาน  นั้นแตกหัก
แต่แรงรัก  แห่งศรัทธา  หามอดไหม้
แม้เหลือเพียง  เศษซาก  จากนี้ไป
แรงศรัทธา  ยังยิ่งใหญ่  ไปกัปกัลป์
				
14 พฤษภาคม 2551 20:06 น.

ลิเก หลงโรง

วิจิตรวาทะลักษณ์

          อันภาษิต  ไก่งามได้  เพราะใส่ขน
เสมือนคน  จะงามได้  เพราะใส่สี
ย่อมเป็นจริง  ถ้าแต่งต่อ  พอดูดี
แต่งเติมสี  สวยหล่อ  แต่พอดู

	          แต่ต้องมอง  ดูกาละ  และเทศะ
ไปที่ไหน  ควรจะ  แต่งให้หรู
จะไปเรียน  ไปทำงาน  หมั่นคิดดู
อย่าให้คน  ที่มองอยู่   ว่าเกินไป

	          มิใช่ว่า  ไปเรียน  แล้วเขียนปาก
สีแดงลาก  แก้มขัด  ปัดสีใส่
ลงแป้งหน้า   จนวอกขาว  ราวอะไร
มีกี่สี  ลงใส่  ใต้เปลือกตา

	          ชั้นอุดม  พอเหมาะ  เพราะโตแล้ว
แต่หน่อแนว  มัธยม  แทบก้มหน้า
เล่นลงแป้ง  แสงสี  หลากลีลา
ไม่เหลือเค้า  โครงหน้า  มัธยม

	          ดูดูไป  เหมือนลิเก  มาเร่เล่น
บางคนเห็น  เป็นงิ้วนั่น  มันขื่นขม
นี่ห้องเรียน  เขียนอ่าน  การอบรม
หรือโรงงิ้ว  เปิดให้ชม  ยังขมใจ

	          หน้าวัยเด็ก  สวยใส  ตามวัยเจ้า
ไฉนเอา  ฝุ่นสี  มาตีใส่
แค่แป้งฝุ่น  ลิปมัน  นั่นเป็นไร
ก็สวยใส  ตามประสา  หน้าของตน

	          คนจะงาม  งามที่ใจ  ใช่เติมสี
จงหมั่นเติม  ความดี  จึ่งมีผล
งามภายนอก  หรือจีรัง  ประทังตน
งามจิตใจ  จึ่งอยู่ทน  แม้ตนตาย
				
9 พฤษภาคม 2551 19:40 น.

สิบมือที่ทำลาย ขอเพียงหนึ่งใจที่คิดทดแทน

วิจิตรวาทะลักษณ์

          เมื่อสิบมือ  ล่วงล้ำ  ธรรมชาติ
วางอำนาจ  ถือสิทธิ์  คิดล้างผลาญ
ต่างตักตวง  ช่วงชิง  สิ่งต้องการ
จนป่าไม้  กลายเป็นลาน  สะท้านใจ

	          จากสิบมือ  สิบต้น  ที่ตนตัด
แพร่สะพัด  เป็นร้อยพัน  ฉันตัดได้
จากสิบต้น  ตัดตอ  มิก่อใบ
เป็นพันต้น  ล้านใบ  ในทันที

	          ภูเขาเขียว  พืชพันธ์  เคยหว่านล้อม
วันนี้ยอม  โล่งเตียน  ดั่งเขียนสี
อันทิวทัศน์  ยอดเรียว  เขียวขจี
ถูกใส่สี  น้ำตาลแดง  แสลงใจ

	          เมื่อสิบมือ  ล่วงล้ำ  ธรรมชาติ
ขอหนึ่งมือ  ใสสะอาด  วาดทางใหม่
ที่ร่วมปลูก  ไม้ต้น  คืนบนไพร
เขาตัดไป  เราลุก  ปลูกคืนดิน

	          แม้หนึ่งมือ  หรือจะสู้  ผู้ล้มล้าง
แต่ดีกว่า  ปล่อยว่าง  แล้วห่างสิ้น
ตัดสิบต้น  ปลูกหนึ่งต้น    บนแผ่นดิน
ก็ย่อมดี  กว่าลืมถิ่น  ไม่ปลูกเลย

	          จากหนึ่งมือ  ผู้ทดแทน  แดนป่าไม้
เป็นร้อยพัน  หมื่นไป  อย่าได้เฉย
ย่อมดีกว่า  เห็นเขาตัด  เราปัดเลย
ไฉนเลย  ป่าจะยัง  เป็นบังใบ

	          จะเป็นหนึ่ง  ในสิบมือ  ถือเลื่อยสับ
หรือหนึ่งมือ  ปลูกกลับ  จับแก้ไข
จะเป็นผู้  ทำลายล้าง  หรือสร้างใส่
จงเลือกให้  สมค่า  ปัญญาชน
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวิจิตรวาทะลักษณ์
Lovings  วิจิตรวาทะลักษณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวิจิตรวาทะลักษณ์
Lovings  วิจิตรวาทะลักษณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวิจิตรวาทะลักษณ์
Lovings  วิจิตรวาทะลักษณ์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงวิจิตรวาทะลักษณ์