26 กุมภาพันธ์ 2551 11:51 น.

ลางกลี

ตราชู

ลางกลี

(แรงบันดาลใจจากบทกวี ตัวสหัปมงคล นิพนธ์โดย ท่านเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ในคอลัมน์ ข้างคลองคันนายาว หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ ครับผม)

	เมฆครึ้มรอบครอบรายกระจายระรุ่ม
ดั่งเมืองสุมสิ่งสรรพสลับกระแส
เสียงโจษจรรลั่นจ้อกระจอกระแจ
ปั่นป่วนแดบันดาลพิการคดี

	รัฐ ดูซวนรวนเซประเดระส่ำ
เห็นท่าทำแดนไทยไถลวิถี
ผู้นำนั้นนั่นหนอก็นอมินี
ยังราคีขุ่นค้างระคางระคน

	ผู้อยู่ไกลใจกล้ามิช้าจะกลับ
เขี้ยวเล็บลับลีลา แน่ะตาถลน
คั่งแค้นรุมสุมเร้าระเร่าทุรน
แกล้งทำกลเก่งกาจฉลาดฉกรรจ์

	หมู่ก่อม็อบหมอบมองเจาะจ้องเขม็ง
นัยน์ตาเล็งเตรียมลุยฉลุยถลัน
ถึงคราวบุกรุกบึ่งตะบึงตะบัน
ก็มุ่งหมั่นมั่นแม่นกะแผนประมาณ

	จึงชอกนำช้ำนิตย์วิกฤตฉะนี้
ไม่เห็นมีแนวมรรคสมัครสมาน
พบพวกพ้องผองพรรค์น่ะอันธพาล
อีกไม่นานแน่แน่จะแหย่ชะนวน

	ต่างเคียดยัดขัดแย้งทแยงประยุทธ์
ทุกสิ่งทรุด, เสื่อม, ทราม สยามกระสวน
เยื้องโยกบ่ายย้ายบิดจริตกระบวน
กำเนิดล้วนเค้าลางกระด้าง กลี!

(๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๑)				
22 กุมภาพันธ์ 2551 08:57 น.

อย่าหวัง

ตราชู

อย่าหวัง

โคลงดั้นบาทกุญชร

	สรรค์สารเซ็งแซ่ซ้อง...............สรรพเสียง
ลำดับขานคดีเขดา...............เดือดข้น
ชำระประวัติศาสตร์เรียง...............สรุปใหม่
หก ตุลา หล้าล้น...............เลือดชโลม

	ใครฤาคิดใคร่ร้าย...............ราญรอญ?
ใครสั่งศาสตราโซม...............สาดเปรี้ยง
ถาโถมทุ่มทลายถอน...............กระทืบ, หวด
ลุยล่ามิให้เลี้ยง...............ลูกหลาน

ยินเขาขอตรวจค้น...............ความจริง
แหยงยอกดวงวิญญาณ...............ยะเยือก กลุ้ม
อนุสนธิ์ซึ่งยังสิง...............สยอง โศก
เมฆเคลื่อนยังคล้ำคลุ้ม...............คลี่หาว

	ความจริงโสโครกแจ้ง...............ใจจินตน์
เพียงปากมิยอมปาว...............เปิดอ้า
บด, เบนเรื่องราวระบิล...............ระบือบอก
เกรง สะทก มิแกล้วท้า...............โทษภัย

	อึงอลอรรถออกต้อย...............ตามกระแส
เกริกกล่าว มินานไกล...............กลบสิ้น
ฤาปรับเปลี่ยนแปลงแปร...............ปรากฏ
ลืมโชกเลือด เนื้อชิ้น...............เชือดสยอน

	หก ตุลา คงสลดแม้น...............เหมือนเคย
ปิดสิ่งสารพัดซอน...............ซ่อน แสร้ง
ผันผวนไป่ยอมเผย...............พูดหมด
คนอยู่ใครกล้าแย้ง...............อย่าหวัง!

(๒๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๑)

ข้อความฝากทิ้งท้าย

	ผมฟังหลายต่อหลายท่านเรียกร้องให้ชำระเหตุการณ์ในอดีต วันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ และยังไม่หยุดใช้เรื่องดังกล่าวมาเล่นงานกันทางการเมืองแล้วสลดใจครับ เบื้องหลังลึกๆถ้าจะสืบสวนให้เห็นจะๆหละก็ ไม่มีใครกล้าหรอก น้ำท่วมปากด้วยกันทั้งนั้น ทำได้แค่ซัดกันไปมา ก่อนกลบฝังดินเสียในท้ายที่สุด ทิ้งให้มืดมนอนธการต่อไป   บ้านไทยเมืองไทย ประวัติศาสตร์ภาคประชาชนอาภัพอัปภาคย์เสมอครับผม				
20 กุมภาพันธ์ 2551 08:49 น.

แหกตาประชาชน

ตราชู

แหกตาประชาชน

	มิใช่เด็กเล็กหลู่ลามผู้ใหญ่
มิใช่ใครขุดคุ้ยเพื่อคุยข่ม
มิใช่มาปรารภหรืออบรม
เป็นไปตามความโสมมเสมอมา

	แหล่งรวมพลคนเทียม ธรรมเนียมเน่า
ที่ยึดเอาหน้ากากแต่งฉากหน้า
ชื่อสำรวยสวยสะ รัฐสภา
คือแหล่งค้าอำนาจ อุจาดนอง

	คนขานคำสำอางอวดวางมาด
คำนึงคาดคลาไคลเลื่อนไหลคล่อง
เสียดสีเขาเข้าขั้นตามครรลอง
ยกเรื่องของความหลังมาหลั่งริน

	คนมีแผลแพร่พิษรีบปิดแผล
พูดเพื่อแก้เกลื่อนกลบล้างลบกลิ่น
อันเน่าเหม็นกระเซ็นปนเปี่ยมมลทิน
จนบ้าบิ่นไหลบ่าคำสาบาน

	คนมือกรีดมีดโกนรอโก่นล้าง
ก็อิงอ้างตามจิตตนคิดอ่าน
เชือดนิ่มนิ่มทิ่มตำให้รำคาญ
กล่าวฉาดฉานชัดชี้ช่ำฝีมือ

	ล้วนรันทดถดถอยที่ถ้อยเถียง
เซ็งแซ่เสียงสาดใส่โดยไม่ซื่อ
หก ตุลา มาลามโพลงพลามกระพือ
ถูกคนรื้อออกฤทธิ์เดือดผิดเดือน

	มิใช่เด็กเล็กหลู่ล้อผู้ใหญ่
มิใช่ใครบางคนคลุกโคลนเปื้อน
แต่....ทั้งหมดคดคิดคำบิดเบือน
ทั้งหมดเชือน แหกตาประชาชน!

(๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๑)

คำทิ้งท้าย

	ผมฟังการปะทะคารม ระหว่างคู่ชก เอ้ย คู่ต่อสู้ทางการเมืองทั้ง ๓ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาแล้วอดไม่ไหวจริงๆครับผม				
13 กุมภาพันธ์ 2551 12:04 น.

ตุลาเลือน

ตราชู

ท่านผู้อ่านที่เคารพทุกท่านครับ ผมใคร่ขอแถลงต่อทุกท่านว่า งานเขียนชิ้นนี้ เกิดขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากข่าว และคำพูดบิดเบือนของ นายกสมัคร สุนทรเวช แหละเพื่อยืนยันถึงความจริง มิใช่การเสกสรรปั้นแต่งของผม จึงขอนำบางส่วนของข้อความในข่าวดังกล่าวมาลงไว้ด้วย ณ ที่นี้ครับผม

นี่คือข้อความซึ่งคัดจาก

http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01p0105120251&day=2008-02-12&sectionid=0101

ส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ที่นายแดน ริเวอร์ส ผู้สื่อข่าวของซีเอ็นเอ็นถามนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ออกอากาศในรายการทอล์ก เอเชีย ทางสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น
เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ เกี่ยวกับเหตุการณ์นองเลือดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ซึ่งขณะนั้นนายสมัครเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

@ มีบางคนวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงถึงบทบาทของคุณในอดีต บางคนถึงกลับกล่าวหาว่ามือของคุณเปื้อนเลือด คุณจะพูดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้?

-ผมปฏิเสธทั้งหมด ผมไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นเลย ผมเป็นเพียงคนนอกในตอนนั้น

@ คุณต้องการที่จะใช้โอกาสตรงนี้ในการประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2519 รึเปล่า?

-ที่จริงแล้วมันเป็นการเคลื่อนไหวของนักศึกษาบางส่วน พวกเขาไม่ชอบรัฐบาล

@ แต่มีคนหลายสิบคน หรือบางทีอาจจะหลายร้อยคนเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว

-ไม่ มีผู้เสียชีวิตเพียงแค่คนเดียว มีนักศึกษาราว 3,000 คน ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ตอนนั้น

@ ตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 46 ราย และหลายคนบอกว่าจริงๆ แล้วมันสูงกว่านั้นมาก

-ไม่ สำหรับผม ไม่มีใครเสียชีวิตยกเว้นชายผู้โชคร้ายคนหนึ่งที่ถูกทำร้ายและถูกเผาที่สนามหลวง มีผู้เสียชีวิตเพียงคนเดียวในวันนั้น

@ หมายความว่าไม่มีการสังหารหมู่เกิดขึ้นหรือ?

-ไม่ ไม่มีอย่างแน่นอนแต่คุณลองนึกภาพสิ มีนักศึกษาทั้งชายหญิงมารวมตัวกัน 3,000 คน พวกเขาเลยบอกว่ามีคนตาย 3,000 คน

@ ผู้คนบอกว่าความเป็นพวกขวาจัดของคุณทำให้สถานการณ์ลุกเป็นไฟ

-เป็นฝ่ายขวาแล้วผิดตรงไหน ฝ่ายขวาจงรักภักดีกับในหลวง ฝ่ายซ้ายเป็นคอมมิวนิสต์

@ คุณคิดว่าเป็นเรื่องที่ให้อภัยได้หรือในการฆ่าผู้บริสุทธิ์เพื่อเป็นการปกป้องประเทศไม่ให้กลายเป็นคอมมิวนิสต์?

-ใครฆ่านักศึกษาล่ะ ถ้าการต่อสู้เกิดขึ้นระหว่างกองทัพ กองทัพก็มีหน้าที่ต้องป้องกันประเทศ ใครบางคนต้องการที่จะนำระบอบคอมมิวนิสต์เข้ามาในเมืองไทย มันขึ้นอยู่กับกองทัพ
จำนวนผู้เสียชีวิตนั้น.... คุณต้องไปตรวจสอบดูว่าเกิดอะไรขึ้น

ตุลาเลือน

สัทธราฉันท์ ๒๑

	ปางนั้น  บรรดาประชาดู
ดุจบุษปะพบู
คลื่นระดื่นขู
ขนัดคลา

	นักศึกษามวลละล้วนมา
สหนิกรประดา
ทอยทยอยถา
อธรรมพล

	ต่อต้านมารปลอมเลอะมอมปน
กลสมณะพิมล
กาจอุบาทว์กล
กลีกรรม

	เขาขัด คัดค้านพิจารณ์คำ
ฤชุรุจิระประจำ
ความก็งามขำ
แหละคมคาย

	ปางนั้น พันธุ์พฤณฑ์ทมิฬพราย
พิปริตอภิปราย
ชั่วเขรอะกลั้วฉาย
กระลับเชือน

	ปรับ แก้ แปร แปลง ตะแบง เบือน
ดลพิภภสะเทือน
เชือดเลอะเลือดเฉือน
ชิวินทรีย์

	อาวุทธ์รุดมาประดามี
ประทุษนรทวี
นาศมิอาจหนี
ประนังมรณ์

	คั้นเค้นเข่นฆ่าประชากร
ลุอปยศนคร
ลักษณ์ประจักษ์หลอน
มิลืมเลย

ภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒

	อธึกผันอธรรม์ผ่าน
สมรรถขานเสมือนเคย
เพาะถ่อยโอ้ พิโธ่เอ๋ย
สลวยอรรถ สลัดอาย

	เผดียงเท็จเผด็จถม
กิเลสบ่มกโลบาย
ฉลาดเผยเฉลยผาย
กระฉ่อนพูด กระฉูดผัน

	ตุลาชิน แตะลิ้นชั่ว
ประจวบมั่วประจบมัน
ระเริงพลิกระริกพลัน
ถะเกินเพลิงเถกิงโพลง

	มิสร่างซามุสาใส่
ระยำใหญ่รยางค์โยง
กระจายโผนกระโจนโผง
สล้างภาพเสาะลาภเพ็ญ

	ขจรพัฒน์ ขจัดพ้น-
อดีตยลอะดักเย็น
ติลกค่าตุลาเข็ญ
มิเหลือค้าง มล้างคุณ

	ขยอกย้ำขย้ำย่อย
ประเทศพร้อยปรุแทบพรุน
ถลันหน้า ถลาหนุน
อนาถเนตรอเนจหนอ!!!

(๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๑)

หมายเหตุ

	สำหรับฉันท์บทนี้

		ต่อต้านมารปลอมเลอะมอมปน
กลสมณะพิมล
กาจอุบาทว์กล
กลีกรรม
	ผมจงใจหมายถึง จอมพลถนอม กิตติขจร ซึ่งปลอมเป็นพระ เข้ามายังประเทศไทย ครับผม				
7 กุมภาพันธ์ 2551 09:13 น.

เขาวงกต

ตราชู

เขาวงกต

	เทียวย่างตามทางย่ำ
ยิ่งเจ็บจำยิ่งจ่อมจม
ขืนแค่นความแค้นขม
คั่งเจ็บไข้ขุ่นใจคอ

	คว้าหวังก็ควั่งว้าง
มาม้วย ร้างไม่เหมือนรอ
ร่องรอยเห็นร่อยหรอ
ราษฎร์เร่ร่อนเร่าร้อนรน

	ผลัด, แปลง พลิกแพลงเปลี่ยน
ก็ว่ายเวียนกับวังวน
ในแห่งตำแหน่งหน
โหงห่าหื่นโหดหืนเฮ

	กุมสรรพ กำกับส่ำ
ดั่งเดินจ้ำจนจำเจ
แทรกแซง ซ่อน แสร้งเส
สิ่งซับซ้อนสำส่อนทราม

	พวกกัน พ้องพันธุ์เก่า
ต้อยไต่เต้าเต็มติดตาม
ยืนยัน ใครหยันหยาม
ยังเพรายิ้มพร่างพริ้มยล

	กันกง เขาวงกด
ทั่วทั้งหมดทิศมืดมน
ลีบ เฉา หนอเหล่าชน
ไร้ทางเชิดที่เฉิดฉัน

	หมองศรีไม่มีสุข
ร้ายเร่งรุกรุมโรมรัน
ถมเถถั่งเททัณฑ์
ทั่วถิ่นที่ถ้วนถี่ ไทย

(๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๑)

ข้อความทิ้งท้าย

	ผมฟังรายชื่อ ครม. แบบจับยัดให้เต็ม (โดยไม่สนใจว่า เหมาะสมหรือไม่ในหน้าที่) ชุดนี้แล้ว พูดอะไรไม่ออกจริงๆครับผม				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงตราชู