มนุษย์ถูกสร้างตามลักษณ์พระพักตร์เจ้าร่างกายเอาผงคลีดินสิ้นผสมปั้นคลุกเคล้าก่อรูปร่างอย่างน่าชมมอบปราณลมให้ไว้ในวิญญาณ์วิญญาณนี้อมตะอัประไมยมิมีใครทำลายหมายเข่นฆ่ากายเกิดดับลับไปไม่นำพาแต่วิญญาณ์ยืนยงคงกระพันเปลี่ยนร่างใหม่เรื่อยไปไม่สิ้นสุดกายโทรมทรุดแตกไปในรูปขัณฑ์คืนสู่ดินดั่งเดิมเริ่มวารวันวิญญาณเป็นนิรันดร์มิผันไปพระองค์มอบเจตจำนงเสรีให้ชนมีสิทธิเลือกเป็นแบบไหนเพียงเปลี่ยนแปลงถ้าหากมิชอบใจผลเช่นใดเพียงยอมรับกับความจริง...สิ่งที่เปลี่ยนไม่ได้1.เจตจำนงเสรี (สิทธิในการเลือก/เปลี่ยนแปลงแต่ไม่สามารถกำหนดผลได้แน่นอน)2.วิญญาณอมตะ (ทำลาย/ทำให้สูญหายไม่ได้เป็นพลังงานที่เป็นนิรันดร์)
จากเอเดนสวนสรวงล่วงแหล่งหล้าอาดัมและเอวาตกสวรรค์เกิดมนุษย์คู่แรกแบกโทษทัณฑ์แพร่เผ่าพันธุ์ต่อไปในโลกาถึงโนอาห์มนุษย์สุดโหดร้ายมุ่งทำลายชีวิตจิตบาปหนาฝนตกสี่สิบวันตามบัญชาเกิดมหาอุทกภัยในตำนานเกิดเมโสโปเตเมียแหล่งจารีตหว่างไทกรีส-ยูเฟรตีสลุ่มละหานแหล่งกสิกรรมล้ำหน้าชลประทานแรกจดจารสุเมเรียนเริ่มเขียนคำถึงบาบิโลนเรืองรุ่งเฟื่องฟุ้งสุดใจมนุษย์เสื่อมทรามลามถลำชอบพูดจาบลาบลาภาษาคำวัฒนธรรมสูญสลายมลายไปจากอาดัม โนอาห์ อับราฮัมเกิดสายธรรมสองศาสน์ชาติยิ่งใหญ่ทั้งชาวคริตส์อิสอัคยิวโยงใยอิสลามได้มุฮัมมัดสายอิชมาเอลชนชาติยิวยาโคป โยเซฟหลานย้ายถิ่นฐานสู่อียิปต์ลิบตาเห็นรุ่นโมเสสยิวเป็นทาสชาติลำเค็ญถูกฆ่าเข่นทรมานนานหลายปีพระเจ้าใช้ให้โมเสสปลดปล่อยทาสจากอำนาจฟาโรห์พายิวหนีทะเลแดงถูกแหวกแทรกวารีคืนถิ่นที่คานาอันตามสัญญาพระองค์มอบบัญญัติสิบประการให้ลูกหลานชาวยิวยึดรักษาหลงร่อนเร่ทะเลทรายหลายเพลาสู่ดินแดนพันธสัญญาสี่สิบปีถึงเยซูนาซาเร็ธ เบธเลเฮมจรดเยรูซาเล็มเมืองชินสีห์สู่มักกะฮ์ถัดมาห้าร้อยปีมุฮัมมัดเผยวจีแห่งอัลลอฮ์จากดินแดนเมโสโปเตเมียสู่เปอร์เซียอาหรับจรดใต้หนอเกิดมนุษย์หลายเผ่าแยกเหล่ากอล้วนแม่พ่อเดียวกันสร้างสรรค์มา...
จงรักแต่อย่าทุกข์เพียงสุขสันต์จงรักแต่อย่าหวั่นยึดมั่นไหนจงรักแต่อย่าหวังคาดดั่งใจจงรักและก้าวไปในเสรีจงเชื่อว่าสัจจะชนะแน่จงเชื่อจิตเดิมแท้พระชินสีห์จงเชื่อในคุณงามและความดีจงเชื่อถ้อยวจีแห่งพุทธาจงเรียนรู้ปล่อยวางทุกอย่างสิ้นจงเรียนรู้ชีวินอุเบกขาจงเรียนรู้จักตัวตนพ้นมายาจงเรียนรู้อัตตาพาทุกข์ทนจงอย่าปล่อยให้จิตใจใช้กลเล่ห์จงอย่าเขวหนทางแห่งมรรคผลจงอย่ายึดถือมั่นในตัวตนจงล่วงพ้นคนสัตว์ฉากทัศน์ใดจงมองฉันคือเธออีกคนหนึ่งจงมองฉันลึกซึ้งใช่ใครไหนจงมองฉันแค่ภาพลวงปราศกายใจจงมองฉันแท้ไซร้ไม่มีจริง...
พุทธพจน์ภาษิตลิขิตเขียนกาลจำเนียรก่อนเก่าเขาศึกษาระดับความรู้แจ้งแห่งปัญญาเฉกฝึกม้าให้เชื่องเปรื่องอินทรีย์ชายผู้หนึ่งน้อมเกล้าเฝ้าพุทธะอาชีวะฝึกม้าเป็นสารถีตถาคตตรัสปุจฉาถามพาทีถึงวิธีฝึกม้าจงสาธยายชายฝึกม้าสารถีเกสีตอบในระบอบฝึกม้าอาขยายมีวิถีสี่แบบอย่างแยบคายทูลถวายน้อมเกล้าเล่าความนัยม้าหนึ่งฝึกเพียงละม่อมพร้อมสยบอาหารครบน้ำดีเปลี่ยนนิสัยเอ่ยวาจาฟังเพราะเสนาะใจก็เชื่องได้ดั่งอุบลบานพ้นธารม้าสองฝึกรุนแรงใช้แทงปฏักยากยิ่งจักเชื่อเชื่องเปลืองสังขารบ้างลงแส้ผูกขาพันธนาการงดอาหารความพยศจึงหมดลงม้าสามดั่งอุบลปริ่มพ้นน้ำเบาหนักทำเพาะบ่มสมประสงค์บ้างรุนแรงบ้างละม่อมยอมเชื่องลงอาชาคงใช้ประโยชน์สิ้นโทษภัยม้าสี่ราวอุบลงอกเพิ่งออกเหง้าเป็นอาหารปลาเต่ามิเอาไหนจะฝึกฝนเสียเปล่าเขลาเกินไปฝึกไม่ได้ให้ฆ่าทิ้งอิงปาจารย์...
เสื่อมสัตย์ศีลสิ้นธรรมาอารยะเสื่อมศรัทธาปสาทะมนุสสาเสื่อมทรามพรหมวิหารสี่มีเมตตาเสื่อมปรัชญาฟ้าหมองครองปฐพีสู่หุบเหวคำสาปปวงบาปเคาะห์สู่คำเยาะเย้ยหยันยันภูตผีสู่โทษทัณฑ์จากสรวงล่วงอเวจีสู่อัคนีแห่งไฟประลัยกัลป์สูญเสียธรรมจะดำดิ่งสิ่งอาเพศสูญเทเวศน์ที่ปกปักจักอาสัญสูญสิ้นปราชญ์ย่อมตกตายไปตามกันสูญเผ่าพันธุ์เพราะอวิชชาพามืดมนจบสิ้นยุคเกิดแลดับปรับสมดุลจบบุญคุณความแค้นแสนสับสนจบผูกพันชาตินี่ที่วกวนจบสิ้นคนตามบัญชาฟ้าลงทัณฑ์หน้าสุดท้ายประวัติศาสตร์สิ้นชาติภพหน้าสุดท้ายจุดจบพบโศกศัลย์ห้าสุดท้ายแห่งมนุษย์สุดสิ้นกันหน้าสุดท้ายก่อนความฝันวันต่อไป..(เริ่มต้นยุคหินอีกครั้ง)