27 กรกฎาคม 2553 11:48 น.
				
												
				
								แก้วประภัสสร
		
					
				
สิบสองสิงหาเวียนบรรจบ
ขอน้อมนบก้มกราบทาบเกศา
เชิดชูเกียรติประวัติพระมารดา
พุ่มมาลาถวายร่ายกลอนกานต์
ธ งามดุจดวงจันทร์พลันส่องหล้า
พระเมตตาแผ่ไปในทุกสถาน
ทรงปรีชาสามารถปราชญ์เชี่ยวชาญ
พระราชทานทุนทรัพย์เพื่อขับภัย 
 
ธ ส่งเสริมรักษาวัฒนธรรม
องค์อุปถัมป์ศูนย์ศิลป์ถิ่นผ้าไหม
สร้างอาชีพฝีมือระบือไกล
ทั่วโลกได้ประจักษ์เลิศลักษณ์นาม
ทรงทนุบำรุงพระศาสนา
แผ่เมตตาคุณธรรมนำสยาม
บำเพ็ญตนวิริยะสง่างาม
ทั่วเขตคามพึ่งพาพระบารมี 
 
พระราชทานราษฏรณ์อาสาสมัคร
เพื่อพิทักษ์รักษ์ป่าทุกท้องที่
ทั้งรักษาแหล่งน้ำนำชีวี
ประชาชีพ้นทุกข์สุขทั่วกัน
 
สิบสองสิงหาวันมงคล
ขอเทพไท้บันดลเกษมสันต์
น้อมก้มกราบด้วยภักดีอภินันท์
แด่มิ่งแม่จอมขวัญของปวงไทย
 
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า แก้วประภัสสร
 
ขอบคุณภาพจากกูเกิ้ลค่ะ
				
			 
			
				14 กรกฎาคม 2553 17:17 น.
				
												
				
								แก้วประภัสสร
		
					
				
   
ร้อยทุกข์ทมระบมเพราะอมทุกข์
ร้าวจนจุกอกช้ำจนกำสรวล
ร้างฤดีหลงเล่ห์เสน่ครวญ
รอนรานจวนจักเทียบคำเปรียบเปรย
 
แม้ข่มใจสงบลบรอยทุกข์
แต่ยังจุกพิโถโอ้อกเอ๋ย
กระไรนี่ชีช้ำย้ำเหมือนเคย
จะเอื้อนเอ่ยผู้ใดใคร่รับฟัง
 
อยู่คนเดียวเปลี่ยวกายให้หวาดหวาด
แอบนอนปาดน้ำตาล้าสิ้นหวัง
แต่หัวใจส่งเสียงสำเนียงดัง
เหมือนคำสั่งให้สู้อยู่ต่อไป
 
นึกถึงครายามเจ็บและเหน็บหนาว
หกล้มราวหมดแรงจะแข่งไหว
ก้มหน้าซบซุกเข่าสุดเหงาใจ
จะมีใครยื่นมือยื้อฉุดยืน
 
ทนลำบากตรากตรำก็จำอด
เหงื่อทุกหยดไหลรินจินต์ต้องฝืน
ยอมตากแดดทำงานผ่านวันคืน
อกสะอื้นกลัดหนองก็ต้องทน
 
เอ่เอ่เอ้เห่ลูกผูกเปลกล่อม
แม่ต้องยอมหยัดยืนฝืนอีกหน
เจ้าขาดพ่อเหลือแม่แท้กมล
จะเลี้ยงจนลูกรักจักได้ดี
แก้วประภัสสร
14/07/2553
				
			 
			
				7 กรกฎาคม 2553 17:05 น.
				
												
				
								แก้วประภัสสร
		
					
				
ด้วยคุณค่าของคนเวียนวนว่าย
มากดีร้ายผสมเกินข่มไหว
ผ่านเวลาเคลื่อนคล้อยลอยล่องไป
หลงอยูในห้วงเหวกับเปลวเพลิง
กักเก็บแต่ตะกอนที่ร้อนรุ่ม
ครอบไฟคลุมใจกายคล้ายคนเหลิง
ติดเงาสุขเพ้อฝันกันกระเจิง
ท่องบรรเทิงเริงร่ำเพื่อย้ำรอย
มองเห็นเงาเขลาขลาดวาดสวยเด่น
จริงเท็จเป็นฉากบังดั่งเดือนคล้อย
ครั้นเมฆหนาเทาทับกับเลื่อนลอย
อาจชะรอยเหลือโลกกับโศกตรม
อันกิเลสเป็นเหตุก่อเกิดทุกข์
โหมไล่รุกสะอื้นจนขื่นขม
ความเป็นมาเปลี่ยนไปในอารมณ์
เคยชื่นชมตอบรับมากลับกลาย
ด้วยวิถีปรวนแปรตามแต่กิเลส
จึงเป็นเหตุก่อทุกข์ปลุกใจสลาย
ต้องป่วยกิจคิดการพาลอยากตาย
จิตระคายข้องเครียดเกิดเกลียดกัน
งามปรุงแต่งแฝงนัยวิไลเลิศ
ล้วนก่อเกิดจากจิตคิดแต่ผัน
ผลึกตะกอนอ่อนโถมเครงโครมกัน 
ทบทวนฝันละลดคงงดงาม
แก้วประภัสสร
07/07/2553
ขอบคุณภาพสวยๆ จากกูเกิ้ลค่ะI