5 พฤษภาคม 2549 20:52 น.

วิมานเคียงฝัน

แก้วประเสริฐ


                                      วิมานเคียงฝัน

                      จิตพะวงหลงละเมอเพ้อยามฝัน
                  ช่างจำนรรจ์หวานคำนำรักไว้
                  ซาบซึ้งจิตคิดเสมอเธอคือใคร
                 สู่ฟ้าไกลแต่หัวใจคล้ายแนบนาง.

         วัลลวีย์.......  ปิดหนังสือลงอย่างเชื่องช้าวางลงบนหน้าตักเธอ
 พลางแหงนหน้ามองท้องฟ้า ทอดสายตาดูเหล่ากลุ่มเมฆหลากหลาย
ที่แผ่กระจาย ลอยจับกลุ่มเป็นก้อนใหญ่เล็กตามสายลมที่พัดผ่าน
บ้างแยกตัวออกเวียนวนรอบๆ เกิดเป็นมโนภาพในจินตนาการ
ดุจประหนึ่งเวียงวังที่เรียงรายล้อมรอบไปด้วยดวงดาวน้อยๆระยิบระยับ
     รังสีของสุริยะเทพแผ่กระจายเบื้องหลังม่านเวียงนั้นจนเกิดทัศนียภาพ
แผ่ไพศาลปกคลุมปานประหนึ่งเทพยดาสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ไว้
     เสียงฮัมเพลงเบาๆของหญิงสาววัยเกินแรกรุ่น ที่กำลังเพลิดเพลิน
วิมานฝันที่หล่อนวาดมโนภาพไว้ในช่วงตั้งใจสร้างล้วนเบ่งบานด้วยความสุข
     ยายวีย์... ๆ ........ เสียงเรียกดังๆแว่วเข้ามา
หล่อนสะดุ้ง.....พลางหันไปมองอย่างเคืองๆที่ขัดความสุขของหล่อน
โถ...แม่  หล่อนอุทาน แล้วกระวีกระวาดรีบหยิบหนังสือสัมภาระ
บางอย่างพร้อมมองเสื่อผืนน้อยวางทิ้งไว้... เดินไปยังเจ้าของเสียงที่กำลังรออยู่
หน้าประตูบ้านเรือนไม้ชั้นเดียวแบบโบราณยกสูงไม่มากนัก
กำลังหันหน้ามามอง...พลางกวักมือเรียกหล่อนคล้ายเร่งด่วน
มีอะไรหรือแม่     หล่อนถามเมื่อมายืนอยู่ตรงหน้าหญิงกลางคน
พี่เขามาหาจ๊ะ ข่าวว่าจะเดินทางไปเมืองนอกวันสองวันนี้แหละ
หญิงผู้เป็นแม่ตอบ พลางดุนหลังหญิงสาวให้เข้าประตูไป
เอ๊ะๆใครหรือแม่..เร่งด่วนนัก    หญิงสาวถามด้วยความสงสัย
อ้าว...ก็ยายกาญจน์...ลูกของลุงสำราญ..ไงล่ะ
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับหนูล่ะ   หล่อนติง
หนูได้ข่าวว่าอีกสองสามเดือนเขาจะแต่งงานกันแล้วมิใช่หรือ? 
หญิงสาวถามเนือยๆ...
นั่นซิ เขาบอกว่าไปคราวนี้ไปนาน  มาถามแกว่าต้องการอะไรหรือเปล่า 
ฮึๆๆๆ...หญิงสาวสะบัดหน้าตอบ
เขารวยมากนะที่ไปต่างประเทศ วีย์ไม่ต้องการอะไรหรอกแม่
แล้วไปประเทศไหนล่ะแม่? หญิงสาวย้อนถาม
จะไปรู้เร๊อะ ไปถามพี่เขาเอาเองดีกว่าน๊ะ นี่ก็มานานแล้วมัวตามหาแกนี่แหละ
หญิงผู้เป็นแม่ตอบ  อดขำไม่ได้ต่อใบหน้าที่ล้อเลียนของลูกสาว ที่กำลัง
หันมายิ้มกับหล่อนด้วยใบหน้าทะเล้นพร้อมรอยบุ๋มลักยิ้มสองข้างแก้ม
รีบไปเถอะเขาคอยนานแล้ว...กับคู่หมั้นของเขาในห้องรับแขกแน๊ะ
คู่หมั้นเขาอยากรู้จักแก    หญิงผู้เป็นแม่กระตุ้นอีก
ช่างเขาเถอะให้คอยเสียบ้าง
 อ้อ?หล่อไหมแม่...คู่หมั้นพี่กาญจน์นะ?
หน้าเหมือนปลาเจ่ารึเปล่า?...อิอิ...คงจะตัวดำปิ๊ดปี๊นะ ฮ่าๆๆๆ  
 หล่อนหัวร่อเย้ามารดาอีก  พร้อมรีบเดินเบี่ยงตัวแม่เข้าประตูไปคอย
             ปกติแล้วการจะมาหรือไม่มาของพี่กาญจน์หรือกาญจนาลูกพี่ลูกน้องของหล่อน
ซึ่งมีอายุมากกว่าหล่อน เมื่อเด็กๆเคยวิ่งเล่นด้วยกันในสวนของพ่อหลังบ้าน
       เมื่อครั้งที่ลุงสำราญมาอาศัยพ่ออยู่แล้วต่อมาแยกตัวไปต่างหาก เพื่อทำธุรกิจการค้า
        หล่อนไม่เคยแยแสสนใจเลย เพราะทางลุงนั้นหากไม่มีธุระมักจะหายเงียบไป
ไม่ค่อยได้ไปมาหาสู่กันนัก ส่วนคู่หมั้นของพี่สาวก็ไม่เคยพบหน้ากันสักครั้ง งานหมั้น
ของพี่สาวหล่อนก็ไม่เคยได้ไปเพราะไปอยู่หอพักเรียนหนังสือมหาลัยอยู่
เมื่อเรียนจบกลับมาพักที่บ้านเพื่อหางานทำ จึงทราบข่าวว่าเขาหมั้นจะแต่งงานกันแล้ว
    ไปเถอะ..อย่าพูดมากเลย  มารดาตัดบท
หญิงสาวเดินตามหลังมารดาเข้าไปในห้องรับแขกอย่างเสียไม่ได้
      ภายในห้องรับแขกที่จัดแบบง่ายๆตามลักษณะบ้านตามชานเมืองกึ่งชนบท
รอบบ้านปลูกรายล้อมไปด้วยต้นไม้หลายหลากพันธุ์  ด้านหลังเป็นแนวทั้งไม้มีผลและดอก
จะมีที่เป็นลานก็เฉพาะบริเวณหน้าบ้านเท่านั้น ทำทางไว้ให้รถแล่นมาจอดหน้าบ้านได้
มีซุ้มคลุมด้วยไม้ดอกใช้เป็นที่พักผ่อนในยามเย็น ด้านข้างเป็นคลองเล็กๆ
ที่ทอดออกไปสู่คลองใหญ่  ใช้เป็นที่สัญจรไปมาได้อีกทางหนึ่งต่างหากโดยทางเรือ 
         หล่อนหันไปทำความเคารพลุงราญที่กำลังคุยกับพ่ออยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง
 สวัสดีค่ะ...คุณลุง   ยอตัวพุ่มมือไหว้ พลางหันไปยิ้มกับพี่สาว ซึ่งนั่งคู่กับชายหนุ่ม
ซึ่งหันมาจ้องมองเธออย่างสนใจ...แปลกใจ
เอ๊ะ...ไอ้?????
โอ๊ะ?....ไอ้วัฒน์
เอ็งหรือนี่...นึกว่าใครเสียอีก...  หญิงสาวสบถกล่าวอย่างตื่นเต้น  ทั้งงวยงงสงสัย
เฮ้ยๆ...ไอ้วีย์...จบป.โทแล้วหรือว๊ะ ไอ๊ห่ะ???..หายเงียบไปเลยเน๊อะ ไม่ส่งข่าวให้รู้เลยว๊ะ
ชายหนุ่มน่าตาดี รูปร่างขาวค่อนข้างไปทางคนจีน กล่าวระล่ำระลัก โดยไม่สนใจหญิงสาว
ที่เป็นคู่หมั้นนั่งเบิ่งตาโต ตลึงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ไม่ใช่แต่เฉพาะสาวเจ้าเท่านั้น
แม้แต่พ่อแม่ญาติผู้ใหญ่ทั้งสอง..ก็ต่างหันมาจ้องมองดูการสนทนาทั้งคู่ด้วยความงุนงง
อ้าว...ยายวีย์...พ่อวัฒน์...รู้จักกันแล้วหรือ  นายสอน ผู้เป็นเจ้าของบ้านเอ่ยถามบ้าง
ครับคุณอา...เราสนิทสนมกันมากครับ ตั้งแต่เรียนมหาลัยด้วยกัน  ชายหนุ่มตอบ
เออ...ดีแล้วล่ะจะได้ไม่ต้องแนะนำตัวอีก
พลางหันไปยิ้มกับพี่ชายที่กำลังเกาศีรษะ แกร๊กๆอยู่
นั่นซิ...ไอ๊เรานึกว่าไม่รู้จักกันมาก่อน ยายกาญจน์มันรบเร้าให้พามารู้จักกับน้องก่อนบินไปนอก
จะมากันเองก็ไม่ได้   ชายผู้เป็นพี่กล่าว พร้อมหัวร่อ
นั่นซิพี่...ปกติยายวีย์..มันไม่ค่อยไปไหนมาไหน เล่นเอางงนะ ผู้เป็นน้องชายกล่าวบ้าง
แต่ก็ดีไปอย่างนะสอน  จะได้ไม่ต้องมานั่งวางตัวกันอีก  พี่บอกตรงๆว่าเบื่อจริงๆ
เด็กสมัยนี้เอาแต่ใจตัวเองไม่ค่อยฟังผู้ใหญ่เสียเลย 
ดูอย่างยายกาญจน์ซิ  พี่บอกว่าให้ดูกันไปนานๆก่อน
เฮ้อๆ...มันบอกว่าคบมาหลายปีแล้วล่ะ....สอน... เลยต้องเลยตามเลย  
นี่มันบอกว่าจะไปเมืองจีน ติดต่อการค้าสั่งของมาขาย เพราะราคามันไม่แพง กำลังนิยม
ตอนนี้ที่บริษัทฯกำลังไปด้วยดี
แล้วจะแต่งงานกันเมื่อไหร่ล่ะ?   น้องชายถามพร้อมทั้งหยิบแก้วน้ำมาดื่ม
คงราวๆปีหน้ามั๊ง? ....เห็นมันเกริ่นๆไว้นี่ พี่ชายตอบ พร้อมหันไปมองการสนทนา
กึ่งหยอกเย้าของชายหนุ่มและหญิงสาว ส่วนน้องสะใภ้แยกตัวออกไปต่างหาก
คิดว่าคงจะไปตระเตรียมเรื่องอาหารการกินสำหรับมื้อค่ำๆ แต่ก็ยังอดชำเลืองพวกหนุ่มสาวอยู่
        ในวงสนทนาของหนุ่มสาวเสียงหัวร่อของการหยอกล้อ กึ่งโวยวาย บ้างนั่งงง
ไอ้วัฒน์ ...กูถามมึงจริงๆว๊ะ ...มึงพบพี่กูได้อย่างไร รูปร่างมึงทุเรศน์อย่างนี้ ซกหม๊กก็อย่างงั้น
หญิงสาวพูดพลางแอบเอื้อมมืออ้อมพี่สาวไปเข็กหัวชายหนุ่มดังโป๊ก
โอ้ย....ไอ๊ห่า...เจ็บโว้ย อีนี่ไม่เคยทิ้งนิสัยเดิมเลยนิ...พลางหันจะไปเข็กตอบบ้างแต่ต้องชะงัก
เพราะคู่หมั้นเขาทำนัยน์ตาขวาง
โธ่ๆๆ...คุณวัฒน์ทำตัวเป็นเด็กไปได้
ก็ ก็ ก็  ไอ๊วีย์มันเข็กหัวผมก่อนนี่ครับ  ชายหนุ่มพร่ำ
ช่างเถอะคุณ....นิดหน่อยเท่านั้นเอง
ยายวีย์ก็ยายวีย์เฮ้อๆ...โตเป็นผู้ใหญ่แล้วนะยังทำตัวเป็นเด็กๆไปได้ หล่อนหันมาค้อนน้องสาว
แต่ก็แอบหยิกต้นแขนเสียมิได้
อ้าวๆๆๆพี่กาญจน์...ทำไมหยิกวีย์ทำไม...เข้าข้างกันนี่หว่า...พร้อมทุบต้นแขนตอบบ้าง
         วงสนทนาเต็มไปด้วยความสุขทั้งฝ่ายผู้ใหญ่และเด็ก เสียงไต่ถามทุกข์สุขดิบย้อน
ถึงเรื่องราวในอดีต บ้างครั้งหัวร่อเสียงดังลั่นจนผู้ใหญ่ทั้งสามหันหน้ามามองและมองตากัน
แต่ก็สร้างความประทับใจจนกระทั่งการทานอาหารมื้อค่ำผ่านไป และต่างก็จะแยกย้าย
          ทุกๆคนภายในบ้านพากันเดินออกมาส่งยังที่รถ ส่วนแขกเตรียมตัวเพื่อจะเดินทางกลับ
หญิงสาวเจ้าบ้านรีบหันหน้าไปกระซิบกับเพื่อนชายหล่อนที่กำลังจะก้าวขึ้นนั่งเพื่อขับรถ
ไอ๊วัฒน์...มึงเจอ...ไอ๊วรรษหรือเปล่า  หญิงสาวรีบถาม
ไม่เจอว๊ะ...ได้ข่าวว่ามันหลังจบก็กลับไปบ้าน  ครั้งล่าสุด ไอ๊สิน มันบอกว่ามันเป็นกำนัน
ฮ้า...อะไรหรือเป็นกำนัน  หญิงสาวอุทาน
เออว๊ะ...ต้องถาม อ้ายสิน มันดูเอาเอง ติดต่ออยู่หรือเปล่าล่ะ
ไม่เจอใครเลย...
เอ๊า..นี่ที่อยู่เบอร์โทรศัพท์ของมัน   ชายหนุ่มกล่าวพลางหยิบกระเป๋าตังค์ค้นหานามบัตร
มันทำงานอยู่บริษัทส่งของออก อิมปอร์ตเอ็กซ์ปอร์ต ใกล้วงเวียนใหญ่แหละ
สอบถามมันเองดีกว่าว๊ะ   กูเองก็ไม่ได้ติดต่อมันเลย  ข่าวว่าอยู่แถวอำเภอศรีสวัสดิ์
เมืองกาญจน์โน่นแหละ เป็นกำนันแล้วก็ทำธุรกิจท่องเที่ยวด้วยโดยการให้เช่าแพ
ท่องเที่ยวนำล่องแพ รู้สึกว่ามีสัมปทานเกาะแถวๆเขื่อนนั้นด้วย
ฮ้าๆๆ...ดีจริง...หากได้ไปเที่ยวเขื่อนเห็นต้องอาศัยมันแล้วล่ะ
แต่ว่ามันจะจำได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ไม่พบเสียหลายปีเชียวล่ะ
ให้มันจริงเถอะว๊ะไอ๊วี?ย์  ชายหนุ่มย้อนบ้าง
กลับหรือยังจ๊ะคุณวัฒน์...นี่ก็มืดค่ำแล้วน๊ะ...ทางไปลำบากอีกไกลด้วย
หญิงสาวในรถกล่าวขัดจังหวะ
ครับๆ...ไปเดี๋ยวนี้แหละครับ   พลางหันมายิ้มกับหญิงสาวเพื่อนข้างๆรถ
เฮ้ย...แล้วเจอกันใหม่อีกนะ   กูจะมารับมึงไปทานข้าวพร้อมกับเพื่อนๆว๊ะ
เออๆบ๊ายบายว๊ะ   หญิงสาวกล่าว พร้อมปิดประตูรถให้ 
        รถได้เคลื่อนออกจากอาณาเขตบ้านเลี้ยวลับจนหายไปจากแนวโค้งพุ่มไม้
ขึ้นบ้านเถอะลูก หญิงผู้เป็นแม่กล่าว
เออ..ยายวีย์วันนี้อารมณ์แจ่มใสน๊ะ  ผู้เป็นพ่อกล่าวขึ้นบ้าง
อย่างงั้นๆแหละค่ะ....ไม่นึกว่าจะเจอเพื่อนเก่า  หญิงสาวตอบ
คุณพ่อ...คุณแม่ขึ้นบ้านก่อนเถอะค่ะ  หนูจะนั่งเล่นที่ซุ้มไม้ก่อนแล้วจะตามไป
อย่าให้นานนักนะลูก  หญิงผู้เป็นแม่กล่าวเตือนด้วยความเป็นห่วง
ระยะนี้อากาศแย่จริงๆ  ระวังจะไม่สบาย
ค่ะคุณแม่  พูดแล้วหล่อนก็ออกเดินไปยังซุ้มไม้ที่ปกคลุมด้วยดอกไม้กำลังเบ่งบาน
ส่งกลิ่นหอมอบอวล หล่อนนั่งเหม่อมองท้องฟ้าแลจันทร์ที่กำลังขึ้นส่งทอแสงนวลใย
          นึกย้อนถึงความหลังในอดีตเมื่อครั้งยังเรียนหนังสือเพื่อทำป.ตรี อยู่
ความสนุกสนานกับกลุ่มเพื่อนๆ นึกถึงใบหน้าชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งไม่เคยเลือนไปจากใจ
 ใบหน้าของเขาทะเล้นมักยิ้มที่มุมปากเสมอ ภาพที่ทำให้หล่อนตราตรึงคือการชอบแลบลิ้น
ใส่หล่อนเมื่อหล่อนซักไซ้อาจารย์อยู่  มักจะมีเสียงแผ่วๆลอยลมมา โง่ว๊ะ..เฮอะๆ
         เขาเป็นชายหนุ่มรูปร่างสมาร์ท เพรียวสูง หน้าเกลี้ยงเกลา ผมหยักศกน้อยๆ
ที่สำคัญอารมณ์ดีชอบหัวร่อเสมอๆ นี่คือเสน่ห์อย่างหนึ่ง
หล่อนชอบแอบมองเขาอยู่เสมอๆ ไม่นึกว่าภาพนี้จะติดตาตรึงใจจนถึงบัดนี้
    ช่างเถอะ...หล่อนคิด  ป่านนี้เขาคงจะลืมเราเสียแล้วก็ได้หรืออาจะจะแต่งงานเสียแล้ว
.....กำนัน?????...ความคิดวกกลับมาอีก
อะไรเรียนสูงอย่างนี้จนได้กิตติมศักดิ์......ไปเป็นกำนัน...แปลกจริงๆ
น่าจะเป็นทนายความหรือผู้พิพากษามากกว่า อะไรถึงเป็นเช่นนั้น...หล่อนคิด
นาย ศตวรรษ พุทธางกูรกมล  หล่อนรำพึงอุทานออกมา
ภาพฝังจำค่อยๆทยอยออกมา   เขาและหล่อนสนิทสนมถึงขั้นขนาดที่เพื่อนๆ
พากันล้อเลียนว่าทั้งสองสำเร็จคงจะได้แต่งงานกัน...แต่ก็หาเป็นเช่นนั้นไม่...
         หากมิใช่หล่อนปลีกตัวแยกคณะเสียก่อน...แล้วมาทำป.โทต่อ
หรือเพราะไอ๊สนธิ...ที่มันพยายามเข้ามาติดพันหล่อนจึงสร้างปัญหาให้แก่เขา
ใช่แล้ว....ไอ๊สนธินี่เอง...เพราะหลังจากที่รับปริญญาเขาและมันไปสนทนากัน
ยังเห็น วรรษ หันมามองหน้าหล่อนพร้อมทำหน้าเศร้าๆ แปลกๆ  เรารึจะไปสอบถาม
ก็ติดการถ่ายรูปกับคุณพ่อคุณแม่และญาติๆอยู่  โถ... โธ่ๆๆ.....จนกระทั่ง.....
ต่างแยกย้ายกันกลับ....นับแต่นั้นมาเราทั้งสองก็ไม่เจอกันอีก...ขาดหายไป
จนกระทั่งมาพบไอ๊วัฒน์...ความหลังถึงได้ผุดขึ้นมาอีก หล่อนยิ้มให้กับตัวเอมซึมๆ
    ทำให้หวนนึกถึงกลอนบทหนึ่งที่ถูกเขียนไว้  แต่หล่อนชอบจนจำขึ้นใจ
                      รักลอยลมบ่มสร้างกลางเวหน
             จรดลลอยเลื่อนเหมือนรักสลาย
             กำซาบซ่านผ่านจิตมิรู้คลาย
             ซุกซ่อนใจมอบไว้ไร้เชยชม.
     โอ้?....ใครเขียนไว้หนอ?????....เจ้าของหนังสือเพียงแจ้งว่า...
เขาไปพบมันถูกขีดเขียนยังข้างฝาผนังกำแพงข้างวัดอ่านดูเห็นซึ้งตรึงใจดี
คงเป็นความหมายใครคนหนึ่งที่ชอกช้ำในรักกระมัง...ถึงสาธยายได้ลึกซึ้งถึงเพียงนี้.
      ใช่แล้ว...มันเป็นเพียงที่หนังสือแจ้งไว้เท่านั้น...
หล่อนอ่านและกระทบต่อจิตใจหล่อนเช่นกัน......
     รอยยิ้มปนเศร้า......ยามเขาจากไปพร้อมกับกลุ่มเพื่อนๆ...
แต่ก็ไม่วายส่งสายตาหันมามองหล่อน....เหมือนจะบอกอะไรสักอย่างหนึ่ง
     ป่านฉะนี้หนอ....เขาคงว้าวุ่นหรือว่าเราว้าวุ่นกันแน่น๊ะ
     ใจที่ส่งล่องลอยออกไป ยังถิ่นนั้น???????
ดินแดนศรีสวัสดิ์
ดินแดนแห่งเขื่อนกั้นน้ำ
ดินแดนแห่งภูเขาและท้องน้ำ
ดินแดนแห่งการจินตนาการ
ดินแดนแห่งความสุขสดชื่น
     คงที่จะคลุกเคล้าปะปนกันในกระแสน้ำที่ทอดตัวนิ่งสงบภายใต้เขื่อนที่กั้นทำนบไว้
อีกละลอกคลื่นพลิ้วไสว.....ยามเมื่อถูกกระแสคลื่นเหล่าเรือแพที่ใช้เป็นที่สนุกสนาน
ของหมู่เหล่านักท่องเที่ยวที่มาชม เขื่อนทะเลสาบ....หรือเขื่อนนี้จะกั้นหัวใจเราทั้งสอง?
วรรษๆ...รอก่อนนะ วันหนึ่งฉันจะไปเยี่ยมเธอให้ได้ เพื่อแก้ไขปัญหาที่ยังคั่งค้างใจ
หล่อนรำพึงออกมา  พร้อมลุกขึ้นเดินกลับเข้าสู่บ้านท่ามกลางสายลมที่พัดกระทบ
ร่างหล่อนทำให้เสื้อผ้าไหวพลิ้ว  ดุจประหนึ่งช่วยชโลมใจคลายสิ่งกังวลที่ฝังม่านลึก
ในห้วงหัวใจที่แยกความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหล่อนชั่วนิจนิรันต์กาลหรือ???.
คงไม่น๊ะ....วรรษ  หัวใจเราสอง.....ฟ้าเท่านั้นที่จะบอกได้..........................

(ยังมีต่อนะขอรับ.....ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านงานโล๊ยโท๊ยของผม...จากหัวใจยิ่ง.)

                                           ***   แก้วประเสริฐ.   ***
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแก้วประเสริฐ