10 พฤศจิกายน 2553 14:12 น.

อัลมิตรา

แก้วประเสริฐ


              อัลมิตรา

  ขอรายงานผลเกี่ยวกับการป่วยเป็นมะเร็งที่ต้องผ่าตัดเอาของเสีย
ออก  แปลงโฉมเป็นนางมณโฑไปแล้วนั้น บัดนี้แผลหายค่อน
ข้างจะดีมากแล้ว
   กำลังใจเธอดีมาก นี่เป็นรายงานครั้งสุดท้ายที่ผมจะเกล่าวไว้คือ
หลังจากเข้าโรงพยาบาลเลิศสินบางรัก ยานนาวา นั้น เธอมิได้ไหวหวั่น
ต่อสิ่งที่เธอรู้ว่า  อันโรคร้ายนี้ใครๆก็กลัวแต่เธอกลับไม่กลัว

  คุณหมอบอกเธอว่าจะเอาออกเฉพาะเนื้อร้ายเท่านั้นหรือไม่
     เธอกล่าวกับคุณหมอว่า  เอาออกให้หมด ด้วยความใจแข็งของ
เธอ  หรืออาจจะกลัวมันจะลามไปยังที่อื่น  หลังจากเอาสายยางที่
เอาเลือดเสียออกแล้ว  พักฟื้นซ้ำยังมีน้ำใจไปช่วยคนไข้อื่นเข็ญ
รถให้เข้าห้องน้ำเสียอีกที่เขาห้อยน้ำเกลือไว้พะรุงพะรังด้วย

       วันนี้วันที่ 10 เดือนนี้ ตอนเย็นๆเธอก็กลับไปบ้านได้แล้วล่ะครับ
หากคนจะไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลถ้าเป็นช่วงเย็นจะไม่ได้พบเธอหรอก
หรือหากรู้จักบ้านแถวสาธุประดิษฐ์ คอนโตที่เธอพักฟื้นไว้ก็ไปเยี่ยม
หรือโทรฯสอบถามไปก่อนก็ได้ เบอร์โทรฯ081-4036221
 
       คงอีกไม่นานเธอก็จะกลับมาดำเนินการต่อไปได้แล้วครับ ผม
เองติดตามข่าวทุกๆวันเพื่อจะมารายงายงานให้ชาวเวปฯไทยกลอน
ซึ่งเปรียบเสมือนเครือญาติกันได้ทราบ  นี่เป็นรายงานที่ผมคุยกับ
เธอครั้งสุดท้ายครับ

           ขอจบรายงานการป่วยของอัลมิตราแด่ชาวไทยกลอนให้
ทราบทุกๆคนครับ เพียงเท่านี้นะครับ รักชาวไทยกลอนเสมอๆ

                 * แก้วประเสริฐ. * 
				
15 กรกฎาคม 2552 11:38 น.

*** ฮีโร่ 2009 ***

แก้วประเสริฐ


A8060907-9.png

                ฮีโร่ 2009

4.1 ระดับส่วนตัวและครอบครัว

ในภาวะปกติ

   ตอนนี้ต้องยอมรับว่า ทุกแหล่งชุมชนคือจุดเสี่ยงในการแพร่ระบาด โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นห้องแอร์ระบบปิด    เช่นในห้างสรรพสินค้า  โรงหนัง  บนรถไฟฟ้า  รถไฟใต้ดิน  ถ้าจะเดินเข้าแหล่งชุมชนเหล่านี้ ควรใส่หน้ากากป้องกันตัวเองได้แล้วครับ!!!!!


ถ้าคุณมีอาการของโรคหวัด แค่ ไอ จามเล็กๆน้อยๆ

     ควรแยกตัวจากครอบครัวและสังคมเท่าที่ทำได้  เช่นแยกห้องนอนจากคนอื่น  ถ้าต้องอยู่ร่วมกันก็ใส่หน้ากากตลอดเวลา (หาซื้อไม่ได้ ก็เอาผ้าเช็ดหน้ามาผูกไว้ก็ยังดีกว่าหายใจรดกันตรงๆ)  

ปิดปากปิดจมูกเสมอ อย่าหายใจรดใคร อย่าไอจามใส่ที่สาธารณะ  เลิกถ่มน้ำลายลงพื้นได้แล้ว

ล้างมือให้บ่อยที่สุด การเอามือไปป้ายโน่นป้ายนี่ เป็นช่องทางการแพร่เชื้อที่ดีเยี่ยม

ตอน เช้าตื่นนอน กรุณา เปิดหน้าต่างกว้างๆ  เปิดพัดลมไล่อากาศออกซักนิด ก่อนจะให้ใครคนอื่นเดินเข้ามาในห้องเรา   เสื้อผ้า ผ้าปูเตียง ปลอกหมอน หมั่นซักบ่อยๆ ( ไม่รู้มีคราบเสมหะ ตอนเราไอจามติดอยู่รึเปล่า )  ล้างมือให้บ่อยที่สุด แต่ไม่ต้องถึงกับแยกห้องน้ำหรอกนะ แค่เอาแปรงสีฟันเราออกมาเก็บเอง อย่าใส่ถ้วยเดียวกะคนอื่นก็พอ
 

	 

	

อาการอย่างไรจึงควรไปตรวจที่รพ.?

1. มีไข้ 38 ํC ขึ้นไปร่วมกับ
2. อาการอย่างใดอย่างหนึ่งได้แก่ ปวดกล้ามเนื้อ, ไอ, หายใจผิด ปกติ (หอบ, ลำบาก), หรือแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นปอดบวม ร่วมกับ  มีผู้สัมผัสร่วมบ้านหรือในที่ทำงานป่วยสงสัยไข้หวัดใหญ่หรือปอดอักเสบ ภายใน 1 สัปดาห์ก่อนวันเริ่มป่วย

ถ้าอาการแค่เป็นหวัดเจ็บคอธรรมดา ไข้ไม่สูง ไม่นอนซม  ไม่ต้องสะดิ้งวิ่งไปรับเชื้อที่รพ.นะครับ อย่าลืมว่าตอนนี้  รพ.นั่นแหละ เป็นแหล่งแพร่เชื้อที่ดีที่สุด................. 


4.2 ระดับนโยบายของรัฐ และ สื่อมวลชน

มาดูกัน นิดนึง ว่าทำไมประเทศเราถึงควบคุมการระบาดไม่ได้เลย ขณะที่ประเทศต้นตำรับการระบาดอย่าง Mexico ซึ่งไม่ได้เจริญกว่าบ้านเราเลย เขาถึงควบคุมการระบาดระลอกแรกได้....

จำข่าวได้มั้ยครับ ว่าตอนแรกที่ Mexico เขาระบาดเขาทำอะไรบ้าง ??
ปิด เลยครับ !!!   เขากล้าพอที่จะปิด โรงเรียนทุกแห่ง  โรงหนังทุกแห่ง  ห้างสรรพสินค้าทุกแห่ง ทั่วประเทศ พร้อมกัน 1 สัปดาห์ พร้อมทั้ง พ่นยาฆ่าเชื้อ ตามโรงหนัง ห้างสรรพสินค้า ใหญ่ๆด้วย
นั่นคือสาเหตุที่เขาควบคุมการระบาดระลอกแรกได้ทันทีในสัปดาห์ต่อมา....

แล้วพี่ไทยล่ะทำอะไรบ้าง ?? นอกจากออกข่าว ว่า ไม่มีอะไร้  ไม่น่ากลัว แต่คนติดเชื้อเพิ่มเป็นหลักร้อย หลักพันทุกวัน???
มัวแต่กลัวว่าเศรษฐกิจจะทรุด การท่องเที่ยวจะกระทบ   ...
คิดกันบ้างมั้ยว่า ถ้าคนไทย ตัยหอง กันหมด  จะมีเศรษฐกิจดีๆไว้ทำอารายจ๊ะ??
เศรษฐกิจ คือ สิ่งที่เราสร้างได้แน่นอน ถ้าคนไทยยังมีลมหายใจอยู่คับ (ว้อยยยยยย ) 

และคุณสื่อมวลชนครับ ... ผมว่า ถึงเวลาแล้วที่พวกคุณจะต้องพูดความจริง.....
ถ้าจำไม่ได้ว่าผมพล่ามอะไร ให้ พูดดังนี้นะครับ
1. โรคนี้ อันตรายครับ ....  และยังกลายพันธุ์ให้อันตรายกว่านี้ได้อีกในปลายปีนี้ครับ
2. โรคนี้ หวังพึ่งยารักษา ไม่ได้ครับ   และตอนนี้เริ่มดื้อยาแล้วด้วยครับ
3. โรคนี้ต้องป้องกันอย่างเดียวครับ
4. จะควบคุมการระบาดได้ ต้องพร้อมใจกัน ใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ พร้อมกันทั้งสังคมครับ
5. จะควบคุมการระบาดได้  ปิดโรงเรียน โรงหนัง  ศูนย์การค้าใหญ่ๆ ได้แล้วครับ ขอแค่ 3 วันก็ยังดีครับ!!!!! 

ของแถม  (ส่วนนี้ถ้าอ่านไม่รู้เรื่อง ก็ช่างเถอะนะ)
ขออธิบายเรื่องการกลายพันธุ์ ของไวรัสล้วนๆ  จะได้รู้ว่าทำไมผมถึงคิดว่าเราควรตื่นตัว

อธิบายความรู้พื้นฐานเพื่อให้เข้าใจก่อน

HOST = เหยื่อ ที่ไวรัสเข้าไปฝังตัว ( มนุษย์ หรือ หมู / นก สัตว์ต่างๆที่มันเข้าไปสิง) 
HOST cell = เซลล์ ของเหยื่อ ที่ไวรัสเข้าไปฝังตัว ( เซลล์ มนุษย์ หรือ สัตว์)  


+++ปฏิบัติการเมื่อไวรัสเข้าไปใน HOST  Cell+++  

ไวรัส เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ครบองค์ประกอบของการเป็นเซลล์ มันจึงไม่สามารถแพร่พันธุ์ด้วยตัวเองได้  แต่จะแพร่พันธุ์โดยการฝังตัวเข้าไปใน HOST cell

ดูรูปประกอบ  พื้นที่ สีชมพูทั้งหมด คือ HOST cell
รูปหกเหลี่ยมสีเหลือง คือไวรัส 
หมายเลข 1-2 คือ ไวรัส สัมผัสผิวเซลล์ แล้วจะละลายตัวเองเข้ากับผนังเซลล์ บุกเข้ามาภายใน Host Cell
หมายเลข 3    เมื่อเข้ามาแล้ว ไวรัสจะสลายเปลือกตัวเอง เหลือแต่ RNA คือเกลียวสีแดงในรูป
หมาย เลข 4a   RNA คือสารพันธุกรรมของไวรัส ที่จะหลอกล่อ RNA ของHost ( เกลียวสีน้ำเงิน) ให้มาประกบตัว เพื่อสร้างไวรัสตัวใหม่ออกมามากมาย  ( ปกติ RNA ของมนุษย์ มีไว้สร้าง โปรตีน และสารจำเป็นอื่นๆต่อร่างกาย และแน่นอนมันเป็นสารที่มีรหัสพันธุกรรมมนุษย์อยู่ด้วย)
ในรูป  
4b  คือ RNA ไวรัส หลอก RNA มนุษย์  ให้สร้างเปลือกใหม่ ให้มันแทนอันที่มันสลายทิ้งไปตอนแรก
4c  คือ RNA ไวรัส หลอก RNA มนุษย์   ให้สร้าง RNA ไวรัสใหม่ (ที่ปะปนกับ RNA มนุษย์ เรียบร้อยแล้ว จะกลายพันธ์ได้ช่วงที่หนึ่งก็ตอนนี้แหละ) 

หมาย เลข 5-6  ประกอบร่างกันใหม่อีกครั้ง ได้เป็นไวรัสลูก (ที่ขโมย RNA ของ Host  มาผสมเรียบร้อย) จำนวนนับหมื่นนับแสน  เข้าละลายผนังเซลล์ ของ Host แล้ว บุกออกจากตัว Host ออกสู่โลกภายนอกอีกครั้ง.......ระบาดดด นั่นเอง.....


ไวรัสกลายพันธ์อย่างไร
1. Mutation =การผ่าเหล่าของพันธุกรรม  : วิธีนี้ช้า  ในมนุษย์ ใช้เวลาหลายร้อยชั่วคน  แต่ในไวรัส ไม่กี่รุ่นก็ทำได้ (จำคำอธิบายข้างต้นว่า เพียงพ่อเดียว( host ที่ไวรัสไปฝังตัว--> ไวรัสก็ออกลูกได้เป็นหมื่น   จึงไม่ต้องรอหลายรุ่นอย่างมนุษย์) และแน่นอน ไม่ต้องรอนับพันปีอย่างมนุษย์ ไวรัสใช้เวลาเป็นวัน หรือ ชั่วโมงเท่านั้น
2. Genetic Recombination เป็นวิธีที่เร็วอย่างน่ากลัวเข้าไปอีก  อธิบายดังนี้.....

โปรดดูรูปประกอบอีกครั้ง  เกลียวสีแดงๆนั้นแทน RNA  ซึ่งล่องลอยไปมาในเซล
คราว นี้ลองนึกภาพว่า ถ้ามีไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2 ชนิดขึ้นไปบุกเข้าไปในเซล์Host พร้อมกัน  ไวรัสนั้นจะสลายเกราะ ปล่อย RNA ของมันออกมาล่องลอยในเซลล์ ก่อนจะประกอบร่างตัวเองขึ้นมาใหม่เป็นไวรัสลูกหลานออกนอกเซลล์  ไอ้ตอนนี้แหละท่านผู้ชม...  มันก็ลากเอา RNA อะไรก็ได้มาประกอบร่าง ( ทั้งของไวรัสอีกตัวนึง กับของ Host )  ผสมกันออกจากเซลล์ กลายเป็น ไวรัสพันธุ์ใหม่เสร็จสรรพ.....


นี่คือที่มาว่า ไวรัสไข้หวัดใหญ่ H1N1 ธรรมด๊าธรรมดา กลายมาเป็นไข้หวัดหมู เม็กซิโก 2009 ได้ยังไง
สรุป ง่ายๆคือ Host ( คนหรือสัตว์) เกิดแจ็คพ็อตติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2 ชนิดขึ้นไปในคราวเดียวกัน  ไวรัสก็จะไปผสมพันธุ์กันในร่างเหยื่อคนนั้น ก่อให้เกิดไวรัสพันธ์ใหม่ พร้อมกันทีเดียวหลายพันหลายหมื่นเผ่าพันธ์  แต่แน่นอน การผสมมั่วซั่วเหล่านี้  ไวรัสพันธ์ใหม่ที่ได้ส่วนใหญ่ จะอยู่ไม่รอดในธรรมชาติ  แต่มันหลุดมาเป็นหมื่นชนิดมีหรือจะไม่มีชนิดนึงเล็ดรอด ใช่แล้ว และตัวที่รอดออกมาก็คือ “ ไข้หวัดใหญ่ เม็กซิโก 2009  SWINE FLU ”        

ดูแล้วพอจินตนาการได้มั้ยครับ ว่า ถ้ามันจะกลายพันธุ์ต่อก็ใช้วิธีเดียวกันได้ไม่ยากเลย!!!!!!



The bad news: the flu vaccine will not protect you.
ข่าวร้าย  วัคซีนไข้หวัดแบบปัจจุบันยังป้องกันอะไรไม่ได้

The good news: antiviral drugs (Tamiflu and Relenza) will work.
ข่าวดี  :  เค้าว่า ยา Tamiflu ช่วยได้

The bad news: antiviral drugs are not very effective after symptoms start, which is why they are not commonly used in medical practice.
ข่าวร้าย :  ยาพวกนั้น จะใช้ไม่ค่อยได้ผล เมื่อเริ่มมีอาการแล้วววว   นั่นคือสาเหตุที่หมอเองยังไม่ค่อยมีโอกาสสั่งยาพวกนี้เลย  ( ใครมันจะไปหาหมอกินยาก่อนมีอาการฟะ????) 
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแก้วประเสริฐ