10 กันยายน 2551 08:12 น.

หักหอก หอกหัก

ตราชู

หักหอก หอกหัก

	หอบฮักเข้าหักหอก
ซึ่งย้ำยอกเสียดยอนแยง
หักผลาญหอกพาลแผลง
ที่เร็วผลุนทารุณพลัน

	บ้า หยาบ ด้วยบาปยวด
เรียกตำรวจรุมตีรัน
โจมโผนจู่โจนผัน
ใช้เชี่ยวพลกับชลผอง

	ฮึกฮัก ต้องหักหอก
ที่เลวพอก ที่ลำพอง
ขานลั่นใช้ครรลอง
คือสั่งไล่เสือกไสเลย

	หอกปักก็หักป่น
ไม่ก่อกลมาก่ายเกย
โยก ฉุด ฤาหยุดเฉย
จึงเฉิดฉาย จึงได้ชัย

	หอกเดิมมิเหิมเดช
สมดังเจตน์แสนดีใจ
ที่นี่หรือที่ไหน
คงใสเนียนขาดเสี้ยนหนาม

	ขอนิด... หยุดคิดหน่อย
ใช่ต้อยต้อยไชโยตาม
หอกซัดจากหัตถ์ทราม
ไม่สิ้นสุดมนุสสา

	หอกป่นเก่าก่นไป
หอกเล่มใหม่กำลังมา
หน่วงแค้นปักแน่นคา
ในอกขัดอั้นอัดเคือง

	เช่นนั้น เป็นฉันนี้
เหมือนบาปมีมาบังเมือง
หวังรุ่งอำรุงเรือง
กลับรุ่งริ่งสรรพ์สิ่งหรอ

	หอกใหม่หักไม่หมด
เมื่อคนคดยังค้ำคอ
เสรีสุขศรีรอ
ไม่เห็นหรอก...เมื่อหอกราย!!!

	(เขียนร่างไว้ล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ ๒๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ ครับ)

หมายเหตุ

	ลีลากาพย์ยานีเยี่ยงนี้ ผมอาศัยศึกษาจากงานกวีนิพนธ์ของกวีหลายท่าน ครับผม

ข้อความทิ้งท้าย

	ผมว่า นักการเมืองกี่คนกี่คน รัฐบาลกี่ชุดกี่ชุดจะขึ้นมาบริหารประเทศในวันข้างหน้า ก็ยังคงเป็นหอกตำใจประชาชนอยู่วันยังค่ำแหละครับผม				
5 กันยายน 2551 09:47 น.

สยามมานุษย์สะตึ

ตราชู

สยามมานุษย์สะตึ

(แรงบันดาลใจจากโคลงพระราชนิพนธ์ สยามานุสติ ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ครับผม)

รักราช ไยเจตน์ร้าย...............ราวี
รักชาติ กลับยายี...............ย่ำไว้
รักศาสน์ แต่กาลี...............ลนจิต  ถ้วนเวย
รักศักดิ์ จงจิตให้...............โหดร้ายฤาเขิน

	ยามเดินยืนนั่งพร้อม...............เพรียงรณ
รำลึกถึงพวกยล...............อยู่ยั้ง
ปองรัฎฐมณฑล...............ไทยป่วย  ประจานฮา
ชนล่มสลายเมื่อตั้ง...............แต่เหี้ยมฮือประหาร

	ไทยรานไทยรุกจ้วง...............โจมไทย
เรารบกันขาดใจ...............จ่อมดิ้น
เสียเนื้อเลือดหลั่งไหล...............ยอมสละ  สิ้นแล
เสียชีพไป่เสียสิ้น...............ชั่วสร้างสิ่งทราม

	หากสยามยังอยู่ยั้ง...............ยืนยง
ตูก็ขออยู่คง...............คู่ด้วย
หากสยามพินาศลง...............ตูหลีก ได้ฤา
เมืองมอดตูไม่ม้วย...............มุ่งทิ้งสกุลไทย

(๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๑)



	

คำกราบบังคมทูล

	ขอเดชะ สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า ผู้ทรงพระราชปรีชาญานหาที่สุดมิได้ ข้าพระพุทธเจ้า นายชูพงค์ ตรีวัฒน์สุวรรณนำโคลงพระราชนิพนธ์ในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทมาดัดแปลง ทั้งนี้ จักมีเจตนาล้อเลียน ฤาลบหลู่ก็หาไม่ เพียงประสงค์จะเสียดสียุคสมัยปัจจุบันอันลูกหลานไทยมิได้ประพฤติตามโคลงสยามานุสติเลย มีแต่หันหน้าเข้าทำร้าย ทำลายกันอย่างน่าอนาถนัก หากการกระทำทั้งนี้ เป็นที่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทแล้วไซร้ ขอใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท โปรดทรงพระกรุณาพระราชทานอภัยโทษแก่ข้าพระพุทธเจ้าผู้ต่ำทรามด้วยเทอญ พระพุทธเจ้าข้า

หมายเหตุ

	โคลงพระราชนิพนธ์ สยามานุสติ ฉบับเดิมนั้น ผมค้นคว้าจากเว็ปไซต์

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%AA%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B4


ครับผม				
3 กันยายน 2551 11:32 น.

แผลแผ่นดิน

ตราชู

แผลแผ่นดิน

๑.	โคลงมณฑกคติ (โคลง ๕ ดั้น)

ศรีศักดิ์สิ้น...............สูญศรี
ผองภูตพันธุ์...............ผุดอื้อ
ไทยตามตี...............ไทยต่อ
ยุทธ์แย้งยื้อ...............แยกสลาย

	หาญก่อเหี้ยม...............ฮึกเหิม
ตายเป็นตาย...............แตกดิ้น
เติมฟืนเติม...............ไฟติด
โดยใช้ลิ้น...............หลอกระดม

	ทุกทิศแท้...............ทนตรอม
เมืองโสมม...............เมือกข้น
ใครฤายอม...............เยง หยุด
คนเค้นค้น...............เข่นกัน

	อายสุดแล้ว...............แลสยาม
เคยเนานันท์...............อนาถ โอ้!
สรรค์เหตุทราม...............สาหัส
ยากเลี้ยวโล้...............หลีกหนี  หลบหนี

๒.	อีทิสังฉันท์ ๒๐

เดือดประเดประดังควะควั่งฤดี
ประเทศไผทประลัยวิถี
ทลายธรรม

	ขัณฑะมิ่งสิมาถลาคะมำ
ฉไกรฉกาจวินาศระกำ
กมลหมอง

	ใครล่ะใครจะเข้าทุเลา ประคอง
สถานการณ์คุพล่านเพราะกอง-
พิบัติกูณฑ์

	แม้นอมรวิมานตระการจรูญ
ก็พ่ายปิศาจระดาษอสูร
อสัตย์สึง

	แจ้งประจานทุลักษณ์ประจักษ์ ตะลึง!
ทุมารทะมื่นน่ะยืนขมึง
เขม้นหาว

	ปานจะกลืนรวีรุจีวะวาว
ขยอกคณาประชาระนาว
ประนังมรณ์

	โอ! บุรีวิวัฒน์จรัสบวร
สยองสยบประสบสยอน
แสยงใจ

๓.	กาพย์ฉบัง ๑๖

รุมพิษ ฤทธิ์ผ่าวร้าวภัย
คราหวั่นครั่นไหว
อุณห์วก อกว้าอาวรณ์

	บูรทาบบาปทัณฑ์บั่นทอน
จู่โถมโจมถอน
ทุกที่ถี่ถึงทึ้งแทง

	แข่งกล คนก๋าฆ่าแกง
พลุกพล่าน ผลาญแผลง
เหวี่ยงแพลงแว้งผลุนวุ่นพลัน

	ทึบติด ทิศต่าง ทางตัน
คึกขู่คู่ขัน
สองข้างสร้างแค้นแสนเคือง

	ป่วนมอง ปองหมั่นปั่นเมือง
จึ่งเหน็บเจ็บเนือง
เจ็บหนำ จำในใจหนอ

	ขบเขี้ยว เคี้ยวเข่น เค้นคอ
บุกบ่าบ้าบอ
ฤาเบา เร้าบ่อนรอนเบียน

	ร้ายทุ่มรุมไทย ไร้เทียน
แสงวาดสาดเวียน
สูญวับสรรพวิ่นสิ้นหวัง

	ภูว์พกผกผินภินท์พัง
ร้าวย่อย รอยยัง
หลายย่านลาญแยกแหลกเยิน

๔.	กลอน

เชิญท่านเชิญเดินไต่บันไดศพ
ซึ่งท่าวทบเทียมแถวเนื่องแนวเถิน
เชิญชูเชิดเฉิดฉัน เชิญท่านเชิญ
ดุ่มด้นเดินดิ่งก้าวเก็บดาวดวง

	เรา ชีวาตม์ขาดรอนล้มนอนก่าย
รรรเรียงรายเรี่ยหล่นเกลื่อนกล่นร่วง
เพียงเพื่อรู้พรูพลังเราทั้งปวง
แท้ ท่านลวงเราไว้เพื่อใช้แรง

	ชัยชนะประชาชน ยังหม่นช้ำ
เฉกเช่นกรรมก่อนกาลถูกท่านแกล้ง
ชัยชนะประชาชน ถูกปล้นแปลง
แท้ ตำแหน่งผู้นำนั่งกำชัย

	ชัยชนะประชาชน พูดพ่นพร้อง
หลงเสียงซ้อง ศรัทธาถ้อยปราศรัย
ชัยชนะประชาชน พูดพ่นไป
ทั้งที่ไร้เวลา ไร้วาระ

	เชิญท่านเชิญเดินไต่บันไดศพ
ซึ่งกองกลบรอบกายเรียงรายระกะ
โชคชัยทองของท่านคือพันธะ
ชัยชนะของเรานี้ไม่มีจริง!!!

(๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๑)

หมายเหตุ

๑.		กาพย์ฉบังในงานชิ้นนี้ ผมใช้ลีลาของกลบทกบเต้นสามตอน ซึ่งศึกษาจากหนังสือ ประชุมจารึกวัดพระเชตุพน ที่ท่านอาจารย์นิยะดา เหล่าสุนทร และท่านคณะสงฆ์วัดพระเชตุพน เป็นบรรณาธิการ และจากหนังสือ กฎบนกลบท ของ ท่านคมทวน คันธนู ครับ
๒.	ผมเขียนงานชิ้นนี้ขึ้น จากแรงสะเทือนใจเรื่อง นปช. ตี พธม. ครับผม				
1 กันยายน 2551 11:15 น.

คำสาปแม่โพสพ

ตราชู

คำสาปแม่โพสพ

	แม่มีบุญคุณโขคือโพสพ
ครามครันครบ คูณค้ำทุกคำข้าว
ทุกข้าวคำย้ำกลืนชีพยืนยาว
ลูกค่อยก้าว ค่อยเขยิบ ค่อยเติบโต

	แม่ข้าวเกื้อเอื้อเอิบอิ่มเติบใหญ่
รักโยงใยแผ่ขยายยิ่งสายโซ่
เลี้ยงลูกยากายินลูกภิญโญ
เพื่อลูกโผผันผายแรงกายเพ็ญ

	เพ็ญแรงกายผายผันเพื่อสรรค์ประภพ
ให้บรรสบซึ่งสุขสิ้นทุกข์เข็ญ
ให้ชาติเราเขานิยม อยู่ร่มเย็น
ให้ชาติเป็นชาติประเทืองทุกเบื้องไป

	ใช่ก่อเกื้อเอื้อลูกปั้นปลูกถนอม
จนกายย่อมลูกขยายเป็นกายใหญ่
เพื่อรบราฆ่าฟันโก่นบรรลัย
เพื่อลูกไทยไล่เถือล้นเหลือระทม

	กินข้าวนาธานีไทยนี่หนอ
ไยแตกคอคุกคามคำรามขรม
เอาแค้นขัดอัดอุราเป็นอารมณ์
พาชาติล้มรวนเรเหมือนเนรคุณ

	เมื่อชีพยังยั่งยืน ยังกลืนข้าว
อย่าแตกร้าวร้อนระอุอกคุกรุ่น
ข้าวจากแคว้นแดนไทยที่ได้ภุญช์
ก็ควรครุ่นคิดนึกตรองตรึกนำ

	ใครกินข้าวด้าวไทยแต่ใจถ่อย
ยุให้คอยฆ่ากันเช้ายันค่ำ
ยังลุกลามหยามหยาบลืมบาปกรรม
ขอข้าวคำจงพิฆาต คมปาดคอ

(๓๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๑)

หมายเหตุ

	ผมฟังข่าวกลุ่มต่อต้านพันธมิตรจากต่างจังหวัดลงมากรุงเทพฯ แล้ว และขู่ว่าจะใช้วิธีโต้ตอบอีกฝ่ายหนึ่ง โอกาสที่ประชาชนจะปะทะกันจึงสุ่มเสี่ยงถ้าหากมีผู้จุดชะนวนหรือปลุกระดม ผมจึงเขียนงานชิ้นนี้ขึ้นครับผม				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงตราชู