7 กันยายน 2551 08:28 น.

@..โศกนาฏกรรมแห่งรัก..พระเพื่อน-พระแพง-พระลอ..@

กิ่งโศก

1220601592.jpg
รอยรูปอินทร์  หยาดฟ้า มาสร้างสรร
ดั่งคนธรรพ์ สรรค์เสก พระลอศรี
งามระบือ ลือไกล ในปฐพี 
พระเพื่อน- แพง น้องพี่ ลุ่มหลงรอย

พระลอพลัน สดับ เสียงซอเร้า
พระเพื่อนแพง สองนงเยาว์  ปานฟ้าสร้อย
งามเกินใด ทั่วทิศา ธิดาดอย
อีกโดนถ้อย มนตรา ปู่สมิงพราย..

ดำเนินตาม ไก่แจ้ ที่แท้หลอก
เสน่ห์ดำ อำพอก ให้หมองหมาย
"แม่กาหลง" เตือนอาเภท เหตุความตาย
พระลอคล้าย ลืมองค์ ด้วยภวังค์

ได้ประสบ พบพักตร์ นงลักษณ์"สรอง"
พระเพื่อน พระแพงต้อง มนต์รักขลัง
รักแห่งสาม  สู่สม ลมประดัง
สุขสมหวัง ดังจินตน์ ถวิลปอง

พระแม่ย่า เมืองสรอง แสนพิโรธ
ธนูโหด ฆ่าพระลอ ผู้จองหอง
พระเพื่อน-แพง แรงแห่งรัก จึงคุ้มครอง
กางกรป้อง โอบรัด สวามี

ธนูแค้น ปักแน่นองค์ พระทั้งสาม
กอดองค์ตาม  ร่วมตาย ยืนกับที่
อา..รักใด เกินแท้ สองดรุณี
สดุดี ศรีพระนาม พระเพื่อน แพง

เรารักเดียว ยังดับ ถึงเพียงนี้
สุดภักดี แดนาง สวรรค์แกล้ง
ให้พรากรัก  เช่นพระลอ พระเพื่อนแพง
เหมือนกับแบ่ง ห่างหาย...ใจระทม


๑๑๑๑

วรรณคดีเรื่องนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดแพร่ ซึ่งเป็นจังหวัดในภาคเหนือของไทย ท้าวแมนสรวงเป็นกษัตริย์ปกครองเมืองแมนสรวง พระองค์มีพระมเหสีทรง พระนามว่า  นาฏบุญเหลือ  ทั้งสองพระองค์มีพระโอรสพระนามว่า  พระลอดิลกราช  หรือที่นิยมเรียกกันสั้นๆว่า  พระลอ  กิตติศัพท์ว่าพระองค์เป็นหนุ่มรูปงามเลื่องลือไปทั่วสารทิศจนไปถึงเมืองสรอง ( อ่านว่า เมืองสอง ) ซึ่งเป็นเมืองที่ปกครองโดยท้าวพิชัยวิษณุกร พระองค์มีพระนามว่า     พรดาราวดี  และทั้งสองพระองค์มีพระธิดาผู้เลอโฉมถึงสองพระองค์พระนามว่า  พระเพื่อน  และ  พระแพง 
  "แม่กาหลง" เป็นแม่น้ำ ที่พระลอ สาบาน ริมฝั่งริมน้ำกาหลง ..แม่น้ำไหลวนเป็นสีเลือด แต่พระลอ ยังตามนางต่อ
๑๑๑๑๑๑				
4 กันยายน 2551 13:43 น.

~ นิราศ...ชะอำ ปุระ ~

กิ่งโศก

___039.jpg
@สู่แว่นแคว้น แดนดิน ถิ่นเมืองเพชร
จำจรจาก ฝากใจ ให้สมเจตน์
ล่องสู่เขต รักษา ใจที่ตรม..

@ ลาบางนา ข้ามน้ำ ลำนที
เจ้าพระยา สายนี้  มีชื่นขม
ไม่เคยทวน ลำธารา มุ่งไหลจม
สู่ทะเล เค็มขม ..เจ้าพระยา
ฝากไปด้วย ได้ไหม สายน้ำนี้
เอาโศกี ลอยจากไกล ใจของข้า
เอาความขื่น เข็ดขม ตรมอุรา
ไหลไกลตา จมสู่  ก้นทะเล

@ แล้วมุ่งหน้า พระรามสอง ครรลองทาง
แม้เวิ้งว้าง ยังมุ่ง ไม่หันเห
มหาชัย เมืองใหม่ ชายทะเล
ความหลังเท ถาโถม ..ถวิลครวญ
อาลัยหา ณ.พันท้าย นรสิงห์
ที่เรานิ่ง นั่งคุย หัวเราะร่วน
สักการะะ ขอพร ..แม่ศรีนวล
ขอไมตรี นี้ชวน ให้ยาวไกล
อาไมตรี นี้สิ แสนสั้นนัก
กลับมาหัก สบั้น หั่นหมองไหม้
ปิดฟ้ากั้น กันห่าง แห่งหัวใจ
หนีลับไป ไม่เห็น เช่นเหมือนเดิม
แม้ปวดใจ ยังได้แวะ ไปหามิตร
เติมชีวิต ให้ชุ่ม พลังเสริม
โบกมือลา มิตรแท้ เที่ยงเหมือนเดิม
ขอไปเพิ่ม พลัง เพชรธานินทร์
@ ถึงเขาย้อย ปากด่าน เพชรบุรี
ใจของพี่ สิลาโรย โหยถวิล
บอกเขาย้อย ช่วยเย้า ใจยุพิน
ให้มลาย หายสิ้น ความโกธา
อภัยเถิด นะใจ ของน้องพี่
พี่ทราบดี พี่ผิด ที่หนีหน้า
หากจะแช่ง สาบพี่ เชิญแก้วตา
หากชาติหน้า มีจริง คงเจอกัน
@ จากเขาย้อย ผ่านเขาวัง ความหลังผุด
ด้วยน้องนุช อยากมา เขาวังนั้น
หวังชวนชม คีรีวัง ในไพรวัลย์
แต่ความฝัน นั้นหาย มลายลง
จำก้มหน้า แอบร่ำ น้ำตาซึม
ด้วยไม่ลืม ความหลัง ยังสาบส่ง
เกาะกุมกิน แทะแกะ ให้มึนงง
จำต้องปลง แบกหน้า สืบต่อไป

@ เยือนชะอำ คำลวง ที่คอยแทรก
ชะอำคำ ชำแรก ให้แตกได้
รักดีดี กลับแตกดับ ป่นทันใด
โอ ชะอำ ทำให้ ฉันกลัวเกรง
แต่คงเป็น เช่นคำ แค่กล่าวอ้าง
ใจอ้างว้าง สั่งกาย ให้เข้มเคร่ง
กลัวไปใย แค่ยับ หายันเยง
ไม่กลัวเกรง เจ็บช้ำ ระกำทรวง
ย่ำผืนทราย สีขาว ริมชายหาด
พบรอยพาด ปาดทิวน้ำ เป็นห้วงห้วง
หวนแต่คิด ถึงน้อง สุดาดวง
ใจพี่ล่วง ยืนนิ่ง บนผืนทราย
พบรอยเท้า บางใคร ประทับเด่น
ประสบเห็น  เช่นรอย แม่โฉมฉาย
มือลูบแตะ รอยเท้า อกระบาย
ด้วยเพราะกาย ใจคิด หวนพะวง
..ลาก่อนนะ เจ้ารอย ที่คอยย้ำ
..ลาก่อนนะ ผืนน้ำ  อานิสงค์
..ลาก่อนนะ เม็ดทราย คล้ายอนงค์
..ลาก่อนนะ ชะอำดง แห่งอาวรณ์
@ มุ่งหน้าไป ด้วยใจเจ็บ สู่หัวหิน
ใจโบยบิน เหิรลอย ลับสิงขร
อยากสลัก รักคำ ที่พร่ำวอน
แปะสิงขร ประกาศไว้  ให้คนลือ
จากลาก่อน หัวหิน ศิลาแข็ง
ใจฉันแล้ง แห้งโรย ยากจะถือ
อำลาก่อน สาวงาม  ผู้คนลือ
ฉันคนซื่อ มิอาจ เสนอตน
๑ มุ่งตรงไป ไหว้พระ หลวงพ่อทวด
ความร้าวรวด ปวดใจ  ให้หลุดพ้น
สาธุท่าน บันดาล แลบันดล
ให้ไกลพ้น ไปที รักลวงลวง
๑ แลขากลับ  แวะซื้อ แต่ของฝาก
จำใจจาก เมืองเพชร แดนถิ่นสรวง
รสหม้อแกง อร่อยลิ้น รสไม่ลวง
ประทับทรวง ไม่ลืมสิ้น ...หัวหิน..เอย.



...เมื่อต้นเดือน สิงหาคม..กิ่งโศก..พาตัวเองไปแบบเรื่อยเปื่อย..จนถึง ชะอำหัว หิน..อืม เพิ่งรู้ว่า มีอะไร น่าพิสมัย อีกเยอะ..ในโลกใบนี้				
24 สิงหาคม 2551 10:33 น.

^ * ^ กรรม..ของระตูจรกา.. ^ * ^

กิ่งโศก

2d0ee4f9.jpg
เพียงพิศมอง จ้องรูปนุช  บุษบา
จรกา ต้องมนต์ จนเพ้อคลั่ง
เจ้าเมามัว ระรัวรัก เริ่มประดัง
ได้สมหวัง หมั้นหมาย เพราะเทพดล

ระตูเอม เปรมปรีย์ เป็นยิ่งนัก
ลืมรูปลักษณ์ ปากหนา หน้าดำข้น
ผิวขรุขระ อัปลักษณ์ ดังเดนคน
แม่กมล บุษบาเห็น คงเบนเบือน

บุญเจ้ามี แต่กรรมบัง ดังเขาว่า
เสน่หา แห่งอิเหนา เข้ามาเคลื่อน
แย่งรักนาง พาหนี ลี้แรมเลือน
โศกาเยือน จรกา น้ำตานอง

ด้วยระเด่น เด่นงาม นามอิเหนา
บุษบาเจ้า จึงจม คารมพร้อง
เหยียดหยามข้า จรกา คู่หมายปอง
รูปลักษณ์ทอง เท่านั้น ที่เจ้าแล

นางไม่เห็น เพ็ญแห่งรัก จรกา
จรัสจ้า ประกายผุด   ดุจดังแข
ด้วยบดบัง มนต์เมฆ ครอบดวงแด
จรกาแพ้ เพราะรูป อันราคี

จรกาเอย..เจ้ายัง ดีกว่าฉัน
สุดท้ายนั้น ยังได้ จินดาส่าหรี
แต่ฉันนั้น นางเมิน ไม่ใยดี
โศกโศกี พิลาสร่ำ เฝ้ารำพัน


.........................
ระเด่น...เป็นคำนำหน้ากษัตริย์ ที่เป็นวงเทวา
ระตู...เป็นคำนำหน้า กษัตริย์ เมืองรองๆ หรือ ตามหัวเมือง				
18 สิงหาคม 2551 22:35 น.

~ พิษแห่งรัก..กามนิต ~

กิ่งโศก

post-1569-1154011428_thumb.jpg
จักกี่ชาติ กี่ภพ  ก็จบสิ้น
ปองยุพิน  นางทิพย์ วาสิฎฐี
รักฉับพลัน นั้นแรก แทรกฤดี
อธิษฐาน รักนี้ มิพรากกัน

กรรมตามแยก แตกหัก  รักแบ่งข้าง
แม่นวลปรางค์ จำแต่ง คู่หมายหมั้น
กามนิต จิตดับ โดยฉับพลัน
สิ้นอาสัญ ตัวตาย ร้ายรักโลม

ไปสถิต แดนฟ้า ดาราน้อย
เพียรเฝ้าคอย วาสิฎฐี แม่ฉายโฉม
นางละกาย ได้เกิด เป็นดาวโคม
จึงเฝ้าโน้ม สั่งวาที ที่รักนาง

วิบากรัก หักหาญ แห่งใจสอง
วาจาพ้อง ถึงกัน นั้นนาน..ห่าง
โกฎิแสนปี สนทนา ..พร่าเลือนราง
กรรมเจ้าสร้าง สั่งสม ปมอันใด

รักของเรา คล้ายเช่น เป็นเช่นนี้
พบแต่รัก ..คนดี..เพียงนี้ใช่
แล้วลาร้าง ห่างสิ้น ซึ่งเยื่อใย
เหลือเพียงใคร เฝ้าครวญ อยู่เอกา

กามนิต ผิดหวัง ยังได้พบ
ได้ประสบ วาสิฎฐี บนเวหา
ได้เคียงคู่ กระพริบรัก ดวงดารา
อา...ตัวข้า  ยิ่งกว่า กามนิต....ครวญ
				
27 กรกฎาคม 2551 22:58 น.

~ พ้อ..เจ้าเงาะ บ้าไบ้ ~

กิ่งโศก

sungthong.jpgอัปลักษณ์ ร่างร้าย แถมกายหยาบ
แต่เนื้อใน ทาทาบ ทองผ่องศรี
แอบเร้นซ้อน ซ่อนตัว ทั่วปฐพี
ประชาชี ชี้ล้อ บ้าบอคน

เทพอุ้มสม เสกสร้าง พบนางหนึ่ง
ที่แลถึง กายใน มะเลืองล้น
เหวี่ยงมาลัย ให้เงาะ เพราะใจดล
บุญกุศล บุบเพ สร้างกันมา

รจนา ตาใน ใยมองเห็น
พิเคราะห์เช่น เห็นร่าง งามสง่า
เงาะได้รัก ได้ใจ รจนา
เพียงเพราะว่า..นางเห็น แก่นแท้ใจ

ยอดชีวา ข้าเอย ใยไม่เห็น
รักซ่อนเร้น เช่นรู้ อยู่ไกล้ไกล้
รักรักรัก จากศรัทธา แห่งหัวใจ
แลเลยไป..ไม่เห็น คุณค่าควร

โอ้เงาะจ๋า รจนา ใยรักเจ้า
แล้วฉันเล่า เธอบอก ..ไม่หันหวน
เอ่ยบอกว่า หาไม่พบ ..สิ่งคู่ควร
ฉันปั่นป่วน หวนไห้ ปาดน้ำตา

แล้วจะรอ มาลัย ที่ไหนอีก
คงต้องปลีก หลีกไป ให้สุดหล้า
เงาะสุขสม เพราะมาลัย รจนา
แต่ใจข้า ...ทุกข์ท้อ...รอมาลัย
				
Calendar
Calendar
Lovers  2 คน เลิฟกิ่งโศก
Lovings  กิ่งโศก เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกิ่งโศก
Lovings  กิ่งโศก เลิฟ 2 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกิ่งโศก