7 กรกฎาคม 2568 13:49 น.

อึงอล

คีตากะ


ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ให้รับรู้

นำไปสู่ความรู้สึกนึกหวั่นไหว

จากมิมีบังเกิดมีเกิดที่ใจ

หลงยึดไว้ว่า "ตัวเรา" เป็น "ของเรา"

เกิดตัวตนอัตตาวิ่งคว้าไขว่

มั่นหมายในทุกสิ่งยิ่งเพลิงเผา

ไฟแห่งทุกข์ลุกลามท่ามใจเรา

จิตหมองเศร้ากายทรุดจำทุรน

เพียงหลงในความคิดจิตวิโยค

สุขเศร้าโศกโหยหาโกลาหล

มีหัวเราะร้องไห้ใจอึงอล

เปรียบปานคนบ้าบอรอเยียวยา

จับตัวเองขังไว้ในความคิด

จนวิปริตวิปลาสอนาถา

ดั่งจองจำตนไว้ไร้อิสรา

เวียนไปมาหลายภพไม่จบความ

อันใจกายอายตนะเปรียบประตู

นำเข้าสู่ดวงจิตคิดไหวหวาม

สักแต่ว่าดำเนินไปในทุกยาม

เกิดดับตามธรรมดาเป็นอาจิณ

หากปราศใครไปยึดมั่นถือมั่น

ว่าเป็น “ฉัน” เสียแล้วไม่แคล้วผิน

เพียงรับรู้ดั่งพยานเบิกบานจินต์

ดับโศกสิ้นสามภพจบเกิดตาย...

21 มิถุนายน 2568 11:11 น.

ระบบป้องกันใจ

คีตากะ

815208382228206.jpg				
3 กรกฎาคม 2568 08:40 น.

บุตรพระศรี

คีตากะ

บุตรพระศากย์ทั้งหลายอย่าหมายหมิ่น
เราใช่อินทร์พรหมาเทวาไหน
โลกวิฤกติผิดปาณาศีลมัย
บันดาลให้ชีวาพาแหลกลาญ
บุตรพระศรีคือเราเฝ้าเพียรบอก
ต้องช้ำชอกเขาหมิ่นสิ้นสงสาร
แจ้งว่าเราเล่าความเท็จเป็นพยาน
คำอาจารย์พร่ำบอกใช่หลอกลวง
นรกจะล้นชนตกตายกันมายมาก
ยิ่งลำบากกู้ได้ให้ห่วงหวง
ตกนรกพร้อมกันน่าหวั่นทรวง
ด้วยเคยล่วงสิกขาข้อปาณา
เสพเนื้อเขาต้นเหตุสังเวชนัก
เขาก็จักทวงคืนยื่นข้อหา
จะสวดมนต์ไหว้พระภาวนา
ฤารอดพ้นวิญญาณ์ตามราวี
พระศรีแจ้งทางรอด "ปลอดเนื้อสัตว์"
คือทางลัดทางเดียวอย่าเทียวหนี
บุตรพระศากย์ไตร่ตรองลองใฝ่ดี
หยิบมือนี้ที่จะรอดอยู่ปลอดภัย
หากรอดตายภัยพิบัติได้นัดพบ
พาประสบองค์พระศรีมีปราศรัย
เรียนรู้ธรรมจากองค์พระทรงชัย
มุ่งมั่นในนิรวาณสราญเอย...
13 มิถุนายน 2568 10:21 น.

ดาวเกตุ

คีตากะ

ประหนึ่งดาวดวงน้อยคล้อยเวหาส
ล่องลอยปราศวารวงศ์เหล่าพงศา
ชาติกำเนิดเลือนรางร้างที่มา
อยู่เอกาเดี่ยวโดดโลดแล่นไป
ส่องแสงน้อยริบหรี่ราตรีหนึ่ง
ร่ำรำพึงโหยหาความสุกใส
วิ่งหลงวนบนฟ้านภาลัย
รอดับขัยล่วงหล่นบนผืนดิน
จะรองรับดวงดาวคราวอับแสง
คอยแต่งแต้มสีสันบรรเจิดศิลป์
แม้ช่วงหนึ่งก็ประเสริฐเลิศชีวิน
เพียงยลยินเรื่องราวสกาวใจ
แม้นพลัดพรากจากดาวถึงคราวหนึ่ง
ยังลึกซึ้งแววตาเกินปราศรัย
หวังเห็นดาวเปล่งแสงแห่งเปลวไฟ
ตั้งธงชัยสู่ฝันอันงดงาม....
25 พฤศจิกายน 2567 16:30 น.

พระวจนะ

คีตากะ

1216159jhpwro7rkb.gif
อ้มหาโพธิสัตว์ผู้ยิ่งใหญ่
นำประทีปส่องไสวให้สรรพสิ่ง
ท่ามความมืดแห่งราตรีที่ประวิง
ธรรมถูกทิ้งสูญหายจากใจชน
กงล้อกรรมแห่งมนุษย์ยากหยุดยั้ง
หมุนไปดั่งเพลิงไหม้ในทุกหน
น้ำเท่าไรดับพอทุกข์ท้อทน
เวรส่งผลให้พินาศปราสนาการ
มวลมนุษย์ผู้ก่อพอประทุ
ไฟล่วงลุลุกลามตามล้างผลาญ
โลกคือบ้านย่อมทุรนทรมาน
กี่วิญญาณล่วงลับสุดนับคณา
โอ้มหาเทพเรืองฤทธิ์ทุกทิศสถาน
ฤาหมายต้านแรงกรรมนำรักษา
เมื่อมนุษย์แหกกฎหมดปัญญา
ทิ้งอหิงสาเสียสิ้นทุกถิ่นคาม
โรคระบาด สงคราม ความร้อนโลก
ค่อยคลอนโยกชีวาน่าเกรงขาม
ผลักมนุษย์สู่ปากเหวอันเลวทราม
เปลี่ยนโลกงามเป็นนรกที่เลือดเย็น
โอ้พระเจ้าผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์
ทรงสร้างสรรค์โลกางามตาเห็น
แต่บุตรท่านช่วยทำลายกลายลำเค็ญ
ทำตัวเป็นเช่นเหลือบไรให้รำคาญ
ทรงวจนะผ่านศาสดาทุกศาสนา
ตั้งเวลาสร้างโลกล้วนสื่อสาร
แต่ถ้อยคำถูกบิดเบือนด้วยเหล่ามาร
โลกถึงกาลแตกดับแสนอัปรีย์
กำเนิดขึ้น ตั้งอยู่ สู่ดับสลาย
วนเวียนว่ายทะเลทุกข์ไร้สุขี
จนกว่าแจ้งสัจจาพระพาที
คืนถิ่นที่จากมาสิ้นอาดูร....
Be Vegan Make Peace
www.suprememasterTV.com
ไม่มีข้อความส่งถึงคีตากะ