คนกรุงศรีฯ
ปล่อยใจว่าง วางปากกา ยลฟ้าหม่นเคยเป็นคน เขียนกลอน ที่อ่อนหวานก่อนขยัน หมั่นเพียร เขียนกลอนกานท์ตั้งดวงมาน สานฝัน วรรณกรรม มาวันนี้ หนีหาย เหมือนตายจากเหตุมันมาก หลากผล เกินบ่นพร่ำนักเลงกลอน นอนกร่อย ไร้ถ้อยคำ อยากน้อมนำ ผลงาน ลานวลี เหมือนหิวโหย อาหาร มันหวานหอมอยากดมดอม ยลยิน แสงกลิ่นสีอยากจารจด บทถ้อย ร้อยกวีกลั่นวลี เป็นกลอน อ้อนบางใคร อดมิอยู่ ดูเรา เล่าก็เห็นเขียนกลอนเป็น เข็นหนอ ก็พอไหวมิหวานฉ่ำ ฉอเลาะ เกาะกินใจคงจะไม่ ขายหน้า อายฟ้าดิน หยิบปากกา หากระดาษ วางมาดมั่นสมองมัน ห่อเหี่ยว เรี่ยวเรงสิ้นเหมือนหูอื้อ ตาลาย มิได้ยินจะตั้งจินต์ ตั้งใจ อย่างไรกัน ค่อยขยับ ท่านั่ง ตั้งสติสมาธิ เรียกก