29 ธันวาคม 2549 08:30 น.

ปีเก่า ปีใหม่

ตราชู

ปีเก่า ปีใหม่
	ฉ่ำล้นสายชลหลั่ง
จักหยุดรั้งได้อย่างไร
กาลเลื่อนคล้อยเคลื่อนไหล
ย่อมรี่รุดไม่หยุดรอ
	ซึมซับสิ่งสรรพใส่
มีสดใส มีมอซอ
มีรอยอันร่อยหรอ
แลเรืองรุ่งอำรุงราย
	เช่นนั้น เป็นฉันนี้
เรื่องราวมีล้วนมากมาย
ซัดสาดไม่ขาดสาย
มีสุขสบและซบเซา
	เรียนจบคำรบแจ้ง
เพื่อสร้างแรง เพื่อสร้างเรา
เคยงงเคยหลงเหงา
จนเหงาคล้อยค่อยค่อยคลา
	ใจคิดจับจิตค้น
ค้นเล่ห์กลของโลกา
คว้าหนเพื่อค้นหา
สุขมาให้มาใฝ่หวง
	ถอนถอดทิ้งทอดทุกข์
อันโหมลุกให้รรรลวง
เติมตักซึ่งรักตวง
เพื่อเก็บตักกอบรักตุน
	ปางกี้คือปีเก่า
อาจโศกเศร้า อาจโซซุน
เห็นมัวซ้ำหัวหมุน
จงลืมหม่นมืดมนมัว
	ปางมีวันปีใหม่
จงก้าวไกลอย่าเกรงกลัว
รู้เห็นไม่เร้นหัว
เชิดหัวห้าวมองหาวเหิน
	กี่ด้าวยังก้าวด้น
ยังก้าวดลแม้ไกลเดิน
เจิมร่ำสิ่งจำเริญ
เจิดจำรัสรุ่งรัตน์นิรันดร์
(๒๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๙)				
28 ธันวาคม 2549 11:54 น.

หมากับหมู

ตราชู

หมากับหมู
	จวนวันสิ้นปีหมาเข้ามาแล้ว
เห็นหมาแกล้วตัวกล้ามันก๋ากั่น
หมายกลับมา กลับมาประสามัน
มาดึงดันสำแดงว่าแรงดี
	ขวางมรรคาตาเขียวแยกเขี้ยวขู่
จะสู้หมูเครียดขมึงให้อึงมี่
ฝ่ายหมูเตรียมรับท้าตั้งท่าที
เมื่อคราวมีหมามันมาพันตู

	แต่ละหมู แต่ละหมูมากหมู่มั่น
จงหมูสรรพ์มีศักดิ์ของนักสู้
เป็นหมูแรงแกร่งเกรี้ยวรุมเกรียวกรู
ถึงหมาหมู่มากมั่วไม่กลัวมัน
	หมามันหอนเห่าขรมเพื่อข่มหมู
อย่าย่นยู่เมื่อยามมันย่ามหยัน
จงยืนหยัด ยรรยง โดยยืนยัน
สู้ไม่ยั่นไม่ย่อยไม่ถอย, ยอม
	แม้เป็นหมูในอวยระทวยอก
ต้องผันผกแพ้ภัยจนไผ่ผอม
ทนถมบ่าทุกข์บ่มระบมระบอม
ปวงหมูย่อมโดนย่ำโดยยำเยง
	สวัสดีปีหมูเป็นปีใหม่
อย่าร้างไร้เรี่ยวแรงจนโหรงเหรง
ให้คึกคักครึกครื้นแลครื้นเครง
เป็นหมูเก่งรู้แกว กล้าแกล้วเทอญ






(๒๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๙)				
27 ธันวาคม 2549 10:50 น.

ดวงดาว ดวงแด

ตราชู

ดวงดาว ดวงแด
โคลง ๔ สุภาพ  กลบทอักษรสลับ 
(ผมได้รับ ได้เรียนรู้รูปแบบกลบทนี้ จาก งานพระนิพนธ์ใน สมเด็จพระมหาสมณะเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส งานของ ท่านเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ แหละ ท่านคมทวน คันธนู ครับ)
	ดำรูดูรุ่งด้วย				เรืองดาว
พร้อมศักดิ์พรักสรวงพราว				ส่องพร้อย
ห่อนวางห่างวายหาว				เวหาศ
รรรดับรับดวงร้อย					ดั่งรุ้งดาราย
	พรายเจิดเพริศแจกพริ้ง			แจงเพรา
นึกเช่นเน้นชีพเนา					เฉกนั้น
ห่างเภทเหตุพรรเหา				ภัยห่าม
ดาลสรรพดับโศกดั้น				สู่ด้าวสุขแด
	แลยลล้นยิ่งล้วน				ยงเลอ
แพลงคาดพลาดเคยเผลอ				คิดพลั้ง
เจอทิศจิตถ่องเจอ					ทางแจ่ม
ตนเริ่มเติมแรงตั้ง					เริ่มต้นรับตวง
	แสนหวงทรวงห่มซึ้ง			หรรษา
หยุดปั่นยามปัญญา					เปี่ยมย้ำ
เนืองม่านน่านเมฆหนา				หมอกหนัก
แสงผ่านศานติ์พบซ้ำ				ผ่องสร้างเพ็ญศรี
	ชีวันฉันวาดช้อย				วาวชม
สุขจับซับใจสม					จืดเศร้า
สูญภัยใส่พิษซม					พาเสื่อม
เรียงดื่นรื่นดาวเร้า					ดาษเรื้องดำรง
	วามส่งวงแสงไว้				สรรค์วาว
แนวมรรคหนักไม่หนาว				เมื่อนี้
ดับเข็ญเด่นคือดาว					เคียงดาษ
ฉานดื่นชื่นดาวชี้					เด่นช้อยดวงฉาย

(๒๔ ถึง ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๙)				
26 ธันวาคม 2549 12:55 น.

ณ วันหนึ่งตราบวันนี้

ตราชู

ณ วันหนึ่งตราบวันนี้


	เขียนถึงเธอที่ฉันใฝ่ฝันถึง					ด้วยรำพึงภวังค์วันเพิ่งผันผ่าน
เราประสบพบกันไม่ทันนาน			             แต่พรากกันไม่กี่กาลก็นานเกิน

	เมื่อคลื่นร้ายทลายหล้าเวลานั้น					เราแข็งขัน เคียงข้างไม่ห่างเหิน
ต่างทำงานท่วมเหงื่อใช่เพื่อเงิน					ใช่เพื่อเสียงสรรเสริญสดุดี

	เมื่อเกิดก่อมรณาเวลานั้น					ซากนับพันเราพบล้วนศพผี
นอนขึ้นเน่าครุกหนองพองอินทรีย์				เราเพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมบำเพ็ญ

	เข้าพริกศพทีละศพซึ่งซบอยู่			เป็นหมู่หมู่เข้าใกล้ไม่กลัวเหม็น
งานเราทำลำบากแสนยากเย็น					ใครบ้างเห็นหัวใจแทบไม่มี

	เราสบตาต่อกันโดยมั่นหมาย				แววตาฉายชี้ชัดจำรัสวิถี
ทำเพื่อชาติ  เพื่อชาติทั้งชีวี				เหนื่อยครั้งนี้หนักเหลือก็เพื่อไทย

	เธอยืนหยัดยงยิ่งเยี่ยงหญิงเหล็ก			ตัวเล็กเล็กงามเหลือท้นเหงื่อไหล


งามผิวนวลผ่องเนื้อเคลือบเหงื่อไคล			แทนเครื่องไล้โลมร่างสำอางทรง

	ไม่เคลื่อนคล้อยถอยจากกองซากศพ				ฉันได้พบพึงจิตเพิ่มพิศวง
ขอบอกเธอถ้อยคำตามจำนง					ว่าพะวงรักมั่นแต่นั้นมา
	อยากเอ่ยคำว่ารักสักล้านหน			แต่คิดค้นแล้วยังน้อยยังด้อยค่า
ผู้อุทิศชีพเพื่อกูลเกื้อประชา					ยิ่งใหญ่กว่ากล่าวขวัญขานบรรยาย
เขียนถึงเธอที่ฉันใฝ่ฝันถึง                                                   ณ วันหนึ่งตราบวันนี้ไม่มีหน่าย
เขียนนิยามความย้ำพร่ำภิปราย					มอบจดหมายสู่มือสื่อใจภักดิ์
	บ้านเขาหลัก จักเป็นเช่นอนุสรณ์	  	ไม่คลายคลอนมั่นคงธำรงหลัก	
หลักมนุษย์ธรรมน้อมนำพร้อมพรัก			              เพื่อพิทักษ์พสุธาให้ถาวร

12 มกราคม 2548

แรงบันดาลใจ

	ถ้าไม่ได้ฟังรายการ  คนค้นคน เสียอย่างเดียว จดหมายฉบับนี้ก็เกิดขึ้นไม่ได้เป็นอันขาด วันนั้นทางรายการได้นำภาพการปฏิบัติงานของอาสาสมัครผู้ช่วยกู้เก็บศพมาฉายให้ชมอีกครั้ง ความสะเทือนใจที่ได้รับครั้งนี้แปลกออกไปจากเมื่อเขียนบท ผู้กู้กเฬวระ นั่นคือ ได้รับรู้ถึงพลังของหนุ่มสาววัยรุ่น ซ้ำยังเกิดจินตนาการต่อไปอีกว่า จะยังมีชาหญิงคู่ใดบ้างไหมหนอ พบรักกันในงานกู้ศพครั้งนี้
	ความรักท่ามกลางมรณะ มองให้ซึ้ง นี่คือสิริมงคล มาตรแม้ว่าชายหญิงคู่ใด พบรักกันขณะต่างฝ่ายต่างทำงาน ย่อมแปลว่า ความรักของพวกเขาก่อร่างสร้างฐานมาจากความเสียสละเป็นมูล รักการแล้วจึงรักกัน เพราะฉะนั้น ฉันรักเธอมิใช่เพราะเธอสวยถูกใจ เธอรักฉันมิใช่ว่าฉันคือชายหนุ่มรูปงาม แต่เรารักกันเนื่องมาจาก เราเห็นหัวใจอันยิ่งใหญ่ของทั้งสองฝ่าย ฉันและเธอ หญิงกร้าวชายแกร่ง เรารักกันเพราะหัวใจเรารักงานเช่นเดียวกัน นี่คือรักกันด้วยแก่นของวิญญาณ มิใช่รักเพียงผิวเผินจากเศษเสี้ยวกระผีกกระพี้แหละถ้าลงว่า ต่างฝ่ายต่างรักกัน โดยไม่รังเกียจแม้ซากศพ ซึ่งคนทั่วไปขยะแขยง หากเขาได้แต่งงานกันในวันข้างหน้า เขาจะสร้างครอบครัวคุณธรรมขึ้นโดยไม่ยากเลยแน่นอน เขาจะไม่มีทางเบือนหน้าหนีจากคนยากไร้ คนต่ำต้อยกว่า มิหนำยังเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ประคับประคองคนเหล่านั้นให้ยืนอยู่ได้ในสังคมด้วยดวงใจอันเปี่ยมเมตตา เพราะแม้ซากศพสกปรก เขายังเคยประคองมาแล้วกับมือ นี่แหละ มือของผู้สร้างโลก				
26 ธันวาคม 2549 09:00 น.

คลื่นพิฆาต

ตราชู

คลื่นพิฆาต (รำลึก ๒ ปี สึนามิ)
ภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒
	อดีตซมอุดมโศก
ประเล่ห์โลกประลัยลง
มนุษย์พึงประหนึ่งผง
เพราะภัยโจนพะโผนโจม
	สนั่นคลั่งประนังคลื่น
สะท้านครืนสะเทือนโครม
ถล่มทัณฑ์ถลันโถม
ชะเลถาชลาธาร
	กระจายโหมกระโจมหาด
ละลิ่วปราดละลายปราณ
ระรัวถิ่นบุรินทร์ฐาน
อศุพถมสะสมทาง
	กระหนาบซ้ำกระหน่ำศัลย์
ประหวัดหวั่นมิวายวาง
กระหม่าหม่นกมลหมาง
มิถอนหมดระทดหมอง
	ประเมินล้วนประมวลหลาย
สรีร์ก่ายระเรียงกอง
สลดมัวสลัวมอง
ประเชิญมาประชามรณ์
	ณ วันเหตุเทวษไห้
สถิตไว้สถาวร
ผิว์เทียบหาอุทาหรณ์
ก็เห็นได้ ก็ให้ดู
สัทธราฉันท์ ๒๑
	โลกเพียงภินท์พังเพราะพรั่งพรู		มนุษยะน่ะริปู
เกรี้ยวแหละเกรียวกรู				มิเกรงใด
	หว่านอาวุธป่ายระรายไป			คคนภพประลัย
โลกวิโยคไหว					มิกังวล
	เมฆม่านมืดมัวสลัวมน			สมุทรก็วิจล
เกิดกุลาหล					คระโหมเหิม
	จึ่งคนล้นตายสลายเติม			ภยมรณะเผดิม
เสริมเทวษเสริม					ทวีทรวง
	จงจำความป่นเถอะคนปวง			กษณะวิจิทะลวง
ท้องทะเลหลวง					ทลายชนม์
	เตือนตรึกนึกตั้งระวังตน			มิติริพิริยะรณ
ธรรมชาติยล					เฉลิมยง
	คืนความครันครบสงบคง			ถกลจิระประจง
เลิกละเพิกหลง					กิเลสลาม
	คนงามคืนธรรมชาติงาม			สุขภิรมยคาม
ทอประภาทาม					แอร่มเทอญ


(๒๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๙)				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงตราชู