13 กุมภาพันธ์ 2565 11:04 น.

การสูญพันธุ์ครั้งที่ 6

คีตากะ

สองร้อยกว่าล้านปีมีบันทึก
ครั้งสัตว์ดึกดำบรรพ์พลันสูญหาย
ยุคเพอร์เมียนโลกร้อนซ่อนความตาย
พวกมันคล้ายมิเข้าใจในเหตุการณ์
จูแรสซิกยุคต่อมายิ่งน่าเศร้า
ไดโนเสาร์มรณังถูกสังหาร
ขาดอากาศหายใจให้วายปราณ
เพราะไม่อ่านประวัติศาสตร์ปราศปัญญา
ไดโนเสาร์สูญชีวีครีเทเชียส
โลกร้อนเฉียดฉับพลันพันองศา
ขาดแจ้งเตือนปกป้องของนาซา
อุกกาบาตตกจากฟ้าพาสูญพันธุ์
มนุษย์ยุคไพรเมตเหตุกลียุค
ภัยล้อมรุกทุกทางอย่างมหันต์
หลบเขาสูงสะดุดหญ้าพาสูญพันธุ์
เพียงหยามหยันไวรัสพิบัติภัย...
4 กุมภาพันธ์ 2565 08:54 น.

พี่ค่นกับพี่ค่อน…

คีตากะ

พี่ค่นจอมอิทธิพลคนเจ้าถิ่น
ครองธานินทร์ถิ่นย่านนี้นานโข
ชอบอวดเบ่งเก่งกร่างวางก้ามโต
มักฉาวโฉ่สร้างกรรมทำแต่เวร
ส่วนพี่ค่อนคนสงบคบสันโดษ
ไม่เกรี้ยวโกรธใครง่ายใจเที่ยงเถร
พวกน้อยกว่าพี่ค่นคนเหลือเดน
คงโดดเด่นเรื่องซื่อถือจริงใจ
จนวันหนึ่งพี่ค่นชนพี่ค่อน
ยามโคจรเจอกันวันเผลอไผล
บาดหมางกันวันนั้นทำบรรลัย
จำผูกใจเจ็บแค้นแสนทวี
พี่ค่นคนไม่ดีคอยบี้ไล่
ส่งพวกไปทำร้ายกลายบัดสี
ถึงนายค่อนหลบเลี่ยงเสี่ยงเต็มที
หวุดหวิดหนีรอดพ้นเกือบจนมุม
พี่ค่นคนจอมเคี่ยวเคี้ยวฟันขบ
หมายเพียงจบเรื่องไวอกไฟสุม
ซุ่มลูกน้องคอยสืบตามหลืบมุม
พวกมากรุมพวกน้อยหมายต่อยตี
จนวันหนึ่งมีสายรายงานค่น
ข่าวกรองจนเชื่อได้ให้สุขี
ค่อนจะไปเที่ยวทางห้างบีซี
บ่ายพรุ่งนี้แน่นักจักจู่โจม
พี่ค่นค่อยรวบรวมคนขนอาวุธ
คอยซุ่มจุดซ่อนกายหมายรุกโหม
เห็นพี่ค่อนเผยกายหมายจู่โจม
พวกค่นโถมมุ่งเข่นไล่เหล่าไพรี
หารู้ไม่นั่นคือแผนแสนลึกล้ำ
ล่อเสือออกจากถ้ำทำถอยหนี
แสร้งปล่อยข่าวลวงล่อต่อไพรี
ขุดบ่อรอบดขยี้ที่แยบคาย
พวกพี่ค่นคนเขลาก้าวเข้าหลุม
ดั่งลงขุมอเวจียากหนีหาย
ซ่อนระเบิดทุกแห่งแฝงมากมาย
แม้คิดหมายบินหนีไม่มีทัน
ในพริบตาพี่ค่อนจรหายวับ
เข้าทางลับตามแผนแสนสุขสันต์
โผล่อีกด้านของถนนพ้นเร็วพลัน
พร้อมเสียงระเบิดดังสนั่นในทันที
แม้แจ้งใจพี่ค่นไม่พ้นแหลก
รู้ก้าวแรกผิดท่าพาโศกศรี
ดั่งราวเสือติดจั่นบั่นชีวี
เมื่อดาบนี้คืนสนองเจ้าของเดิม
ผลคือเละไม่เป็นท่าพากันจบ
แม้ซากศพแทบไม่เหลือเพื่อซ่อมเสริม
สิ้นนักเลงชื่อค่นคนบางเดิม
ดับหึกเหิมเพราะประมาทขาดสังวร...
30 มกราคม 2565 12:25 น.

เสียงดนตรีแห่งจิตวิญญาณ

คีตากะ

ณ เบื้องปฐมบรมกาลเนิ่นนานนัก
สุดที่จักนับคณาอสงไขย
ก่อนทุกสิ่งอุบัติวิวัฒน์ใด
เสียงหนึ่งได้ดำรงคงยืนยาว
เสียงหนึ่งนี้มีมาแต่คราแรก
สิงซึมแทรกทั่วสกลเวหนหาว
ดุจดนตรีไพเราะเพราะพริ้งพราว
ยากสืบสาวที่มาหาที่ไป
กระแสเสียงเคียงอยู่ผู้เป็นเจ้า
สร้างสรรค์เหล่าสรรพสิ่งอิงอาศัย
ทั้งรูปนามหลากหลายมีกายใจ
ตลอดทุกยุคทุกสมัยได้ธำรง
พระสุรเสียงนั่นฤาคือพระเจ้า
ที่ชนเฝ้าหมายพบสบประสงค์
ทุกชนชาติศาสนาศรัทธาองค์
พระดำรงคงอยู่อุ้มชูเรา
ธ ทรงให้กำเนิดในเลิศหล้า
สร้างโลกาดวงดาวพราวเสลา
เทียมธรรมชาตินิรมิตชีวิตเรา
ประหนึ่งเงาฉายาแห่งพระองค์....
ป.ล. ถอดความบางตอนจากคัมภีร์ไบเบิ้ลแปลโดยท่านอนุตราจารย์ชิงไห่
In the beginning was the Word (Sound), and the Word was with God, and the Word was God.
Everything was made by this and nothing was not made by this.
จักรวาลพอเริ่มต้นก็มีเสียงนี้ Word นั้นหมายถึงเสียง เสียงนี้อยู่กับพระผู้เป็นเจ้า เสียงนี้ก็คือพระผู้เป็นเจ้านั่นเอง
สรรพสิ่งทั้งปวงในจักรวาลล้วนเกิดจากเสียงนี้ ไม่มีสิ่งใดที่ไม่ได้เกิดจากเสียงนี้
20 มกราคม 2565 15:42 น.

เล่นกะอสุรกาย

คีตากะ

กฎแห่งเกมนั้นง่ายไม่มายมาก
โลกคือกากอสุรีบุรีขัณฑ์
มีเขตแดนเคียงคู่อยู่ใกล้กัน
เคยโรมรันต่อสู้อยู่นานมา
หากหมายเล่นกับอสูรอาดูรแน่
พบเพียงแพ้แน่นักจักผวา
ชอบบนบานสานกล่าวเรียกเขามา
มินานช้าจะฉิบหายทำลายตน
ดั่งเล่นกับอสรพิษเผลอผิดพลาด
ย่อมพินาศตกตายกลายเกิดผล
ดีหรือร้ายไม่แจ้งแห่งตัวตน
เฉกเช่นคนมีดีชั่วไม่กลัวกรรม
มาตรอหังกากำเริบยิ่งเสิบสาน
เป็นอันธพาลทุศีลหมิ่นถลำ
เคยบำเพ็ญความดีกลับริยำ
ราวทศเศียรก่อกรรมจนลำเค็ญ
ถึงภูตผีปีศาจอาจเรืองฤทธิ์
เทพทศทิศยากแท้ตาแลเห็น
จะช่วยเหลือหรือไม่ในลำเค็ญ
ย่อมยังเป็นปริศนาเวลานาน
แต่สิ่งหนึ่งมีโชคหรือโชคร้าย
จะแพ้พ่ายหรือชำนะหาแก่นสาร
จะร่ำรวยยากจนบนรอยกาล
ย่อมวายปราณแน่นักจักทำนาย
เมื่อมีเกิดย่อมมีดับกลับจริงแน่
หากไม่เกิดนั่นแลแน่เหลือหลาย
เพราะความดับก็ไม่มีที่ทำลาย
ควรมุ่งหมายดับการเกิดประเสริฐชน...
20 มกราคม 2565 13:45 น.

นักเดินทาง

คีตากะ

ทุกย่างก้าวหนาวร้อนสัญจรทั่ว
โลกมืดมัวซอกแซกแบกกระเป๋า
ทั้งไกลใกล้ใต้หล้าทาทาบเงา
บนถนนเปลือยเปล่าอันเทาทึม
แบกพาใจใส่เป้เพียรเร่ร่อน
ค่ำก็นอนในราตรีที่เคร่งขรึม
สำรวจโลกครึ่งตื่นสะลือสะลึม
เสียงพำพึมท่องปรัชญาตำราเรียน
แต่ละก้าวดั่งบันไดไต่ดั้นด้น
หมายสืบค้นความหมายร่ายขีดเขียน
รินหยาดเหงื่อน้ำตาแทนค่าเรียน
หมายส่องเทียนในโลกมืดจนชืดชา
โลกที่เห็นเป็นตามแต่ความคิด
ผลผลิตแห่งใจให้กังขา
แจ้งแห่งจิตโลกก็ไร้ในมายา
แสวงหานอกกายจนสายเกิน
ธรรมชาติแท้ไซร้ไม่เคยเปลี่ยน
โลกโล่งเตียนดับดินสินธุ์ตื้นเขิน
ชนตกตายว่ายเวียนใช่บังเอิญ
ทุกก้าวเดินมีเหตุเจตจำนง
เพียงกฎเกณฑ์เข้าใจหรือไม่เล่า
โลกเพียงเงาใช่แท้แค่ฝุ่นผง
ท่านสร้างกฎตราไว้ให้ดำรง
ใช่ลุ่มหลงลักษณาตามืดมน
ศาสนามาที่หลังการสร้างโลก
ล้วนอุปโลกน์กันไปให้สับสน
เพียงปลอบโยนยามร้าวให้ชาวชน
ยึดผู้คนด้วยวิถีพิธีการ
เมื่อจิตรู้มิห่างไกลวิสัยนัก
ไยมิพักสำรวจตรวจสังขาร
เดินทางสู่มรรคามหายาน
สิ้นสุดการปุจฉาค้นหาธรรม...
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคีตากะ
Lovings  คีตากะ เลิฟ 0 คน
Lovers  4 คน เลิฟคีตากะ
Lovings  คีตากะ เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคีตากะ
Lovings  คีตากะ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงคีตากะ