ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
หลังเงาไม้ทอดยาวทาบผืนนา
ความมืดค่ำก็แผ่มานาแลหลัว
แนวไม้หมองคลองคูดูหม่นมัว
แนวเรือนชานดงด่านทั่วสลัวราง
เมื่อค่ำลงมืดแล้วแว่วเสียงแคน
ตอยแล่นแตรแหมแสนจะเปลี่ยวคว้าง
สะท้อนใจใครงกเงิ่นยังเดินทาง
บ่มีเรือนพักค้างแม้เพียงคืน
เห็นแสงไฟวอมแวมแต้มม่านค่ำ
ก็นึกถึงบทลำนำบทอื่นอื่น
ที่ปลอบคราวขมเค็มทุกข์เต็มกลืน
ให้หยัดยืนบ่ท้อต่อม่านภัย
ยิ่งค่ำ ยิ่งมืดดำและยิ่งเปลี่ยว
ทางคดเคี้ยวกระชากชันชวนหวั่นไหว
ม่านความท้อเหมือนรอหยันบีบคั้นใจ
ใครยังไปต่อไปไม่หลบย้อน
รุ่งวันใหม่เมื่อเงาไม้ทอดทาบนา
คงถึงถิ่นพักสายตาเหมือนคราก่อน
แต่ค่ำนี้ทำฉันใดจะไม่นอน
หวั่นหลับในไปฟื้นตอนก่อนรุ่ง