15 พฤศจิกายน 2555 13:05 น.

๏ จิตวิญญาณหุ่นละครเล็ก

อัลมิตรา


..๏ ตัวหุ่นปราศจากวิญญาณ..............พลันเผ่นเต้นทะยาน
หน่วยก้านแกล้วกล้าท่าที
หุ่นรามลักษณ์มล้างไพรี-...................พลพรรคยักษี
มวลกระบี่ร่วมรบครบครัน
เปลี่ยนแปลงลีลาพัลวัน......................โยกย้ายคล้ายกัน
มุ่งมั่นเชี่ยวชาญการแสดง
หลายคนหมุนเวียนเปลี่ยนแปลง........ร่ายรำสำแดง
หุ่นราวกร้าวแกร่งสมจริง ฯ

..๏ สวมบททศพักตร์ยักษ์ลิง................วิญญาณพลันสิง
จากนิ่งจึ่งนวยนาดมา
ยักย้ายย่างขยับกายา..........................โมโหโกรธา
ท่วงท่ามุทะลุดุดัน
ล้วนต่างวางมาดกาจฉกรรจ์.................รุกรับโรมรัน
หมายมั่นห้ำหั่นราวี
หนุมาณชาญสมรเสนีย์......................ว่องไวในที
หลบลี้อย่างมีปฏิภาณ ฯ

..๏ เชิดหุ่นนารายณ์อวตาร..................ดูช่างอลังการ
มุ่งผลาญหมู่มารทันใด
แผลงศรศักดิ์สิทธิ์ฤทธิไกร...................ทั่วทั้งภพไตร
หวั่นไหวลือลั่นสั่นคลอน
เชิดท้าวทศพักตร์ดัสกร........................ปวดแปลบแสบร้อน
คราศรมเหสักข์ปักตน
เชิดให้กายขยับอับจน..........................เสนาสาละวน
ต่างโกลาหลอลเวง ฯ

..๏  เชิดไท้ทศกัณฐ์หวั่นเกรง-.............องค์รามกล้าเก่ง
จึ่งเพ่งสำรวจตรวจตรา
จวบจนแจ้งพักตร์ลักขณา....................นารายณ์อุบัติมา
เพื่อฆ่าผลาญเราเศร้าจริง
ด่วนดับชีวาเพราะหญิง........................อีกยังค่างลิง
นอนนิ่งเห็นจริงสัจจธรรม
ท่วงท่าพญายักษ์ชักนำ........................บ่งบอกชอกช้ำ
เพรียกพร่ำร่ำลามณโฑ ฯ

..๏ สิบปากทศพักตร์ร้องโฮ...................บางปากโมโห
ว่าโอ้เราเขลาเสียที
เสร็จสิ้นคำลาพาที...............................จึ่งสิ้นชีวี
หุ่นยักษ์ปราศจากลีลา
จบเรื่องเชิดหุ่นคุ้นตา...........................คงความปริศนา
บอกว่าอย่าทะนงหลงตน
บทบาทที่เห็นเป็นคน...........................ยศศักดิ์มากล้น
คงพ้นสิ้นจากศักดิ์ศรี ฯ

..๏ หุ่นใดคือตัวชั่วดี...........................ตรึกตรองถ่องที
เรานี้นั่นหรือคือใคร
หน้าที่มากมีเพียงใด............................อย่ารักปักใจ
หลงใหลสับสนตนเอง
จนเป็นตัวยักษ์นักเลง..........................โอ้อวดข่มเหง
กร้าวเก่งปิดตาฝ้าฟาง
ฤษีชีไพรพระนาง...............................เป็นลิงฤๅค่าง
ทุกอย่างสมมุติดุจกัน ๚ะ๛

				
8 พฤศจิกายน 2555 22:09 น.

๏ ตัวตัวจริงและสิ่งที่เห็นในเวป

อัลมิตรา


๏ บ่อยครั้งที่มีคนสนใจฉัน
ต่างพากันผูกมิตรจิตเสน่หา
แล้วยกยอปอปั้นฉันนานา
"อัลมิตรา.. คนนี้แสนดีจริง"

ฤๅ เขาเพียงศรัทธามายาลวง
แท้ทั้งปวงอักษรซ่อนบางสิ่ง
ปราศสอดรับกับนิสัยให้อ้างอิง
จึงอยากติง.. "แล้งลมหนอสมญา"

คราวรู้จักทักทายภายในเวป
พอสังเขปชื่อเสียงเรียงนามหา
ใคร่ประสบพบพักตร์ประจักษ์ตา
วาดจินตนาเลิศล้ำตามคำชม

แต่ต่อเมื่อติดตามความเป็นไป
กลับข้องจิตวินิจฉัยไม่เหมาะสม
เคยคลั่งไคล้ก็กลายคลายนิยม
สัมพันธ์ล่มจบกันในทันที

จึงเตือนเธอด้วยใจให้ฉุกคิด
ก่อนเป็นมิตรผูกพันกับฉันนี่
อย่าอาศัยนัยคำลำนำกวี
ฉันคนดีหรือไม่โปรดใคร่ครวญ

เพื่อหลีกเลี่ยงเสียใจในภายหลัง
ย้ำอีกครั้งใช้สมองมองให้ถ้วน
เป็นมิตรกันดีไหมหรือไม่ควร ?
อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจในวันนี้ ๚ะ๛
				
6 พฤศจิกายน 2555 20:07 น.

..๏ กาพย์เห่เรือ “กระบวนพยุหยาตราชลมารค ” พระราชพิธีถวายผ้ากฐินพระราชทาน

อัลมิตรา

430667_466954766680582_1784493814_n.jpg๏ กาพย์เห่เรือ กระบวนพยุหยาตราชลมารค    

๏ นารายณ์จำหลักล้ำ.......เลออง-  อาจเฮย
ครุฑยุดนาคทรวดทรง......สง่าแท้
ลายทองล่องชาดผจง.......กระจกแต่ง
ฉัตรพู่ดูเลื่อมแล้.............เลิศริ้วปลิวงาม ๚

๏ นารายณ์หมายเทียบไท้...สยามินทร์
ทรงครุฑเยือนปฐพิน-.......ถิ่นแคว้น
พระเกียรติแห่งพระจักริน...ขจัดทุกข์-  เข็ญนา
ทวยราษฎร์ปราศยากแค้น...เนื่องด้วยพระบาร-มีเฮย ๚

๏ เรือเอยเรืองยิ่งแท้  ........... ล้วนเลื่อมแล้หลากสรรพนาม 
ลอยเด่นกลางชลตาม  ...........รูปลักษณ์ล้ำงามใกล้ไกล 
๏ เรียงรายเลื่อมพรายพร้อม ..เพ็ชรพลอยล้อมเหลืองอุไร 
ปิดทองผ่องอำไพ  ................ แลทางใดล้วนงามสม 
๏ พู่ย้อยห้อยระย้า  ............... ลวดลายผ้าน่าชื่นชม 
ธงฉัตรพัดตามลม  ............... เลื่อมวิจิตรโศภิษฐ์แพรว 
เรือทองขวานฟ้าคล้อย ..บรรเจิดลอยนำหน้าแนว 
เรือทองบ้าบิ่น แน่ว .........แสนปราดเปรียวสุดโสภี 

 เรือเสือทะยานชล ..... เสือคำรนสินธุ์นาวี 
เคียงข้างดั่งเสนี  ................. เรือดั้งปรี่มีสองลำ 
๏ ตรงกลางเรืออีเหลือง .. ดูปราดเปรื่องสมน้ำคำ 
ฝีพายชายกำยำ  .................. ยกพายจ้วงท่วงช่ำชอง 
เรือดั้งสามและสี่  ....... แล่นเร็วรี่มีครรลอง 
พร้อมเพรียงไปทั้งผอง ....... .ฝีพายคล่องเกริกไกรเกิน 
เรือดั้งห้าและหก  ........ให้สาธกล้ำจำเริญ 
เรียงรายได้ยลเพลิน  .............ด้วยดำเนินอย่างยรรยง 

เรือตำรวจนอกลิ่ว  ...... หลากแพรพลิ้วทั้งทิวธง 
เรือดั้งเจ็ด,แปดคง  ........ ลอยเลียบคู่อยู่ครบครัน 
เรือดั้งเก้าอยู่ซ้าย  ....... ซึ่งเลื่อมลายวิไลวรรณ 
เรืออสุรปักษีสัณ-  ........... ฐานเฉิดฉันนั้นตรึงตา 
เรือตำรวจในเคียง  ..... .คงลำเลียงมวลเสนา 
อีกลำงามโสภา  ................... เกียรติก้องหล้ามาเนิ่นนาน 
อสุรวายุภักษ์  .............. นามประจักษ์เลื่องชลยาน 
เรือดั้งสิบแหวกธาร  ........ แสนวิกรานต์ห้าวหาญนัก 

เรือดั้งสิบเอ็ดตาม  ..... .ยังคงความเก่งกาจประจักษ์ 
เรือดั้งสิบสองพรัก-  ........ พร้อมเพรียงจักด้วยว่องไว
กระบี่ราญรอนราพณ์  ... กระบี่ปราบเมืองมารใด 
คำชมสมพิสมัย  ................... คำใดเปรียบเทียบเรืองาม 
๏  เรื่อยเรื่อยมาเลียบเคียง.....อย่างพร้อมเพรียงมาติดตาม
คือ เรือดั้งสิบสาม ".........น่าครั่นคร้ามทั้งยำเกรง
เรือดั้งสิบสี่ นั้น.............ขุนพลนั้นช่างกล้าเก่ง
จ้วงพายอย่างครัดเคร่ง..........ทั้งครื้นเครงทั้งเร่งมือ

เรือดั้งสิบห้าล่อง  ........ ความแคล่วคล่องต้องเชื่อถือ 
สุครีพครองเมืองคือ  ..... นามระบือชื่อมงคล 
พาลีรั้งทวีป  ............... ดั่งคืนชีพผลาญมารผจญ 
โดดเด่นเห็นงามล้น  ........... อุกฤษฎ์จนดั่งเวชยันต์ 
๏ เรือหนึ่งซึ่งงามนัก  ........... ดั่งรูปลักษณ์เทพรังสรรค์ 
เรือพระที่นั่งอัน  ................... แสนวิจิตรตระการตา 
อนันตนาคราช  ........... ล้ำพิลาศทัศน์ลักขณา 
ลือเลื่องเฟื่องโลกา  .............. สุดโสภาคราชื่นชม 

เรือดั้งสิบหกคล้อย  ...... พลเรือคอยจ้วงพายจม 
งัดน้ำยามต้องลม  ................ เป็นฟองแตกแปลกตาไป 
๏ เห็นเรือดั้งสิบเจ็ด  ....... เรือครุฑเตร็ดไตรจักรไกร 
เกริกกล้าเรืองวิไล  ............... ลอยลำใกล้เรือแตงโม 
เรือครุฑเหิรเห็จห้าว  .. เรือดั้งกร้าวสิบแปดโบ- 
ราณท่านใช้ฝ่าโต้  ............... ทัพข้าศึกทั้งฝึกปรือ 
เรือดั้งสิบเก้านั้น  ........ แสนสำคัญนามเลื่องลือ 
องอาจเก่งฉกาจคือ  ............. คงเกียรติกล้าเหล่าวีรชน 

เรือดั้งยี่สิบ แสน-  .........ยานุภาพแม้นมากเหลือล้น 
สำเนียงเสียงขุนพล  ............. พร้อมเพรียงจนมากเรี่ยวแรง  
 เรือดั้งยี่สิบเอ็ด  ......... .เรือลอยระเห็จดั่งสำแดง 
ชายชาญหาญกร้าวแกร่ง  ...... จ้วงน้ำใสพรายกระเซ็น 
เรือดั้งยี่สิบสอง  ........... แหวกธารท่องล่องลอยเห็น 
พลหมู่เสนาเป็น  ................... เช่นมุ่งหน้าผลาญไพรี 
๏ เรือหนึ่งซึ่งเกินคำ  ............. ร้อยวรรณกรรมบรรยายมี 
ด้วยรูปทรงโศภี  ................... ลวดลายสีผ้าแพรพรรณ 

๏ รูปลักษณ์ล้วนวิไล  ............. เรือเอกชัยหลาวทองอัน 
พิลาสเป็นอัศจรรย์  ............... ดั่งมุ่งมั่นผลาญศัตรู 
๏ อีกหนึ่งซึ่งคงเกียรติ์  .......... ดั่งคำเธียรบรมครู 
บรรเจิดให้เชิดชู  .................. คู่บารมีพระจักรินทร์ 
เอกชัยเหิรหาวห้าว  ..... ผุดผ่องพราวสุดโศภิน 
ลายทองพ้องศาสตร์ศิลป์ . ......แสนพิพิธจิตรการตา 
๏ โอ้เรือพระที่นั่ง  ................. ทองสุกปลั่งดั่งจันทรา 
สมเกียรติ์แห่งราชา  .............. ธ ผ่านฟ้ามไหศวรรย์ 

๏ พระผู้ทรงผ่านฟ้า  ..............ทรงบุญญาจอมราชัน 
ทศพิธราชธรรมมั่น  .............. มากเมตตาเปี่ยมปรานี 
นารายณ์ทรงสุบรรณ ... เกินเสกสรรด้วยวาที 
ร้อยรจน์เบื้องบทกวี  .......... เกินจดจารด้านงามล้ำ 
๏ นารายณ์สี่กรนั้น  ............... เปรียบ ธ มั่นคงคุณธรรม 
เมตตาปรานีนำ  .................. ต่อไพร่ฟ้าประชากร 
๏ ศึกใหญ่คือภัยแล้ง  ............ น้ำเหือดแห้งแหล่งดินดอน 
ธ โปรดอำนวยพร  ................. เปลี่ยนทุกข์ร้อนเป็นร่มเย็น 

๏ เสกฝนแลเสกน้ำ  ............. ต่างชุ่มฉ่ำไร้ลำเค็ญ 
ชี้ทางห่างทุกข์เข็ญ  ............. เช่นคงชีพอย่างพอเพียง 
นารายณ์ทรงสุบรรณ ... ดั่ง ธ นั้นเฝ้ามองเมียง 
เสด็จไปทั่วไทยเพี้ยง-  .......... องค์นารายณ์ไล่อาธรรม์ 
๏ ยอดเขาสุดเขตแดน  ......... ถิ่นยากแค้นแดนใดกัน 
ทรงย่างพระบาทพลัน  .......... หมายเปลื้องทุกข์มอบสุขใจ 
๏ ทวยราษฎร์ต่างแซ่ซ้อง  ...... ดังกึกก้องทั้งแดนไตร 
ขอองค์พ่อหลวงไทย  ............ ทรงสำราญนิรันดร 

๏ เรือพระที่นั่งทรง  ............. .ประหนึ่งองค์ธราธร 
เสกสร้างสถาพร  .................. เสกประสิทธิ์ในโลกา 
๏ เนรมิตวิจิตรนัก  ............... แจ้งประจักษ์รูปลักขณา 
รื่นรมย์สมอุรา  .................... ดุจหงส์ฟ้าสิวาลัย 
๏ คือ เรือสุพรรณหงส์  .... อันสูงส่งคงคู่ไทย 
ล้ำหล้าเกริกเกรียงไกร  ........ รอยจำหลักพิไลงาม 
๏ หงส์ทองล่องสายชล  .......... น้ำใสจนเห็นแวววาม 
ต้องแสงสำแดงภาม  ............. ชดช้อยตามคำกล่าวชม 

๏ ฉัตรพู่ลู่ลมระย้า  ................ธงโสภาคราสวยสม 
เพริศพลิ้วทิวเทพพนม  ......... แสนรื่นรมย์ยามชมพลัน 
๏ เหล่าหมู่ฝีพายมาก  ........... แต่งกายหลากมากแพรอัน 
ดิ้นเงินเดินทองนั้น  ............... ช่างผ่องพรรณอันงามแล 
๏ โสตสดับกาพย์ทำนอง ........ดังกึกก้องพ้องจริงแท้ 
เปรียบเปรยนำเผยแพร่ ..........สิ่งล้ำค่าในวารี 
๏ เอื้อนอ้างดั่งเวทมนต์  ......... ศักดิ์สิทธิ์ดลในบทกวี 
บ่งความงามประเพณี  ........... ร่ายวาทีกาพย์คำโคลง 

๏ ลอยเด่นเห็นงามสง่า  ........ ทองเลื่อมตาผ้าแพรโพลง 
จำหลักลวดลายโยง - ........... คล้ายคงชีพรีบเริงชล 
๏ คือเรือพระที่นั่ง  ................ สุดสะพรั่งนภมณฑล 
เอนกชาติภุชงค์ ดล  ....... งดงามล้นพ้นพรรณนา 
๏ ฉัตรตั้งตระหง่านงาม  ....... ทองเหลืองอร่ามงามภูษา 
แต่งจนวิจิตรา  ..................... พลเสนาพายพร้อมเพรียง 
๏ สวมหมวกกลีบจำปา  ........ ช่างแปลกตาคราระเรียง 
จ้วงพายคล้ายสำเนียง  .......... ร่ายคำเจรียงเยี่ยงบรรยาย 

เรือแซง เจ็ดลำล่อง  ..... แสนแคล่วคล่องมวลฝีพาย 
เสนีย์มีนายท้าย  ................... นุ่งผ้าสีสอดไหมงาม 
๏ แต่งกายลวดลายหลาก  ...... พลหมู่มากหากมองตาม 
เลื่องลือระบือนาม  ................ พรักพร้อมตามท่วงทำนอง 
๏ บรรพชนคนกร้าวแกร่ง  ..... มุ่งสำแดงเกียรติทั้งผอง 
รุกไล่ไพรีต้อง  ................. .....พ่ายทัพไทยในบัดดล 
เรือตำรวจกรมวัง  ....... คุมแนวหลังดังขุนพล 
ตรวจตรามาแต่ต้น  ......... ......เช่นวีรชนอันเกรียงไกร 

๏ นับได้ห้าสิบสอง  ............... เรือลอยล่องชลาลัย 
โอ้แสนอวดศักดิ์ไทย  ............ อันยิ่งใหญ่ในคงคา 
๏ เลิศศิลป์ล้ำศาสตร์สร้าง  ..... เด่นสล้างอวดศักดา 
ยังสุขทุกครั้งครา  ................. ตรึงตราภาพมิลืมเลือน 
๏ บุญแท้เกิดเป็นไทย  .......... แสนสุขใจหาใดเหมือน 
มากสุขทุกครัวเรือน  ............ ใต้ร่มหล้าพระบารมี 
๏ ขอเทิดทูนบูชา-  ............... พ่อหลวงฟ้าจอมจักรี 
จงรักและภักดี  ..................... ตราบสิ้นฟ้ากว่าสิ้นลม  

 ธ ทรงครองราชย์ เหล่าทวยราษฏร์ถวายพระพร 

๏ บารมี ธ เลิศหล้า............เลอสรวง
ทศพิธราชธรรมปวง...........เปี่ยมล้น
ทรงวิวรรธน์ประดุจดวง.......ดาวฤกษ์
พระอัจฉริยภาพพ้น............พรั่งพร้อมบุญญา  ๚

๏ ทรงเสด็จครองราชย์ด้วย..ราชธรรม์
พระราชกรณียกิจอัน...........สฤษฏ์แล้
บังเกิดซึ่งคุณมหันต์............แก่ราษฎร์
ดับทุกข์สร้างสุขแท้............ทั่วหล้าสุขสราญ ๚

๏ หกสิบกว่ากาลฝน ..............พระบารมีพ้นชนชื่นชม 
เป็นยิ่งนโรดม ......................ในไตรโลกแต่ปางบรรพ์ 
๏ พระบาททรงก้าวย่าง ..........ทุกเส้นทางอย่างมุ่งมั่น  
เปลื้องทุกข์ทวยราษฎร์อัน- .....ผู้ยากจนพ้นลำเค็ญ 
๏ ทรงสอนให้พึ่งตน ...............เพื่อสยามชนได้อยู่เย็น - 
เป็นสุขไร้ทุกข์เข็ญ ................ดำรงชีพอย่างพอเพียง 
๏ หากผองพื้นปฐพี ................แทนพื้นที่ให้ร้อยเรียง 
รจนาวรรณกรรมเพี้ยง ...........จารึกซึ่งพระบุญญา 
๏ ด้วยน้ำมหาสมุทร ..............ต่างหมึกสุดร่ายพรรณนา 
เขียนพื้นแผ่นพสุธา ...............ทั้งโลกหล้าเบื้องมหาศาล 
๏ ร่ายรจน์ด้วยบทกวี ..............ล้ำวาทีทั้งจดจาร 
บรรยายซึ่งอุปการ .................แห่งภูมินทร์ผู้ทรงธรรม 
๏ สิ้นฟ้าแลปฐพี ....................สิ้นหมึกที่มหาสมุทรนำ 
กล่าวเกริ่นสรรเสริญคำ ..........มิอาจจดบทอ้างคุณ 

๏ ทวยราษฎร์น้อมภักดี ..........จอมจักรีผู้เปี่ยมบุญ 
ผู้ทรงพระการุณ ....................ให้ทรงเกษมทั้งเปรมปรีดิ์ 
๏ ด้วยคุณพระไตรรัตน์ ...........ความพิพัฒน์บังเกิดมี 
คุณเทพเรืองฤทธี ..................ทั้งจักรวาลอันศักดา 
๏ คุณงามความศักดิสิทธิ์ .......เสถียรสถิตไตรโลกา 
ปกปักแลรักษา ......................ซึ่งองค์พระสยามินทร์ 
๏ ให้ทรงพระเจริญยิ่ง ............อยู่เป็นมิ่งขวัญชีวิน 
ทวยราษฎร์ข้าแผ่นดิน ............ตราบร้อยพันวสันต์กาล 
๏ ธ ประสงค์พุทธางกูร ...........จงสมบูรณ์ด้วยนฤพาน 
สรรเพชญพระโพธิญาณ .........ยิ่งไพศาลในบัดดล 
๏ ศรีสวัสดิ์นิรันดร ..................จตุรพรสัมฤทธิผล 
เทิดไท้พระภูมิพล .................ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ๚ะ๛ 


เนื่องในวโรกาสอันเป็นมหามงคลยิ่ง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ทรงพระราชพิธีถวายผ้ากฐินพระราชทาน ในวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

ข้าพระพุทธเจ้าอัลมิตรา สมาชิกเวปบ้านกลอนไทย				
20 ตุลาคม 2555 14:18 น.

๏ ชวนเพื่อนเที่ยวเก็บเกี่ยวภาพมายา

อัลมิตรา

320334_436116239778445_1462644440_n.jpg224519_157200861089952_1059269938_n.jpg
(๑)
๏ เมื่อมีความรู้สึกนึกอยากเที่ยว
ไปคนเดียวก็ได้ไม่เคยหวั่น
แต่ครั้งนี้อยากให้ไปด้วยกัน
จึงนัดวันรวมพล "ชลบุรี"
(๒)
คล้ายเนิ่นนานการพบสบตารัก
ด้วยเพื่อนรักอยู่ไกลหลายถิ่นที่
แต่เพื่อนตอบว่า "ไป" ใจเปรมปรีดิ์
ต้องอย่างนี้น้ำใจไอ้เพื่อนเกลอ
(๓)
เดือนตุลาฯ ครานี้ไม่มีกิจ (จิตอาสา)
อกทำพิษหมอนัดเกรงจัดเก้อ
นับถอยหลังขึ้นเขียงเสี่ยงโรคเจอ
ไม่เยิ่นเย้อเที่ยวก่อนตอนแข็งแรง
(๔)
ด้วยเป็นคนถิ่นกลอนตอนคิดเขียน
อยากปรับเปลี่ยนพิศภาพทาบสีแสง
ภาพมายาน่าฉงนบนปลายแปรง
สื่อแจ่มแจ้งเยี่ยงใดใคร่ติดตาม


545674_436116286445107_1290382573_n.jpg

(๕)
ภาพภูเขาลำเนาไพรในป่าชัฏ
มวลสิงสาราสัตว์จัดล้นหลาม
ข้ามสะพานม่านน้ำตกวิหคงาม
เวียงอารามซากอิฐประดิษฐ์กอง

c-1.jpg

(๖)
วิจิตรใต้ธาราปลาใหญ่น้อย
บอลลูนลอยฟ่องฟ้าน่าจับต้อง
เมืองเวนิชสวยล้ำน้ำคูคลอง
ฉากบ้านช่องสวยหรูดูตระการ


524881_436116469778422_1553441442_n.jpg

(๗)
ภาพโบราณรุ่งเรืองเมืองอียิปต์
เทพเกินสิบเรียงองค์ทรงประสาน
มิติเหมือนผจญภัยในตำนาน
อยากก้าวผ่านไปสัมผัสถนัดตา
(๘)
เผ่าพันธุ์สัตว์ล้านปีมากมีเห็น
ช่างโดดเด่นเกินเกริ่นประเมินค่า
แต่ต่อให้เกรียงไกรใหญ่ศักดา
ถึงเวลาก็ดับดิ้นสูญสิ้นพันธุ์

397254_436116563111746_1677242351_n.jpg

(๙)
ย้อนเทียบกับตัวเราคงเท่านี้
บาปบุญมีให้สดับยามดับขันธ์
ใครเล่าอยู่ค้ำฟ้ากว่าล้านวัน
สำนึกมั่นความจริง "สิ่งไม่มี"
(๑๐)
รำลึกภาพซาบซึ้งตราตรึงจิต
เขาเนรมิตรปวงเทพเสพย์สุขขี
สรวงสวรรค์อยู่หนใดใครรู้ดี
ฉันอยากมีปีกบินยังดินแดน
(๑๑)
จึงสวมปีกแนบกายใกล้ผืนภาพ
ปีกขนาบสองข้างช่างสุขแสน
แต่จะบินเยี่ยงไรปีกไร้แกน
ขยับแขนขึ้นลงปีกตรงเดิม

o.jpg

(๑๒)
ใครใครก็ใคร่เป็นเช่นนางฟ้า
งามมายาสวยใสใส่ปีกเสริม
ผลัดกันเป็นนางฟ้าเรียงหน้าเจิม
นางฟ้าเพิ่มร้อยพันช่วงวันเดียว
(๑๓)
ยังมีฉากลวงตาคราไกลใกล้
เล็กดันคล้ายกลายใหญ่ให้หวาดเสียว
ใหญ่ก็คล้ายกลายเล็กสเปคเชียว
มุมมองเชี่ยวช่ำชองต้องตำรา
(๑๔)
ภาพสะท้อนตรงหน้าทำท่าเหมือน
แท้คือเพื่อนเลียนล้อพอเห็นหน้า
ยกแขนซ้ายย้ายสะโพกโยกกายา
เพื่อนบอกว่าเลิกสลับรับไม่ลง
(๑๕)
อีกหลายภาพผละไปไม่ทั่วถึง
ด้วยอื้ออึงคนแน่นเรียงแล่นหลง
ขี้เกียจรอเนิ่นนานจิตพาลปลง
ใกล้เที่ยงตรงเวลานัดดาวศรัทธา

x.jpg

(๑๖)
ร้านพอพุงอยู่ไหนใครรู้บ้าง
ตลอดทางสอดส่ายสายตาหา
เออ ! แผนที่อยู่ไหนใครเอามา
ลุงกับป้าเตรียมการอาหารรอ
(๑๗)
จากพัทยาเร็วลัดมุ่งสัตหีบ
ขับเร่งรีบเพราะหิวไส้กิ่วหนอ
เช้ามืดกินขนมปังประทังพอ
ตกสายก็เริ่มอยากปากเปรี้ยวมัน
(๑๘)
ลุงบอกว่าอาหารบานตะไท
เปิดครัวใหญ่รอท่าป้าจัดสรร
ทั้งกุ้งหอยปูปลาสารพัน
ผักสีสันแปลกตาน่าลิ้มลอง

429345_436116756445060_989170103_n.jpg

(๑๙)
เที่ยงถึงร้านพอดีไม่มีสาย
เหล่าสหายลงรถแล้วจดจ้อง
ลุงอยู่ไหนกันหนาพากันมอง
เห็นเดินย่องออกมาพาดีใจ
(๒๐)
ลุงอยู่หน้าป้ายังอยู่หลังร้าน
จัดอาหารต้อนรับสำรับใส่
ฉันอาสาร่วมด้วยช่วยกันไป
ทำหน้าที่ทอดไข่ใส่นางรม
(๒๑)
ทยอยเสร็จทีละอย่างวางตรงหน้า
ละลานตาพันธุ์ทะเลเรียงเร่ขรม
ตักต้มยำหม้อไฟใส่ชามกลม
แค่สูดสมพอสังเขปเทพประมาณ

y.jpg

(๒๒)
ปลากระพงทอดกระเทียมยอดเยี่ยมแท้
ปลาหมึกแล่ผัดใส่ไข่ประสาน
ผักเจ็ดสีเย้ายวนชวนให้ทาน
พล่ากุ้งพล่านลุยสวนล้วนมากมาย
(๒๓)
ไข่เจียวหอยนางรมเพื่อนชมชอบ
ขอบข้างกรอบตรงกลางช่างนุ่มหลาย
ซุปผักโขมสุดอร่อยพลอยเสียดาย
น้ำซุปหายเพราะหมดซดเกลี้ยงชาม
(๒๕)
สเต็กเต้าหู้หรูหราป้าปรุงให้
ก็อยากได้แต่อับจนพุงล้นหลาม
ไอศกรีมต้องละเลิกตระกราม
พยายามไม่ไหวพุงใกล้พัง

522197_436116689778400_1717775979_n.jpg

(๒๖)
อีกหนึ่งที่โปรดปรานปูจานใหญ่
แสนภิรมย์สมใจได้ตามหยั่ง
นิ้วเลอะเทอะเปรอะปูดูน่าชัง
คล้ายลิงกังแทะปูดูซุกซน
(๒๗)
ไม่ไหวแล้วลุงป้าอย่าเสริฟเสริม
อย่าตักเติมขุนให้อ้วนได้ผล
กางเกงคับเสื้อคับรับเหลือทน
พุงเริ่มล้นแล้วหนอขอเลิกรา
(๒๘)
พาไปเที่ยวได้ไหมใคร่ขอร้อง
กับพวกพ้องรวมมิตรจิตหรรษา
นานนานหนคนไกลไม่เคยมา
เถิดลุงป้า .. เอ็นดูหนูสักที
(๒๙)
หากลุงป้าตกลงปลงใจไป
จะดีใจยิ่งนักรักเต็มที่
หากลุงป้าตอบผ่านการงานมี
ยังยินดีที่ได้ให้มาเยือน
(๓๐)
เมื่อลุงป้าจะพาไปในสัตหีบ
ฉันจึงรีบเดินออกไปบอกเพื่อน
ควรขึ้นรถเถิดหนาฉันมาเตือน
จะพาเคลื่อนเลียบฝั่งยังทะเล

aw.jpg

(๓๑)
รถสามคันพลันแล่นละลิ่วล่อง
ยังแอบมองยามผ่านทหารเท่ห์
ล่วงเข้าเขตยุทธศาสตร์วาดทำเล
เรือตังเกหายไป.. เรือใครบัง ?
(๓๒)
บรรยากาศร่มรื่นสดชื่นแท้
ฉันเพียงแต่เพ้อไปตามใจสั่ง
อยากปูเสื่อพักผ่อนนั่งนอนจัง
ไว้วันหลังคงปลีกเยือนอีกครา
(๓๓)
เจ้าถิ่นพาขึ้นเขาเราเดินตาม
แต่เขาห้ามยกกล้องสอดส่องหนา
ไหว้กรมหลวงชุมพรฯขอพรมา
ได้เบอร์ห้ายอดเยี่ยมผลเซียมซี

198774_436116226445113_61298875_n.jpg
(๓๔)
"อันสินเดิมที่จนเป็นคนขัด
เที่ยวเลาะลัดตกปลาหน้าบัดสี
หญิงเฒ่าให้ข้าวปลาด้วยปราณี
เมื่อบุญมีได้อ๋องครองพารา
(๓๕)
เดิมเคราะห์ร้ายต่อไปจะไม่ทุกข์
มีแต่สุขโชคลาภซึมซาบหา
เจ็บป่วยไข้ก็จักหายคลายทรมา
คนชราจะเอื้อเฟื้อเกื้อกูลตน
(๓๖)
คนเดินทางเคยพบประสบพักตร์
ยามเขาทักยิ้มให้คงไร้ผล
ความทรงจำเลือนลางในบางคน
ฤกษ์เที่ยงดลสวัสดีย่อมมีชัย
(๓๗)
อีกความหมายเซียมซีที่ได้เสี่ยง
อันคู่เคียงร่วมหมอนนอนชิดใกล้
ยังคงรักสมัครสมานสำราญใจ
คิดหวังใดก็สมความตามครรลอง"  
(๓๘)
ชูเบอร์ห้าบ้าเห่ออวดเกลอแก้ว
จิตเคยแป้วอับโชคโรคสนอง
อาศัยเพียงเสี่ยงทายตามใจตรอง
คล้ายฟ้าผ่องอำไพใจเบิกบาน
(๓๙)
ณ เขาแหลมแซมหมอกหยอกฟ้าสวย
แต่งแต้มด้วยรอยยิ้มพิมพ์ผสาน
ภาพแห่งความทรงจำย้ำเหตุการณ์
จะกี่นานรำลึกได้ไม่ลืมเลือน
(๔๐)
จวบบ่ายสามตามทริปต้องรีบแล้ว
อย่ามัวแกร่วถ่ายภาพทราบไหมเพื่อน
ยังต้องไปวัดญาณฯฉันขานเตือน
แต่ก็เหมือนต้องร่ำลาด้วยอาลัย

qe-1.jpg

(๔๑)
ขอบพระคุณลุงป้าในครานี้
ความอารีย์ดุจญาติเมื่อชาติไหน
บังเกิดความอบอุ่นละมุนใจ
ยามจากไกลดวงจิตคิดคำนึง
(๔๒)
จำได้ตอนปฏิบัติวิปัสสนา
ได้ลุงป้าสอนธรรมนำทั่วถึง
จะนอนนั่งลมหายใจให้รำพึง
แสนซาบซึ้งน้ำใจในกรุณา
(๔๓)
จวบครานี้อีกหนบนเส้นทาง
อยู่ระหว่างวินิจฉัยไข้รักษา
ประหนึ่งเรือลำน้อยลอยธารา
คลื่นถลาโถมถั่งยังกังวล
(๔๔)
ที่ท่องเที่ยวพัทยาในครานี้
แสนเปรมปรีดิ์ได้เจอเกลออีกหน
จึงหัวเราะเริงร่ากว่าบางคน
สุขเหลือล้นพัทยาลุงป้ามี
(๔๕)
ชวนมาเที่ยวพัทยาอีกคราครั้ง
เสียงป้ายังก้องหัวใจให้สุขขี
ดาวศรัทธากระจ่างฟ้ายามราตรี
ฉันโชคดีดาวศรัทธาจ้าทุกวัน

tem.jpg

(๔๖)
จบจากลาลุงป้าพวกพาเร่ง
คนขับเกร็งเมื่อยขบดูขบขัน
เที่ยวถัดมาตามนัดไปวัดกัน
ดวงตาวันเบี่ยงบ่ายย้ายแสงลง
(๔๗)
รถจอดที่อารามหลวงช่วงบ่ายสาม
ช่างงดงามพระปฏิมาพาลุ่มหลง
อีกสถาปัตยกรรมการธำรง
ช่างบรรจงศิลปงามตระการ
(๔๘)
แมกไม้หย่อมใบไม้ล้วนใบเขียว
เพียงครู่เดียวยังสุขสมเมื่อชมผ่าน
ตามคูคลองนองทั่วบัวบึงบาน
น้ำพุซ่านแตกกระเซ็นเห็นรุ้งเรือง
(๔๙)
ณ ร้านรวงริมน้ำธรรมชาติ
ฉันบังอาจถามแม่ค้าภาษาเขื่อง
"สปอนเซอร์มีไหม"   ไยเธอเคือง
เงินไม่เปลืองสปอนเซอร์เธอไม่มี
(๕๐)
"รายเรียงเต็มตู้เย็นไม่เห็นหา
ทั้งโคล่าและสไปรท์เห็นไหมนี่
อีกแฟนต้าชาเชียวฝาเกลียวดี
ดันเซ้าซี้สปอนเซอร์เออแน่ะคุณ"
(๕๑)
เพื่อนพากันหัวร่อต่อกระซิก
ฉันถูกหยิกจุดตายกลายเป็นหุ่น
แม้นมีก็ไม่เอาหวังเท่าทุน
แน่ะ ! ทำขุ่นข้องใจทำไมเธอ
(๕๒)
แล้วเดินออกจากร้านมาริมน้ำ
เพื่อดื่มด่ำทิวทัศน์ที่วัดเสนอ
ชักชวนถ่ายรูปเล่นเน้นรวมเกลอ
ไม่เยิ่นเย้อต่อไปไร่องุ่นงาม

catsp.jpg

(๕๓)
ซิลเวอร์เลคเสกภูผามาเป็นสวน
ตอนเพื่อนชวนยังตะหงิดคิดไต่ถาม
มาเที่ยวสวนมีอะไรให้ติดตาม
ก่อนปากพล่ามให้ตะลึงถึงแล้วฤๅ
(๕๔)
ที่นี่มันเมืองไทยใช่ไหมหวา ?
อ้างเมืองนอกเมืองนาพาเชื่อถือ
เห็นกังหันฮอลล์แลนด์แดนระบือ
สวยสมชื่อรีบไปข้างในกัน
(๕๕)
จอดรถแล้วอย่าเพลินจงเดินเร่ง
ไปนอนเคล้งถ่ายภาพขนาบฉัน
ท่ากระโดดทำไม่ไหวกล้องไม่ทัน
ขาพลอยสั่นเริ่มเหนื่อยเมื่อยทั้งตัว
(๕๖)
"น้ำองุ่นชื่นใจเอาไหมพี่ ?"
น้องคนดีซื้อให้แจกจ่ายทั่ว
น้องจะมีเงินไหมใจนึกกลัว
แท้เจ้าสัวมาเองอย่าเกรงใจ
(๕๗)
ยลแดดตากผ้าอ้อมย้อมแผ่นฟ้า
มวลแมลงปอล้อแล่นมาพาสดใส
ยินเสียงนกขับทำนองโสตก้องไพร
ช่างรำไรสรวงสวรรค์บนชั้นดิน
(๕๘)
แลภูเขาทอดเถือกเป็นทิวแถว
สลับแนวพฤกษ์ไพรในท้องถิ่น
บันทึกภาพซาบซึ้งถึงห้วงจินต์
ยังถวิลประทับใจไม่เลิกลา
(๕๙)
เพื่อนบางคนสู้ขยันหมั่นเก็บภาพ
แต่โปรดทราบบางคนยากค้นหา
ยามเพื่อนเผลอเธอหลับจับได้นา
ปริศนาคือผู้ใดให้คาดเดา
(๖๐)
แล้วจับกลุ่มรวมกันเชิงบันได
ยังแจ่มใสยิ้มร่ากว้างกว่าเก่า
ดวงตาวันชิงพลบลบเหลี่ยมเงา
หลบหลังเขาซ่อนแสงแห่งทิวา
(๖๑)
แม้นเหน็ดเหนื่อยแค่ไหนใจยังสู้
ชวนเพื่อนดูดอกไม้ใจหรรษา
พวงองุ่นช่างงดงามตามพนา
เรางามกว่าพวงองุ่นคนคุ้นเคย
(๖๒)
ยังเหลืออีกหนึ่งจุดต้องรุดเร่ง
ด้วยว่าเกรงจะค่ำนักหนักใจเหวย
ตลาดน้ำสี่ภาคหากล่วงเลย
เถิดเพื่อนเอ๋ยจรลีจากนี้กัน

**************************

(๖๓)
รถติดแท้จริงเชียวเที่ยวสุดท้าย
รอจนหน่ายกว่าโขลงพ้นโค้งนั่น
เห็นรถทัวร์จอดเรียงเยี่ยงเกยคัน
ใจเริ่มหวั่นไร้ที่จอดตลอดแนว
(๖๔)
ต้องเข้าจอดในซอยคอยจนครบ
แจ้งนัดพบอีกคราอย่าแตกแถว
ใครขึ้นรถคันไหนให้รู้แกว
อย่าเป็นแม้วหลงพลัดพัทยา
(๖๕)
แล้วแยกย้ายตามใจไม่เคร่งครัด
แต่อึดอัดโอ้ไฉนนัยภาษา
"นี่ตลาดเมืองไทยใช่ไหมนา ?"
ชี้ป้ายหราสี่ภาคย้ำปากเปรย
(๖๖)
พากย์ภาษานานาสารพัด
ปราศสันทัดแปลใดให้เปิดเผย
ช่างผิดแผกอโยธยาคราก่อนเคย
ฤๅ เราเชยล้าสมัยใครตอบที

37457991.jpg

(๖๗)
แม้นว่าเดินเที่ยวไปไม่ทั่วถึง
แต่สถานหนึ่งคล้ายฉุดหยุดอยู่ที่
ศาลพระพิฆเนศเดชฤทธี
อีกยังมีมุกสิกสัตว์คอยจัดการ
(๖๘)
แสนปลาบปลื้มดีใจเข้าใกล้หนู
ปากแนบหูกระซิบแผ่วแล้วส่งสาร
"ท่านมุกสิกข้าน้อยด้อยชำนาญ
ใคร่เชี่ยวชาญปราดเปรื่องเรืองวิทยา
(๖๙)
วานท่านช่วยกราบทูลถึงมูลเหตุ
โปรดสมเพชมนุษย์น้อยผู้ด้อยค่า
ให้พระพิฆเนศวรทวนฏีกา
เอื้อฤทธากูลเกื้อเมื่อรับฟัง
(๗๐)
วิงวอนท่านให้เมตตานำพาสื่อ
ด้วยนับถือกันมาแค่คราหลัง
ขอบุญญาพระคณปติดำริห์ยัง
ให้สมดั่งปรารถนาทุกคราไป
(๗๑)
โอม ศรี เอกทันตะ ปะระสัท
โสตแจ่มชัดคาถาน่าเลื่อมใส
คณปติ ยะนะมะฮา มาจากใจ
ขอเทพไท้โปรดช่วยอำนวยพร"
(๗๒)
วันนี้คล้ายเพิ่มทุนได้บุญล้น
ได้เที่ยวจนจิตสุขโขสโมสร
ได้ไหว้พระระหว่างเส้นทางจร
สุขทุกตอนปรากฏในบทกวี

f4mk019.jpg

(๗๓)
ขอบคุณเพื่อนที่พาฉันไปเที่ยว
เอ๊ะ ! ประเดี่ยวสลับกลับกันนี่
ฉันว่าฉันชวนเที่ยวเหลียวคดี
เรื่องสั้นมีเขียนไว้ในร่องรอย
(๗๔)
ถึงเวลาแยกย้ายตอนท้ายเรื่อง
กลับสู่เมืองเทวาจิตพาหงอย
คงอีกนานการนัดผลัดกันคอย
หนึ่งวันน้อยไปนิดคิดเสียดาย
(๗๕)
เอาไว้ไปคราวหน้าอีกคราครั้ง
โปรแกรมยังไม่ลงตรงจุดหมาย
ด้วยฉันยังไม่พร้อมต้องซ่อมกาย
ไม่สบายจึงควรพักรักษาตน
(๗๖)
คงเท่าที่จะทำได้ในสังขาร
คิดพบพานผองเพื่อนเตือนอีกหน
แม้นปีหน้าฟ้าใหม่ไม่อับจน
จะพาด้นท่องไพรในดงแดน
(๗๗)
ตุลาฯ นี้ไม่มีกิจจิตอาสา
ก็เพราะว่าหมอนัดจึงผลัดแผน
โดยไม่รู้วันใดในแบบแปลน
นอนขึ้นแท่นบนเตียงเสี่ยงมีดคม 
(๗๘)
กล่าวขอบคุณอีกครั้งเสียงดังก้อง
แด่พวกพ้องประดามิตรสนิทสนม
ทั้งไปและไม่ได้ไปในชมรม
ที่ชื่นชมบทกลอนตอนเที่ยวกัน
(๗๙)
ขอให้ท่านพบแต่สุขสวัสดี
อย่าได้มีป่วยไข้ให้หวาดหวั่น
สิ่งใดที่ดวงจิตคิดสัมพันธ์
ทุกอย่างนั้นสมหวังดั่งใจตรอง

(๘๐)
แปดสิบรสบทกวีที่ฉันเขียน
คำใดเพี้ยนระคายตาค่าสนอง
คงต้องกล่าวขออภัยในทำนอง
หากคำพ้องไม่ไพเราะเสนาะใจ
(๘๑)
ฉันบรรจงเล่าความตามรู้สึก
หลับตานึกทุกคราพายิ้มได้
"มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า" กล้ากล่าวไป
"คือหัวใจของทุกคนบนโลกกวี" ๚ะ๛				
13 ตุลาคม 2555 21:33 น.

๏ ชายผู้อยู่เบื้องหลัง

อัลมิตรา



๏ เพราะเขาคือเบื้องหลังตั้งแต่แรก
เป็นคนแปลกลึกลับสำหรับฉัน
ไม่เคยพบเห็นตัวปราศพัวพัน
สองเรานั้นเชื่อมใจด้วยไมตรี

เขามีจิตเมตตาแอบมาสอน
ทั้งกาพย์กลอนโคลงฉันท์สรรค์วิถี
อีกสารพันพรรณนาภาษากวี
จวบฉันนี้เขียนได้หลายนัยความ

ฉันเป็นศิษย์เขาดั่งครูสั่งสอน
เฉกละครดิโอเปร่าคราคนถาม
ผู้แฝงตัว ณ โรงละครขจรนาม
ช่างงดงามน้ำเสียงเยี่ยงเทวา

บุรุษที่อุทิศตนบนทางศิลป์
แม้นสูญสิ้นเสรีภาพราบรื่นหา
ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเปลี่ยววิญญาณ์
ดิโอเปร่าชั้นใต้ดินถิ่นมืดมน

ยามสวมหน้ากากทองอันผ่องแพ้ว
ปราศวี่แววอัปลักษณ์แม้สักหน
ด้วยน้ำเสียงเยี่ยงสวรรค์บันดาลดล
สอนอีกคนด้วยหัวใจและไมตรี

คล้ายกันไหม ? .. ในสำนึกรู้สึกคล้าย
ต่างเป็นชายนายศิลป์ ณ  ถิ่นที่
หนึ่งสื่อเสียงหนึ่งสลักอักษรกวี
เนื้อเรื่องมีเบื้องหลังดั่งลอกเงา 

มันเป็นความรู้สึกที่นึกย้อน
ดูละครแล้วจิตคิดถึงเขา
ชายผู้สวมหน้ากากฉากสีเทา
แม้นลางเลาตัวตนบนโลกจริง ๚ะ๛


				
Calendar
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอัลมิตรา
Lovings  อัลมิตรา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอัลมิตรา