17 เมษายน 2548 22:00 น.

กวนเกษียรสมุทร

วิจิตรวาทะลักษณ์

เขาพระสุเมรุ  เป็นเสาหลัก  แห่งจักรวาล
เป็นแก่นสาร  แทนไม้กวน  ในส่วนนี้
เอาจุ่มลง  ตรงธารา  มหานที
ทำพิธี  กวนเกษียรสมุทร  หยุดโลกา

     มหานาค  ราชาผอง  ครองบาดาล
เป็นเชือกรัด  มามัดผ่าน  อันแน่นหนา
พันตัวรอบ  ขอบพระสุเมรุ  เป็นวงมา
ให้เทวา  อสุรกาย  ได้ดึงวน

     ฝ่ายเทวา  ผู้ผ่านฟ้า  ณ  สรวงสรรค์
เพื่อตนนั้น  จึงได้คิด  ปัดพิษผล
จึงขอดึง  ซึ่งหางนาค  ไม่อยากยล
กลัวนาคปน  พ่นคายพิษ  ให้ติดตัว

     ฝ่ายอสูร  ให้ติดตรึง  ซึ่งเศียรนาค
แล้วค่อยดึง  กึ่งลาก  หากถ้วนทั่ว
จะได้น้ำ  อัมฤทธิ์  ติดตามตัว
อมตะ  อยู่ถ้วนทั่ว  ติดตัวไป

     โอ้นาคา  เทาวาเจ้า  เหล่าอสูร
โปรดการุณ แก่เรานี้  อย่าหนีไหน
ขอท่านจง  กวนเกษียร  สมุทรไทย
แล้วมอบน้ำ  อัมฤทธิ์ให้  ไทยทุกคน

     ไม่ต้องการ  ให้ผองไทย  ได้อมตะ
มีชีวิต  เหนืทอวัฎฎะ  แห่งกรรมผล
แต่ขอให้  น้ำอัมฤทธิ์  ดลจิตคน
ให้ผองชน  คนไทย  ได้รักกัน

				
16 เมษายน 2548 12:40 น.

พิณรำพัน

วิจิตรวาทะลักษณ์

เสียงเพลงพิณ  ประพันธ์พร้อม  กล่อมท้องทุ่ง
บรรเลงรุ่ง  ทั้งทุ่งท้อง  ครรลองอิสาน
ดั่งเพลงพิณ  บอกเรื่องเล่า  กล่าวตำนาน
มาขับขาน  ผ่านเสียงพิณ  ศิลป์ประพันธ์

     ประสานเสียง  เพียงเพลงคำ  ลำนำล่อง
ท่วงทำนอง  ภาษาศิลป์  สิ้นโศกศัลย์
เล่าเรื่องราว  คราวก่อนหน้า  สารพัน
ผสมสรรค์  ผ่านเพลงพิณ  บนถิ่นไพร

     ยามเย็นย่ำ  สุริยัน  จะพลันลับ
จันทราจับ  กับขอบฟ้า  ดาราไกล้
หมู่หนุ่มสาว  ชาวอิสาน  บ้านป่าไพร
ร่วม้อไฟ  ร่ายรำร้อง  ทำนองพิณ

     ลุล่วงปี  ที่ผันผ่าน  สู่วันใหม่
วิถีไทย  ในอิสาน  พลันสูญสิ้น
ไม่มีแม้  แต่แว่วเสียง  เพียงเพลงพิณ
สำเนียงศิลป์  ถิ่นอิสาน  ก็พลันพัง

     ยินแต่เสียง  เพียงกีตาร์  มาแทนที่
เพลงพิณนี้  ไม่เหลือแม้  แต่ความหลัง
เสียงรำร่วม  ที่ร่ำร้อง  ต้องพ่ายพัง
ที่เหลือยัง  แต่เพลงร็อค  ออกมาแทน

     คีตศิลป์  ถิ่นอิสาน  อันเคียงคู่
ต้องหดหู่  ไร้ลูกหลาน  นั้นหวงแหน
กลับปล่อยให้  ของใครเขา  เข้ามาแทน
พิณรำแพน  ต้องรำพัน  โศกศัลย์ใจ				
11 เมษายน 2548 22:08 น.

ผ้าซิ่นกับปริญญา

วิจิตรวาทะลักษณ์

แม่จ๊ะแม่จ๋า
อีกไม่กี่  วันข้างหน้า  แล้วน่ะแม่
ลูกจะใส่  ชุดครุยงาม  ยามแม่แล
แล้วพาแม่  ไปสู่ถิ่น  ปริญญา

     แม่ไม่ต้อง  ไปตัดชุด  สุดเลิศหรู
ไปอวดชู  ว่าเรานี้  นั้นมีหน้า
ให้เปลืองเงิน  เปลืองทองใช้  หลายราคา
เพื่อเชิดหน้า  ชูตา  ว่าเราดี
     
     เสื้อแขนยาว  เก่าคร่ำคร่า  ผ้าขาดวิ่น
เปลื้อนโคลนดิน  สิ้นราคา  ไร้ราศรี
ผ้ซิ่นผืน  แม่เคยใส่  ในทุกที
แค่ชุดนี้  ก็พอแม่  แค่นี้พอ

     ไม่ต้องอาย  หากใครมอง  ว่าหมองหม่น
ว่าเป็นคน  ชนชาวนา  ว่าเราหนอ
ถามใครถาม  แม่ตอบไป  อย่าได้รอ
ชุดชาวนา  ผืนนี้หนอ  มาอย่างไร

     ฉันเป็นเพียง  แค่ชาวนา  ค่าต้อยต่ำ
ความจนซ้ำ  แต่ฉันนี้  ที่ทำได้
ทนทำนา  ส่งลูกเรียน  เขียนอ่านไป
จนลูกได้  ปริญญา  มาครอบครอง

     ฉันไม่อาย  หรอกชุดนี้  ที่สวมใส่
แต่ตัวฉัน  กลับภูมิใจ  ไม่หม่นหมอง
แค่ชาวนา  หน้าสุ้ดิน  สิ้นคนมอง
แต่ส่งลูก  ถึงถิ่นทอง  ผ่องอำไพ

     แม่จ๊ะแม่จ๋า
จากวันนี้  ลูกสัญญา  น่ะจำไว้
ลูกจะตอบ  แทนพระคุณ  อุ่นหัวใจ
ผ้าซิ่นผืนนี้  จะถูกยกไว้
เหนือความยิ่งใหญ่  ของใบปริญญา				
11 เมษายน 2548 21:57 น.

สงกรานต์น้ำตา

วิจิตรวาทะลักษณ์

แม่เฒ่าหนึ่ง  ซึ่งอาสัย  ในบ้านป่า
นับเวลา  คอยสงกรานต์  ผ่านมาถึง
หวังจะเจอ  หน้าลูกหลาน  ฝันรำพึง
แม่เฒ่าจึง  ปัดกวาดบ้าน  นั้นไว้รอ

     ผลหมาก  รากไม้  อยู่ในสวน
ที่แล้วล้วน  ออกผลให้  เก็บไว้หนอ
ขนมหวาน  อันเลิศล้ำ  ทำไว้รอ
ห้องหับหอ  ก็จัดให้  พร้อมใช้งาน

     เมื่อถึงวัน  สงกรานต์  อันรอคอย
แม่เฒ่าตื่น  แต่เดือนคล้อย  ลอยหลังบ้าน
ก่อไฟหุง  ปรุงข้าวปลา  สารพัน
จักสำรับ  กับข้าวนั้น  ไว้ทันที

     จากเช้ามืด  จนรุ่งสาง  ย่างเข้าสาย
ไม่เห็นเงา  ของผู้ใด  ได้มานี่
ชะเง้อมอง  ตรงช่องทาง  อย่างทุกที
ไร้แวววี่  เจ้าลูกหลาน  นั้นจะมา

     ตะวันคล้อย  ลอยลงดิน  จนสิ้นแสง
น้ำตาแห่ง  ความเศร้าใจ  ไหลอาบหน้า
วันสงกรานต์  กลายเป็นวัน  สงน้ำตา
ของแม่เฒ่า  รอลูกยา  มาหาตน				
11 เมษายน 2548 21:47 น.

ความเหมือนที่แตกต่าง

วิจิตรวาทะลักษณ์

มือของลูก  จับปากกา  มาขีดเขียน
เพื่อร่ำเรียน  เพียรวิชา  ณ  เมืองใหญ่
มือของพ่อ  กลับตราตรำ  ทำนาไป
จับคันไถ  หนักสุดฝืน  บนผืนนา

     เท้าของลูก  ที่ก้าวย่าง  อย่าเริงรื่น
ในค่ำคืน  เที่ยวบาร์คลับ  กลับตีห้า
เท้าของพ่อ  ย่พเยียบโคลน  บนผืนนา
ปักดำกล้า  สู้ฟ้าฝน  ทนทำกิน

     ตาของลูก  จ้องดูหนัง  ยังโรงใหญ่
ตากแอร์เห็น  เป็นสบาย  ใช้เงินสิ้น
ตาของพ่อ  ยังพร่ามัว  กลั้วเศษดิน
หาเงินใช้  ไถ่หนี้สิน  ให้สิ้นตัว

     หัวใจลูก  คิดถึงแฟน  ที่แสนรัก
และเพื่อนพรรค  มิตรไมตรี  ที่เล่นหัว
หัวใจพ่อ  ไม่เคยอยู่  คู่เนื้อตัว
คิดถึงลูก  ทุกคนทั่ว  กลัวลูกจน

     ปากของลูก  ตะโกนก้อง  ร้องคาราโอเกะ
เที่ยวเกเร  ตามผับหรู  อยู่ทุกหน
ปากของพ่อ  ขอพรพระ  มาสวดมนต์
ขอพรให้  ลูกได้พ้น  อันตราย

     อาหารลูก  คือพิซซ่า  หน้าอร่อย
ที่ผลาญเงิน  เกินกว่าร้อย  ด้อยความหมาย
พ่ออยู่บ้าน  ทานน้ำพริก  ก็พอใจ
เจียดเงินให้  ลูกได้เรียน  เพียรวิชา

     ตัวลูกหวัง  ความสบาย  ไม่ลำบาก
จึงเพียรพาก  ตั้งใจเรียน  เพียรศึกษา
ตัวพ่อหวัง  เพียงแค่ลูก  หันคืนมา
รอเวลา  มาฝังกาย  ยามพ่อวายชนม์
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวิจิตรวาทะลักษณ์
Lovings  วิจิตรวาทะลักษณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวิจิตรวาทะลักษณ์
Lovings  วิจิตรวาทะลักษณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวิจิตรวาทะลักษณ์
Lovings  วิจิตรวาทะลักษณ์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงวิจิตรวาทะลักษณ์