14 พฤษภาคม 2565 08:54 น.

เยี่ยมเยือนนรก

คีตากะ

การได้เห็นการลงโทษผู้ทำงานในอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์และผู้ที่รักการกินเนื้อสัตว์
         ปัจจุบันนี้ สัตว์ถูกทรมาน ด้วยวิธีที่โหดร้ายอย่างยิ่งและต้องทนทุกข์ทรมานที่โรงงานปศุสัตว์
และโรงฆ่าสัตว์ อย่างไรก็ตาม คนทำงาน ในอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ ไม่รู้ว่าวิญญาณของพวกเขา จะได้รับอะไร
เป็นผลลัพธ์ จากการทำมาหากินของพวกเขา ที่มาจากการไร้ซึ่งความเมตตาโดยสิ้นเชิง
         ระหว่างการทำสมาธิครั้งล่าสุดของฉัน อาจารย์ภายในของฉันพาฉัน และพี่สาวชาวจีน เดินทางไปยังนรก
เพื่อดูการลงโทษที่กระทำต่อคนที่ทำงานในอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์และต่อคนที่รักการกินเนื้อสัตว์ เรามีหน้าที่
กลับมาและถ่ายทอดประสบการณ์ของเราให้กับทุกคน เมื่อเราไปถึงนรก พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ที่เคารพพาเรา
ไปทัวร์หลายแห่งในนรก พระกษิติครรภโพธิสัตว์ทรงดูสง่างามและศักดิ์สิทธิ์มาก - ตรงตามภาพที่มีอยู่ตาม
วัดต่าง ๆ เราได้เห็นนรกของการถลกหนังสด ๆ ผู้กระทำความผิด ในช่วงเวลาของพวกเขาบนโลก ได้ถลกหนัง
สุนัขจิ้งจอก และสัตว์อื่น ๆ เป็น ๆ พวกเขาจึงต้องประสบกับความทุกข์เหมือนกันขณะอยู่ในนรก พวกเขาถูก
ถลกหนังจนกระทั่ง พวกเขากลายเป็นกองเลือด พวกเขาจะตายอย่างช้า ๆ แล้วร่างกายของพวกเขาก็จะฟื้นตัว
 และผ่านการทรมานแบบถลกหนัง ครั้งแล้วครั้งเล่า! ผู้กระทำความผิดที่เคยทำงานในโรงฆ่าสัตว์ ถูกแขวนห้อย
หัวลง ด้วยขาข้างหนึ่งของพวกเขา ท้องของพวกเขาถูกกรีดออกและเครื่องในของพวกเขาถูกดึงออกมา 
หรือโดนตีอย่างแรงที่หัวด้วยค้อนเหล็กสีดำยาวสองเมตรก่อนที่พวกเขาจะถูกแทงจนตาย บ้างก็ถูกสับเป็นชิ้น ๆ 
และถูกจับยัดลงในกระป๋องขนาดใหญ่ เหมือนตอนทำอาหารสุนัขกระป๋อง บ้างก็ถูกฉีดแก๊ส เข้าสู่ร่างกาย
จนความดันสูงเกินไป และลูกตาของพวกเขาก็ถลนออกมา! พูดง่าย ๆ ว่าวิธีใดก็ตามที่พวกเขาทำที่โรงงาน
ปศุสัตว์และโรงฆ่าสัตว์ การทรมาน และฆ่าสัตว์ พวกเขาจะโดนการปฏิบัติทางกายแบบเดียวกันขณะที่อยู่ในนรก
 แต่มันจะเป็นความรุนแรงขึ้นหลายเท่ามาก ยิ่งกว่านั้นความคิดใหม่ ๆ ที่โรงงานปศุสัตว์และโรงฆ่าสัตว์
คิดขึ้นมาเพื่อทรมานและฆ่าสัตว์ พวกเขาจะทำให้ เกิดการลงโทษใหม่เหมือนกัน ในนรกอย่างอัตโนมัติ 
มันช่างน่ากลัวจริง ๆ! คนกินเนื้อสัตว์ หรือเชฟที่ปรุงเนื้อสัตว์ เพื่อการบริโภคของประชาชน เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด
ของการฆ่า และพวกเขาจะได้รับการลงโทษที่น่ากลัวเช่นกัน! ตัวอย่างเช่น ผู้นั้นอาจะมีไม้เรียวยาวเสียบผ่าน
ร่างกายจากปากถึงก้นกบ แล้วถูกย่างเหมือนลูกหมู บนตะแกรงย่างแบบหมุนได้ หรือพวกเขาอาจถูกปรุง ถูกสับ
เป็นชิ้น ๆ ด้วยมีดยักษ์ และถูกโรยบนพื้น เหมือนเป็นเนื้อไก่ เสิร์ฟบนโต๊ะอาหาร ร่างกายของผู้กระทำผิด 
บางคนถูกผ่าออก และทับให้แบน แล้วถูกแกะสลักด้วยมีด เป็นลายละเอียด อย่างที่อาหารทะเล เช่น ปลาหมึก
หรือคาลามารี ถูกเตรียมก่อนรับประทาน
       ข้อสังเกตของเราที่นี่ สามารถสรุปได้ดังนี้ วิธีที่เนื้อสัตว์ถูกปรุงในครัว บอกเราว่าคนกินเนื้อจะทุกข์ทรมาน
ในนรกอย่างไร นิสัยชั่วร้ายของการกินเนื้อสัตว์ของมนุษย์ก่อให้เกิดความเจ็บปวดที่หยั่งไม่ถึงได้ในสัตว์ 
การรับรสของเราอาจจะพอใจ แต่หลังจากที่เราตาย เราจะตกนรกอันน่าสะพรึงกลัว และได้รับการลงโทษ 
ทุกประเภทในนรกขุมแล้วขุมเล่าไม่สิ้นสุด ขึ้นอยู่กับชนิดของเนื้อสัตว์ที่เรากิน เราจะต้องผ่านการทรมาน 
เช่นเดียวกันกับสัตว์ ที่ทนทุกข์ทรมานเหล่านั้น หนีไม่พ้น เป็นเวลานานมาก!
     ถ้าคนได้เห็นเอง แม้เพียงครั้งเดียวว่าคนที่กินเนื้อสัตว์ ถูกลงโทษในนรกอย่างไร คงไม่มีใครกล้ากินเนื้อสัตว์
อีกต่อไป ไม่แม้แต่จะมีคนมาอ้อนวอนเรา! ในโลกทุกวันนี้ การบริโภคเนื้อสัตว์มากเกินไป ได้นำไปสู่ภัยพิบัติ 
และภัยธรรมชาติทุกชนิด เราหวังว่าผู้คนจะรีบเปลี่ยนมากินอาหารวีแกน! คนในอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ 
โปรดกลับใจโดยเร็ว และหาอาชีพใหม่ เพื่อที่คุณจะได้ช่วยตัวเองได้ทันเวลา จากทุกข์ในนรก และช่วยโลก
จากภัยพิบัติ! ด้วยความเคารพ ขอให้อาจารย์ มีชีวิตมีความสุขและสงบสุข และขอให้ความหวังของท่านอาจารย์
เพื่อโลกวีแกน เป็นจริงอย่างรวดเร็ว!
     บันทึกร่วมกันโดย จีควาง ลูกศิษย์หญิงในประเทศจีน และหลิงซิน ลูกศิษย์หญิง ในไต้หวัน (ฟอร์โมซา)
วีแกน: เพราะไม่อาจจินตนาการได้ ถ้าเราถูกทรมาน
ลูกศิษย์ของท่านอาจารย์แต่ละคน มีประสบการณ์จิตวิญญาณภายใน คล้ายคลึง แตกต่างกันหรือมากกว่ากัน
และ/หรือได้พรจากโลกภายนอก นี่เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วน ปกติเราจะเก็บมัน กับตัวเอง ตามคำแนะนำ
ของท่านอาจารย์
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม และดาวน์โหลดฟรี โปรดไปที่ SupremeMasterTV.com/to-heaven
4 กันยายน 2564 16:59 น.

สาวน้อยนักเคลื่อนไหวโลกร้อน...

คีตากะ

454ed617b973b6ace2337c2b17c39f6e.jpg
                “ระบบนิเวศน์กำลังล่มสลาย เรากำลังจะสูญพันธุ์ แต่พวกคุณกลับพูดถึงกันแต่เรื่องเงินๆ ทองๆ 
และผลเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ คุณกล้าดีอย่างไร!”
          นี่เป็นคำกล่าวสุนทรพจน์ของสาวน้อยมหัศจรรย์ เกรต้า ธันเบิร์ก (วีแก้น) นักเคลื่อนไหวด้านสภาวะ
โลกร้อนชาวสวีเดน ซึ่งในตอนนั้นเธอมีอายุเพียงแค่ 16 ปี เท่านั้น เธอกล่าวทุกถ้อยคำที่หนักหน่วงและ
ซีเรียสทุกประโยคราวกับสงครามโลกกำลังจะเกิดขึ้นท่ามกลางผู้นำโลกในการประชุม เรื่องสภาพภูมิอากาศ 
(UN Climate Action Summit) ในเดือนกันยายน 2019 ณ สำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติในนิวยอร์ก 
หลายคนมองว่าเธอมีอาการของแอสเพอร์เกอร์(กลุ่มหนึ่งของโรคออทิสติค) ที่จะหมกมุ่นกับการกระทำอะไร
ซ้ำๆ และมีปัญหาเรื่องการเข้าสังคม แต่เธอสวนกลับว่า “ใช่ ฉันเป็นแอสเพอร์เกอร์ นั่นคือการกระทำอาจ
แตกต่างจากคนทั่วไป แต่ถ้าหากเราใช้ความแตกต่างให้ถูก มันคือซูปเปอร์พาวเวอร์เลยล่ะ”
3ba738554158a1f124edfc0ea60c7733.jpg
           เธอเล่าว่า “เมื่อฉันอายุได้ 11 ขวบ ฉันป่วย ฉันรู้สึกซึมเศร้า ฉันหยุดพูด และฉันหยุดกิน ผ่านไปได้ 2
เดือนน้ำหนักฉันหายไป 10 กิโลกรัม ฉันถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคแอสเพอร์เกอร์ซินโดรม(Asperger's Syndrome)  OCD (โรคย้ำคิดย้ำทำ ; OCD : Obsessive Compulsive Disorder) และ Selective Mutism (โรคไม่พูด
ในบางสถานการณ์) พูดให้ง่าย ฉันจะพูดก็ต่อเมื่อฉันคิดว่ามันจำเป็น และตอนนี้ฉันก็อยู่ในช่วงเวลานั้น” 
ด้วยความกล้าหาญเหนือธรรมดาประกอบกับคำพูดที่ทรงพลัง อ่อนน้อม บริสุทธิ์จริงใจและจริงจังอยากแก้ไข
ปัญหาโลกร้อนของเธอ ทำให้ถ้อยคำของเธอจับใจผู้ฟัง จนสื่อมวลชนตั้งฉายาให้เป็น “Climate Icon” เกรต้า 
ได้รับเชิญให้ไปพูดในอีเวนต์ต่างๆ ทั่วโลก ตั้งแต่ Ted Talk ที่สตอกโฮล์ม ตามด้วยงาน เวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรัม 
ที่เมืองดาวอส ในสวิตเซอร์แลนด์ และงาน EESC ที่บรัสเซลล์ ในประเทศเบลเยี่ยม ต่อด้วยไปพูดที่สภายุโรป
ในเมืองสตาร์บูร์กส์ ประเทศฝรั่งเศส
d353ad18e4c7b241bc6c7e795ea85cad.jpg
           สาวน้อยชาวสวีเดนกลายเป็นผู้มีชื่อเสียงไปแล้วทั่วโลกเพียงแค่ลุกขึ้นแสดงจุดยืนต่อสิ่งที่เธอเชื่อ 
เธอได้รับการเสนอชื่อให้รับรางวัลโนเบล และได้เป็นบุคคลแห่งปีของนิตยสารไทม์ในปี 2018 ในเดือนสิงหาคม
2018 ตอนอายุ 15 ปี เกรต้า ตัดสินใจประท้วงไม่ไปโรงเรียนและเธอใช้เวลาหลายวันนั่งอยู่หน้ารัฐสภาของ
สวีเดนพร้อมกับชูป้ายแผ่นไม้ที่เขียนด้วยลายมือตัวเองว่า “ไม่ไปเรียนหนังสือเพื่อประท้วงโลกร้อน” 
เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเห็นความสำคัญสูงสุดในการแก้ไขปัญหาโลกร้อน ด้วยการกระทำของเธอกลายเป็นข่าว
พาดหัวไปทั่วโลก เธอทำให้เกิดการรณรงค์ของเยาวชนที่คิดเหมือนกัน ด้วยพลังที่ยืนหยัดอย่างกล้าหาญ
ของเธอ ผู้คนเป็นล้านๆ ทั่วโลกต้องการประท้วงแบบเดียวกันกับรัฐบาลของตนให้ใช้มาตรการที่ตรงเป้าทันที
 เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างรวดเร็ว 
dc02e9c0b70d6f47045d477c1055a789.jpg
           เกรต้า ได้พูดในที่ประชุม ซึ่งนำโดยเยาวชนบางกลุ่ม เพื่อเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงนโยบายเรื่อง
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับที่ใหญ่ขึ้น ตามที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานในเดือนสิงหาคม 2019
จำนวนผู้ประท้วงเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีถึง 3.6 ล้านคน ใน 169 ประเทศ สาวน้อยที่กล้าหาญ
ผู้นี้ก็ยังปราศรัยในที่ประชุมเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติในปี 2018 ที่เรียกว่า
COP24 ในคาโตไวส์ ประเทศโปรแลนด์และได้เข้าพบกับเลขาธิการสหประชาชาติ นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส
เกี่ยวกับเรื่องที่เธอกังวล “ฉันอยู่ที่นี่เพื่อจะบอกว่า บ้านของเรากำลังไฟไหม้ และตอนนี้ไม่ใช่เวลาสำหรับการพูด
อย่างสุภาพหรือมุ่งไปที่ว่าอะไรควรพูดหรือไม่ควร ตอนนี้เป็นเวลาที่ต้องพูดให้ชัดเจน การแก้ไขปัญหาวิกฤต
ทางสภาพภูมิอากาศเป็นเรื่องท้าทายที่ซับซ้อนและยิ่งใหญ่ที่สุดที่มนุษย์ไม่เคยประสบมาก่อน อย่างไรก็ตามวิธี
แก้ปัญหานั้นง่ายมากที่แม้แต่เด็กเล็กก็สามารถเข้าใจได้คือ เราต้องหยุดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก” เกรต้ากล่าว
2820c6d961bb0a7981f64d881f23f2b2.jpg
          เกรต้าเป็นที่รู้จักในเรื่องการยึดหลักการ นอกจากการเป็นวีแกนที่ปลูกผักกินเอง เธอปฏิเสธที่ขึ้น
เครื่องบินเพื่อหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่โลก ในเดือนสิงหาคม 2019 เธอใช้เรือที่ปราศจาก
ก๊าซเรือนกระจกเดินทางจากยุโรปข้ามมหาสมุทรแอตแลนด์ติกมาที่นิวยอร์ก โดยใช้เวลาถึง 14 วัน 
เพื่อเข้าร่วมประชุมสุดยอดระดับผู้นำโลกเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่สหประชาชาติ ”ไอเดีย
ที่แพร่หลายบอกว่าเราต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงครึ่งหนึ่งภายใน 10 ปี ข้างหน้า เพียงเพื่อให้เรา
มีโอกาส 50% ที่อุณหภูมิเฉลี่ยโลกเพิ่มขึ้นไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส และความเสี่ยงในการนำไปสู่
กระบวนการที่ไม่สามารถย้อนกลับได้เหนือการควบคุมของมนุษย์ 50% คุณอาจยอมรับได้ แต่จำนวนเหล่านั้น
ยังไม่ได้รวมจุดผลิกผัน (Tipping points) วงจรสะท้อนกลับทั้งหมด และอากาศที่ร้อนขึ้นจากมลพิษต่างๆ 
หรือด้านความเสมอภาคและความเป็นธรรมในด้านภูมิอากาศอีกหลายๆ ปัจจัยที่ถาโถม พวกเขายังหวังพึ่งพา
คนรุ่นใหม่ ในการลดก๊าซนับแสนล้านต้นจากชั้นบรรยากาศด้วยเทคโนโลยีที่ยังไม่มีอยู่จริง ความเสี่ยง 50%
 จึงรับไม่ได้สำหรับเรา ที่ต้องมีชีวิตอยู่กับผลกระทบจากมัน” 
39d9f7493bb4feb387eb3ead302b8157.jpg
          เกรต้า ยังกล่าวในเวทีการประท้วงอีกว่า “ถ้าไม่มีใครที่จะลงมือทำ เราก็จะทำ มันไม่ควรเป็นแบบนั้น 
เราไม่ควรเป็นคนที่ต้องต่อสู้เพื่ออนาคต แต่ถึงกระนั้นเราก็ยังอยู่ที่นี่ เราไม่ได้เป็นแค่เยาวชนที่หนีเรียนหรือ
ผู้ใหญ่บางคนที่ไม่ทำงาน แต่เราเป็นคลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลง!” 
         วันที่ 10 ธันวาคม 2018 โทรทัศน์สุพรีมมาสเตอร์ได้รับสิทธิพิเศษให้สัมภาษณ์เกรต้า ธันเบิร์กในเวลาสั้น
 ขณะที่เธอร่วมอยู่ใน COP24 ประเทศโปรแลนด์ดังนี้
นักข่าว : ฉันขอบคุณมากที่คุณเข้าไปดำเนินการมากมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ คุณคิดว่าการ
             แก้ปัญหาที่ดีที่สุดคืออะไร?
เกรต้า : เราต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นั่นคือทางแก้
นักข่าว ; คุณคิดว่าการเป็นวีแก้นเป็นส่วนสำคัญที่สุดในนั้นไหม?
เกรต้า : ใช่ แน่นอนที่สุด
นักข่าว : คุณคิดว่าเราจะสามารถเรียกร้องให้เยาวชนมาเป็นวีแก้นมากขึ้นได้อย่างไร?
เกรต้า : ฉันคิดว่าแค่บอกความจริงกับพวกเขา เพราะถ้าเด็กๆ ไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น พวกเขาก็จะยังดำเนิน
            ชีวิตตามปกติต่อไปเหมือนก่อน
นักข่าว : ทำไมคุณถึงเป็นวีแก้น?
เกรต้า : ฉันดูวิดีโอเห็นสัตว์ถูกระทำอย่างเลวร้ายทารุณ ดังนั้นเมื่อคุณรู้ และตระหนัก คุณจะเข้าไปจัดการ
152f19301efbc0c14fbd891ce609a6dd.jpg
          ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ได้มอบรางวัลวีรสตรีโลกจรัสแสงให้แก่เกรต้า ธันเบิร์ก ด้วยความรัก ความชื่นชม 
และความปรารถนาดีที่สุดสำหรับความสำเร็จมากมายด้วยความเมตตาของพระเจ้า สำหรับการยืนหยัดอย่าง
กล้าหาญในการต่อต้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งความกล้าหาญที่เหนือธรรมดาของเธอในการ
เผชิญหน้ากับผู้นำโลกที่เพิกเฉยต่อการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในวันที่ 2 มีนาคม 2019
ท่านเขียนจดหมายถึงเกรต้า มีเนื้อความดังนี้
เกรต้าที่รัก
           ด้วยความชื่นชมยินดีและซาบซึ้งใจอย่างมากที่เราได้มอบรางวัลวีรสตรีโลกจรัสแสงให้กับคุณ สำหรับ
การยืนหยัดอย่างกล้าหาญในการต่อต้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รางวัลนี้ได้มอบให้เพื่อยกย่องถึง
ความกล้าหาญเหนือธรรมดาของคุณที่เผชิญหน้ากับผู้นำระดับโลกเกี่ยวกับอันตรายของความเพิกเฉยไม่ลงมือ
ทำอะไรของพวกเขา เปรียบเสมือนดวงประทีปแห่งความหวังสำหรับการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืน ความพยายาม
อย่างจริงจังของคุณจะสร้างอนาคตที่สดใสกว่าให้กับมวลมนุษยชาติ นิตยสารไทม์ได้ประกาศชื่อของคุณให้
เป็นหนึ่งในผู้นำวัยรุ่นที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลกในปี 2018 สำหรับการแสดงออกอย่างชัดเจนถึงความกังวล
เกี่ยวกับโลกของเรา และการแก้ไขปัญหาอย่างแน่วแน่เพื่อการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศน์ ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่
ตั้งแต่การเริ่มต้นอย่างโดดเดี่ยวของเด็กหญิงอายุ 15 ปี ที่นั่งอยู่บนทางเท้าหน้ารัฐสภาของสวีเดน ด้วยความ
เข้มแข็ง ความเชื่อมั่น และสติปัญญาของคุณสำหรับคนอายุน้อยที่ท้าทายความเชื่อ การศึกษาเกี่ยวกับ
ภูมิอากาศตอนอายุเพียง 9 ขวบ ประกอบด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์และการกระทำเยี่ยงนักบุญ คุณได้ทำในสิ่งที่ยากยิ่งเสมือนการเคลื่อนย้ายภูเขาทีเดียวอย่างที่คุณกล่าวว่า “คุณไม่มีวันเด็กเกินไปที่จะสร้างความแตกต่าง” และอะไร
ที่แตกต่างคุณได้ทำมันไปแล้ว มันเหมือนกับคุณได้รับพลังจากบรรพบุรุษของคุณที่เป็นบิดาแห่งวิทยาศาสตร์
ด้านภูมิอากาศ ดร.สวานเต อาร์เฮเนียสให้สานต่องานอันสูงส่งต่อไป ตอนเริ่มต้นคุณเปลี่ยนเป็นวีแก้น 
แล้วครอบครัวของคุณก็เปลี่ยนไปทานผัก การประหยัดไฟ และการหยุดขึ้นเครื่องบิน จากนั้นโรงเรียนของคุณ
ก็เข้าร่วมในการประท้วงกับคุณ ในที่สุดนักเรียนนับหมื่นๆ คนทั่วโลกกำลังรณรงค์เรียกร้องเพื่อการเปลี่ยนแปลง
 คุณคือแรงบันดาลใจให้แก่คนรุ่นใหม่ คือผู้นำของอนาคต และนักเคลื่อนไหวที่ร่วมตัวกันมอบความหวังให้แก่
โลกของเราและโอกาสในการลดภาวะโลกร้อน สำหรับความพยายามอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยและการกระทำที่
ไร้ตัวตนอย่างอุทิศตนเพื่อปกป้องโลกของเรา และสำหรับการเป็นแบบอย่างที่อุทิศตนด้วยบทบาทที่สูงส่ง
 ด้วยประการฉะนี้ เราขอปรบมือและสรรเสริญการกระทำอย่างวีรบุรุษของเกรต้า ธันเบิร์ก ขอให้คุณได้รับการ
อวยพรมากมายสำหรับการอุทิศตนเพื่อความอยู่ดีของโลก
 
                  ด้วยความนับถือ ด้วยรักและด้วยพระพรในความเมตตาของพระเจ้าอย่างสูงสุด
                        อนุตราจารย์ชิงไห่
                                                                     
ติดตตามเรื่องของเกรต้า ธันเบิร์กได้ที่ :
https://suprememastertv.com/th1/v/91265103959.html
https://suprememastertv.com/th1/v/55457503415.html
https://suprememastertv.com/th1/v/55457503397.html
23 กันยายน 2564 21:37 น.

คำแนะนำเกี่ยวกับโควิด-19

คีตากะ

คำแนะนำเกี่ยวกับโควิด-19 ของท่านอุตราจารย์ชิงไห่ จงนอบน้อมถ่อมตน จงสวดอธิษฐาน จงสำนึกในบุญคุณ
          ด้วยความกังวลและความรักต่อความปลอดภัยของสมาชิกสมาคมของเราระหว่างการแพร่ระบาด 
ในวันที่ 27 สิงหาคม 2021 ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ที่รักที่สุดของเราแบ่งปันคำแนะนำที่ใส่ใจพร้อมกับ
การเยียวยาพิเศษบางอย่าง เพื่อเป็นการป้องกันโควิด-19 และสายพันธุ์ที่เกิดใหม่ที่ยิ่งอันตรายขึ้นของมัน 
อาจารย์ขอให้เราแบ่งปันข้อความนี้กับโลกเพื่อช่วยเหลือในช่วงเวลาที่ยังไม่แน่นอนนี้สำหรับทุกคน
นี่เป็นเพียงคำเตือนสำหรับพวกคุณทุกคนวิญญาณที่ยอดเยี่ยมทั้งหลาย โควิดได้กลายพันธุ์ไปหลายชนิด
ทีเดียวแต่เดลด้า ดูเหมือนจะเลวร้ายที่สุดตอนนี้ถึงแม้ว่าจะมีสายพันธุ์ใหม่แต่นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า 
มันไม่เลวร้ายเท่าเดลต้า สายพันธ์เดลต้าได้ทำให้ผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้น หลาย ๆ ประเทศกำลังต่อสู้กับการติดเชื้อ
และการรักษาในโรงพยาบาลที่เพิ่มขึ้น โดยพบการติดเชื้อที่ลุกลามในหมู่ผู้ที่ได้ฉีดวัคซีนแล้ว การศึกษาหนึ่ง
ของเกาหลีใต้ได้พบว่าคนที่ติดเชื้อด้วยสายพันธุ์เดลต้ามีปริมาณไวรัสสูงกว่าคนที่ติดด้วยสายพันธ์ดั้งเดิม
ของโคโรนาไวรัสถึง 300 เท่า ตอนนี้ ปริมาณไวรัสที่สูงขึ้นหมายถึงว่าไวรัสได้แพร่กระจายง่ายมากขึ้น 
จากคนสู่คน ซึ่งหมายถึงการติดเชื้อและการเข้ารักษาในโรงพยาบาลทั่วโลกเพิ่มขึ้น การวิจัยทางระบาดวิทยา
ยังชี้ให้เห็นว่าสายพันธุ์เดลต้าอย่างน้อยแพร่เชื้อได้มากกว่ารุ่นอัลฟ่า 40% ผลการศึกษาชี้ว่า บุคคลที่ได้รับ
การฉีดวัคซีนครบถ้วนยังคงมีความเสี่ยงโดยการติดเชื้อที่ลุกลามกลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นเรื่อย ๆ  
เดลต้ากลายพันธุ์ที่ติดง่ายที่สุดที่ระบุได้จนถึงขณะนี้ ซีดีซี (ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา) 
ตอนนี้กล่าวว่าสายพันธุ์เดลต้าติดต่อได้ง่ายกว่าไข้หวัดธรรมดา ง่ายกว่าโรคฝีดาษ หรือแม้แต่อีโบลา 
และข้อมูลใหม่แสดงให้เห็นว่าปริมาณไวรัสในคนที่ฉีดวัคซีนแล้วที่ติดเชื้อนั้นเหมือนกันกับคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน
 - หมายถึงคนที่ฉีดวัคซีนแล้วก็ยังแพร่เชื้อได้ สายพันธุ์เดลต้ากำลังแพร่กระจายในมากกว่าสองในสาม
ของประเทศทั้งหมด ในประเทศแปซิฟิกตะวันตกคนมากกว่าหกล้านคนทั่วภูมิภาคได้ติดเชื้อด้วยอินโดนีเซีย
 ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงที่สุด การพุ่งขึ้นของการติดเชื้อกำลังผลักดันระบบสาธาณสุข
อย่างอันตรายใกล้กับสิ่งที่เราเรียกว่า"เส้นตาย" คนมากกว่า 100,000 คน ได้รับการรักษาโควิด-19 
ในโรงพยาบาลต่าง ๆ ในประเทศตอนนี้ เด็ก ๆ และวัยรุ่นในนิวเซาท์เวส์ นับเป็น 30% ของการติดเชื้อ
ในวิคตอเรียมันมากถึง 45% ด้วยการวิจัยแสดงว่า เด็ก ๆ อ่อนแอเป็นพิเศษต่อการติดเชื้อโควิดระยะยาว
อีกตัวเลขหนึ่งที่น่าตกใจ ! เด็ก ๆ ในโรงพยาบาลตอนนี้-  เด็ก 2,100 คนในประเทศ จำนวนสูงที่สุดในหนึ่งปี 
เดลต้ากำลังก่อ ...กำลังก่อให้เกิดโรคร้ายแรงแล้ว และอาจมีผลกระทบระยะยาวที่จะส่งผลต่อเด็กไปอีกนาน
หลายปี เรากำลังอยู่ในโลกโควิดในอนาคตที่เล็งเห็นได้ อันที่จริงมันไม่ชัดเจนว่าจุดจบของเกมนี้คืออะไร 
และการจบเกมอาจจะเลวร้ายกว่าที่เราเป็นอยู่ตอนนี้ เพราะมันไม่มีอะไรรับรองว่าเดลต้าเป็นสายพันธุ์ที่เลวร้าย
ที่สุดที่เราสามารถเห็นได้
   
          ถ้าคุณอ่านข่าวทุกหนแห่งผู้คนกำลังติดเชื้อง่ายขึ้นและเร็วขึ้นกว่าแต่ก่อน แม้แต่คนที่ฉีดวัคซีนแล้ว
สองโดสแล้วก็ยีงป่วยและเสียชีวิตเช่นกันในเวลาอันสั้นไม่นานรวมทั้งเด็ก ๆ แต่ก่อนเด็ก ๆ ยังรอดพ้นจาก
โควิด - ไม่มากก็น้อยแต่ตอนนี้เดลต้าไม่ละเว้นใคร และมันแพร่กระจายเร็วมากแม้แต่ใส่แมสและเฟสชีล
และทั้งหมดนั่น ถ้าคุณอยู่ในห้องหนึ่งนานเกินไปกับคนจำนวนมาก โดยเฉพาะถ้าใครป่วยในนั้น คุณจะติดมัน 
คุณอาจจะติดมันแล้วแต่คุณไม่คิดว่าติดเพราะคุณไม่แสดงอาการ นอกจากการระมัดระวังทั้งหมด 
คุณต้องถ่อมตนเสมอ สำนึกในบุญคุณที่คุณยังแข็งแรง สวดอธิษฐานให้คุณปลอดภัย สวดอธิฐานให้
มีการคุ้มครอง ถ้าคุณยังมีนิสัยที่เย่อหยิ่งแบบ "โอเค ฉันเป็นมังสวิรัติ ฉันเป็นวีแกน ฉันกินอาหารดิบ 
อะไรก็ตามแล้วฉันจะไม่ติด" ไม่ คุณอาจจะติด เพราะโควิด-19 โดยเฉพาะ เดลต้า พวกเขามีวิญญาณ 
อย่างในเครื่องบิน เป็นต้น แล้วพวกเขารู้ทุกอย่าง พวกเขาได้ยินทุกอย่าง พวกเขาจะมาหาคุณ ดังนั้น
คุณอาจจะติด แม้ว่าคุณเป็นวีแกนหรือกินอาหารดิบ หรืออะไรก็ตาม โดยเฉพาะถ้าคุณบอกคนอื่น บอกข้อมูล
คนอื่นผิด ๆ ว่า "โอเค คุณต้องเป็นอย่างนี้ คุณต้องทำอย่างนั้น แล้วคุณไม่สนใจ คุณไม่จำเป็นต้องใส่แมส 
เพราะมันไม่ดีต่อสุขภาพเพราะคุณเอาแต่จะคิดถึงความป่วย"  ไม่ คุณไม่ต้องคิดถึงความป่วย คุณไม่ต้องคิดว่า
คุณอาจจะติดมัน คุณเพียงระมัดระวัง การระมัดระวังนั้นดีต่อสุขภาพเสมอ เพราะถ้าคุณติดคุณอาจจะกระจายเชื้อ
ไปให้ผู้อื่น สมาชิกครอบครัวและทั้งหมดนั่น มันไม่ดีเพราะคุณอาจจะติด แต่คุณเป็นพวกไม่แสดงอาการ
แล้วคุณไม่รู้แล้วคุณก็เอาแต่โม้มากมาย แล้วคุณไปทุกหนทุกแห่งโดยไม่ใส่แมส หรือไม่ระมัดระวัง
แล้วคุณก็อาจจะติดเชื้อได้ คนจำนวนมากล้อเลียนคนที่ยอมรับโควิดและปฎิเสธว่าโควิดเป็นสิ่งสำคัญและจริงจัง
พวกเขาต่างก็ตายไปหมด มันอยู่ในข่าวทั้งหมด แม้เด็ก ใครก็ตาม คุณไม่สามารถไม่เคารพ ไวรัสประเภทนี้ได้ 
ถ้าคุณเกิดอยู่ในที่แออัดสักแห่งอย่างในเครื่องบิน ถึงแม้ว่าแต่ก่อน พวกเขาพูดว่า "มันยากมากที่คุณจะติดมัน 
โอกาสนั้นน้อยมากที่จะติดมันด้วยการโดยสารทางเครื่องบิน"  แต่ตอนนี้ผู้คนก็ติดมันทุกหนแห่ง และจำนวน
ผู้เสียชีวิตก็พุ่งขึ้น และจำนวนติดเชื้อของเด็ก ๆ ก็พุ่งขึ้นไม่เหมือนแต่ก่อน แล้วการเสียชีวิตของเด็ก ๆ 
ก็พุ่งขึ้นเช่นกัน โรงพยาบาลจำนวนมาก โรงพยาบาลรัฐจำนวนมาก เต็มพิกัด คนบางคนไม่ได้รับการยอมรับ
เข้ารักษาในโรงพยาบาล ถึงแม้ว่าพวกเขาจะป่วยมาก ดังนั้น ถ้าคุณป่วยแล้วคุณอยู่ในโรงพยาบาลแล้ว
ได้รับการดูแลรักษา นั่นนับเป็นพระพรของคุณ ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณสวรรค์สำหรับสิ่งนั้น
            ฉันให้การป้องกันเพิ่มเติมบางอย่างแก่คุณหรือยารักษาเพิ่มเติมและเคล็ดลับ ถ้าคุณอยากลองทานมัน
ระหว่างการทานยาที่แพทย์สั่ง อย่าทานพร้อมกันอย่างน้อย 30 นาทีหลังจากนั้นอย่าง ถ้าคุณมีมันหรือถ้าคุณ
ทำได้ คุณสามารถบดกระเทียมสดและใช้ประมาณหนึ่งช้อนชา สองครั้งต่อวัน เว้นระยะ 12 ชม. ถ้าคุณไม่มีสด
คุณสามารถกินผงกระเทียมแห้งก็ได้ ปริมาณคล้าย ๆ กัน มันจะได้ผลเช่นกัน แล้วคุณยังสามารถกินพวก 
วิตามิน ดี2 หรือ ดี3 (วีแกน) วิตามินอี และแน่นอน วิตามินรวมพร้อมอาหาร หวังว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยคุณ
ถ้าคุณต้องเดินทางระยะไกล และต้องพบปะคนอื่นอย่างในเครื่องบิน เป็นต้น ก่อนคุณไป คุณกินพวกนั้น
กินมันทั้งหมด แน่นอน มันจะกลิ่นไม่หอมแต่หลังจากนั้นคุณดื่มอะไรสักอย่าง คุณกินมิ้นต์เพื่อเจือจาง
กลิ่นกระเทียม มีส่วนผสมแก้ไข้หวัดใหญ่ด้วยที่เราเคยสอนคุณมาก่อน มันยังคงอยู่บนอินเตอร์เน็ต 
อาจจะในตำราอาหารของเราหรืออะไรสักอย่าง ดังนั้นกินมันและวิตามินเหล่านั้นและกระเทียมก่อนไป 
ดีกว่าเมื่ออาการเพิ่งเริ่ม ถ้าอาการยังคงอยู่หลังจาก 2 วัน คุณควรปรึกษาแพทย์ของคุณ ทั้งหมดนี่เพื่อการ
ป้องกันและเพิ่มพลังพิเศษเพื่อการฟื้นตัวไม่ใช่การทดแทนยาที่แพทย์สั่งมาให้สำหรับการติดเชื้อ ปรึกษา
แพทย์คุณเสมอ ถ้าอาการไม่บรรเทา นอกจากนี้คุณยังสามารถทานน้ำมะนาวบริสุทธิ์หนึ่งช้อนชา สองครั้งต่อวัน ทั้งหมดที่อาจช่วยคุณได้มากขึ้นดีกว่าไม่มีอะไร แม้ว่าพวกมันจะไม่ช่วย มันก็ไม่อันตราย อย่างน้อยก็ไม่เสียหาย 
สิ่งสำคัญก็คือคุณต้องอ่อนน้อมถ่อมตน คุณไม่สามารถมีทัศนคติที่ไม่ระมัดระวังและเย่อหยิ่งไม่ได้ คุณคิดว่า 
พวกอาหารดิบจะปกป้องคุณ ไม่ ไม่ ไม่ มันไม่ใช่อย่างนั้น มันอาจจะช่วยเพราะกรรมของคุณดีกว่า คุณยังมี
กรรมดีเหลืออยู่บ้างและพระพรของพระเจ้า ! แต่ถ้าคุณปะปนกันมากเกินไปกับคนจำนวนมาก คุณจะติดมัน
ไม่ใช่เพราะไวรัสไม่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วถ้าคุณรีบออกไปแต่เพราะคุณคลุกคลีกับคนมากเกินไป 
พลังงานที่แตกต่างกัน อาจจะเป็นระดับจิตวิญญาณที่ต่ำมากแล้วคุณจะได้รับมัน เพราะกรรมของคุณอาจ
ไม่เพียงพอที่จะครอบคลุม บางทีคุณอาจไม่ถ่อมตัวพอ พระเจ้าช่วยคนที่ช่วยตัวเอง อย่าเพียงพึ่งพาพระเจ้า
หรือสวรรค์เพียงอย่างเดียว ตุณต้องดูแลตัวคุณเองด้วย พระเจ้าไม่สามารถกินเพื่อคุณ เข้าใจไหม? 
พระเจ้าไม่สามารถขับรถของคุณได้ เข้าใจไหม? พระเจ้าไม่สามารถสวมเสื้อผ้าให้คุณได้ คุณมีร่างกาย
ภาพในมิติทางกายภาพ คุณต้องดูแลในโลกกายภาพในทางกายภาพ และพระเจ้าช่วย แน่นอน คุณต้อง
อธิษฐานตลอดเวลา จดจำห้าพระนามศักดิ์สิทธิ์ และอย่าคิดว่าคุณเป็นผู้บำพ็ญที่ดีและทั้งหมดนั้นแล้วคุณ
จะไม่ติดโควิด ไม่ คุณอาจจะไม้ได้ดีอย่างที่คุณคิด ถ้ากรรมของคุณหนักและคุณฝึกได้ไม่ดีทุกวันเพื่อป้องกัน
ตัวเอง แล้วคุณก็ยังอาจได้รับมัน ไม่ใช่แค่โควิดหรือเดลต้าอาจจะเป็นอย่างอื่น อ่อนน้อมถ่อมตนเสมอ 
สำนึกในบุญคุณและอธิษฐานขอความคุ้มครอง นั่นคือทั้งหมดที่คุณสามารถทำได้ ถ้าคุณยังติด งั้นก็หมายความ
ว่าคุณหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื้อกับไข่และปลาแต่ก่อนมาวิ่งไล่ตามคุณ เดลต้านั้นจริง ๆ มองหาผู้คน มันไล่ตาม
ติดตามคนจริง ๆ - ติดตามคนชั้นต่ำเหล่านั้นเพื่อแพร่เชื้อให้กับพวกเขา ดังนั้นให้แน่ใจว่าระดับของคุณนั้นสูง
ให้แน่ใจว่าคุณนั่งสมาธิได้ดีเช่นกัน วีแกนนั้นไม่เพียงพอดีกว่ากินเนื้อสัตว์ แน่นอน แน่นอน แต่มีหลายปัจจัย
ที่เกี่ยวข้อง ส่วนใหญ่ ชาววีแกนถ้าบริสุทธิ์และนอบน้อมถ่อมตนและสำนึกผิด พวกเขาจะได้รับการคุ้มครอง
มากกว่า แต่วีแกนอย่างเดียวไม่ใช่การป้องกันร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นการป้องกันที่ยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าคนที่กินเลือด
และเนื้อของสัตว์ แต่ยังไง ทัศนคติของเรา ความจริงใจ ความบริสุทธิ์ของเราก็มีอิทธิพลมากเช่นกัน 
เพราะกรรมที่เราแบกไว้จะดึงดูดกรรมประเภทต่าง ๆ และผสมกันกับพวกเขาในที่สาธารณะที่มีพลังงานต่าง ๆ 
มากมาย และผสมปนเป ต่ำ สูงและกลาง คุณไม่มีทางรู้ว่าใครเป็นใคร ที่จะนำพาเชื้อมาติดคุณ คนที่ยังไม่ติด
 : อย่าคุยโวเกินไป ขนาดฉันยังไม่กล้าเลย ถ้าฉันออกไปข้างนอก ฉันใส่แมส ส่วนใหญ่ฉันใส่มันอยู่แล้ว
ก่อนเกิดโรคระบาดด้วยซ้ำ ฉันใส่มันทุกที่ที่ฉันทำได้ ถ้าฉันออกไปคลุกคลีกับผู้คน ยกเว้นกับลูกศิษย์ ฉันใส่
น้อยลง ฉันใส่ใจน้อยลง เพราะฉันใส่แมสไม่ได้และเฟสชีลและทุกสิ่ง พวกเขามองไม่เห็นฉันและฉันก็พูดได้
ไม่ถนัดนัก แต่เมื่อฉันออกไปข้างนอกเหมือนเมื่อก่อน นานมาแล้ว เช่น ไปช้อปปิ้ง หรืออะไรก็ตาม ฉันพยายาม
ใส่แมสเวลาไปเที่ยวก็ใส่แมส แม้แต่เวลาอยู่ที่บ้านกับคนอื่น ฉันก็ใส่แมส ฉันบอก " เผื่อฉันป่วยแล้วฉันอาจจะ
ทำคุณติด" แล้วคนที่อยู่รอบตัวฉัน คนที่ทำงานจากนานมาแล้วจนถึงตอนนี้ หรือในร้านอาหาร ฉันมักจะแนะนำ
พวกเขาให้ใส่แมส และถุงมือและทั้งหมดนั่น เพียงเพื่อป้องกัน กันและกัน เราทำดีที่สุดของเราแล้วสวรรค์ทำ
ที่เหลือ อย่าเย่อหยิ่งมากหรือทะนงตนนัก แล้วคุณอาจจะได้แปลกใจมาก เซอร์ไพรส์ไม่ดีเสมอไป ดูแลตัวเอง
ให้ดีเรามีปัญหาใหญ่มาก ๆ ตอนนี้ ฉันหมายถึงทั้งโลก สายพันธุ์ใหม่ตัวแล้วตัวเล่า เดลต้านี่แรงมาก ดังนั้น 
หลาย ๆ ประเทศได้เปิดแล้ว คิดว่าการแพร่ระบาดนั้นลดลงแล้ว แต่หลาย ๆ แห่งต้องปิดอีกครั้ง เพราะเดลต้า
ตัวนี้เจ้าเล่ห์จริง ๆ ร้ายมาก ๆ ชั่วร้ายมาก ดังนั้น อย่าคิดว่ามันง่ายแล้วประมาท
         ลูกศิษย์ส่วนใหญ่นั้นปลอดภัย นอกจากคนที่ระดับต่ำหรือดูแลไม่ดี หรือกินอะไรผิดแล้วพวกเขาไม่รู้
ด้วยซ้ำ คุณรู้ไหม กินอะไรที่ไม่บริสุทธ์ หรือคลุกคลีกับคนที่ไม่บริสุทธิ์นักบ่อยเกินไป หรือนานเกินไปแล้วก็
จะป่วยได้เช่นกัน อย่าทดสอบพระเจ้า อย่าทดสอบสวรรค์ การประทับจิตใด ๆ : จำนวนคนน้อย ๆ นั่งห่าง ๆ 
และทำภายนอก ไม่ใช่ในห้อง ดูแลตัวคุณเอง จงนอบน้อมถ่อมตน จงอธิษฐาน จงสำนึกในบุญคุณ
ตลอดเวลา ตลอดเวลาแม้ว่าเราไม่มีโรคระบาด ก็สำนึกในบุญคุณ ถ่อมตนเสมอ
        ส่วนผสมแก้ไข้หวัดใหญ่ที่ฉันได้ทำแต่ก่อนนานแล้ว สำหรับกรณีที่ไม่รุนแรง มันสามารถช่วยได้
อย่างรวดเร็วมาก หรือสำหรับตอนเริ่มต้นของการติดเชื้อ ถ้าเป็นระยะยาวแล้ว มันอาจช่วยได้เช่นกัน แต่อาจจะ
สังเกตเห็นได้น้อย คุณสามารถลองได้ ไม่เสียหาย  มันไม่เสียหายเลย กระเทียมอาจมีกลิ่นเหม็นแต่คุณกิน
มิลต์บ้างหรืออะไรหลังจากนั้น ดื่มนมวีแกนกับมิ้นต์ -  สะระแหน่ หรือชากับสะระแหน่ เพื่อเจือจางกลิ่น
แล้วมันก็โอเค แม้ไม่ค่อยโอเคนัก แต่สิ่งนี้สามารถช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น มันไม่ทำร้ายคุณในทางใด ไม่มีผล
ข้างเคียงแต่อย่าทานมากกว่าที่แนะนำ เช่นเดียวกับวิตามิน คุณทานตามปริมาณหรือตามที่แพทย์บอกคุณ
เช่นเดียวกับกระเทียมและอื่น ๆ ก็ทานมันให้พอดี ๆ 
       แม้คุณมีกรรมดีแต่ถ้าคุณคลุกคลีกับผู้คนมากมายบ่อยเกินไป คนที่มีกรรมหนัก แล้วคุณจะแบ่งปันกรรม
ของพวกเขา แล้วคุณอาจจะได้รับมันเช่นกัน อาจจะไม่ติดเชื้อหนักเกินไป บางทีคุณอาจคิดว่ามันเป็นแค่ปวดหัว
หรืออะไรซักอย่าง แต่ถ้าคุณเห็นอาการใด ๆ และคุณสงสัย คุณต้องไปพบแพทย์ คุณต้องไปตรวจ 
คุณไม่สามารถพูดได้เพียงว่า "อ๋อ เพราะมันฝนตก หรือเพราะเป็นวันที่อากาศหนาวเย็น" ไม่ ไม่ ไม่ไม่
คุณต้องไปตรวจ ก่อนที่มันจะสายเกินไป ถ้าคุณยิ่งรู้เร็วขึ้น มันก็จะรักษาได้ง่ายขึ้น ถ้าคุณยิ่งรู้เร็วขึ้น
แม้แต่กระเทียมหรือยาแก้ไข้หวัดใหญ่ก็รักษาคุณได้ด้วย - กับการแยกตัวสามสัปดาห์ แน่นอน อย่างน้อย
สองสัปดาห์ แต่ถ้ามันนานมาแล้ว และคุณไม่รู้ด้วยซ้ำ หรือคุณคิดว่ามันก็แค่ไข้หวัดธรรมดา ๆ และคุณปล่อย
ให้มันนานเกินไป แล้วมันยากมากที่จะหายป่วย ที่จะเยียวยา เพราะปอดของคุณอาจจะเสียหายหรือหัวใจ
ของคุณ หรือแม้แต่สมองของคุณมันอาจสร้างความเสียหายให้กับระบบภายใน อวัยวะภายในของคุณแล้ว
จะรักษาให้หายได้ยาก หรือมันอาจทำลายหลายอวัยวะด้วยกัน ขึ้นอยู่กับว่ามันแย่แค่ไหน ขึ้นอยู่กับจำนวน
ของไวรัสที่คุณได้รับจากผู้อื่น จำนวนของไวรัสมีความสำคัญมากเช่นกัน เพราะบางครั้งคุณได้รับไม่มาก 
แล้วคุณจะรู้สึกแย่และหายขาดได้ง่าย นั่นคือเหตุผลที่คุณมีอาการเล็กน้อย แต่ถ้าคุณได้รับเยอะไวรัส
จำนวนมาก ๆ แล้วมันยากมากที่จะรักษาหาย มันอาจจะถึงตายได้เช่นกัน ดังนั้นจงระมัดระวังให้มาก ดังนั้น
อย่าคิดว่ามันง่ายแล้วประมาท เราทุกคนล้วนมีกรรมชั่ว จึงต้องจำไว้ 
        อยู่ดี ปลอดภัย ขอบคุณพระเจ้า รักคุณ รักพวกคุณทุกคน พระเจ้าอวยพร พระเจ้าอวยพรคุณ พระเจ้า
อวยพรโลกของเรา พระเจ้ารู้ พระเจ้ารู้ว่ามันยากแค่ไหนสำหรับทุกคนในตอนนี้ ไร้อิสระ ไร้งาน ไร้ความปลอดภัย
ไม่มีการรับประกันเกี่ยวกับทุกสิ่งเพียงเพราะดาวเคราห์ของเราเดือดร้อนจริงตอนนี้ มันเริ่มเร็วขึ้นและเร็วขึ้น
ฉันเป็นห่วงทุกคนจริง ๆ แต่เราจะทำอะไรได้? ฉันจะทำให้ดีที่สุด คุณก็เช่นกัน โอเค? ฉันพยายามอย่างเต็มที่
เพื่อช่วยคุณ เช่นกัน รักษาตัว พระเจ้ารัก โอเค แค่นี้แหละสำหรับตอนนี้ ขอให้พวกคุณทุกคนโชคดี
วัตถุดิบการทำชาสมุนไพรแก้โรค :
- น้ำเปล่า 650 มล. (3 ถ้วย)
- กานพลู 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
- ขิง 20 กรัม ( 1ออนซ์)(ประมาณนิ้วหัวแม่มือ)
- โป๊ยกั๊ก 2 ดอก
- อบเชย 10 กรัม (0.5 ออนซ์)
- กระเทียม 1 กลีบ
- น้ำตาลกรวด 50 กรัม (2 ออนซ์) (ตามชอบ)
วิธีการทำ
ล้างส่วนผสมด้วยน้ำ (ไม่รวมน้ำตาลกรวด) พักไว้ รวมส่วนผสมทั้งหมด ด้วยน้ำในหม้อ น้ำไปต้มด้วยไฟแรง
ลดความร้อนต่ำ และเคี่ยวนาน 20 นาที กรองกากตะกอนออก
* สำหรับ 2 ท่าน ส่วนผสม 2 เท่า
ชานี้มีประสิทธิภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ และเพื่อแก้อาการคัดจมูกน้ำมูกไหล
ติดตามรายละเอียดได้ที่ https://suprememastertv.com/th1/v/142713932595.html
1 สิงหาคม 2564 23:01 น.

ความปรารถนาสองประการ

คีตากะ

คาลิล ยิบราน เขียน
กิติมา  อมรทัต แปลและเรียบเรียง
     ในความสงัดแห่งรัตติกาล ความตายได้ลงมาจากพระผู้เป็นเจ้ามาสู่เมืองซึ่งกำลังหลับและนั่งลงบนหอคอย
ที่สูงที่สุดในเมืองนั้น มันมองทะลุกำแพงบ้านต่างๆ ด้วยนัยน์ตาอันสุกใสของมันและมองเห็นดวงวิญญาณกำลัง
ร่อนไปบนปีกแห่งความฝัน และร่างกายหลับไหลอยู่ในบ้านเหล่านั้น
      และเมื่อดวงจันทร์จางแสงลงยามใกล้รุ่งและเมืองถูกปกคลุมด้วยม่านอันงดงาม ความตายก็เดินด้วยฝีเท้า
อันแผ่วเบาไปท่ามกลางที่อยู่อาศัยเหล่านั้นจนกระทั่งมาถึงคฤหาสน์ของเศรษฐี มันก้าวเข้าไปข้างในโดยไม่มี
ใครหยุดยั้งมันได้ มันยืนอยู่ข้างเตียงแล้วแตะเปลือกตาของผู้หลับอยู่ เศรษฐีตื่นขึ้นอย่างตกใจ เมื่อเขามองเห็น
ภูติแห่งความตายยืนอยู่ต่อหน้าเขา เขาก็ร้องออกมาด้วยเสียงที่ระคนด้วยความกลัวและความโกรธ
     "จงออกไปเสียจากข้า เจ้าความฝันที่น่ากลัว ไปให้พ้นนะเจ้าผีที่ชั่วร้ายเจ้าเข้ามาได้อย่างไร ไอ้ขโมย 
เจ้าต้องการอะไร ไอ้ผู้ร้าย จงไปเสียให้พ้นเพราะข้าคือนายของบ้านนี้ ออกไปเสียเดี๋ยวนี้ มิฉะนั้นข้าจะเรียก
ทาสและคนยามของข้ามาฉีกเจ้าออกเป็นชิ้นๆ"
      ความตายเข้าไปใกล้แล้วพูดขึ้นด้วยเสียงดังเหมือนฟ้าฝ่า "ข้าคือความตาย จงรู้ไว้และทำตัวให้อ่อนน้อม"
       เศรษฐีมีอำนาจผู้นั้นถามว่า "เจ้าต้องการอะไรจากข้า? เจ้ามาหาอะไร? เจ้ามาทำไมในเมื่องานของข้ายัง
ไม่เสร็จสิ้น? เจ้าต้องการอะไรจากผู้มีอำนาจเยี่ยงข้านี้? จงไปหาคนเจ็บซิ ออกไปให้พ้น อย่ามาให้ข้าเห็นเล็บ
อันคมและขมวดผมซึ่งห้อยอยู่เหมือนกับขดงูของเจ้าเลย ไปให้พ้นนะเพราะข้าขยะแขยงต่อภาพปีกอันน่า
เกลียดกลัวและร่างน่ารังเกียจของเจ้านัก" แต่หลังจากเงียบไปด้วยความอึดอัดครู่หนึ่ง เขาก็พูดขึ้นอีกว่า
       "เปล่า เปล่าดอก ความตายผู้เมตตา โปรดอย่าสนใจในสิ่งที่ข้าพเจ้าพูดเลย เพราะความกลัวทำให้ข้าพเจ้า
กล่าวในสิ่งที่หัวใจของข้าพเจ้าห้าม จงรับเอาทองคำจากข้าพเจ้าหรือวิญญาณของทาสสักคนหนึ่งไปและปล่อย
ข้าพเจ้าไว้เถิด ข้าพเจ้ายังต้องคิดบัญชีกับชีวิตซึ่งยังไม่สัมฤทธิผล อีกทั้งบัญชีทรัพย์สินซึ่งคนทั้งหลายยังไม่ได้
รวบรวมมาให้ ข้าพเจ้ามีเรือเดินทะเลซึ่งยังมาไม่ถึงฝั่งและผลิตผลจากแผ่นดินซึ่งยังมิได้เก็บเกี่ยว ขอท่านจงรับ
เอาสิ่งที่ท่านต้องประสงค์และไปเสียเถิด ข้าพเจ้ามีนางบำเรอที่งดงามเหมือนดังอรุณรุ่งให้ท่านเลือก 
โอ้ความตายจงฟังต่อสักนิดเถิด ข้าพเจ้ามีบุตรชายคนเดียวซึ่งข้าพเจ้ารักเหมือนแก้วตา ท่านจะเอาเขาไปด้วย
ก็ได้ แต่จงปล่อยข้าพเจ้าเถิด"
       แล้วความตายก็เอามือวางลงบนปากของทาสแห่งโลกีย์ชีวิตผู้นี้ แล้วหยิบเอาแก่นชีวิตของเขาส่งไป
ในอากาศ
       ความตายเดินต่อไปยังถิ่นของคนจนจนกระทั่งมาถึงที่อยู่อันซอมซ่อหลังหนึ่ง มันเข้าไปข้างใน ไปยืนอยู่
ข้างเตียงซึ่งชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังนอนอยู่ หลังจากจ้องมองดูสีหน้าอันสงบของเขาแล้ว มันก็แตะเปลือกตา
ของเขาและชายหนุ่มก็ตื่นขึ้น และเมื่อเขามองเห็นความตายยืนอยู่เหนือเขา เขาก็คุกเข่าลงพลางยื่นมือ
ออกไปหา ด้วยเสียงอันเต็มไปด้วยความใฝ่ฝันถึง และความรักจากดวงจิต เขาได้พูดขึ้นว่า
       "ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว โอ้ความตายผู้งดงาม จงรับเอาดวงวิญญาณของข้าพเจ้าไปเถิด โอ้ความเป็นจริง
ของความฝันและเนื้อหาแห่งความหวังของข้าฯ จงโอบข้าฯ ไว้เถิด ที่รักแห่งดวงวิญญาณของข้าฯ เพราะท่านนั้น
แสนการุญและคงไม่ปล่อยข้าฯ ไว้ที่นี่อีก ท่านคือผู้สื่อสารแห่งปวงเทพ ท่านคือหัตถ์ขวาแห่งสัจจะ
        จงอย่าทิ้งข้าฯ ไปเลย ข้าฯ ได้แสวงหาท่านมานานแต่ไม่พานพบ ข้าฯ เรียกหาท่านแต่ท่านหาได้ยินไม่
แต่บัดนี้ท่านได้ยินข้าพเจ้าแล้ว ฉะนั้นจงอย่าตอบแทนความรักของข้าฯ ด้วยความเมินเฉย จงโอบเอาวิญญาณ
ข้าฯไว้เถิดความตายที่รักของข้าฯ"
        แล้วความตายก็วางนิ้วอันอ่อนโยนของมันลงบนริมฝีปากของเด็กหนุ่มและนำเอาแก่นแท้ของเขาสอดไว้
ใต้ปีกของมัน
        ขณะที่ความตายฝ่าอากาศกลับไปนั้น มันได้มองกลับมายังโลกนี้และได้เอ่ยถ้อยคำเหล่านี้มาตาม
ความว่างเปล่า
        "ผู้ใดมิได้มาจากสิ่งอันเป็นนิรันดร์ย่อมจักไม่กลับคืนสู่สิ่งอันเป็นนิรันดร์"
...........................................................................................................................
11 มีนาคม 2564 23:49 น.

หลุดพ้นจากระบบควบคุมระหว่างดาวเคาะห์ที่แข็งกระด้าง

คีตากะ

170655_20170723-Liberation_680x383-Eng-1                              
                                กล่าวโดย อนุตราจารย์ชิงไห่
                       ซีหู ฟอร์โมซา (ไต้หวัน)
                       23 กรกฎาคม (ปีทองที่ 14 พ.ศ. 2560 (ค.ศ. 2017))
                       (ต้นฉบับภาษาอังกฤษ) วิดีโอ 1119

 

โอเค โอเค มาพูดถึงอะไรในสวรรค์กัน เพราะโลกนี้บางครั้งก็ทำให้ฉันเบื่อหน่าย ผิดหวัง ท้อแท้จริง ๆ และจากความผิดหวังท้อแท้ หลายคนจึงทำสิ่งผิด ตรงกันข้าม เดิมทีพวกคุณทั้งหลาย คนใดก็ตามทุกคนเคยอาศัยอยู่ในระดับที่สูงมาก คุณบางคนมีกายเนื้อร่างอื่นด้วย บางคนไม่มี ขึ้นอยู่กับว่าคุณมาจากดาวเคราะห์ดวงไหน แต่ดาวเคราะห์ทั้งหลายที่คุณจากมา ล้วนแต่ล้ำหน้ามากกว่าดาวเคราะห์ดวงนี้มาก ๆ ๆ มายนัก สะดวกสบายกว่ามาก การดำรงชีวิตมีมาตรฐานสูงกว่าและมีระบบระเบียบดีมาก ๆ

แต่โชคไม่ดี ยังไงก็แค่ดาวเคราะห์ จะมีเจ้าผู้ปกครองอยู่ที่ใดที่หนึ่ง จะมีผู้ปกครอง มีรัฐบาล และจะมีกฎระเบียบและสังคมที่ถูกปกครอง และถ้าคุณฉลาดกว่าผู้ปกครองคนนั้นนิดหน่อย ฉลาดกว่ารัฐบาล ฉลาดกว่าอำนาจที่มีอยู่ที่นั่น ฉันหมายถึงดาวเคราะห์เหล่านี้ไม่ใช่… ฉันไม่ได้กำลังพูดถึงดาวเคราะห์ที่หลุดพ้นแล้ว ฉันไม่ได้พูดถึงที่ที่คุณจะไปหรือที่ที่คุณจะไปอยู่นะ ที่ที่ฉันจะพาคุณไปนั้นไม่ใช่ดาวเคราะห์ แต่เป็นการดำรงอยู่ในระนาบแห่งจิตวิญญาณ ที่นั่นคุณไม่ต้องมีกายเนื้ออีกต่อไป ไม่ว่ากายเนื้อแบบใด คุณจะประหลาดใจถ้าคุณไปเที่ยวดาวเคราะห์เหล่านี้บางดวง พวกเขาอาจมีเทคโนโลยีก้าวหน้าสูงมากและล้ำเลิศ  ทุกสิ่งที่เรามีที่นี่ แม้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้วในตอนนี้ ก็ยังเป็นขยะมาจากดาวเคราะห์อื่นเลย

มนุษย์ส่วนใหญ่มาจากดาวเคราะห์ที่ก้าวหน้าสูงมาก แต่พวกเขาสูญเสียความทรงจำ หลังจากดื่ม “น้ำซุป” ชนิดหนึ่ง

เหตุผลและข้อพิสูจน์ที่ว่า คุณมาจากดาวเคราะห์ที่มีความก้าวหน้าสูงกว่าและมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า ก็คือ การที่คุณมาอยู่ที่นี่ เพราะถ้าไม่ใช่แบบนั้น คุณก็จะมาที่นี่ไม่ได้ แต่คุณถูกส่งมาที่นี่ คุณถูกเนรเทศมาที่นี่ได้ ก็ด้วยเทคโนโลยีระดับสูงและด้วยน้ำซุปที่คุณดื่มก่อนมา พวกเขาบังคับให้คุณดื่ม ทุกประเทศรู้จักน้ำซุปชนิดนี้ดี มันมีชื่อเสียง พวกเขาทุกคนดื่มมัน และบางคนยังจำได้ บางคนอาจดื่มถ้วยสุดท้ายที่มีน้ำซุปเหลือเพียงนิดเดียว ดังนั้นพวกเขาจึงยังจำได้บ้างเล็กน้อย อย่างไรก็ตามปกติแล้ว ดาวเคราะห์เหล่านี้ส่วนใหญ่จะแข็งกระด้างมาก และระเบียบจัด พวกเขาไม่ชอบนักปฏิวัติ พวกเขาไม่ชอบข้อเสนอความคิดใหม่ ๆ พวกเขาไม่ชอบคนอัจฉริยะ ไม่ชอบนัก ถ้าคุณไม่ทำงานร่วมกับรัฐบาลและไม่อุทิศตนให้กับเทพเจ้าองค์นั้น เจ้าผู้ปกครองดาวดวงนั้น คุณก็จะมีปัญหา บางทีพวกเขาอาจจะตักเตือนคุณในตอนนั้น หรือพวกเขาอาจจะแค่ส่งคุณลงไปที่อื่น ที่อื่นที่ไม่ได้อยู่ในดาวเคราะห์ของพวกเขา พวกเขาไม่ชอบอะไรที่จะทำให้เกิดความคิดไปเปลี่ยนแปลงระบบ หรือท้าทายอำนาจของบัลลังก์ หรืออะไรทำนองนั้น เกือบจะเหมือนดาวโลกของเราเลย ต่างกันที่พวกเขามีเทคโนโลยีในการควบคุมมากกว่า และประชาชนคนธรรมดาที่นั่นก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากต้องยอมรับสถานการณ์แบบนั้นหรือไม่ก็ถูกส่งไปที่อื่น

ผู้คนมากมายบนดาวเคราะห์แห่งนี้ (ดาวโลก) บางครั้งพวกเขาก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้น หรือบางครั้งพวกเขาก็จดจำสิ่งที่เคยทำมาก่อนได้เองในฝันหรือในนิมิตของเขา พวกเขาจดจำเทคโนโลยีได้ แต่แม้ว่าพวกเขาจะจำได้ เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่นี่ก็เทียบไม่ได้กับบนดาวเคราะห์เดิมที่พวกเขาจากมา  ดาวเคราะห์ที่พวกเขาจากมานั้น มีทั้งสิ่งมีชีวิตที่มองเห็นและมองไม่เห็น สิ่งมีชีวิตที่มองไม่เห็นมีพลังและมีเกียรติยศมากกว่าสิ่งมีชีวิตที่มองเห็น ดังนั้นพวกเขาจะควบคุมสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นอย่างกับพลเมืองชั้นหนึ่ง และคนที่มีกายเนื้อโดยปกติจะทำงานธรรมดาและทำงานที่ไม่สำคัญนักในสังคมนั้น และเคราะห์ร้ายจะเกิดขึ้นกับชนชั้นต่ำในดาวเคราะห์เหล่านั้น ถ้าพวกเขาพยายามสิ่งใดที่แตกต่างออกไป ที่ทำให้รัฐบาลหรือเจ้าผู้ปกครองที่นั่นหัวเสีย พวกเขาก็จะถูกเนรเทศ อย่างเช่น เนรเทศมายังดาวเคราะห์ของเรา (โลก)

มนุษย์ไม่ได้วิวัฒนาการมาจากลิง แต่ถูกสร้างโดยบริษัทต่าง ๆ

แต่ก่อน เราเคยถูกควบคุมมากกว่านี้ด้วยซ้ำจากระบบของดาวเคราะห์อื่น พวกเขามีเทคโนโลยีสูงกว่า มีพลังการสะกดจิตสูงกว่า ดังนั้นพวกเขาทำให้เราลืมทุกอย่าง และเราไม่สามารถออกไปจากดาวโลกดวงนี้ได้เลย นอกจากว่ามีอาจารย์ลงมาและพาคุณไปบนถนนภายในไม่ใช่ภายนอก แต่อาจารย์คนใดที่ลงมาที่นี่ ท่านก็จะทุกข์ทรมานอย่างมาก หรือไม่ก็จะตายเร็ว เช่น พระเยซู แม้แต่พระพุทธเจ้าเอง ในครั้งนั้นพระองค์ก็ทุกข์ทรมานอย่างมาก ถูกใส่ร้ายหรือถูกทำให้บาดเจ็บ และบางครั้งก็หิวโหยและมีความยุ่งยากทุกรูปแบบ และอื่น ๆ อีก ก็เพราะผู้คนเหล่านี้ อาจารย์ทั้งหลายเหล่านี้จึงพยายามอย่างหนักเพื่อช่วยเหลือคนที่ต้องการกลับบ้านจริง ๆ เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าพวกเขามาจากไหน บอกฉันหน่อยซิว่าคุณมาจากไหน คุณรู้ไหมว่าคุณมาจากที่ไหน แน่ใจหรือ  มิสเตอร์ดาร์วิน บอกว่าเรามาจากลิง นั่นไม่จริงนะ เราไม่ได้มีอะไรที่ดูเหมือนลิงเลยใช่ไหม อาจจะมีบางคน แต่ว่า… 1 หรือ 2 หรือ 3 คน แต่ก็ไม่ได้เหมือนซะทีเดียว แม้ว่าคนเหล่านั้น อาจจะมีบางคนที่ดูคล้าย ไม่รู้สิ ดูคล้ายกับลิงอุรังอุตังหรือคล้ายลิงนิดหน่อย ดูคล้ายพวกวานร ไม่ใช่เพราะพวกเขามาจากลิงหรือวิวัฒนาการมาจากลิงหรอกนะ แต่เป็นเพราะพวกเขาถูกสร้างขึ้นมาในรูปลักษณ์แบบนี้

บนดาวโลกของเรา เรามีบริษัทมากมาย เราสร้างคอมพิวเตอร์ บริษัทคอมพิวเตอร์ บริษัทซอฟท์แวร์ และทุกวันนี้พวกเขาพยายามกระทั่งสร้างบริษัทโคลนนิ่งแกะ ในไม่ช้าพวกเขาอาจจะโคลนนิ่งมนุษย์ ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาจะสร้างแฟรงเกนสไตน์แบบไหน แต่พวกเขากำลังพยายามที่จะเป็นพระเจ้า พวกเขากำลังพยายามรู้สึกให้เหมือนพระเจ้า ดังนั้นอย่างไรก็ตาม เพราะพวกเขาจดจำที่เคยอยู่บนดาวเคราะห์อื่นมาก่อนได้ พวกเขาเคยทำบางสิ่งที่ทำงานได้ วิ่งได้ พูดได้เหมือนกับเราหรือเหมือนสัตว์ที่เราเห็น บริษัทเหล่านี้ ตอนที่เรายังมีระบบระหว่างกาแล็กซีเชื่อมต่อกัน ก่อนที่จะเกิดสงครามกาแล็กซี เรามีระบบระหว่างดาวเคราะห์ต่าง ๆ ซึ่งผู้คนสามารถสั่งสิ่งของต่าง ๆ ได้ ก็เหมือนกับคุณสั่งซื้อคอมพิวเตอร์จากไมโครซอฟท์หรือแอปเปิล คุณสามารถสั่งซื้อทางออนไลน์หรือไปดูสินค้าเองที่นั่น แล้วตกลงว่าซื้อหรือไม่ซื้อ

ดังนั้นในสมัยก่อน ดาวเคราะห์มากมายคล้ายคลึงกับดาวโลกเรา ซึ่งตอนนั้นยังว่างเปล่าอยู่ เมื่อดาวเคราะห์นั้นเริ่มเย็นลง เมื่อดาวหางของแกแล็กซีใดหรือที่เรียกว่ากลุ่มก๊าซรวมตัวเข้าด้วยกัน แล้วเริ่มเย็นลง แล้วแข็งตัว กลายเป็นดาวเคราะห์เหมือนแบบนี้ แล้วมันก็ว่างเปล่า อาจจะมีจุลินทรีย์หรือสิ่งเล็ก ๆ อยู่บ้าง ฉันไม่ทราบว่าอะไร แต่มันร้อนเกินไปและเต็มไปด้วยก๊าซ ไม่มีใครสามารถ… ไม่มีพื้นดินแข็ง ๆ ให้เดินหรือให้ทำอะไรเลย และจากนั้นผู้คนมากมายจากดาวเคราะห์อื่นก็เริ่มเข้ามาควบคุมดาวเคราะห์ใหม่นั้น ใครไปถึงก่อนก็ได้ไป เหมือนกับเวลาเรามีแผ่นดินใหม่ อะไรทำนองนั้น และเราอ้างสิทธิ์เป็นของเรา ปัจจุบันผู้คนอ้างสิทธิ์ดวงจันทร์เป็นของตัวเองและขายมันด้วยซ้ำ แบ่งขายทีละผืน ใช่ ชาวอเมริกันนั่นแหละ คุณไม่รู้หรือ คุณก็ซื้อพระจันทร์ได้แล้วนะ แต่ไม่ใช่ทั้งดวง มันแพงเกิน แต่ว่าคุณสามารถซื้อสักผืนหนึ่ง ขึ้นอยู่กับว่าที่ไหนและราคาเท่าไร จริง ๆ นะ ! มีดาราภาพยนตร์บางคน พวกเขาซื้อมันแล้วด้วย ฉันเคยคิดจะซื้อไว้บ้าง เผื่อฉันสุดจะทนกับพวกคุณ ฉันจะได้หนีไปซ่อนที่นั่น ไม่หรอก เพื่อจะอะไรกันล่ะ

ฉันได้หมด ฉันชอบดาวเคราะห์ (โลก) ดวงนี้ มันดีนะ ไม่ว่าฉันไปที่ไหน ฉันก็ชอบมันทุกที่ มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ และนี่เป็นปัญหาของฉัน ถ้าฉันไปที่ไหน ฉันจะไม่ชอบย้ายไปที่อื่น นอกจากว่าฉันเจอความยุ่งยากหรือมีเหตุผลบางอย่างที่ต้องไป ฉันไม่ต้องการไปที่อื่นใด ไม่ว่าที่ ๆ ฉันอยู่นั้นจะเป็นถ้ำ ถ้ำธรรมชาติที่มีน้ำจำกัดมาก หรืออาคารสวยงาม หรือทะเล หรือบนภูเขา ที่ไหนสักแห่งที่ผู้คนไม่อยากอยู่ด้วยซ้ำ แม้กระทั่งในทะเลทราย ฉันเคยอยู่ในทะเลทรายครั้งหนึ่ง ฉันไม่อยากย้ายไปที่อื่น เพราะอยู่ที่นั่นมันรู้สึกสุขสบายจริง ๆ ฉันอาศัยอยู่ในถ้ำ แล้วผู้พำนักบางคนบอกกับฉันว่า “เหตุใดท่านจึงไม่ไปอยู่ในบ้านอื่นล่ะ มันสบายกว่า มันถูกสร้างไว้ให้ท่านนะ”  ฉันบอกว่า “ฉันเคยชินกับที่นี่แล้ว” ขี้เกียจมากที่จะย้ายข้าวของอยู่นั่น ถ้ำไม่ได้มีของเยอะ แต่ก็ยังคงต้องย้ายอยู่ดี การย้ายบ้านเป็นหนึ่งในความเครียดหลัก 4 ประการเลย คุณรู้เรื่องนั้นใช่ไหม ฉันไม่ย้ายไปจากถ้ำของฉัน ดังนั้นฉันจึงบอกกับชายคนนั้นว่า ฉันเป็นมนุษย์ถ้ำ และเขาก็แค่หัวเราะ อย่างไรก็ตามนั่นเป็นความจริง โอเค ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น ฉันแค่อยากทำให้เขาตกใจกลัวและหนีไป แต่เขาไม่เข้าใจ ฉันไม่อยากบอกเขาว่าฉันเป็นใครและฉันทำอะไร ฉันจึงหยุดพูดแค่นั้น ถ้าเขารู้ เขาอาจจะกลัวก็ได้ ฉันแค่ไม่อยากบอกใครว่าฉันจะไปที่ไหน ฉันชอบที่จะไม่เปิดเผยตัวตน มันสบายใจกว่า ผู้คนจะปฏิบัติกับคุณเป็นปกติธรรมดา พวกเขาจะไม่ทำมากเกินไปหรือน้อยเกินไป พวกเขาจะไม่เล่าเรื่องต่าง ๆ มากมายที่คุณไม่อยากฟัง

โอเคนะ ตอนนี้ โอเค เรากลับไปที่ลิงคิงคองกัน ถ้าบางคนบังเอิญหน้าคล้ายเพื่อนลิงของเรา นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพ่อแม่ของเขาวิวัฒนาการมาจากลิง หรือมีอะไรเกี่ยวข้องกับคิงคองนะ คุณดูภาพยนตร์สิ มันไม่ใช่อย่างนั้น มันไม่ใช่ว่าเขารักเจนและเขาดูแลเธอ แล้วอาจจะมีคิงคองน้อยออกมาบ้าง มันไม่ใช่อย่างนั้น ไม่ใช่ เราไม่สามารถวิวัฒนาการมาจากสัตว์ เพราะพวกเขาแตกต่างไป ทำขึ้นมาแตกต่างกัน วิญญาณน่ะเหมือนกัน แค่รูปร่างอาจจะแตกต่างกัน โอเค ดีละ เราไม่จำเป็นต้องวิวัฒนาการมาจากสัตว์ เพราะเราเป็นมนุษย์อยู่แล้ว เราได้ถูกสร้างมาในรูปร่างมนุษย์ ดังนั้นดีเอ็นเอของเราเป็นมนุษย์ และถ้าเราส่งต่อให้กับรุ่นต่อไป มันก็เป็นดีเอ็นเอเดิม มันคือดีเอ็นเอของมนุษย์ เข้าใจไหม เข้าใจหรือไม่ เข้าใจนะ โอเค ดังนั้นเหตุผลที่ทำไมผู้ชายหรือเด็กหญิงคนนั้นจึงหน้าตาคล้ายเพื่อนลิงของเรา ก็เพราะเขาหรือเธอมาจากบริษัทที่สร้างทั้งมนุษย์ ลิง และคิงคองเหล่านี้พร้อม ๆ กันในบริษัทเดียวกัน ศิลปินคนเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงชอบรูปลักษณ์แบบนั้น บางครั้งเขาจึงสร้างลิงและมนุษย์ออกมาคล้าย ๆ กัน ดังนั้นบางครั้งเรามองลิงและมองตัวเอง และก็คิดว่า “โอ ! ดูเหมือนกันเลย” นั่นไม่ใช่ว่าฉันมาจากลิงนะ

ท่ามกลางสิ่งมีชีวิตที่มีกายเนื้อบนดาวเคราะห์ต่าง ๆ มนุษย์สวยงามที่สุด

และจำนวนมากมาย… คุณทั้งหลายและผู้คนข้างนอกนั่นและสัตว์ต่าง ๆ เกือบ 99% ถูกส่งมาจากที่อื่นมาทางอวกาศ มายังดาวเคราะห์โลกแห่งนี้ เมื่อครั้งดาวโลกยังอยู่ในช่วงแผนการสร้างเริ่มต้น ยังใหม่เอี่ยม และตอนเริ่มต้น พวกเขามีไดโนเสาร์และทั้งหมดนั่น โอเค และพวกเขารู้สึกว่ามันยังไม่ดีนัก พวกเขาจึงทำให้เกิดน้ำท่วมหรือความทุกข์ยากต่าง ๆ เพื่อให้ไดโนเสาร์สูญสิ้นไป และแล้วผู้ปกครองหรือพลเมืองของดาวโลก ซึ่งตอนนั้นมองไม่เห็นตัว สามารถบินได้ มีเวทมนต์ พวกเขาทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากมาย แต่รู้สึกเหงา พวกเขาต้องการอย่างอื่นอีก พวกเขาไม่ต้องการไดโนเสาร์อีกต่อไป ดังนั้นพวกเขาจึงสั่งอย่างอื่นมา ขึ้นอยู่กับเหล่าศิลปินว่าสรรค์สร้างอะไร แล้วพวกเขาก็ไปดูว่าชอบมันไหม ปรากฏว่าชอบ ดาวเคราะห์มากมายชอบรูปลักษณ์แบบเรา ชอบหน้าตาแบบนี้ มันทันสมัยมาก คุณจะประหลาดใจเพราะดาวเคราะห์มากมายไม่มีผู้คนหน้าตาแบบเรา พวกเขามีสิ่งมีชีวิตที่มีกายเนื้อ พวกเขาอาจจะแค่เดินได้ พูดได้ หรือทำสิ่งต่าง ๆ ได้เหมือนเรา หลาย ๆ ดาวก็เหมือนกับเราเช่นกัน แต่ทว่า ก่อนที่มนุษย์ถูกสร้างขึ้น พวกเขาไม่ได้เป็นอย่างนั้น พวกเขาดูต่างไป บางที… ฉันไม่รู้จะอธิบายคุณอย่างไร คุณอาจลองไปดูภาพยนตร์สงครามดาวเคราะห์ของลูคัส ชื่ออะไรนะ ฉันลืม ชื่อ “สตาร์ วอร์ส” อะไรอย่างนั้น ดูคล้าย ๆ กันละ ! โอเค จริง ๆ นะ  ดังนั้นเราชาวมนุษย์เป็นสิ่งสร้างที่สวยงามที่สุด เป็นอย่างนั้นจริง ๆ  โอ ฉันเคยเห็นพวกเขา พวกเขาไม่สวย ฉันหมายถึง ตามความคิดของฉันนะ แน่นอนว่า ความงดงามจะอยู่ในสายตาของผู้ที่ชื่นชอบอย่างแน่นอน แน่นอน แต่ในความคิดของฉัน ฉันยังคิดว่ามนุษย์สวยงามที่สุดในบรรดาสิ่งมีชีวิตที่มีกายเนื้อทั้งมวล สมบูรณ์ที่สุด ด้วยระบบประสาทที่ละเอียดอ่อน กับความฉลาด กับพลังสร้างสรรค์ แม้กระทั่งพลังวิเศษด้วย

ความแตกต่างระหว่างพลังวิเศษกับพลังอัตโนมัติที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติหลัง                การประทับจิต

ดังนั้นคุณรู้แล้วนะว่า บางคนยังมีพลังวิเศษอยู่ มันเป็นเรื่องจริง เพราะพวกเขามาจากดาวเคราะห์อื่นที่มีเวทมนตร์ ที่ใช้เวทมนตร์เสกสิ่งต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา จึงทำให้พวกเขาบางคนมาอยู่ที่นี่ และด้วยวิธีใดก็ตามความสามารถของพวกเขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้น แค่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาในตัวพวกเขาด้วยสถานการณ์พิเศษบางอย่าง หรือพวกเขาไปเรียนรู้จากผู้อาวุโสบางคนที่รู้เรื่องเวทมนตร์และเป็นเชื้อสายอยู่แล้ว และพวกเขาก็มีมันอยู่ในตัวอยู่แล้ว จึงถูกปลุกให้ตื่นขึ้นในตัวพวกเขา อันที่จริงคุณทุกคนก็มีพลังวิเศษอยู่บ้าง บางคนมีมาก บางคนมีน้อย แต่คุณถูกใส่กุญแจขังไว้ คุณถูกลบความทรงจำไปหมด ว่าคุณเป็นใครและคุณมาจากไหน และคุณทำอะไรได้บ้าง ทั้งหมดจบสิ้น ดังนั้นนั่นคือเหตุที่ตอนประทับจิต ฉันบอกคุณว่าถ้าคุณมีพลังวิเศษ จงอย่าใช้มัน ถ้ามันถูกปลุกให้ตื่นขึ้น ก็จงอย่าใช้มัน เพราะเช่นนั้น อาจจะทำให้คุณถูกดึงกลับไปยังดาวเคราะห์ดวงเดิมของคุณ ซึ่งไม่ใช่ดาวเคราะห์ที่รู้แจ้งแล้ว ดาวเคราะห์ที่รู้แจ้งแล้ว พวกเขาไม่จำเป็นต้องใช้เวทมนตร์ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเองตามธรรมชาติ  ดังเช่นพระเยซู ใครบางคนแตะเสื้อผ้าของพระองค์ แล้วพวกเขาก็หายจากโรคร้าย และพวกเขาก็ยกย่องและขอบคุณพระองค์ พระองค์ตรัสว่า “ความศรัทธาของท่านเองทำให้ท่านหายจากโรค” หรือ “พระเจ้าทรงรักษาท่านผ่านตัวเรา” พระองค์ไม่ได้ใช้เวทมนตร์

ดังนั้นอะไรก็ตามที่คุณได้รับจากฉัน ทั้งก่อนหรือหลังประทับจิต หรือระหว่างประทับจิตก็ตาม นั่นเป็นเพราะทั้งหมดนั้นออกมาเองตามธรรมชาติ ทั้งหมดนั้นไม่จำเป็นต้องท่องมนตร์หรือทำมือมุทราอะไร ไม่ต้องจงใจทำอะไรเพื่อรักษาคนนั้นคนนี้ หรือช่วยเหลือคนนั้นคนนี้ นั่นยุ่งยากเกินไปถ้าคุณต้องใช้เวทมนตร์ มันจำกัด จำกัดเกินไป คุณจะสามารถใช้ได้กับแค่บางคน มากที่สุดอาจจะ 10 คน แต่คุณไม่สามารถใช้มันได้กับทุกคน ทุกเวลา ทุกสถานการณ์ ไม่สามารถใช้มันได้อย่างอัตโนมัติ คุณรู้ไหม อะไรที่ได้จากการประทับจิตไม่ต้องใช้แม้แต่เศษเสี้ยววินาทีเพื่อให้เกิดผล แต่พลังเวทมนตร์นั้นจะใช้เวลานานกว่า และคุณจะต้องฝึกฝนนานมากเพื่อจดจำมนตรานี้ให้ได้ เพื่อทำท่าทางอย่างนี้ สิ่งต่าง ๆ ทั้งหมดนี้ใช้เวลาหลายต่อหลายปีเพื่อให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ ยกเว้นคนที่มีความสามารถด้านพลังวิเศษมาแต่กำเนิด เพราะคุณสมบัติเดิมของพวกเขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาก่อนแล้ว ก่อนที่พวกเขาจะมายังดาวเคราะห์นี้ บางทีพวกเขาอาจจะเพิ่งมาจากดาวอื่นใหม่ ๆ เพิ่งถูกเนรเทศมา ถูกส่งลงมา และกลับไปไม่ได้ ใครก็ตามที่ถูกส่งมายังดาวเคราะห์โลกแห่งนี้จะถูกสาปตลอดไป

โลกถูกควบคุมอย่างแน่นหนา ด้วยพลังเทคโนโลยีชั้นสูงที่เหนือกว่าทุกชนิด

การอยู่ที่นี่ ให้ทำอะไรก็ตามที่คุณทำ พยายามอย่าสร้างปัญหา เพราะถ้าคุณสร้างปัญหา คุณก็จะยุ่งยากมากขึ้น คุณกลับไปดาวเคราะห์ของตัวเองไม่ได้อีกแล้ว เพราะพวกเขาไม่เอาคุณแล้ว นั่นคือปัญหา นั่นคือเหตุผลที่คุณกลับไปไม่ได้อีก ยกเว้นมีอาจารย์ลงมาจากระดับที่สูงกว่า และรู้หนทาง รู้ความลับ และมีพลังมากพอที่จะทำมัน เพราะดาวโลกแห่งนี้ถูกขังไว้ด้วยพลังเทคโนโลยีชั้นสูงทุกชนิดที่ดูเหมือนจะเป็นอำนาจเวทมนตร์ แต่มันไม่ใช่นะ ดาวเคราะห์โลกนี้ สิ่งนี้เราเรียกว่า… อำนาจนี้ เราเรียกว่า มายาหรือพลังมาร จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่พลังมารหรอก แต่พวกเขาแค่มีเทคนิค พวกเขาแค่มีพลังจิต พลังการควบคุม พวกเขาเรียนรู้มัน คุณก็เรียนรู้ได้เช่นกัน หลายคนสามารถสอนคุณได้ สอนการสั่งจิตหรือเดินบนถ่านร้อนโดยไม่ไหม้ คุณรู้ทั้งหมดนั้นใช่ไหม หลายคนยังสอนวิธีสร้างฝนให้คุณได้ด้วยเวลาที่ฝนไม่ตก และสามารถสร้างลม หรือสร้างความยุ่งยาก อะไรอย่างนั้น  บางครั้งจู่ ๆ ก็เกิดแผ่นดินไหวหรือไต้ฝุ่นนอกฤดูกาลขึ้นมา เพราะใครบางคนกำลังเล่นกับหายนะ สร้างความเสียหายรุนแรงขึ้นบนดาวโลก แค่เพื่อสนุกสนานหรือเพื่อเหตุผลบางอย่าง หรือบางทีเพื่อแข่งขันกัน หรือเพียงเพื่อทำร้ายใครบางคน และคนนอกที่ไม่เกี่ยวก็พลอยเดือดร้อนและได้รับอันตรายจากมันไปด้วย อย่างไรก็ตามฉันไม่แนะนำให้คุณเรียนพลังวิเศษใด ๆ แบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นพลังวิเศษสายขาว ซึ่งหมายถึงถ้าคุณมีมันแล้ว คุณจะไม่ใช้มันก็ไม่ได้ ควบคุมยากมาก และพลังวิเศษสายขาวก็เข้าไปรบกวนธรรมชาติ รบกวนขั้นตอนของธรรมชาติเช่นกัน และจากนั้นมันจะย้อนกลับมาหาในทิศทางตรงข้าม

ระยะนี้ บางครั้งดาวเคราะห์อื่นก็ส่งแรงสั่นสะเทือนที่ไม่ดีมายังโลกเรา หรือส่งไปยังดาวเคราะห์อื่น แค่เพื่อก่อความวุ่นวายด้วยเหตุผลบางประการ หรือบางครั้งพวกเขาต้องการเอาร่างมนุษย์ไปอยู่ที่นั่น นั่นคือเหตุที่คนบางคนดูเหมือนถูกเข้าสิงหรืออะไรบางอย่าง มีเรื่องแบบนั้นนะ และพวกเขาควบคุมจิตใจคน บางครั้งพวกเขาก็ทำให้คนเหล่านั้นทำเรื่องแย่ ๆ และพอคนเหล่านั้นตื่นขึ้นมาหรือถูกปลุกให้ตื่น พวกเขาก็จำไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่าทำอะไรลงไปบ้าง เป็นอย่างนั้นจริง ๆ อย่างไรก็ตาม ฉันจะพูดเรื่องที่คุณไม่อยากฟังเยอะแยะไปทำไม คุณอยากฟังต่อไหม (ตอบ : อยากค่ะ/ครับ) โอเค ถึงตอนนี้ แม้ว่าคุณอยากจะกลับบ้าน แม้ว่าคุณจำบางอย่างได้และอยากกลับบ้าน คุณก็กลับไม่ได้แล้ว ทันทีที่คุณออกจากร่างไป บุคลากรของฝ่ายเทคโนโลยีชั้นสูงจะเข้าจับกุมคุณ จับกุมแก่นแท้ของคุณซึ่งก็คือวิญญาณ แล้วใส่คุณกลับเข้าไปในอีกร่างหนึ่งเช่นเคย และทำให้คุณลืมอีกเหมือนเดิม อำนาจวิเศษที่ควบคุมจิตใจของเราชนิดนี้มีฤทธิ์อยู่ได้ราวร้อยกว่าปี พวกเขาก็เลยไม่ให้คุณมีชีวิตอยู่นาน ถ้าคุณมีชีวิตอยู่นาน ก็จะมีบางอย่างเกิดขึ้น ทำให้คุณตายเร็ว  มีคนพิเศษบางคนสามารถมีชีวิตยืนยาวกว่าปกติ มันเป็นเรื่องจริงเช่นกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะหลุดพ้นจากโลกกายภาพแห่งนี้

อ้อ ! อีกอย่างหนึ่ง ในดาวโลกเรานี้ เรายังมีสิ่งมีชีวิตที่มองไม่เห็นด้วย คุณรู้ใช่ไหม เราเรียกว่า “ผี” หรือ “วิญญาณ” หลายคนมองเห็นพวกเขา เป็นเหมือนกันกับดาวเคราะห์อื่น ที่มีทั้งสิ่งมีชีวิตที่มองเห็นและมองไม่เห็น แต่ไม่ใช่ทุกดาวเคราะห์จะมีหน้าตาแบบเดียวกับเรา และเมื่อพวกเขาลงมาที่นี่ พวกเขาก็อาจใช้เวทมนตร์เสกให้พวกเขาดูเหมือนกับคุณชั่วประเดี๋ยว หรือเป็นสาวสวยชั่วขณะหนึ่ง แต่พวกเขาไม่สามารถคงสภาพเช่นนั้นได้ตลอดไป เพราะมันคือภาพลวงตา หรือพวกเขาสามารถผลักไสวิญญาณของใครบางคนออกไปแล้วพวกเขาก็เข้ายึดร่างนั้นไว้ แล้วก่อเรื่องหรือทำอะไรบางอย่าง บางครั้งไม่เป็นปัญหา บางครั้งก็เป็นปัญหา ฉันหมายถึง ยึดร่างของมนุษย์ที่มีชีวิต ไม่ใช่ร่างของคนที่ตายแล้ว ถ้าคนนั้นตายแล้ว ก็ไม่เป็นไร ไม่มีใครเป็นเจ้าของร่างนั้น ร่างกายนั้นกลายเป็นไร้ประโยชน์แล้ว เช่นนั้นถ้าเกิดคุณอยากจะใช้มันเพื่อจุดมุ่งหมายในทางที่ดีบางอย่าง ก็ใช้ได้ แต่บางครั้งพวกเขาก็แค่ผลักไสคนออกไปจากร่าง เพราะพวกเขามีอำนาจ และนั่นคือสิ่งที่ฉันไม่ชอบ พวกเขาก่อกวนคนบนดาวโลกของเรา นั่นคือสิ่งที่ฉันไม่ชอบ นั่นคือเหตุที่เรามีสงคราม มีความทุกข์ และมีความยุ่งยากมากมาย นั่นคือสิ่งที่ฉันไม่ชอบ นั่นคือเหตุที่เรามีรัฐบาลเลว รัฐบาลจอมควบคุมบงการ เป็นต้น และนั่นคือสิ่งที่ฉันไม่ชอบ เพราะผู้คนทุกข์ทรมาน ผู้คนทรมานมากพออยู่แล้วที่ต้องอยู่ในร่างกายนี้ และไม่สามารถกำจัดมันได้ ฉันหมายถึง ถ้าพวกเขาตายไป พวกเขาก็จะได้อีกร่าง และพวกเขาจำเรื่องราวชีวิตที่พวกเขาเพิ่งจะผ่านมาไม่ได้ด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึงชีวิตเมื่อหลายร้อย หลายพัน หรือหลายล้านปีแสงก่อนหน้านี้เลย เพราะพวกเขาถูกวางยา พวกเขาถูกควบคุมจิตใจให้ลืมสิ่งต่าง ๆ เพราะถ้าพวกเขาจำได้ พวกเขาจะกลับมาแก้แค้น ฉันสงสัยว่าพวกเขาจะทำได้สำเร็จไหม เพราะระบบการควบคุมของรัฐบาลนั้นแน่นหนามาก แน่นหนายิ่งกว่าระบบใดในดาวเคราะห์แห่งนี้เสียอีก ถ้าคุณคิดว่าบางรัฐบาลบนดาวโลกดวงนี้ บ้าคลั่งมากหรือชอบควบคุมมาก นั่นไม่มีอะไรเลยถ้าเทียบกับสิ่งที่พวกเขาควบคุมดาวเคราะห์บางดวง พวกเขาทนไม่ได้กับความแตกต่างไปแม้เพียง 1 นิ้ว หรือท่าทางที่ดูควบคุมยาก หรือการสร้างสรรค์บางอย่างที่พวกเขาคิดว่าไม่เหมาะสม และจากนั้นพวกเขาก็จะเนรเทศบุคคลหรือคนกลุ่มนั้นมาที่นี่ตลอดกาล หรือไปยังดาวเคราะห์อื่นที่คล้ายคลึงกัน แต่มาที่นี่จะง่ายกว่า ที่นี่ง่ายกว่า ดาวเคราะห์อื่นมากมายพวกเขามีเทคโนโลยีชั้นสูงอยู่แล้ว พวกเขาควบคุมชายแดนของตน ไม่ปล่อยให้ใครเข้าไป ก็เหมือนกับดาวเคราะห์โลกดวงนี้แหละ เหมือนกับดาวโลกนี้

แต่ก่อน แต่ก่อน… นานมาแล้ว อาจจะหลายพันปีก่อน พวกเขาสร้างประเภท… เรียกว่า ระบบเรดาร์ ก็แล้วกัน เพราะฉันไม่รู้จะอธิบายอย่างไร มันเป็นประเภทเขตแดนรอบดาวเคราะห์ และมีเพียงคนที่พวกเขาต้องการให้อยู่ที่นี่เท่านั้นจึงจะมาอยู่ที่นี่ได้ รวมทั้งผู้คน ตัวแทนต่าง ๆ ที่ทำงานให้พวกเขา และทั้งหมดนั้นด้วย นอกนั้นไม่มีใครสามารถเข้าออกได้ แต่ตอนนี้ระบบประเภทนี้ ที่เราเรียกว่า “มายา” หรือ “ระบบของมาร” “มารผู้ควบคุม” ถูกดาวเคราะห์อื่นที่มีเทคโนโลยีสูงกว่าขับไล่ออกไปเกือบหมดแล้ว แต่ถึงกระนั้น ก็ยังมีระบบของพวกเขาอยู่ ระบบควบคุม พวกเรดาร์ที่พวกเขาสร้างไว้ เรดาร์ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ซึ่งมีคุณภาพล้ำเลิศ มีเทคโนโลยีสูงล้ำเลิศ ที่ไม่มีดาวเคราะห์ใดจะสามารถฝ่าทะลุเข้าไปได้ เพราะฉะนั้นเราทุกคนจึงถูกขังคุกอยู่ที่นี่ ทั้งฉันและคุณ นอกจากว่าบางครั้งเราสามารถเข้าออกได้ด้วยจิตวิญญาณของเรา และนั่นคือสิ่งสำคัญ

ความสำคัญของการถือศีล 5 

หลังจากวันนี้ หลังจากการประทับจิต วิญญาณของคุณจะเป็นอิสระ คุณจะเป็นผู้ชายที่อิสระ เป็นผู้หญิงที่อิสระ เป็นตัวตนอิสระโดยสมบูรณ์ แต่จงแน่ใจว่า คุณยึดมั่นต่อคำแนะนำและแนวทางต่าง ๆ เพื่อจะได้ไม่มีข้ออ้างให้กับตัวตนชั่วร้าย ตัวตนที่ก่อปัญหาเหล่านี้ เข้ามาควบคุมคุณได้อีก เพราะว่าพวกเขามีกฎทุกหนแห่ง และทันทีที่พวกเขาเข้าควบคุมคุณได้อีกครั้ง นั่นก็จะยากที่จะได้พบกับอาจารย์หรือใครบางคนที่สามารถนำทางคุณกลับมาได้ อาจารย์จะไม่นำคุณกลับไปที่เดิมที่คุณจากมา นั่นจะน่ากลัว เพราะพวกเขาจะจัดการคุณ จะจับคุณไปลงโทษ และทำให้คุณเดือดร้อน ดังนั้นเราจะนำคุณไปยังที่ที่ดีกว่า ที่ที่รู้แจ้งแล้ว เป็นอิสระ และมีความเห็นอกเห็นใจ เปี่ยมด้วยเมตตา  ฉันหมายถึง ในโลกแห่งนั้น ไม่มี… ไม่มีศัพท์คำว่า เห็นอกเห็นใจ หรือ เมตตา ด้วยซ้ำไป เพราะว่าไม่จำเป็น ! สิ่งแบบนั้นเป็นแค่เรื่องธรรมดา

จงรักษากฎบนดาวเคราะห์ดวงนี้ อย่าทำร้ายผู้อื่น ไม่ทำร้าย แน่นอนรวมทั้งไม่ฆ่าด้วย ไม่ใช่แค่ไม่ฆ่า แต่การทำร้ายก็ไม่ดีเช่นกัน ไม่ทำร้ายคนอื่น ไม่ลักทรัพย์ ไม่พูดปด ไม่ประพฤติผิดเรื่องความสัมพันธ์ทางกาย ไม่ประพฤติเลวร้ายใด ๆ กับเรื่องความสัมพันธ์ทางกายกับสตรีหรือบุรุษ ไม่ข้องเกี่ยวด้านร่างกายใกล้ชิดจนเกินไป และอะไรอีก ไม่เสพของมึนเมา ถ้าขณะนี้คุณกำลังทำอยู่ ก็พยายามหลีกเลี่ยง ให้ลดลงอย่างช้า ๆ ๆ และให้หมดไปโดยเร็ว อย่างไรก็ตามจงรักษากฎ เพื่อที่มายาหรือพลังมารจะได้ไม่สังเกตเห็นคุณมากจนเกินไป เพราะว่าพวกเขาเคยชินกับการลงโทษคนที่ไม่รักษากฎอยู่แล้ว แม้แต่กฎที่น่าหัวเราะบนดาวเคราะห์ของพวกเขาก็ตาม ดังนั้นจงอย่ากระตุ้นความสนใจของพวกเขา

อาจารย์ผู้รู้แจ้งนำทางมนุษย์สู่การหลุดพ้น และชีวิตของท่านเหล่านี้ตกอยู่               ในอันตรายตลอด 

นั่นคือเหตุผลที่อาจารย์มากมายเมื่อท่านลงมายังดาวเคราะห์แห่งนี้ ปกติแล้วท่านจะไม่สอนศิษย์อย่างเปิดเผย เว้นเสียแต่ท่านอยากจะตายเร็วและตายตั้งแต่เยาว์วัย อาจารย์ส่วนใหญ่จะตายตอนอายุน้อย ตายเร็ว หรือตายอย่างสยองขวัญ แม้แต่ในอินเดีย อาจารย์ซิกข์บางท่านถูกคุกคามจนถึงแก่ชีวิต สูญเสียทุกอย่างที่พวกเขามี รวมทั้งชีวิตของพวกเขาด้วย ด้วยวิธีที่สยองขวัญมาก อาจารย์มากมายเป็นเช่นนั้น พวกเขารู้ว่าพวกเขาต้องอยู่เงียบ ๆ เพราะแม้แต่อาจารย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ทรงพลังที่สุด เวลามาที่นี่ ท่านจะโดดเดี่ยว ไม่สามารถพาคนมากมายลงมาช่วยท่านที่นี่ได้ นอกจากนี้ถ้าพาใครลงมาที่นี่ พวกเขาก็จะลืม พวกเขาจะลืมว่าควรทำอะไร รวมทั้งตัวอาจารย์เองในช่วงแรกก็ลืมเช่นกัน และยากมากที่อาจารย์ท่านนั้นจะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ดังนั้นคุณเห็นไหมว่า อาจารย์ส่วนใหญ่ไม่ตื่นจนกว่าท่านจะอายุ 20 กว่าหรือ 30 กว่าไปแล้ว ท่านเหล่านี้ไม่ได้เกิดมา แล้วนั่งตรงนั้นสอนทุกคนในทันที คุณเคยเห็นแบบนั้นบ้างไหม เอาละ แม้ว่าท่านจะทำอย่างนั้นได้ แต่รัฐบาลก็อาจนำตัวอาจารย์ท่านนั้นไปเก็บไว้ในห้องทดลอง และลองทิ่มแทงตรวจสอบดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับเด็กคนนี้ เกิดอะไรขึ้น เป็นเด็กประเภทไหนกัน จะต้องเป็นปีศาจกลับชาติมาเกิดแน่ ๆ และเด็กคนนั้นก็จะอายุไม่ยืน ฉันรับรองได้ คุณรู้อยู่แล้วใช่ไหม

ดังนั้นส่วนใหญ่แล้ว อาจารย์จะสอนกันเงียบมาก ให้กับศิษย์จำนวนไม่มาก แม้แต่ในสมัยของพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงสอนอย่างเปิดเผยทีเดียว แต่ศิษย์ของพระองค์อาจจะหลักพัน มากสุดก็ 1 หมื่น สมัยนั้นระบบคมนาคมขนส่งอาจไม่ดีเท่าปัจจุบัน ซึ่งมีบทบาทสำคัญมาก แต่ในปัจจุบัน อาจารย์มากมาย ท่านจะไม่ออกไปไกลนัก ท่านไม่เปิดเผยตัวมากนัก และถ้าท่านใดเปิดเผยตัว ถ้าท่านเป็นอาจารย์ที่แท้จริง ถ้าท่านสอนให้หลุดพ้นได้จริง กอบกู้วิญญาณให้รอดได้จริง ท่านก็จะมีชีวิตเหมือนนรก อาจารย์แท้จะมีชีวิตเหมือนนรก แม้ว่าไม่ตาย แต่ก็ตายและฟื้นขึ้นอีก ครั้งแล้วครั้งเล่า บางครั้งป่วยหรืออะไร เหมือนกับตายไปแล้ว 90% แล้วก็ฟื้นขึ้นมาใหม่ มันไม่ง่ายเพราะดาวเคราะห์โลกนี้ถูกควบคุมด้วยอำนาจชนิดนี้ อำนาจในการควบคุม อำนาจสุดโต่ง ระบบเผด็จการ และเราก็ถูกพวกเขาส่งลงมาที่นี่ ประมาณว่าเรายังเป็นคนของพวกเขาอยู่ ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา

และในขณะนี้ การประชุมดาวเคราะห์ก็ยังมีขึ้นบ่อย ๆ เพื่อคิดหาหนทางที่จะทำอะไรบางอย่าง เพื่อคิดค้น และพวกเขาพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะประดิษฐ์อะไรบางอย่างขึ้นมา เพื่อใช้ทำลายคาถาอาคมนี้ เพราะเราไม่รู้จักเทคโนโลยี ดังนั้นเราจึงคิดว่ามันเป็นคาถาอาคม คำสาป หรือประเภทเวทมนตร์ แต่มันไม่ใช่ จริง ๆ แล้วมันเป็นแค่เทคโนโลยีชั้นสูง ดังนั้นฉันไม่กลัวพวกเขา อะไรก็ตามที่พวกเขาทำ มันก็แค่เทคโนโลยีชั้นสูง ไม่เห็นจะมีอะไร ฉันไม่รู้เรื่องคอมพิวเตอร์เช่นกัน ฉันขยับเมาส์ไม่เป็นด้วยซ้ำ แต่ฉันก็ไม่กลัวเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์หรอกนะ เข้าใจไหม พวกเขามีของเขา ฉันก็มีของฉัน ฉันไม่จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ ถ้าฉันต้องใช้ ฉันก็มีคนที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นที่จะทำให้ฉันได้ แต่ฉันก็แทบไม่ได้ใช้อะไร ฉันไม่ได้ติดต่อใคร ฉันไม่ค่อยมีเวลา และตอนนี้ฉันไม่มีโทรศัพท์ด้วยเช่นกัน ว้าว ! อิสระจากเทคโนโลยีเลย ไม่มีใครอยู่รอบกายฉัน เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ถ้ามีใครมาอยู่รอบ ๆ ฉัน พวกเขาจะสร้างความยุ่งยากมากกว่าที่จะช่วยเหลือ ดังนั้นฉันต้องทำงานคนเดียว บางครั้งฉันก็หวังว่าจะมีอย่างน้อยสัก 1 คนอยู่รอบตัวฉัน เพื่อความสะดวกบางอย่าง อย่างขับรถได้เร็ว และ… ฉันจะได้ไม่ต้องเรียกแท็กซี่ จะได้ไม่ต้องรอรถหรือแท็กซี่ท่ามกลางสายฝน แต่ฉันก็แค่หาไม่ได้ จนบัดนี้ฉันก็ยังหาใครที่เข้ากันได้ดีไม่ได้เลย ใช่ เพราะจิตใจของพวกเขาถูกรบกวนจากอำนาจควบคุมอื่น ๆ มากเกินไป และที่นี่พวกเขาจึงรู้สึกสับสน

หลายคนมาจากดาวเคราะห์ระดับสูงกว่า ส่วนมากเลยนะ พวกเราส่วนมากเลยมาจากดาวเคราะห์ระดับสูง การมีเทคโนโลยีสูงกว่าไม่ได้หมายถึงระดับจิตวิญญาณสูงกว่านะ นั่นแตกต่างกัน ดังนั้นบุคคลที่สามารถประดิษฐ์เทคโนโลยีชั้นสูงหรือซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ไม่ได้หมายถึงเขารู้แจ้งทางจิตวิญญาณแล้วนะ แน่นอนคุณรู้เรื่องนั้นอยู่แล้ว ดังนั้นก็เหมือนกัน เหมือนกันเลย พลังประเภทนี้เป็นเพียงองค์ความรู้ พวกเขาก็แค่มีเทคโนโลยีชั้นสูง แต่พวกเขาใช้มันเพื่อจุดมุ่งหมายในทางชั่วร้าย เพื่อควบคุมบางคนที่อาศัยอยู่บนดาวเคราะห์โลก และคนที่ถูกเนรเทศมาที่นี่ นี่เป็นเจตนาไม่ดี เป็นวิธีชั่วร้าย หยาบคายมาก ไม่เป็นประชาธิปไตยเอามาก ๆ และฉันไม่ชอบเลย ดังนั้นหลังจากที่เห็นเช่นนี้มากมายแล้ว ฉันไม่ชอบจริง ๆ เลย ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจเปิดการประทับจิตให้แก่คุณอีกครั้ง ดังนั้นพวกคุณโชคดี ! ควรขอบคุณพระเจ้า

อาจารย์ใช้ชีวิตอย่างอิสระและพอเพียง จึงประหยัดเงินไว้ช่วยผู้อื่น

ฉันรู้ดีเลยว่า ฉันอาจต้องทุกข์ทรมานในทางใดทางหนึ่ง แต่ฉันก็จะทำมัน ไม่สนใจหรอก ขณะนี้ฉันระดับสูงพอ ดังนั้นถ้าฉันตายไป นั่นก็โอเค แต่ถ้าไม่ตายก็จะดีกว่า เพราะดาวโลกของเรายังไม่เสถียร ยังไม่มั่นคง และลูก ๆ ของฉันยังไม่โตกันเลย ไม่ใช่ทุกคนนะที่โตแล้ว พวกเขายังสร้างความยุ่งยากอยู่ทุกวัน “แม่อย่างนั้น แม่อย่างนี้…” “อาจารย์ อาจารย์… คันตรงนี้ อาจารย์” “โอ มีดบาดนิดหน่อย อาจารย์ช่วยด้วย ! เลือดออก เลือดออก” “อาจารย์ รถผมเสีย” “อาจารย์ นาฬิกาปลุกของฉันเสีย ปลุกฉันด้วยนะพรุ่งนี้ โอเค ?” ใช่ เพื่อที่คุณจะได้ตื่นตรงเวลา ไปทำงาน และได้เงินเดือน เดือนละไม่กี่พันดอลลาร์ ใช่ นั่นเป็นเรื่องดี แต่เวลาอันมีค่าของคุณวันละ 8 ชั่วโมง 10 ชั่วโมง เพียงเพื่อเงินไม่กี่พันดอลลาร์ ถึงอย่างไรคุณก็ต้องใช้เงิน แม้กระนั้น ลองจินตนาการสิ ถ้าคุณสามารถใช้เวลาแบบนั้นมาทำสมาธิ มันจะได้รับมากยิ่งกว่า แต่ก็ไม่เป็นไร เราอยู่บนดาวเคราะห์นี้ เราจะต้องทำอะไรบางอย่าง และเรายังเป็นหนี้สังคมด้วย จะต้องใช้คืนด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง แม้แต่ฉันเองก็ต้องทำงานเช่นกันในวิธีที่แตกต่าง รูปแบบที่แตกต่างไป แม้แต่ตัวฉันก็พยายามหาเงินด้วยตนเอง แต่ฉันไม่ใช้เยอะนะ ดูเหมือนว่าฉันสวมเสื้อผ้าดี ๆ สวยงามมากมาย แต่นี่ล้วนแล้วแต่เป็นงานสร้างสรรค์ของฉันเอง สวย ราคาถูก ตัดเย็บเอง แค่มีค่าวัสดุอยู่บ้าง ทำเองแม้กระทั่งออกแบบอัญมณีและทั้งหมดนั้น แต่เราจะต้องจ่ายค่าคนงาน จ่ายภาษีบริษัท ฯลฯ หรือสิ่งที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นต้นทุนจึงมากกว่าที่ควรจะเป็น แต่สำหรับฉันแล้ว มันก็เป็นของฉันเอง

แค่ว่าปัจจุบัน ฉันไม่มีเวลามากอีกต่อไป ดังนั้นคุณจะเห็นฉันสวมสิ่งต่าง ๆ น้อยลงเรื่อย ๆ ไม่มีอัญมณี ไม่มีเครื่องประดับศีรษะ ไม่มีเครื่องประดับมือ ไม่มีอะไรเลย ที่นี่ที่ซีหู ทุกคนมาเอาน้ำจากที่ดินของฉัน น้ำนี้ไม่ได้มาจากรัฐบาล เราขุดบ่อและกักเก็บน้ำไว้ในถังขนาดใหญ่ไว้ให้คุณ เพื่อใช้ปรุงอาหารให้คุณ เพื่อให้คุณได้ดื่มกิน และระบบที่ไหลอยู่ ลำธารที่ไหลอยู่ที่นี่ ฉันออกแบบไว้เพื่อใช้รีไซเคิลน้ำ (หมุนเวียนน้ำมาใช้ใหม่) ก็แค่นั้น ไม่ใช่ไหลตลอดไปนะ มันมาจากบ่อของเรา แน่นอนน้ำไหลจะมีออกซิเจนมากกว่า มันดีกว่า และอย่าเอาไปนอกจากว่าคุณจำเป็นต้องใช้จริง ๆ จะเอาไปทำไม คุณมาที่นี่ทุกสัปดาห์ คุณไม่ได้ป่วย แม้ว่าคุณป่วย คุณคิดว่าน้ำจะรักษาคุณได้หรือ มันรักษาคุณได้หรือ ใครได้บ้าง รักษาได้หรือไม่ (รักษาได้) ได้หรือ บางคนได้หรือ มันคือความศรัทธาของคุณน่ะ น้ำจะรักษาคุณให้หายจากโรคได้อย่างไร โอเค มันอาจจะเป็นน้ำพิเศษ แต่ถ้าคุณไม่ได้ป่วย ก็จงอย่าเอาไป ถ้าคุณเชื่อว่าน้ำรักษาคุณให้หายได้เวลาที่คุณป่วย ก็ให้เอาไปเฉพาะตอนที่จำเป็น โอเคไหม หาไม่แล้ว ครั้งหนึ่งเราเคยดื่มน้ำที่มีทรายปนมาด้วย ฉันหมายถึงพวกเรา ตัวฉันและผู้พำนัก นานมาแล้ว 2-3 ปีก่อน แล้วเราก็ไม่มีน้ำใช้ทำอาหารให้ตัวเราเอง หลังจากที่คุณกลับไป ไม่มีน้ำดื่ม ไม่มีน้ำทำอาหาร ตอนนั้นเราไม่มีน้ำเลย และเราต้องขุดบ่อเพิ่ม แต่ฉันไม่รู้ว่าพื้นดินจะให้น้ำได้มากแค่ไหน เพราะน้ำจำเป็นต้องหล่อเลี้ยงรากพืชทั้งหมดในบริเวณนี้และพื้นที่ใกล้เคียงด้วย ดังนั้นในฤดูร้อน เราไม่มีน้ำมากเช่นกัน นั่นแน่นอน ดังนั้นเพลา ๆ มือกันนะ กับระบบน้ำที่นี่ โอเคไหม แล้วเราก็ ผู้พำนักของเรากำลังดูแลระบบน้ำอยู่เช่นกัน ให้แน่ใจว่าน้ำไหล ให้แน่ใจว่าน้ำสะอาด ให้แน่ใจว่าไม่อุดตัน และดีพอที่จะดื่มได้ แต่ผู้พำนักของเราก็อายุมากขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนกับฉันนี่แหละ บางครั้งในห้องมืด ๆ ฉันดูสวยและอ่อนเยาว์ และฉันก็คิดว่า “ว้าว คุณยังดูดีอยู่เลย” และเมื่ออยู่ในที่มีแสงแดดจริง ๆ ฉันก็เห็น “โอ้ ที่รัก ! คุณยายคนนี้ ใครกันนี่ คุณยาย ! ยาย ยาย !” บางครั้งฉันดูอ่อนเยาว์ในสถานการณ์ที่ต่างกัน ดังนั้นฉันจึงชอบอยู่ในห้องมืด เพื่อที่เวลาฉันมองกระจก จะได้ไม่เห็นริ้วรอยเหี่ยวย่นมากเกินไป

อย่างไรก็ตาม หลังจากประทับจิตแล้ว จงพยายามทำสมาธิให้มากเท่าที่คุณจะทำได้ ถ้าคุณต้องการอยู่เหนือน้ำ ก็ 2 ชั่วโมงครึ่ง เพราะเรามี 24 ชั่วโมงต่อวัน ก็ทำ 2 ชั่วโมงครึ่ง ประมาณนั้น ควรจะตื่น วางน้ำใส่น้ำแข็งหรืออะไรบางอย่างไว้ใกล้ตัว และประพรมตัวคุณ ในสมัยก่อนบางคนไว้ผมยาว เพื่อจะได้แขวนไว้กับคานบ้าน ฉะนั้น เมื่อไรก็ตามที่… ฉันก็จะไม่หลับ คุณเห็นไหม นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ฉันไว้ผมยาวก็ได้ ฉันก็แค่ขี้เกียจไปพบช่างผม อันที่จริง ฉันเป็นอาจารย์ที่ประหยัดมาก ฉันทำผมเอง ทุกทรงที่คุณเห็นในทีวี ไม่ว่าตอนไหน แบบไหนก็ตาม ฉันทำเองหมด ฉันย้อมสีผมเองด้วย แน่นอนฉันสระผมเอง ฉันออกแบบทรงผมเอง และทรงที่ขี้เกียจที่สุดก็ทรงนี้แหละ หรือแค่เกล้าขึ้นไปแล้วหนีบด้วยที่หนีบผมฟันจระเข้ แบบนั้นก็ทำ… มันก็โอเค และฉันแต่งหน้าเองด้วย หลายคนที่ไปพูดคุยออกทีวี แม้แต่คนธรรมดาที่ไปสัมภาษณ์ พวกเขาจะมีช่างแต่งหน้าพิเศษของเขา ส่วนฉันทำทุกอย่างเอง บางครั้งฉันต้องซักเสื้อผ้าเอง รีดเสื้อผ้าเอง และทำให้ฉันดูดีต่อหน้าคุณด้วยตนเอง ด้วยเหตุนี้ฉันจึงประหยัดมาก และแม้ว่าบางครั้งฉันออกไปทานอาหารที่ภัตตาคาร เนื่องจากเหตุผลบางประการ ฉันไม่ชอบออกไปทานอาหารข้างนอกหรอก ฉันขี้เกียจ ฉันชอบอยู่บ้านตลอดเวลา เป็นผู้หญิงถ้ำ แต่บางครั้งฉันก็ออกไปทานข้างนอก แม้ตอนที่ฉันออกไปทานอาหารข้างนอก มันก็ถูกมาก อาหารมังสวิรัติเท่านั้น ราคาถูกมาก และฉันทานไม่เยอะมาก ดังนั้นฉันจึงให้ทิปได้เยอะ และพวกเขาชอบฉันมาก ๆ ทุกคน แม้ว่าแต่ก่อนพวกเขาไม่ได้สนใจฉันสักเท่าไร แต่หลังจากฉันทานเสร็จ หลังจากที่ฉันให้ทิป สีหน้าก็เปลี่ยนไป ส่องประกายแห่งความสุขและประหลาดใจ “โอ้ ! เหตุใดท่านจึงมีน้ำใจยิ่งนัก” ฉันบอกว่า “ทำไมจะไม่ได้ล่ะ คุณให้อาหารฉันเยอะมาก ฉันก็เลยให้เงินคุณเยอะมากเช่นกัน”

แต่ถ้า… เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาฉันเล่าให้คุณฟังแล้ว ถ้าฉันใช้ชีวิตแบบที่คนอื่นเขาใช้กันข้างนอก ฉันก็จะไม่มีเงินเลย จะไม่มีเงินส่งธรรมทูตกวนอิมไปประเทศของคุณ ไม่มีเงินแม้แต่จะซื้อแผ่นดินผืนนี้ให้คุณ ไม่มีเงินจ่ายค่ารถยนต์ ไม่มีเงินทำการกุศล ไม่มีอะไรเหลือ ไม่มีเงินสำหรับสุพรีมมาสเตอร์ทีวี ไม่มีอะไรเลย ! คุณคิดว่าเงินทั้งหมดมาจากพี่ชายพี่สาวบางคนงั้นหรือ ไม่เลย ! มาจากฉันนี่แหละ จากธุรกิจของฉัน เพียงแต่ฉันไม่ได้ใช้ชื่อของตัวเอง พวกเขาดูแลทรัพย์สินให้ฉัน และถ้าเราต้องการใช้ ฉันก็บอกให้พวกเขาส่งไปที่นั่นที่นี่ ฉันจะบอกเอฟจีให้บอกคนนั้นคนนี้ ให้ส่งไปช่วยที่นั่นที่นี่ และบางครั้งฉันก็เอาเงินออกมาช่วยเหลือด้วยตนเอง ช่วยเหลือพวกเขา ไม่ใช่ช่วยตัวฉัน คือช่วยเหลือพวกเขาด้วยตัวฉันเองโดยไม่ประสงค์ออกนาม และเนื่องจาก… ฉันเป็นอาจารย์ที่ประหยัด คุณพูดอย่างนั้นได้เลย มีค่าบำรุงรักษาน้อย เสื้อผ้าและอัญมณีทั้งหลายที่ฉันสวมก็เนื่องจากโฆษณาเพื่อการขาย ฉันเป็นนางแบบด้วยนะ อย่างนั้นเลยละ !  ฉันไม่เพียงแต่ใช้เงินน้อย ฉันยังหาได้มากด้วย  ดังนั้นฉันจึงทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากมาย ฉันจึงให้การช่วยเหลือได้

แต่ว่า หลังจากที่ฉันเชิญบางกลุ่มและพวกเขารับประทาน… เพราะพวกเขาไม่ได้ทานมังสวิรัติ และในโรงแรมนั้น ไม่มีอะไรเลย มีอาหารมังสวิรัติน้อยมาก พวกเขาบอกว่าพวกเขา… ฉันเชิญพวกเขามา และฉันไม่บอกพวกเขาไม่ได้ว่า “ไม่นะ ! คุณทานอันนี้ไม่ได้ คุณทานอันนั้นไม่ได้” ฉันได้แต่บอกอย่างนุ่มนวลว่า “ฉันเป็นมังสวิรัติ ถ้าคุณต้องการ วันนี้คุณทานมังสวิรัติร่วมกับฉันได้นะ” แต่พวกเขาไม่ทาน พวกเขาทานเนื้อสัตว์ พวกเขาทานปลา พวกเขาทานทุกอย่าง แล้วพวกเขาก็ดื่มไวน์ ของแพง ๆ และมันเป็นเงินจำนวนมาก ! ฉันคิดกับตัวเองว่า “ถ้าฉันใช้ชีวิตแบบนั้นทุกวัน ว้าว ฉันจะไม่มีอะไรเหลือเลย !” ไม่มีแม้แต่เสื้อผ้าเหล่านี้จะใส่ โอเค ที่บ้านถ้าคุณอยู่คนเดียว ก็ไม่ต้องสวมเสื้อผ้ามากมาย คุณจะได้ไม่ต้องเปิดแอร์ คุณอาบน้ำเย็นสบาย ๆ แล้วคุณก็กำจัดสิ่งสกปรกสวยงามทั้งหลายนี้บนตัวคุณออกไป ฝุ่นสวย ๆ ฝุ่นสีชมพู สีน้ำเงิน หรือ… ใช่ แล้วคุณก็อยู่ในชุดเหมือนวันที่คุณเกิดมา เต้นรำไปทั่ว รู้สึกเป็นอิสระและมีความสุข มีหลายชุมชนที่พวกเขาไม่สวมเสื้อผ้าเลย ฉันรู้จักอยู่ที่หนึ่ง ฉันเคยไปที่หนึ่งมาก่อน ก่อนไปฉันไม่ทราบหรอก พวกเขาพาฉันไปแคลิฟอร์เนียเพื่อซื้อที่ดินผืนหนึ่ง ที่ใหม่นะ พวกเขาไม่ชอบที่ดินที่ฉันมอบให้ ที่ฉันซื้อให้พวกเขาเมื่อก่อน ตอนเรายังมีศิษย์ไม่มากนัก และก็มีศิษย์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และพวกเขาต้องการศูนย์ใหม่ ฉันจึงไปดูที่กับพวกเขา พอฉันเข้าไป “โอ ลา ลา !” ฉันผ่านประตูเข้าไป “โอ ลา ลา” คนที่ทักทายฉัน มีแต่อาดัมกับเอวา สวยงามมาก อาดัมน้อยกับเอวาน้อย ผู้เฒ่าอาดัมกับเอวาผู้อ่อนวัย พวกเขาล้วนสวมชุดวันเกิดและมีความสุข นั่นเป็นชุมชนของพวกเขา ที่นั่นพวกเขาทำสิ่งที่เขาต้องการ

ที่สเปน ฉันรู้จักสามีภรรยาคู่หนึ่ง เพราะฉันกำลังมองหาสถานที่บางแห่งอยู่ เมื่อก่อนนะ ตอนที่ฉันยังมีศิษย์ไม่มากเหมือนตอนนี้ บางครั้งฉันจำเป็นต้องไปบางแห่ง ฉันไม่มีศูนย์ทำสมาธิ ดังนั้นฉันต้องมองหาสถานที่ ฉันรู้จักสามีภรรยาคู่นั้น พวกเขาขายที่ของเขาให้ฉัน เมื่อนานมาแล้ว ตอนนี้ไม่ได้เป็นชื่อของฉันอีกแล้ว ฉันหมายถึงสถานที่ส่วนใหญ่ หลังจากที่ฉันซื้อมันแล้ว หลังจากนั้นระยะหนึ่ง ศิษย์ก็เข้ามารับช่วงต่อและมันก็กลายเป็นชื่อของพวกเขาไป พวกเขาดูแลมันให้ด้วย พวกเขาจัดการดูแลเงินของฉัน บ้านของฉัน สถานที่ของฉัน ขณะที่ฉันเดินทางไปทั่วต้องพักอาศัยในโรงแรม โรงแรมราคาถูก รู้จักไหม “โรงแรมแมลงสาบ” เพราะโรงแรมระดับสูงบางแห่งไม่ได้มีห้องว่างตลอด คนส่วนใหญ่ เวลาพวกเขาไปประเทศใดก็ตามและพักในโรงแรม พวกเขาเป็นนักธุรกิจ เป็นคนสำคัญ หรือไม่พวกเขาก็อยู่ระหว่างวันหยุดพักร้อนและพวกเขาสามารถจ่ายค่าที่พักโรงแรมระดับสูงได้ พวกเขาจ่ายได้ ดังนั้น โรงแรมระดับสูงส่วนมากจะเต็มตลอด และถึงแม้คุณจะเข้าไปพักได้ 2-3 วัน แต่คุณจะพักระยะยาวไม่ได้ คุณจะต้องเปลี่ยน ถ้าไม่เปลี่ยนห้อง ก็ต้องเปลี่ยนไปพักโรงแรมอื่น มันไม่สะดวก แต่ฉันก็ต้องใช้ชีวิตแบบนั้นอยู่บ่อย ๆ เพราะฉันไม่มีที่ไป ไม่มีที่พัก จริง ๆ ฉันมีศิษย์อยู่แถวนั้น แต่พวกเขาไม่มีห้องให้ฉัน นั่นแน่นอน ผู้คนส่วนใหญ่ พวกเขาซื้อบ้านแค่สำหรับตัวเขาเอง พวกเขาซื้อบ้านที่มี 2 หรือ 3 ห้องนอน แล้วแต่ว่าเขามีลูกกี่คน แล้วฉันจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ ฉันอยู่ที่นั่นไม่ได้ จะไปครอบครองห้องของพวกเขาไม่ได้ ดังนั้นชีวิตของฉัน มันไม่ได้เรียบง่ายนัก ไม่ได้ง่ายอย่างที่คุณคิด อย่างไรก็ตาม บางครั้งถ้าคุณเห็นฉันพักในโรงแรมระดับสูงสักแห่ง โปรดอย่าวิจารณ์ อย่าไปบอกหนังสือพิมพ์หรืออะไร ไม่ใช่ว่าฉันต้องการพักแบบนั้น ฉันไม่สนใจหรอกว่าฉันจะพักอยู่ในถ้ำหรือเปล่า หรือว่าในโรงแรมระดับสูง ฉันแค่ต้องการที่ไหนสักแห่งเพื่อพักในขณะนั้น เพื่อเหตุผลบางอย่าง ไม่ได้เพื่อตัวเองตลอด

เอาละ ถ้าอย่างนั้น อะไรอีกล่ะที่ฉันอยากจะบอกคุณ ก่อนหน้านั้นคือเรื่องอะไรหรือ ก่อนเรื่องโรงแรม มันคือเรื่องอะไร มีน้ำส้มนะถ้าคุณตอบได้ ! (ตอบ : อย่าสวมเสื้อผ้ามากเกินไป) อย่าสวมเสื้อผ้ามากเกินไป โอเค ประหยัดเพื่อโลกและเพื่อระบบน้ำ ถ้าคุณใส่ผงซักฟอกลงไปในระบบน้ำของเรามากเกินไป มันก็จะ… มันก็จะทำให้ระบบของเราเกิดมลพิษ มันไม่สามารถชะล้างออกไปได้ พิษใด ๆ สารเคมีใด ๆ เมื่อลงไปในน้ำแล้ว มันจะไม่หายไป ในอากาศมันอาจจะกระจายออกไปได้ แต่ในน้ำล่ะ จะอย่างไร ก็แค่อยู่ในนั้นและหมุนเวียนมาใช้ใหม่อีก (รีไซเคิล) ครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ดีเลย ดังนั้นจงดูแลตัวคุณเองด้วยการดูแลดาวโลก มันสายไปหน่อยแล้วละตอนนี้ เราควรจะทำมันมาตั้งนานแล้ว แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย จะดีกว่าถ้ารักษาอย่างที่เป็นไว้และไม่ให้แย่ลง

ระบบที่น่าผิดหวังของโลกนี้

และก็ เราไม่เคยมียุงมาก่อน และแต่ก่อน สัตว์ต่าง ๆ พวกเขาไม่ต้องกินกันเองเพื่อให้มีชีวิตอยู่หรือสืบพันธุ์ ต่อมาผู้ที่สร้างพวกเขาขึ้นมาต้องการให้เป็นแบบนั้น เพื่อจะได้ไม่ต้องดูแลพวกเขา พวกเขาแค่สร้างมัน และให้มันดูแลตัวมันเอง พวกเขาไม่ต้องสร้างอะไรเพื่อให้สัตว์ต่าง ๆ กินอีกต่อไป สัตว์ทั้งหลายก็แค่กินกันเอง และอยู่รอด ใครก็ตามที่แข็งแกร่งที่สุด อะไรแบบนั้น ดังนั้นมันเป็นระบบที่น่าเกลียดน่ากลัว ฉันเกลียดสิ่งนี้ ฉันไม่ชอบแบบนี้เลย และจากนั้นพวกเขาก็ทำให้มนุษย์บ้าคลั่งจากความผิดหวังไม่พอใจ เพราะเผ่าพันธุ์มนุษย์นี้ พวกเขามาจากสังคมที่สูงกว่า พวกเขาเป็นคนที่มีความคิดอิสระ มีบางคนเป็นนักประดิษฐ์เทคโนโลยีชั้นสูง นักวิทยาศาสตร์ แพทย์ วิศวกรในบ้านเกิดของพวกเขา แล้วเป็นเพราะพวกเขาทำผิดบางอย่าง พวกเขาจึงถูกเนรเทศมาที่นี่ และลืมทุกอย่าง ลืมความสามารถทั้งหมดที่พวกเขามี ลืมอิสรภาพทั้งหมดที่พวกเขามี และลืมความเป็นอยู่ว่ารุ่งโรจน์อย่างไรก่อนที่พวกเขาจะลงมาที่นี่ แต่ถึงอย่างไร ในมุมเล็ก ๆ ลึกเข้าไปในจิตใจพวกเขา พวกเขาก็รู้สึกว่าบางอย่างเกี่ยวกับตัวเองในสภาพแวดล้อมแบบนี้ กับสถานการณ์ที่เจออยู่นี้ มันไม่ใช่ ดังนั้นพวกเขาจึงรู้สึกท้อแท้ผิดหวังมาก นั่นคือเหตุผลที่บนโลกนี้ไม่มีใครมีความสุข แล้วเราก็ทะเลาะกันเอง เราทรยศหักหลังกัน เราก่อสงคราม เราขโมย เราโกหก เราแข่งขันกันถึงขนาดฆ่าฟันกันหรือทำร้ายกันเอง ก็เพราะความผิดหวังภายในทั้งหมดนี้ ไม่มีคำตอบให้กับคำถามของพวกเขาว่า “ฉันมาจากไหน ฉันมาจากไหน ฉันมาทำอะไรที่นี่ ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่” อื่น ๆ อีกมากมาย ดังนั้นเมื่อไรก็ตามที่คุณรู้สึกผิดหวัง คุณก็ควรรู้ว่าความทรงจำของคุณตื่นขึ้นมาหน่อยแล้ว จงพยายามทำตัวเองให้สงบ ถ้าคุณรู้สึกผิดหวัง โดดเดี่ยว เป็นทุกข์ ก็ให้ไปทำสมาธิ ไปอาบน้ำถ้าต้องการ นั่งสมาธิ ฟังเพลงเพราะ ๆ ที่คุณชอบหรือฟังที่ฉันพูด เลือกอันที่พูดนุ่มนวลและชื่นชม ไม่ใช่อันที่กำลังดุและบอกให้คุณทำนั่นทำนี่ ไม่ใช่ตอนนั้น เวลาคุณหดหู่ ให้คุณฟังแต่เพลงโรแมนติกของฉันก็พอ หรือฟังเรื่องเหมือนอย่างวันนี้ที่ฉันบอกว่าคุณดีมากแค่ไหน คุณรุ่งโรจน์อย่างไร และคุณเป็นเพียงแค่เหยื่อของระบบที่ชั่วร้าย นั่นคือเหตุที่ฉันโมโหมาก ฉันโกรธพวกเขามาก ยิ่งฉันโกรธพวกเขามากเท่าไร ฉันก็ยิ่งรักผู้คนมากเท่านั้น ฉันหมายถึงสรรพสิ่งทั้งมวลบนดาวโลกแห่งนี้ ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจว่า โอเค ไม่ต้องสนใจพวกคุณไม่กี่คน ที่ไม่ดี ไม่เอาถ่าน ฉันก็จะยังให้การประทับจิตกับคนใหม่ต่อไป ด้วยความหวังที่ว่าพวกเขาจะปลุกตัวเองให้ตื่นขึ้น แล้วปลดปล่อยตัวเองเป็นอิสระตลอดไป ตลอดไปชั่วกาลนาน จากนั้นพวกเขาก็จะสามารถไปยังดาวเคราะห์ใดก็ตามที่พวกเขาต้องการ พวกเขาสามาถกลับมาเกิดในร่างมนุษย์ได้ถ้าพวกเขาต้องการ แต่พวกเขาจะไม่ถูกบังคับให้ทำอย่างนั้นด้วยความจำใจ แล้วถูกกักขังไว้ในโลกที่น่ากลัวนี้ตลอดไป

จากภายนอก ดาวเคราะห์ของเราดูสวยงาม แต่ข้างใต้เต็มไปด้วยไฟ ที่กำลังเดือด ไม่ใช่แค่กำลังเดือด แต่เดือดอย่างรุนแรงเลย เกือบจะเหมือนความร้อนของดวงอาทิตย์ มันมาจากแก๊สที่กำลังเดือด ดังนั้นภายนอกจะเย็นกว่า เปลือกโลกบางส่วนอาจจะยังเย็นอยู่ แต่มีไฟที่กำลังเผาไหม้อยู่ข้างในมากมาย ดังนั้นเราจึงมีสิ่งต่าง ๆ มากมาย อย่างเช่น แผ่นดินไหว ภูเขาไฟ และจากนั้นก็มีผลกระทบต่อน้ำ และมหาสมุทร และทั้งหมด และยิ่งไปกว่านั้น มนุษย์ดาวโลกบางคนถูกปลุกให้ตื่นขึ้นสู่นิสัยการประดิษฐ์เดิม ๆ สู่ความรู้ในการทำลาย และได้ประดิษฐ์ระเบิดบางอย่างขึ้นมา และทดลองที่นี่ ขีปนาวุธที่นั่น ระเบิดไฮโดรเจนตรงนี้ และระเบิดอะไรก็ตามอันต่อไปตรงนั้น รบกวนบรรยากาศ ทำลายชั้นโอโซน ไม่ทั้งหมดนะ แต่ก็ทำให้ชั้นที่ปกป้องดาวเคราะห์ของเราเสียหาย และเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศ ทำลายสิ่งต่าง ๆ มากมายอย่างช้า ๆ หรือไม่ก็รวดเร็ว บางอย่างก็ไม่สามารถทดแทนได้ สายพันธุ์มากมายสูญหายไป ชีวิตที่สวยงามสูญพันธุ์ไป และไม่มีใครสามารถทดแทนมันได้อีก แม้แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ คุณไม่สามารถสั่งจากบริษัทเก่า ๆ ได้อีก ไม่มีบริษัทเดิม ไม่มีอีกแล้ว ก็เหมือนกับบางบริษัท ที่พวกเขาล้มละลายไป บางบริษัทพวกเขาไม่ทำกำไรเพียงพอ พวกเขาก็ปิดตัวลง ก็เหมือนกับดาวเคราะห์ของเรานี่แหละ ดังนั้นจึงไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดที่ว่า “โอเค ไม่เป็นไร อาจจะวันหนึ่ง เราอาจจะมีพลังวิเศษ เราก็จะสร้างสิ่งเหล่านั้นได้” คุณมีการสร้างสรรค์ มีพลังสร้างสรรค์อยู่แล้ว บางครั้งคุณสามารถสร้างมนุษย์ได้ 1-2 คน หรือนก 1-2 ตัว ถ้าคุณมีแม่แบบ หรือถ้าคุณจำสิ่งคุณเคยทำมาก่อนได้ แต่ทำแบบนั้นไม่ได้หมดทุกสายพันธุ์ ความหลากหลายที่เรามีกำลังลดน้อยลง ซึ่งสิ่งมีชีวิตหลายชนิดมีประโยชน์มากต่อชีวิตเรา ไม่ว่าอย่างไร มันก็ทำให้โลกของเราสวยงาม

การประทับจิตคือทางเดินสู่อิสรภาพ 

แต่ก่อนมันสวยกว่านี้ ตอนที่สัตว์ยังไม่กินกันเอง ตอนที่เรายังไม่สู้รบกันเอง แต่บางครั้งเพราะความผิดหวังท้อแท้และถูกตัวตนด้านลบที่ชั่วร้ายกระซิบอยู่ข้างในเงียบ ๆ จากนั้นเราก็ทำเรื่องชั่วร้าย และเราไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ดังนั้นอาชญากรมากมาย คนที่ได้ชื่อว่าเป็นอาชญากรต้องถูกขังคุกอย่างไม่ยุติธรรม คนที่ควรถูกต้องโทษหรือควรถูกขังคุก ก็คือคนชั่ว คนเลวร้ายเหล่านี้ ตัวตนที่ชั่วร้ายโหดร้ายจากดาวเคราะห์อื่น พวกเขาควบคุมดาวเคราะห์นี้มาหลายแสนปี และก่อนหน้านั้นก็มีระบบที่แตกต่างกันควบคุมอยู่ และระบบสุดท้ายส่วนใหญ่หายไปหมดแล้ว เหลือแต่เครื่องจักรมากมายที่ยังมีไปทั่ว และยังไม่มีใครทำลายมันได้เพื่อที่จะปลดปล่อยดาวเคราะห์ของเราให้เป็นอิสระ

และยังไม่มีใครสามารถหยุดพิษอันนี้ ที่ถูกป้อนเข้าสู่วิญญาณหลังจากพวกเขาละร่างไปแล้ว ยังไม่มีใครทำได้ นอกจากด้วยวิถีแห่งพุทธะ ด้วยวิถีแห่งพระเยซู ลงมือโดยตรง สื่อสารโดยตรง ปลุกให้ตื่นทันทีจากภายใน ส่วนภายนอกนั้นเราทำอะไรไม่ได้มาก ภายในเราทำได้ เพราะเราคือวิญญาณ และวิญญาณมีทางผ่านที่ใช้เชื่อมต่อกันได้ พูดง่าย ๆ ก็เหมือนกับโทรทัศน์ คุณสามารถดูโทรทัศน์จากที่ห่างไกลออกไปหลายพันไมล์ได้ จากอีกฝั่งของมหาสมุทร จากบนภูเขา แล้วจะพูดได้ยังไงว่าวิญญาณสื่อสารกันไม่ได้ นั่นตลกนะ มันตลกนะ ถ้าวิญญาณหนึ่งสื่อสารกับอีกวิญญาณไม่ได้ แต่เราถูกปิดกั้น มีทางผ่านอยู่ตรงนี้ คุณสามารถกลับไปบ้านได้จากตรงนั้น เมื่อมันถูกเปิดออก คุณจะเป็นอิสระ ทันทีที่มันเปิดออก คุณจะเป็นอิสระ ! ก็เท่านั้น แต่คุณจะต้องเดินต่อไปให้ถึงบ้านของคุณ – ขับรถ เดิน บิน อะไรก็แล้วแต่ ขอให้กลับบ้าน เท่านั้นแหละ คุณเป็นอิสระ หลังจากการประทับจิต คุณเป็นอิสระ อิสระ อิสระ ! นั่นคือทั้งหมดที่ฉันทำให้คุณได้ นั่นคือทั้งหมดที่ฉันสัญญากับคุณได้ จงประพฤติตนให้ดี จงเป็นคนดี

* ข้อความล่าสุด : วันที่ 1 ตุลาคม ปีทองที่ 14 พ.ศ. 2560 (ค.ศ. 2017) อนุตราจารย์ชิงไห่ได้เปิดเผยข่าวดีจากสวรรค์ในปาฐกถาของท่านที่ซีหู เรื่องระบบควบคุมระหว่างดาวเคราะห์ที่แข็งกระด้างได้ถูกทำลายโดยสิ้นเชิงแล้ว

เพื่อรับชมปาฐกถาฉบับเต็ม กรุณาเยี่ยมชม http://edenrules.com/index.php?route=product/product&path=59_127&product_id=1611

Lovers  0 คน เลิฟคีตากะ
Lovings  คีตากะ เลิฟ 0 คน
Lovers  4 คน เลิฟคีตากะ
Lovings  คีตากะ เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคีตากะ
Lovings  คีตากะ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงคีตากะ