18 กันยายน 2549 09:00 น.

สันติ ณ สวนแก้ว

ตราชู

เพื่อนๆทุกท่านครับ ก่อนที่ท่านจะอ่านผลงานชิ้นต่อไปของผม  ผมขออนุญาตชี้แจงถึงแรงบันดาลใจบางประการ ในการสร้างงานสักน้อยหนึ่งเถิดครับ
	บัดนี้ เป็นที่สังเกตว่า สำนักสงฆ์ และอาวาส ได้เข้ามามีส่วนร่วมในความขัดแย้งทางการเมืองด้วย ฝ่ายสันติอโศกก็พวกหนึ่ง ฝ่ายวัดสวนแก้วก็อีกพวกหนึ่ง ผมสะเทือนใจอย่างยิ่งยวด ที่บรรดาแกนนำของฝ่ายการเมืองทั้งสองพวก  พยายามดึงพุทธจักร ให้มาวุ่นกับอาณาจักร โดยกิจกรณีย์ทั้งหลายนั้น หาได้เกี่ยวกับสมณสงฆ์แม้สักน้อยไม่ จริงอยู่ แม้มีบางท่านอ้างอิงโยงใยไปถึงโบราณกาลว่า ในยามสงคราม พระสงฆ์องคเจ้าท่านยังเปลื้องผ้าเหลืองมากุมดาบ แต่..... บัดนี้ บ้านเมืองเราวิกฤตขนาดนั้นแล้วหรือ? ต้องเดือดร้อนถึงเพศบรรพชิตแล้วหรือ? ผมยังเชื่ออยู่เสมอว่า ด้วยแรงฆราวาสก็น่าจะเพียงพอแล้ว อย่าให้ร้อนรนถึงบุตรพระพุทธเจ้าท่านเลยครับ
สันติ ณ สวนแก้ว
	จุดธูปเทียนเวียนทัศน์ถึงสัจแท้
โลกนี้แลโกลาการล่าไล่
แข่งก่อฟืนขึ้นฟูมแล้วสุมไฟ
จึงลามไหม้หมองหม่นผู้คนมวล
	ท่านคือสงฆ์ทรงศีลผู้สิ้นเศร้า
แม้หมอกเทาสมทบคลุมภพถ้วน
ท่านถือธรรมงามถ่องไตร่ตรองทวน
ย่อมไม่ด่วนบันดลกังวลแด
	โลกร้อนสุมรุมสู่มิรู้สร่าง
ทุกสิ่งสร้างสิ่งส่ำจากกรรมกระแส
เมื่อรู้หลักตระหนักแล้วนิ่งแน่วแล
ก็รู้แน่, รู้หน่ายมากมายมนุษย์
	ท่านควรเร้าเร่าเรียนเพื่อเพียนรู้
เพื่อเพียรสู่ผ่องใสเพ็ญไพสุทธิ์
ท่านผู้พึงพึ่งภักดิ์ในหลักพุทธ์
โลกหมุนรุดเร่งเร่าอย่าเร้ารน
	เรื่องการเมืองเรื่องมัวเรื่องมั่วมาก
ต่างฝ่ายพากเพียรเพื่ออวยเอื้อผล
เห็นแก่ตัว, ชั่วติดใกล้ชิดตน
ปลอมแปลงปนเปป่ายวุ่นวายไป
	ท่านคือสงฆ์ทรงศีลผู้สิ้นโศก
ย่อมละโลก, ล้างเลว, ล้างเหลวไหล
ใครใคร่ครองปองคลั่งก็ชั่งใคร
ท่านพิไลธรรมเลิศประเสริฐแล้ว
	ขอสันติผลิตามงดงามต่อ
ไร้เรื่องก่อรบกวนในสวนแก้ว
สันตินำธรรมน้อมพริ้งพร้อมแนว
สวนแก้วแพร้วพรูพร่ำศีลธรรมพราย
	สุขในท่ามความทุกข์ย่อมสุขท้น
เมื่อโลกวนแต่ละวันผวนผันว่าย
ขอสันติผลิแต่งอย่าแล้งตาย
สวนแก้วรายร่มรื่นฉ่ำชื่นนิรันดร์				
15 กันยายน 2549 08:59 น.

กุหลาบแก้ว

ตราชู

กุหลาบแก้ว
โคลง ๔ สุภาพ
	บานเถิดบานกุหลาบแก้ว			ผกาพราว
บานเพื่อผืนภูมิสกาว				ก่องสร้อย
บานสรรค์เพื่อสืบสาว				ความพิสุทธิ์
บานเพื่อมาลาร้อย					อร่ามเรื้องเรืองหรู
	บานพบูบงเฉิดชี้				ชวนชม
เฉกเช่นความดีฉม					ชื่นฟุ้ง
มวลชนทุกหนนิยม					ยงอยู่
ดังสุริยาสว่างคุ้ง					เขตห้วงหาวสถาน
	อย่าบานเลยกุหลาบแก้ว			ผกาทราม
บานเพื่ออวดเลวลาม				ล่อล้อ
บานเพื่อเผ่าพันธุ์หลาม				เลวเสพ
บานเพื่อคนเขื่องข้อ				เขื่องขึ้นค้าขาย
	แสนอายยามโอ่แย้ม			เพยียยล
เพียงเพื่อคนบางคน					แค่นั้น
เพียงเพื่อเพิ่มพูนผล					ประโยชน์แผ่
เพียงเพื่อผิดปิดกั้น					ไป่กล้าประกาศเผย

พุชงคประยาตฉันท์ ๑๒
	กลีกับ กุหลาบแก้ว			อนาถแล้วไฉนเลย
ถวิลชังมิหวังเชย					เพราะมุ่งเชิดละเมิดชน
	ก็คนห่ากะค้าหุ้น				ประยุกต์ตุนประโยชน์ตน
คะนึงค่า ธนาขน					คะเนคิดผนิดความ
	ขม้ำหมายขมายหมด			พยุงยศพยายาม
ผิว์ถูกท้วงฤทวงถาม				ตะแบงถ้อยตะบอยเถียง
	สฤงคารสราญโข				โขมงโว, เขมือบเวียง
ระรายรุ่นสมุนเรียง					ทะยอยร่าน, ทะยานรวย
	ประโลมนายก็หลายนัด			และออกอัตถะเอออวย
เสลาสร้างสล้างสวย				สลอนภาพกุหลาบพันธุ์
	กลีกับ กุหลาบแก้ว			มิเลิศแวววิลาวัณย์
สถิตเขตประเทศขัณ-				ฑเพื่อคนทุผลคาว


-----------------------------------------------------------------------				
10 กันยายน 2549 13:03 น.

ยักษ์

ตราชู

ยักษ์
	หยิบตะเกียงขึ้นมาถูคอยดูท่า
นั่น! ยักษ์ร่าเริงร่ำเร้ารำร่าย
แล้วโค้งค้อมน้อมนบเคารพนาย
โปรดจงผายพจนาเผยพาที
	ขอทำตามนายข้าบัญชาใช้
ไปที่ไหน, ถิ่นไหนข้าไม่หนี
ถึงศัตรูจู่มาหมายราวี
ข้าขอพลีชีพิตอุทิศพลัน
	นี่แน่ะยักษ์ ตัวกูเลิศหรูเกียรติ
ใครหยามเหยียดยกใหญ่กูไม่ยั่น
แต่.... ทหารฮือโหมฮึกโรมรัน
กูหวั่นหวั่นหวาดไหวครวญใคร่พะวง
	กูจึงคิดแบ่งสลายกระจายทหาร
ให้แตกซ่านซานซมได้สมประสงค์
กูสร้างเรื่อง ลอบสังหาร ที่หาญทะนง
เพื่อปองร้ายป้ายลงให้เปื้อนลาม
	มึงจงไปเป็นพยานให้การย้ำ
ว่าทหารเหี้ยมระห่ำเหิมทำห่าม
ซัดทอดถึง พลเอก สรรเสกความ
อย่าครั่นคร้ามขามใครยามไคลคลา
	ไปเถิดไปไอ้ยักษ์ไปยักเยื้อง
ไปสร้างเรื่องราวกุกล่าวมุสา
เมื่อไปถึงมึงจงจำนรรจา
ยัดข้อหาให้ทหารทั้งแปดนาย
	ยักษ์ค่อยยอบหมอบระย่อแล้วยอว่า
นายข้าผ่าเผยแผ่ไม่แพ้พ่าย
ขอนายอย่ากังวลทุรนทุราย
ว่าแล้วหายวูบไปในทันที
-----------------------------------------------------------				
7 กันยายน 2549 10:06 น.

สาบาน

ตราชู

เพื่อนๆทุกท่านครับ เมื่อวาน ตราชูดูข่าว ป๋าเหนาะ แกเสนอให้นักการเมืองสาบานว่าจะไม่โกงกินแล้วรู้สึกทุเรศทุรังอย่างไรบอกไม่ถูก ไม่ขอพูดอะไรมากแล้วกันครับ ให้งานเขียนชิ้นนี้พูดแทนความในใจทั้งหมดดีกว่าครับ
สาบาน
โคลง ๕ พัฒนา

	น้ำจอกน้อย				นำมา
ยืนสัจจา						เจตน์ตั้ง
สรรค์เสกสา-					บานสื่อ
ไป่พล้ำพลั้ง					เพลี่ยงแพลง
	แจงเทพไท้				เทวัน
ฟังจำนรรจ์					หนึ่งน้อย
เทพเฉิดฉัน					เชิญประจักษ์
ตูข้าข้อย						ประกาศไข
	ใจซื่อพร้อม				เพริศพราย
ตราบจนกาย					แก่, ม้วย
รักชาติหลาย					เหลือแหล่
ล้นเพียบด้วย					ภักดี
	มีจิตแกล้ว				ยุทธการ
ถึงศึกราญ					รุกห้อม
ขออาจหาญ					โหมหัก
โดยพรึ่บพร้อม					พรั่งเสมอ
	เปรอบาทเจ้า				จอมไผท
ราชราชัย						เฉิดฟ้า
เนาถิ่นไหน					แนบผนึก
ชีพนี้ข้า						ครุ่นถวาย ขอถวาย

อีทิสังฉันท์ ๒๐
	ฟังพจีนิยมผสมนิยาย
ประหนึ่งเสบยภิเปรยสบาย				ก็สาบาน
	เพียงมินานแน่ะธรรม์น่ะอันตรธาน
ปะลาภตระกลอนนต์ตระการ				ตะกายเอา
	โลดถลาไถลมิได้ทุเลา
หทัยมิสร้างสล้างเสลา				สลวยเลอ
	ร้อนกระอุกกระไอกระไรนะเออ
โขมดผยองคะนองเผยอ				เยาะยั่วหยัน
	ทำตะบิดตะแบงแถลงตะบัน
ประชุมทุชนปะปนประชัน				แหละชิงดี
	ราวกะโรคระบาดวินาศบุรี
ถวิลเทวษประเทศทวี				ประหวั่นเกรง
	พันธุชั่วประโชติวิโรจน์เชวง
ตะบึง, ตะลุยปุเลงปุเลง				ประลองกัน
	สาธุชนนิราศอนาถนิรันดร์
แสวงไสววิไลสวรรค์				วิมานวาย


	
กาพย์ยานี ๑๑
	สินนำ, ทรัพย์ซ้ำหนุน			ใจหมกมุ่นจึงเมามาย
คล่องค้าไคลคลาขาย				แม้คุณค่าราคาคน
	เขาซื้อก็ซื่อสัตย์				ไม่ลอบกัดเล่นเล่ห์กล
ซึมเซาให้เขาสน-					ตะพายใส่สุขใจแสน
	เขาขว้างจึงคว้างเคว้ง			เริ่มโคลงเคลง เริ่มคลอนแคลน
กร่างกลั่นก็พลันแกรน				ขาดคนกล่าว คนกราวเกรียว
	เสื่อมสร่างสิ่งสร้างสรรค์			ย้ำดุดันแต่อย่างเดียว
แค้นคานัยน์ตาเขียว					ผันความคิดแผกผิดเคย
	ตัวพังเลยตั้งพรรค				หวังโกงกัก หวังก่ายเกย
พร่ำพจน์เป็นบทเผย				เพื่อฆ่า, เผา ให้เขาพัง
	แจ้งมาวาจาใหม่				โจรกลับใจ อย่างจริงจัง
ขับเคลื่อนดูเหมือนขลัง				แต่เคลือบคลุ้มครอบคลุมเครือ

กลอนสุภาพ
	ล้วนแสร้งเสเล่ห์สรรพลายซับซ้อน		แอบซุกซ่อนสวมสร้างเยี่ยงอย่างเสือ
ด้วยแค้นจัดขัดใจขุ่นไข้เจือ				จึงคิดเพื่อแผ่พิษ แผ่อิทธิพล
	ในฉากม่านการเมืองมักเรื่องมาก		แต่ละฉากชิงช่วงล่อลวงฉล
แต่ละช่วงล้วงไชแล้วไล่ชน				แต่ละคนขันแข็งเพื่อแข่งเคียง
	ถึงไหลบ่าสาบานสื่อสารบอก			ก็ยังหลอกพาโลเลื่อนโล้เลี่ยง
ยังอ้างเอ่ยเฉลยอำเอนลำเอียง				ยังเฉเฉียงชั่วช้าชั่งน่าชัง
	ถ้าเพ็ญใจไพจิตรโสภิศแจ่ม			ย่อมวามแวมแววไสวด้วยใจหวัง
ใจล้นเลิศเกิดล้ำเกิดกำลัง				ใจยืนยัง ยืนยันในสัญญา
	สัญญาซึ่งซึ้งนุสนธิ์ด้วยตนสร้าง		ไม่คั่งค้างราคินจนสิ้นค่า
ดีหรือชั่วตัวจะชี้โดยปรีชา				ใช่พร่ำบ่นพ่นบ้าพูดสาบาน

-------------------------------------------------------------------				
6 กันยายน 2549 10:32 น.

รากหญ้า, รากแก้ว

ตราชู

รากหญ้า, รากแก้ว
	เพราะเราคือรากหญ้าระย้าลู่
เราจึงยู่ย่นยับถูกทับ ย่ำ
ต้านเปลวแดดแผดเต้นพุ่งเป็นลำ
ทนกรอมกรมกรากกรำเพื่อกรอบเกรียน
	อยู่ใต้ความห่ามหีนของตีนโหด
ฟ้าไม่โปรด ไม่ปลดให้หมองเปลี่ยน
ต้องโรยดอกร่วงดาลงดาษเดียร
กี่ปีเวียนวงวนไม่พ้นวาย
	เพราะเราคือรากแก้วที่แกล้วแกร่ง
ซึ่งปักลงดินแหล่งกันดารหลาย
ใช่เพื่อเลี้ยงแผ่นดินทุกถิ่นภาย
แต่เพื่อเลี้ยงคนสบายเพียงบางคน
	เราเป็นเพียงรากแก้วของบางกลุ่ม
ที่กักขฬะครอบคลุมทุกขุมขน
ที่อวดเติบเอิบโตแล้วโอ่ตน
ที่เปลี่ยนแปลง ปีนปล้น แลแปลกปลอม
	ไม่ว่าเป็นรากหญ้าหรือรากแก้ว
ก็ไร้แล้วแรงพลังไหลหลั่งหลอม
ก็ถูกเขาครองครอบกั้นกรอบล้อม
ก็ถูกเขาเมามอมให้มัวมึน
	จึงรากหญ้า รากแก้ว เลยรากเลือด
ทนร้อนเดือดไม่มีวันดีขึ้น
นั่น! ทัพหมู่มวลทมิฬทะมึนทึน
ทนเถอะทนบึกบึนเพื่อถูกเบียน

--------------------------------------------------------------				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงตราชู