23 กุมภาพันธ์ 2548 15:15 น.

จันทร์กระจ่างฟ้าโคลงล้าหัวใจ

แก้วประเสริฐ


                    โคลงกระจ่างฟ้าโคลงล้าหัวใจ 

          ดวงจันทร์ลอยเด่นฟ้า          ราตรี
ปราศหมู่เมฆนวลสิรี                       สว่างจ้า
ธรรมนำส่องฉาบปฐพี                    ใสกระจ่าง
มรรคส่งไปทางฟ้า                         สู่ให้ไฉไล  ๙


          วกเวียนวนผ่านเลี้ยว             วกวน
จิตที่หลงมืดมน                               ยากแก้
แสงสว่างมิใส่ปน                             ใจแน่     จริงเฮย
หาสิ่งแทนยากแท้                           บ่อแปล้นวลนาง  ๙


          บทธรรมนำชื่ออ้าง                  จรรโลง
มากมายโยงดั่งสอน                          วางไว้
มิอาจยื่นรสโรง                                  เรียนแก่  คนนา
เป็นที่วางลงให้                                 สู่เจ้าปองหา  ๙ 


          แสงโสมพลันส่องพื้น               ฉายฉาบ
แวววับจับทาบแสง                             แห่งนั้น
วันเพ็ญเห็นดั่งอาบ                             เปรียบห่วง     ควงมา
เหมือนโคลงโยงจิตสั้น                       บ่วงเร้าจริงแฮ.  ๙

                      ๙๙๙   แก้วประเสริฐ.   ๙๙๙      				
22 กุมภาพันธ์ 2548 18:48 น.

โคลงเคลงมาฆบูชาเบ่งจากใจ

แก้วประเสริฐ


                            โคลงเคลงมาฆบูชาเบ่งจากใจ

          สกุณาพลันเหิรสู่ฟ้า                แลตา
บินผ่านปวงพฤกษา                          เลี่ยงพ้น
วนเวียนรี่ไปมา                                 หาที่     เปรียบเปรย
เปรียบค่าเสรีล้น                               แน่แท้ชวนเพลิน๙

          มาดแม้นหากบ่มให้                คนทำ
สร้างสิ่งอิสระนำ                               ก่อขึ้น
โลกคงไม่ระกำ                                 เกิดบ่อ     เพลิงผลาญ
วันที่สุขมอบ-ครื้น                             รื่นเร้าอารมณ์ปอง๙

          มาฆบูชาปีแห่งนี้                     สยายมา
ธรรมนี่รินพรรณนา                            สู่ให้
สาธุชนที่ศรัทธา                               มอบส่อ    ใจจิต
สูญสิ่งกิเลสไซร้                               หน่อเกื้อพุทธางคุณ๙

         บารมีบุญก่อขึ้น                       ชอบนา
เวรที่เบิกบานมา                               ผ่านสิ้น
ดุจนกสู่อิสระพา                                เกิดอยู่    ธงชัย
สุขไม่ปอกหลอกปลิ้น                       สิ่งสร้างทางนิพพาน๙

                           ๙๙๙   แก้วประเสริฐ.   ๙๙๙				
21 กุมภาพันธ์ 2548 15:49 น.

โคลงช่างยากไซร้จริงแฮ

แก้วประเสริฐ


                 โคลงช่างยากไซร้จริงแฮ. 

          วงกตคดช่างเลี้ยว                จริงนา
อุตส่าห์เพียรยลหา                         ยากแท้
ดุจโคลงใฝ่เสาะมา                         ตามเกี่ยว   แลสบ
ยังไม่วายคลายแก้                         ไป่ให้หลงลืมฯ

          เพื่อนฝูงหนุนวุ่นเกื้อ           อุดหนุน
มอบสิ่งดีกอบคุณ                          ซาบซึ้ง
ชลนาพร่าพรายพรุน                       สุดพร่าง   จริงแฮ
ใจใส่นำยกขึ้ง                                 เนื่องไว้เหนือหัวฯ

          ยกหัตถ์ยอนอบขึ้น                 เหนือเศียร
ขอพึ่งคุณพระเวียน                          ส่งให้
มวลมิตรซึ่งมอบเขียน                      มณีแก่    มากเฮย
ขอจึ่งจงสุขไซร้                                 แว่นแคว้นเมืองสรวงฯ๙

                             ๙๙๙   แก้วประเสริฐ.   ๙๙๙ 				
20 กุมภาพันธ์ 2548 12:49 น.

ของฝากจากคุณแหม่ม

แก้วประเสริฐ



                        ของฝากจากคุณแหม่ม.
               
                                tips ของแม่
บทความนี้ตัดตอนมาจากหนังสืออนุสรณ์งานศพคุณแม่ลูกชิ้น
เวชวิฐาน แม่บอกไว้ Mom s Wisdom 
มอบให้เปล่าท่านละ 1 เล่ม หนังสือมีจำนวนจำกัดแค่ 100
เล่ม สนใจกรุณาติดต่อ namwan_pooh@yahoo.com 


         ว่าด้วยเรื่อง Tips ของแม่นั้น อันที่จริงแล้ว
แม่มี Tips หรือ
เคล็ดลับ(ที่แม่บอกว่าไม่ปิดเป็นความลับ)ในรายละเอียดของชีวิตเยอะแยะมากมายเลยล่ะค่ะ
แต่ในส่วนที่จะเล่าให้ฟังนี้ เป็นแค่เคล็ดลับเล็กๆ
ที่พวกเราช่วยกันนั่งนึกเท่าที่จะจำได้(จริงๆ
แล้วคนที่จำได้คือป้าภรณ์เป็นส่วนใหญ่ เพราะได้ Tips
จากแม่มาเยอะกว่าเพื่อน) 
       
        การขูดมะพร้าว ควรให้จังหวะการขูดสั้นๆ
ไม่ให้ลากยาว
        
        Tips แรกนี้ เอาเรื่องการขูดมะพร้าวก่อนค่ะ
คนรุ่นใหม่เดี๋ยวนี้ไม่รู้ว่าจะยังรู้จักมะพร้าวขูดกันหรือเปล่านะคะ
ขนาดสมัยดิฉันเองยังไม่ค่อยจะทันเลย(ตอนนั้นเห็นมีแต่แบบใส่เครื่องขูด)
แต่สมัยแม่จะเป็นแบบกระต่ายขูดมะพร้าวที่รูปร่างคล้ายๆ
ม้านั่งสำหรับซักผ้า แต่เป็นแบบยาวๆ นิดนึง
แล้วตรงปลายม้านั่งด้านหนึ่งสมมุติเป็นหัวกระต่าย
จะมีเหล็กแผ่นที่มีซี่ๆ เป็นเหมือนฟันคมๆ
เวลาจะขูดมะพร้าวเราก็จะขี่บนหลังกระต่ายแล้วเอามะพร้าวที่ผ่าครึ่งแล้ว
มาจิกลงไปที่หัวกระต่ายให้ฟันคมๆ ฝังลงไปในเนื้อมะพร้าว
แล้วก็เริ่มขูดมะพร้าวได้ 
        Tips อยู่ตรงนี้แหละ คือเวลาขูดมะพร้าว
แม่บอกว่าอย่าลากยาวมากให้ขูดจังหวะสั้นๆ
เพราะถ้าลากยาวมะพร้าวที่ได้จะเป็นเส้นยาว
มันจะลำบากเวลาคั้นกะทิน่ะสิ ถ้าขูดสั้นๆ
มะพร้าวมันจะป่นๆ เอาไปคั้นกะทิก็จะได้น้ำกะทิมากกว่า
แล้วเวลาคั้นยังง่ายกว่ากันอีกต่างหาก 
       
        การคั้นกะทิ ให้บีบด้วยการบิดนิ้วทุกนิ้ว
       
        ไหนๆ ก็พูดเรื่องขูดมะพร้าวแล้ว
ก็ต่อด้วยเรื่องคั้นกะทิเลย แม่บอกว่ามะพร้าวที่ได้มา
พอจะเอามาคั้นกะทิ ให้ใส่น้ำครั้งละน้อยๆ ก่อน
อย่าเพิ่งใส่เยอะแล้วเวลาคั้นให้เอามือบีบมะพร้าวแรงๆ
พร้อมกันนั้นให้บิดนิ้วไปด้วย
เพื่อให้หัวกะทิออกจนหมดเกลี้ยง และได้น้ำกะทิดีด้วย 
       การหั่นหมู
ให้หั่นบางยาวและขวางเส้นเนื้อเยื่อหมู
       
        แม่บอกว่าถ้าเราหั่นหมูเป็นชิ้นบางๆ ยาวๆ
และหั่นตามขวางเส้นเนื้อเยื่อของหมูแล้วล่ะก็
เวลาที่เราทำพวกผัดหรือแกง
จะทำให้รสชาติของผัดหรือแกงนั้นเข้าไปอยู่อย่างกลมกลืนกับเนื้อหมู
และที่สำคัญหั่นแบบที่ว่านี้มันเคี้ยวง่ายกว่าหั่นเป็นก้อนๆ
ตั้งเยอะแน่ะ 
       
        ปลา...ในอาหาร ประเภทต้มแกง
       
        ถ้าน้ำยังไม่เดือดอย่าคนปลาในหม้อ เวลาที่ลูกๆ
ทำต้มยำปลา แม่จะรีบร้องบอกว่า...
        ถ้าน้ำยังไม่เดือดอย่าเอาทัพพีไปคนน่ะ
เดี๋ยวมันจะเหม็นคาว
        เท่านั้นยังไม่พอนะ
พอน้ำในหม้อเดือดเริ่มเอาทัพพีลงไปคนในหม้อแม่จะรีบร้องบอกว่า...
        เบาๆๆ
คนแรงอย่างนั้นเนื้อปลามันก็กระจายหมดซี้
        ดังนั้นทุกวันนี้เวลาลูกๆ
ทำต้มยำปลาจะต้องไม่ลืม Tips ที่ว่า...
        คนปลาในหม้ออย่าคนแรง
แล้วถ้าน้ำยังไม่เดือดอย่าเพิ่งคนเชียวนะ
       
        เรื่องความละเอียดของแม่กับอาหารประเภทปลานั้น
เราสงสัยกันว่านี่คงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผีมือการแกงคั่วส้มปลาเนื้ออ่อน
และแกงปลาเนื้ออ่อนยอดมะขามของแม่
ขึ้นชื่อในละแวกบ้านทีเดียว
แม่มักจะเล่าให้ฟังด้วยความภาคภูมิใจอย่างที่สุดว่าท่านเจ้าอาวาสวัดบ้านกร่าง(ในสมัยแม่)
ถึงกับออกปากชมว่า... 
      
แกงปลาเนื้ออ่อนนี้ต้องยกให้โยมส้มจีน(แม่ของแม่)กับลูกสาว
        เรื่องนี้แม่มักจะเล่าให้ฟังไม่รู้เบื่อ
ลูกที่ได้ส่วนนี้จากแม่
ก็เห็นจะเป็นป้าภรณ์(ลูกสาวคนโตของแม่) ล่ะมั้ง
ตอนที่แม่ป่วยแรกๆ เพิ่งเข้ามาอยู่โรงพยาบาล
ป้าภรณ์เคยทำแกงปลาเนื้ออ่อนยอดมะขาม
มาคลุกกับข้าวแล้วให้แม่เอาลิ้นแตะๆ
โห...กลิ่นแกงหอมอย่าบอกใครเชียว แหะๆ 
        
       นอกจาก Tips เล็ก ๆ น้อย ๆ เรื่องอาหารการกินแล้ว
แม่ก็ยังมี Tips เรื่องอื่นๆ ด้วย เท่าที่ลูกๆ
มานั่งทบทวนกันก็เลือก Tips น่ารักๆ มาได้สัก 2-3
ตัวอย่าง เอามาเล่าสู่กันฟัง อาทิเช่น 
       
       ;เปิดฝาหม้อ 
       
       แม่บอกว่า พวกหม้อข้าว หม้อแกง ปิ่นโต
หรือภาชนะใส่อาหารใดๆ
ก็ตามที่มีฝาปิด(ถ้าเป็นสมัยนี้คงต้องเพิ่มถ้วยต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีฝาปิดมานับรวมด้วย)
ภาชนะดังกล่าวนี้เวลาที่เราเปิดฝาออกให้เราวางโดยหงายฝาขึ้นด้านบน
ไม่คว่ำฝาลงกับพื้น เพราะเหตุผล 2 ประการใหญ่คือ
หนึ่ง...ก็พึ้นมันสกปรก
ถ้าเราเอาฝาคว่ำลงไปกับพื้นแล้วเราเอามาครองปิดอาหารอีกครั้ง
ว้า...ไม่อยากคิด
       
เหตุผลที่สอง...ฝาที่ปิดอาหารมันมักจะมีไอน้ำเกาะอยู่(อาจเป็นไอน้ำรสต้มยำ
ไอน้ำรสแกงส้ม หรือไอน้ำจืด)
ถ้าเราเอาเปิดฝาแล้วเอาคว่ำลงกับพื้นเวลายกฝาขึ้นลองดูสิคะ
ที่พื้นจะกลายเป็นวงไอน้ำรสชาติต่างๆ
ปรากฎขึ้นทันตาเห็นเลยทีเดียวเชียว 
       
       ตาก ก.ก.น.
       
        Tips นี้ พิเศษสำหรับสาวๆ
เนื่องจากแม่มีลูกหลานผู้หญิงเยอะ
แม่จะบอกทุกคนว่าเป็นลูกผู้หญิงน่ะ เวลาซัก ก.ก.น. ตาก
อย่าเอาเป้ามันออกมาโชว์เชียวนะ ขายขึ้หน้าเขา วิธีตาก
ก.ก.น.
ที่ถูกต้องตามที่แม่สอนคือให้ตากเอาเป้ากางเกงในไว้ด้านใน
โดยเอาส่วนที่เป็นของยางยืดพับลงมาปิดทับไว้ 
       
       ทัพพีคดข้าว ให้จุ่มน้ำก่อนเอามาคดข้าว
       
        การที่เราเอาทัพพีแห้งๆ ไปคดข้าว (ตักข้าว) นั้น
ข้าวจะมาเกาะติดเต็มทัพพีไปหมด
แม่บอกไว้ว่าก่อนคดข้าวครั้งแรก
ให้เอาทัพพีจุ่มน้ำก่อนข้าวจะได้ไม่ติด แล้วถ้าจะให้ดี
พอคดข้าวเสร็จ
เอาทัพพีจุ่มน้ำไว้ด้วยก็จะทำให้การคดข้าวครั้งต่อไป
ข้าวไม่ติดทัพพีเช่นกัน 
       สำหรับ Tips ทัพพีตักข้าวนี้
แม่จะชื่นชมเป็นพิเศษกับยัยมด(หลานสาว)บอกว่าบรรดาลูกหลานของแม่นี่
เห็นจะมียัยมดนี่แหละที่ได้วิชานี้ไป 
       
         ทำความสะอาดบ้าน
        ให้จัดลำดับการทำความสะอาดก่อนหลังให้เป็นระบบ
       
        เวลาที่เรากวาดบ้าน
แต่ละคนก็จะมีวิธีกวาดต่างกันไป บางคนอาจจะกวาดไปเรื่อยๆ
ไม่ได้คิดอะไร แต่สำหรับบ้านเรานั้น
ไม่ด๊ายยย...ต้องมีการวางแผนค่ะ... 
      
แม่บอกว่าการกวาดบ้านเนี่ยจะต้องดูด้วยว่าเราจะกวาด
ตรงไหนก่อน ตรงไหนหลัง และจะกวาดไปทางไหน
ให้มันไปทางเดียวกัน เช่น ในบ้านมีตู้ โต๊ะ เก้าอี้
แม่จะให้เรากวาดหลังตู้มาก่อน แล้วมาเช็ดโต๊ะ
เช็ดเก้าอี้ แล้วค่อยกวาดพื้นทีหลัง
เราจะได้ไม่ต้องทำงานหลายรอบ
เพราะถ้าเรากวาดพื้นเสร็จแล้วค่อยไปเช็ดหลังตู้
หรือเช็ดโต๊ะ เดี๋ยวเราก็ต้องกลับมากวาดพื้นใหม่อยู่ดี
แล้วการกวาดพื้น แม่ก็บอกว่าให้กวาดไปเป็นแถบๆ
เป็นหน้ากระดาน อย่ากวาดไปคนละทิศละทาง
เพราะคนกวาดจะงงเองว่า
เอ๊ะ...ตรงนี้เรากวาดหรือยังเนี่ย? 
       แล้วเวลาที่เรากวาดบ้านก็อย่ากวาดแรงมากนะ
ฝุ่นมันจะฟุ้งขึ้นมาแล้วตีวกกลับไปเกาะที่พื้นเหมือนเดิม
ทำให้เรากวาดไม่เกลี้ยงสักที 
       อ้อ...แล้วพอกวาดเสร็จแม่จะชอบใช้กระดาษแข็งบางๆ
มาตักผงมากกว่าที่จะใช้ที่ตักผงพลาสติคที่เขาขายกันนะคะ
แม่บอกว่ามันไม่มีทางตักผงได้เกลี้ยงกว่ากระดาษของแม่หรอก
เพราะมันหนา ฮ่าๆ 
       สำหรับตัวดิฉันเอง เมื่อผ่านการทำงานมาหลายปี
คนมักจะบอกว่าชิ้นงานของดิฉันจะเรียบร้อยเป็นระบบ
และจัดสรรงานได้ค่อนข้างลงตัว
ฉันก็เพิ่งได้ข้อสรุปเดี๋ยวนี้เองว่า...
มันมาจากทักษะชีวิตที่แม่สอน
เรื่องการทำความสะอาดบ้านอย่างเป็นระบบนี่แหละ
แล้วฉันประยุกต์เอามาใช้กับงานอื่นๆด้วย
ดังนี้ส่วนดีตรงนี้ ขอยกความดีให้แม่ทั้งหมดค่ะ 
       
       ผ้าถูบ้าน คลี่ผ้าออกแผ่ๆ ไว้อย่าให้เป็นก้อนๆ
        กวาดบ้านเสร็จทีนี้มาดูการถูข้านบ้าง
เฉพาะกรณีที่เราถูด้วยมือนะคะ
(เพราะแม่ไม่ชอบใช้ไม้ถูพื้น
แม่บอกว่ามันถูไม่เกลี้ยง)แม่จะให้เราบิดจนหมาด
พอจะเอามาถูพื้น ให้คลี่ผ้าให้แผ่ออก
แล้วค่อยเอามือจับผ้าถูพื้นไปมา
แม่บอกว่าแบบเนี้ยมันเข้าซอกเข้าซอยดี
(หมายถึงเข้าทุกซอกทุกมุม) 
       
       อย่าลืมถูก้นถ้วย ถ้าปล่อยไว้จะเข้าฝักดักดาน
       
        ถ้าชามบางประเภท จะมีลักษณะก้นถ้วยเป็นขอบลึก
ซึ่งถ้าหากว่าเราล้างชามโดยไม่ถูตรงกันมันนานๆ
เข้าจะกลายเป็นครงสกปรก ที่แม่เรียกว่ามัน
เข้าฝักดักดาน
        
       ดังนั้นถ้าไม่อยากให้ก้นถ้วยเข้าฝักดักดาน
เราจะต้องไม่ลือถูตามขอบก้นถ้วยด้วยเสมอ แต่...
หากว่าเราผิดไปแล้ว
ก้นถ้วยเราเข้าฝักไปแล้วอย่าเสียใจไปเลย
เพราะแม่ก็มีวิธีแก้ไขแถมให้ด้วย
คือถ้าก้นถ้วยเข้าฝักดักดานแล้วละก็แม่บอกให้เอากาบมะพร้าวไปแตะขี้เถ้าเตาไฟมาขัด
คราบฝักแน่นที่เข้าฝักนั้นจะค่อยๆ หายไปเอง 
       
       ก็คงพอหอมปากหอมคอเท่านี้ สำหรับ Tips น่ารักๆ
ของแม่ จริงๆ มีเยอะมาก
แต่เลือกเอามาให้อ่านเล่นพอเป็นสังเขปเท่านี้นะคะ 

                               ๙๙๙   แก้วประเสริฐ.   ๙๙๙ 				
20 กุมภาพันธ์ 2548 11:10 น.

สายชลวนเชี่ยวเกลียวคลื่น(ลองโคลงสี่สุภาพ)

แก้วประเสริฐ


               สายชลวนเชี่ยวเกลียวคลื่น
                     (ลองโคลงสี่สุภาพ)

        กระแสชลวนช่างล้ำ            เวียนวน
เปรียบดั่งหญิงงามปน                ร่ำไห้
โศกครวญป่วนปรน                   จริงแม่
รักใส่ชวนยากไซร้                      แน่แท้ตรอมตรมฯ

        ยามมองคลื่นรื่นพลิ้ว           ไหลนาด   จริงนา
แสงจ่างแววสีพาด                       อร่ามหล้า
เนตรมองส่องสาด                      นัยน์พร่า  ตลึงแล
โอ้แม่คงคางามกล้า                    แซ่ซ้องสรรเสริญฯ

        ปั่นป่วนปานใคร่รู้                 จากนาง
แสนห่วงกลัวนวลปรางค์              เจ็บช้ำ
คล้ายดั่งบ่วงผูกวาง                     กัดกร่อน  ใจแฮ
ปากช่างอดงามล้ำ                       โอษฐ์เอื้อนสักคำฯ

        ผิวชนใดใคร่เชื้อ                 เรืองรัก
ป่วนปั่นหัวใจมัก                          เที่ยวเร้น
เวรกรรมดั่งดุจจัก                        ซุกซ่อน    คลอนนา
หักห่อนลิดมิเว้น                          แน่ต้องสนองเวรฯ

        พระพายโชยส่องต้อง            กายา
บุบผากลิ่นโรยนาสา                      ห่อนแท้
ปลงจิตล่วงความมา                       ปลิดซ่อน 
อกผ่อนยากจะแก้                          เช่นนี้นวลเอยฯ

        หญิงชายใดเร่าเคล้า              กามา 
แสนแส่มินำพา                              เที่ยวร้อง
พอสุดสิ่งปองหา                             หักเช่น   งามขำ
ยกแต่ผันผวนก้อง                           ใฝ่จ้องแสงธรรมฯ๙

                  ๙๙๙   แก้วประเสริฐ.   ๙๙๙				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแก้วประเสริฐ