11 ตุลาคม 2548 23:24 น.

สาวงามแห่งไพรพนา

แก้วประเสริฐ


           สาวงามแห่งไพรพนา

     สุรีย์ฉายปรายแสงแฝงลับโลก
อนุทินโฉลกวางลงตรงอักษร
ล้วนรำลึกนึกถึงซึ่งคำกลอน
มิยอกย้อนเติมแต่งแฝงอารมณ์

     ประหนึ่งว้างกระจ่างครั้งริเริ่ม
แทรกเพิ่มเติมนัยรสจดเสกสม
น้ำภูผาท้องฟ้าสวยด้วยสายลม
หยาดน้ำพรมใบไม้ในพงพนา

     หวนรำพึงคำนึงถึงซึ่งป่าเขา
ท่องลำเนาเฝ้าชมพงพฤกษา
ธารน้ำตกกระจายฟุ้งพุ่งลานตา
เสียงนกป่าขับขานสำราญใจ

     ขมิ้นน้อยโกร่งเสียงเลียนเสียงสน
ลมพัดจนต้นเอนระเนนไหว
ขมิ้นดงบรรจงแข่งแฝงดวงใจ
สาลิกาไพรกุ๊กเสียงเลี่ยงไปมา

     ช่างหอมยิ่งกลิ่นไม้ป่าพาแสนสุข
ลืมความทุกข์บรรเจิดเลิศเสน่หา
ป่าดงชัฏยามสงัดสายลมพา
ดวงชีวาฟ้าประทานพลันพบนาง

     ผมสลวยย้วยยาวราวกาน้ำ
ขาวสล้างดั่งจันทร์ดารามาสะสาง
เป็นนวลใยใบหน้าและท่าทาง
งามกระจ่างดั่งเดือนเหลื่อมเลื่อนลาน

     ยามเธอนั่งสางเกศา ณ ธารน้ำ
สุรีย์ย้ำลอดพฤกษามาประสาน
ละอองน้ำพรมพร่างสร้างเบิกบาน
สุดสะท้านพลันตลึงพึงเหลือบแล

     แม่เจ้าเอ๋ยยากเฉลยเอ่ยคำอ้าง
สิ่งเวิ้งว้างสร้างอารมณ์ข่มกระแส
งามทั้งรูปสวยทั้งร่างยามผันแปร
เย้ายวนแท้แม้แต่ใจยังใฝ่จำ

     ยิ่งเสียงเจ้าเฝ้าขานผ่านพงพฤกษ์
หวนรำลึกถึงความหลังที่ฝังย้ำ
เทพีไพรเสียงไพเราะเสนาะลำนำ
ยามว่ายน้ำดุจมัจฉาพาเวียนวน

     คิดใกล้ชิดสนิทน้องประคองข้าง
สู่ไพรกว้างสร้างวนาละสับสน
ทิ้งกรุงไกรไร้ความเศร้าเร้าใจคน
ผันวัยตนสู่พงไพรใกล้แนบนาง

     ปิดผนึกตรึกระลึกนึกถึงเจ้า
สิ่งโลมเล้าเฝ้าผูกพันจนฟ้าสาง
ซบหน้าตรงอักษรานิทราพลาง
ฝันเวิ้งว้างกลางใจใฝ่เพียงยล.

            * แก้วประเสริฐ. *

				
10 ตุลาคม 2548 21:46 น.

ลำนำความรัก

แก้วประเสริฐ


               ลำนำความรัก

     ลำนำถ้อยร้อยคำหวานสุดซึ้ง
หวนคำนึงพึงคิดแม้สิ่งฝัน
หลงละเมอเพ้อหาทุกค่ำวัน
นึกถึงกันสรรค์อยู่สู่กลางใจ

     มิสิ้นสุดแค่นี้เพียงพอรัก
เมื่อได้มักเหินห่างร้างฝันใฝ่
ยังดิ้นรนไขว่คว้าหาต่อไป
จนมีใหม่ให้เศร้าเก่าร้างจร

     โอ้ชีวิตเปลี่ยนผันหันเหยิ่ง
แม้จะเหลิงเคยพร่ำด้วยคำสอน
ศีลธรรมครูเคยย้ำถูกลิดรอน
หายทุกตอนมิจำไว้ในใจคน

     อนาถแท้มิมีสิ่งพึงคิดสร้าง
ธรรมะร้างหายสิ้นจิตสับสน
จึงวกวนสนเท่ห์สร้างเล่ห์กล
คิดสัปดนจนคลุ้งมุ่งทำลาย

     สิ่งผูกพันวนเวียนเปลี่ยนยิ่งนัก
เคยน่ารักเป็นใคร่ใจมุ่งหมาย
ความโสกโดกสิงสู่คู่ใจกาย
ล้วนทำลายทุกสิ่งอิงโลกียะ

     ดังฉะนี้สิ่งหวานปานอมฤต
กลับเจือพิษปนรักมักกักขฬะ
มากตัณหากามารมณ์มิบ่มละ
แม้แต่พระบัณฑิตยังคิดทำ

     ปัจจุบันสรรค์อยู่คู่วัตถุ
ธรรมบรรจุบนหิ้งคือสิ่งล้ำ
ส่งชีวิตติดไว้ด้วยเวรกรรม
ยังบอกคำว่ารักหรืออย่างไร.

         * แก้วประเสริฐ. *
				
8 ตุลาคม 2548 10:24 น.

ชีวิต

แก้วประเสริฐ


             = ชีวิตดอกแก้ว=

     วิบากกรรมนำสร้างดุจพรางชีวิต 
ล้วนลิขิตเส้นทางกรรมนำสร้างสรรค์ 
เลิกลดละหากใจได้กระทำ 
เป็นผลนำกรรมดีไว้ในนิพพาน 

     การทุ่มเทแรงใจใฝ่ดีนั้น 
ดุจบัวพลันโผล่น้ำล้ำสุขสันต์ 
พ้นภัยผองกรรมชั่วที่พัวพัน 
เห็นตะวันสรรค์สว่างกลางอัมพร 

     ส่วนกรรมชั่วมัวหมองลองมาคิด 
จิตวิปริตคิดใฝ่ให้หลอกหลอน 
มันวนเวียนเวียนวนเป็นตอนตอน 
สร้างร้าวรอนต่อใจถ้าใครทำ 

     หากไม่ทำทั้งกรรมดีและมีชั่ว 
เหมือนดอกบัวพ้นน้ำกล่ำเลิศล้ำ 
ไร้กลิ่นหอมสวยแต่รูปเฝ้าลูบคลำ 
เขาไม่นำมาเชยชมเข้าดมดอม 

     ถ้าสร้างสรรค์ความดีหนีความชั่ว 
เปรียบดอกบัวที่หอมหวนชวนถนอม 
เฝ้าเชยชมกลิ่นหอมเพราะอดออม 
คนนอบน้อมล้อมไว้ด้วยเกียรติยศ 

      ดอกเอ๋ยดอกแก้วเพริศแพร้วพริ้ง 
งามทุกสิ่งกายใจใฝ่ช่วยปลด 
บอกทุกคนด้วยใจเลิกละลด 
พ้นสิ่งคดคุดงอรอพระนิพพาน. 
 

               *  แก้วประเสริฐ. *				
2 ตุลาคม 2548 23:00 น.

๏ * โฉมสุดาดารารัศมี *๏

แก้วประเสริฐ


        ๏ *   โฉมสุดาดารารัศมี   *๏

     งามเอยแม่สวยยิ่งพริ้งเพริศแพร้ว
พักตร์ผ่องแผ้วเคียงจันทร์นั้นจ่างฟ้า
คิ้วโขนงโกร่งงอนคล้ายองค์อุมา
สวยหยาดฟ้าเยื้องย่างดั่งกวางทอง

     กลิ่นเนื้อนวลเย้ายวนชวนลุ่มหลง
ทั้งเอวองค์ทรงรูปดั่งสิงห์ผยอง
สะโพกผายคล้ายม้าศึกคึกลำพอง
สองเนตรน้องกลมใสให้ความนัย

     ผมสลวยสวยวงแขนแสนสล้าง
ดุจงาช้างขาวนวลชวนหลงใหล
ยามยิ้มแย้มแซมลักยิ้มอิ่มไฉไล
ยิ่งนางได้ย่างกรายคล้ายเทวา

     สำเนียงปานดนตรีที่พริ้งผ่าน
ถ้อยคำหวานกลั่นวจีที่พร่ำหา
ชะเมียงชม้อยลอยเนตรไปมา
โอ้โฉมสุดาดารารัศมีที่ใฝ่ครอง

     ดุจเพชรงามยามลอยลออฟ้า
ย่างเยื้องมาเยือนปฐพีมิมีสอง
สวยเหลือเกินนงนุชสุดใฝ่ปอง
โอ้นวลน้องล้วนเสน่หาพาใจจำ

     เอื้อมมือไล้ใฝ่ลูบจูบเพชรแก้ว
โถแน่แล้วยอดหญิงยิ่งครวญคร่ำ
ยามเยื้องย่างร่างงามพลางยิ้มนำ
ชื่นอกฉ่ำล้ำรำลึกตรึกถึงนาง

     ตลึงแลชะแง้มองยามน้องห่าง
รัศมีพรางนวลอนงค์บ่งสล้าง
แสงสีทองแวววับระยับทาง
สุดเวิ้งว้างวางลงจนอาวรณ์

     ประกายพฤกษ์สว่างแล้วเจ้าแก้วเอ๋ย
นฤมลเคยพะวงคงเฝ้าหลอน
สู่ภวังค์ครั้งรักอดีตปลิดลิดรอน
ห้วงสะท้อนห่อนฤทัยให้จดจำ

     แหงนมองฟ้าราตรีที่แพรวพร่าง
มองนวลนางเคียงจันทรานภาค่ำ
ส่องประกายแวววาวราวรำพัน
ดวงใจนั้นพลันส่งถึงรัศมีดารา.

     ๙๙๙   แก้วประเสริฐ.  ๙๙๙
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแก้วประเสริฐ