10 เมษายน 2556 22:24 น.
คีตากะ
ชายหนุ่มหนึ่งหดหู่ดูทุกข์หนัก
จึงไปหาเพื่อนรักจักปรึกษา
พบเพื่อนเกลอพลันเอ่ยเผยวาจา
เขาบอกว่า " ฉันนี้อยากมีเมีย! "
เขาอ้างเอ่ยเหตุผลระคนเศร้า
" ฉันนั้นเล่าแก่ไปใจละเหี่ย
หาไม่ได้สักคนจนอ่อนเพลีย
อยากมีเมียเต็มแก่...แกช่วยที! "
" ฉันพาหญิงมากหน้ามาเที่ยวบ้าน
แม่ก็พานไม่ชอบใครใจโศกศรี
ปฏิเสธเสียทุกคนก่นชีวี
ทำอย่างไรกันดี...อยากมีเมีย? "
เพื่อนจึงบอกว่า " โถ! โอ้! ง่ายมาก
ใช่เรื่องยากอะไรอย่าใจเสีย
แค่หาคนหน้าคล้ายแม่แกทำเมีย
รับรองเคลียร์งานนี้มีคู่ครอง
ชายหนุ่มจึงบอกเพื่อนเขาเอื้อนเอ่ย
" ฉันนั้นเคยลองแล้วไม่แคล้วหมอง
กลับเป็นพ่อฉันขึ้งถลึงมอง
ท่านไม่ชอบเลยต้องล่องลาไกล! "
13 สิงหาคม 2558 22:43 น.
คีตากะ
อุทกภัยครั้งใหญ่ได้พ้นผ่าน
ทั่วทุกย่านน้ำลดหมดกังขา
บางพื้นที่น้ำยังท่วมขังนา
ชาวบ้านล้าอ่อนแรงแคลงกังวล
น้ำส่งกลิ่นเน่าเหม็นลำเค็ญหนัก
ซากพืชหมักหมมนานพานก่อผล
ทั้งขยะปฏิกูลพอกพูนชล
น้ำสีข้นขุ่นคลักประจักษ์ตา
จะเพาะปลูกพืชใดไร้ประโยชน์
ย่อมก่อโทษเสียหายเปล่าดายหนา
ต้องสูบน้ำออกทุ่งปรับปรุงนา
จึ่งหว่านกล้ารอบใหม่ได้อีกที
ดั่งบัณฑิตฝึกตนค้นหาแก่น
มัวโลดแล่นสร้างบุญหนุนราศี
แต่ไม่ละบาปกรรมมุ่งทำดี
ย่อมหามีประโยชน์ใดไม่ต่างนา...
10 เมษายน 2556 22:28 น.
คีตากะ
ห้วงนภากว้างใหญ่ไร้ขอบเขต
น่าสังเกตเลศนัยให้แอบแฝง
บางคราสีสดใสได้สำแดง
บางคราวแต่งแต้มสีที่มืดมน
ยามอาทิตย์อุทัยขับไขแสง
ฟ้าพลันแจ้งแจ่มจรัสลัดเวหน
แต่ราตรีไร้ดาวคราวแลยล
กลับมัวหม่นสลัวเลือนเยือนอัมพร
นภาลัยว่างเปล่าราวกระดาษ
ธรรมชาติสร้างมาประภัสสร
เดิมเปลือยเปล่าเช่นนั้นนิรันดร
สรรค์สิ่งจรเยี่ยมเยือนเหมือนชั่วคราว
เหล่าธุลีละอองไอเคลื่อนไหลล่อง
ลอยฟูฟ่องเลยล่วงสู่ห้วงหาว
ก่อหมู่เมฆหมุนวนยลสกาว
คลื่นสีขาวปรากฏหยาดหยดมา
เกิดพระพายพระพิรุณหนุนเนื่องหลั่ง
โปรยปรายยังปฐพีปรี่โถมถา
สายวิชชุกัมปนาทซัดฟาดมา
ปานแผ่นฟ้าพังทลายสลายไป
ทั้งสายฟ้าสายฝนระคนทั่ว
เกรี้ยวกราดรัวหยาดมุกเม็ดสุกใส
หลอมรวมเป็นคงคาชลาลัย
โคจรไปตามวัฏฏะจิรกาล
คิมหันต์เยือนแหล่งหล้าอากาศร้อน
ทิฆัมพรสีเข้มเกษมศานต์
เหมันต์หวนเหน็บหนาวร้าววิญญาณ
ฟ้าคงสราญศานติทุกทิวา
ฟ้าเปรียบเป็นเช่นใจใสสะอาด
อารมณ์กลาดกล้ำกลายหลายชันษา
ปานดังหนึ่งฤดูกาลผันผ่านมา
ในไม่ช้าลับหายมลายเลือน...
10 เมษายน 2556 22:29 น.
คีตากะ
บนเส้นทางสายไหมไปแม่สาย
หมอกพร่างพรายสองฝั่งดังม่านขึง
ทุ่งนากว้างวางแต้มแซมหนองบึง
สายบัวหนึ่งชูช่อลออตา
เหมันต์เยือนเยี่ยมเย้าเนาถิ่นฐาน
ดุจสายธารกาลเปลี่ยนแวะเวียนหา
อรุณรุ่งลมหนาวพราวนภา
หนาวอุราหน้าหนาวร้าวฤดี
ถึงยามสายสายหยุดหยุดบานเบ่ง
ทุ่งวังเวงปราศชนบนวิถี
กลิ่นฟางไหม้ตลบทุ่งฟุ้งยวนยี
ขุนคีรีทอดเงาเร้าสายตา
สัญจรผ่านบ้านทุ่งมุ่งหมายมั่น
สายสัมพันธ์แน่นหนักเกินจักหา
กราบแทบเท้าบิดรและมารดา
หวังพบหน้าก่อนสายหมายแทนคุณ
จากท้องทุ่งสู่กรุงหวังรุ่งโรจน์
เขาจันโจษหมิ่นหยามตามเนื่องหนุน
แม่สายลืมสายใยไร้การุณย์
ลืมบุญคุณผู้เฒ่าก่อนเก่ามา
อยู่เมืองใหญ่ทำงานเปรียบปานทาส
จนสายตัวแทบขาดด้อยวาสนา
ค่าแรงเพียงขั้นต่ำจำทนมา
เป็นดอกหญ้าในป่าปูนจำรูญรวง
หมุนเศรษฐกิจก้าวไกลไปทั่วโลก
เหงื่อชุ่มโชกค่ำเช้าเนาเมืองหลวง
ด้วยความจนทนอยู่สู้กับดวง
หมายพ้นล่วงพรหมลิขิตชีวิตมา
ข่าวผู้เฒ่าล้มป่วยอำนวยให้
นำสายใจคืนถิ่นถวิลหา
สายน้ำผึ้งผลิดอกออกงามตา
สายสวาทคืนนาด้วยอาทร
สายลมพลิ้วชายทุ่งจรุงจิต
ให้หวนคิดคำนึงถึงสายสมร
จะโบยบินกลับรังยังคืนคอน
ขอไหว้วอน...แม่สาย...ไม่สายเกิน...