1 สิงหาคม 2549 15:05 น.

ธงทิว (ตอนที่ ๕)

ตราชู

หมอ หมอขอแสดงความเสียใจกับคุณทั้งสองด้วยครับ เสียใจที่ต้องเรียนให้ทราบว่า ลูกตาดำของเด็ก ถูกโรคมะเร็งคุกคาม จำเป็นจะต้องควักทิ้ง เพื่อป้องกันไม่ให้โรคลุกลามครับ
		ราวกับตะลุมพุกกระทุ่มโครมลงกระทบศีรษะอย่างรุนแรง ความรู้สึกแรกของผมเมื่อฟังจบ มันมึนงง งงตื้อไปหมด ชาดิกไปทั่วทั้งระบบประสาท ต่อมา หูก็ลั่นอื้อ ดวงตาเริ่มจะลาย แลเห็นภาพต่างๆพร่าพร้อย ได้ยินเสียงจงจิตราอุทานอะไรฟังไม่รู้เรื่องเสียแล้ว โลกทั้งโลกสำหรับผมก็กำลังเริ่มโคลงเคลง	
		อะไรนะคะคุณหมอ ฟังคล้ายๆเธอจะร้องเสียงแหลมสะท้านว่าอย่างนั้น คุณหมอแน่ใจในผลการตรวจแล้วหรือคะ
		จากหลักการวินิจฉัย ประกอบกับอาการของเด็ก ไม่น่าจะผิดพลาดนะครับ
		ต้อง ต้อง เธอเอ่ยต่ออย่างติดๆขัดๆ คล้ายมีอะไรสักอย่างจุกแน่นในลำคอ ควักตาอย่างเดียวเลยหรือคะ สำเนียงในท้ายประโยคเจือสะอื้น
		จำเป็นจริงๆครับ เพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อร้ายลุกลาม หมอชัยชาญย้ำยืนยัน
				โธ่ ทิวลูกแม่ คราวนี้ภรรยาผมครวญแผ่วเครือ น้ำตาหยดลงต้องแก้มทีละหยาดร่างทั้งร่างสะเทือนไหว เพราะเธอร้องไห้กระซิกๆจงจิตราร้องไห้! ผมไม่เคยเห็นน้ำตาเธอร่วงมานาน นานจนจำไม่ได้แล้วว่า เธอร้องไห้ครั้งสุดท้ายเมื่อไร จงจิตราแข็งแกร่งมาตลอด คอยประคับประคองผมมิให้ล้มลงยามอ่อนแอ อ่อนโอน เธอเป็นทั้งแม่เรือน แหละแม่แรงโดยแท้ ทว่า เรื่องราวร้ายแรงของลูก เกินกว่าที่เธอจะทนรับได้ แล้วผมเล่า จะรับได้หรือ บัดนั้นเอง อารมณ์ต่างๆอันจำแนกไม่ถูกก็จู่โจมโถมถาเข้าหาผม ทะยอยทอยถั่งเป็นระลอกระลอก จนกลายเป็นพายุหมุนมหึมา ปั่นป่วน ม้วนอลวนอยู่ในใจ พร้อมจะพัดผันผวนปะทะทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างได้ทุกเมื่อถ้ามันบังอาจมากีดหน้าขวางตา
		โกหก หมอโกหก ผมตะโกนระเบิดก้อง ก้องกึกและเกรี้ยวกราดที่สุดในชีวิต กิริยาอาการคล้ายผู้ป่วยวิกลจริตซึ่งกำลังคลุ้มคลั่ง ตรวจลูกผมใหม่เดี๋ยวนี้ ตรวจ ผมสั่งให้ตรวจ สติไม่เหลืออยู่เลยสักนิด ผมพุ่งตัวเต็มกำลัง หมายบังคับบีบคอเขา จงจิตราร้องกรี๊ดวิ่งเข้าสกัดกั้น
		ธง ธงคะ เธอเรียกละล่ำละลักระเร่าระรัวเพื่อรั้งสัมปชัญญะของผมให้กลับคืน ใจเย็นๆคะ ใจเย็นๆ
		ผมไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ใต้ฝุ่นในอกผมยังไม่คลายความรุนแรงลง ผมจะสั่งให้มันตรวจใหม่ มันต้องตรวจผิดพลาด ลูกผมไม่ได้เป็นมะเร็ง
		หมอ หมอคะ ลูกต้องเข้ารับการ เอ่อ การรักษาเดี๋ยวนี้เลยหรือเปล่าคะ จงจิตราเองก็ปากคอสั่นขณะถามละล้าละลังทำอะไรไม่ถูก ห่วงทั้งลูก กังวลทั้งผมไปพร้อมๆกัน
		ถ้าหากคุณยังไม่พร้อม สามารถรับยาไปหยอดเพื่อควบคุมอาการไว้ชั่วขณะก็ได้ครับ
		ถ้าอย่างนั้น ดิฉันขอรับยาหยอดตาก่อนดีกว่าคะ คู่ชีวิตผมตัดสินใจทันควัน เตรียมตัวกลับบ้านเถอะคะคุณ เดี๋ยวค่อยมาหาคุณหมอใหม่

		ตลอดระยะทางที่ถวิลขับรถพาเรากลับมาบ้านนั้น ผมนั่งเงียบ เงียบอย่างน่ากลัว ส่วนจงจิตราก็ประคองกอดธงทิวแนบอก ไม่ยอมให้ห่างกายเลย ผมรู้ เธอพยายามกลั้นความเศร้าโศกอันใหญ่หลวง เพื่อมิให้ผมเป็นบ้าไปมากกว่าที่กำลังเป็นอยู่นี่ พอรถจอดลงตรงหน้าบ้าน คำสั่งแรกที่ผมประกาศิตกับประยง เด็กรับใช้สาวก็คือ
		ไปซื้อเหล้ามาให้ฉัน ซื้อมาให้มากที่สุด				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงตราชู