25 พฤศจิกายน 2547 13:21 น.

แว่วสำเนียงเสียงอดีต

แก้วประเสริฐ


                     แว่วสำเนียงเสียงอดีต

          วาบหวานหวามล้ำพิลาสประหลาดหนอ
อดีตล้อคลอเคล้าเร้าใจผวน
อ้อยอิ่งเสียงพริ้มพรายอาลัยชวน
ให้นึกหวนล้วนรำลึกอดีตกาล
          สำเนียงถ้อยร้อยรสหมดจดเหลือ
เหมือนจุนเจือสายสวาทพาดไพศาล
สุดเสกสรรพะนอรักจักวันวาน
สั่นสะท้านห้วงหทัยไร้หวนคืน
          สะอื้นอกฟกสะท้อนร่อนบินหา
แก้วกานดาอยู่ไหนให้สุดฝืน
เคยล้อเล่นหยอกเย้าแสนชื่นมืน
วันนี้ตื่นขึ้นมาหามีนาง
          สายฝนโปรยโรยละอองงามผ่องใส
สุดวิไลได้สบแสงอรุณสาง
เป็นสายรุ้งพุ่งโรจน์ดุจจับวาง
คอนอ้างว้างร้างคู่เหมือนอย่างเคย
          แนวพฤกษาคลาคล่ำด้วยหยาดฝน
ไหลเวียนวนหล่นล่วงสุดเฉลย
บินหลาดงคงซุกใต้ปีกมิเสบย
ใจเจ้าเอ๋ยขมิ้นน้อยสุดกลอยใจ
          ยินเสียงแจ้วแว่วหวานปานระริก
สะดุ้งพลิกระริกระรี้ที่ฝนสลาย
เหลียวแหงนมองจ้องหาพฤกษาไกล
บนกิ่งไม้ขมิ้นดงหลงเสียงครวญ
          หลับตาพริ้มลิ้มรสหมดความฝัน
ที่เฉิดฉันท์ว่าได้พบสบกำสรวล
แสนหวนหาขมิ้นน้อยกลอยใจชวน
คงมิหวนกลับมาสู่คลาคอน
          ร่างสะท้านสั่นระริกพลิกล่วงหล่น
ลงตรงโคนแมกไม้ใจสลอน
แตกซ่านซ่าตาริบหรี่รักอาวรณ์
สุดร้าวรอนนอนแดดิ้นสิ้นชีวา.

         ๙๙๙   แก้วประเสริฐ.   ๙๙๙				
24 พฤศจิกายน 2547 14:30 น.

กระทงน้อยคอยรัก

แก้วประเสริฐ


                  กระทงน้อยคอยรัก

          กระทงน้อยลอยลับมิกลับหวน
ความรักชวนหนีร้างจางสลาย
สายตาจ้องมองธารานัยน์ตาลาย
คลื่นลมกลายใยพาหายให้อาวรณ์
          สะท้อนจิตคิดสะท้านพลันไร้คู่
 นึกนึกดูอดีตกาลนั้นสุดถอน
เจ้าหนีพรากเวิ้งว้างห่างร้างจร
เหลือแต่คอนไร้สกุณามากู่ครวญ
         จันทร์สล้างนภาสว่างกระจ่างฟ้า
เหล่าเมฆาหนีหายคล้ายกำสรวล
สายธาราไหลเอื่อยเรื่อยเรื่อยชวน
ยืนปั่นป่วนริมฝั่งรั้งกาลเวลา
          แสงจันทราสะท้อนเงาเฝ้าสั่นระริก
คลื่นม้วนพลิกเป็นระลอกหยอกเย้าหา
ถึงวันคืนลอยกระทงครั้งผ่านมา
แสนอุราสุขนำเคล้าเย้ายวนใจ
          บัดนี้เล่ากระทงเอ๋ยเคยเผยรัก
ที่นำชักจักหวนหาอยู่หนไหน
วันกระทงลอยล่องผ่องอำไพ
เหลือหัวใจแห้งเหี่ยวอยู่เดียวดาย
          ความมืดสงัดยืนเดี่ยวสุดเปลี่ยวนัก
กระแสภักดิ์ยังมาเย้าเร้าใจสลาย
เสียงนกแมลงหยอกล้อคล้อข้างกาย
สายลมปรายไล้ผิวริ้วละออง
          น้ำค้างพรมบ่มฟ้าคราจันทร์ทรงกลด
แสงสีสดงดงามอร่ามฉลอง
คืนวันกระทงหลงทางคงค้างมอง
แสงนวลผ่องเร้าละอองสองนัยน์ตา
          วันนี้หนอพะนอรักอันพริ้งเพริศ
แสนบรรเจิดเลิศสมัครเสียนักหนา
กลับสูญสิ้นของกาลที่ผ่านมา
โอ้กระทงจ๋าแลลับไม่กลับคืน.

           ๙๙๙   แก้วประเสริฐ.   ๙๙๙ 

              23   พฤศจิกายน  2547				
23 พฤศจิกายน 2547 16:55 น.

แสนสุดสวยเสน่หา

แก้วประเสริฐ


                         แสนสุดสวยเสน่หา

          เพริศพริ้งแพร้วพรรณพิศพินิจพักตร์
งามผ่องนักลักขณายากหาเหมือน
ยามแย้มยิ้มพริ้มพรายใจสะเทือน
ยลย่างเยือนเลือนจันทร์ที่ฝันปอง
          ซาบซ่านจิตยิ่งคิดติดใจฝัน
ตลึงงันพลันงวยงงหลงนางสนอง
หลงใหลรูปแลจ้องมิอาจครอง
หัวใจต้องอ้างว้างร้างเดียวดาย
          ยิ่งแลจ้องมองดูโฉมตรูประจักษ์
ความเลิศลักษณ์ผ่องพรรณอันเฉิดฉาย
ดุจประหนึ่งเทพอัปสรมากรีดกราย
สุดไฉไลให้ถวิลสร้างจินตนา
          ฟ้าสร้างกำเนิดเลิศหญิงถึงเพียงนี้
ชายชาตรีมีหรือไม่ปรารถนา
คงว้าวุ่นครุ่นคิดความเป็นมา
เพื่อไขว่คว้าหาทางหวังภิรมย์
          โอ้ช่างอนาถวาสนาครานี้นัก
รูปกายพักตร์อัปลักษณ์มิคู่สม
เพียงแต่จ้องมองไว้หวังเชยชม
คงระทมเหมือนไก่ฟ้าแลหมาวัด
          อารมณ์หนึ่งพึงแสดงแห่งดวงจิต
ตัณหาจริตครอบงำตามส่วนสัด
ดุจมนุษย์สัตว์ทั้งหลายที่ปลายจัด
ตั้งสติสกัดออกห่างให้ร้างไกล
          คุณธรรมเข้านำหน้ากิเลสห่าง
แล้วจัดวางตั้งอารมณ์บ่มนิสัย
เชิดหน้ายิ้มพริ้มพลางอย่างไฉไล
ด้วยกายใจอันพิสุทธิ์ดุจแพรวาว
          ลาก่อนหนอยอดหญิงมิ่งเสน่หา
ต้องจากลาหาใช่หน่ายความสาว
เพราะเจ้านั้นพลันเลิศเพริศพริ้งพราว
แสงแวววาวเคล้าเคียงคู่สู่ฟ้าดิน.

           ๙๙๙   แก้วประเสริฐ.   ๙๙๙				
22 พฤศจิกายน 2547 16:56 น.

นวลนางสล้างร้างไห้

แก้วประเสริฐ


                   นวลนางสล้างร้างไห้

          โอบอิงแอบแนบสนิทติดตรึงไว้
บรรจงไล้โลมลูบปลุกปลอบขวัญ
ซ่านหทัยใจจำพรากเมื่อจากกัน
ดวงชีวันแทบดิ้นสิ้นละลาย
          อุษาสางฟ้าสล้างกระจ่างแล้ว
เสียงไก่แจ้วแว่วหวานปานสลาย
ใจจะขาดรอนเร้าเคล้าเคียงกาย
กอดรัดไว้ร่ำไห้ช้ำใจถวิล
          โอ้อนิจจาโพธิ์แก้วแว่วครวญคร่ำ
สุดระกำหัวอกหมดเสียงสิ้น
แว่วเคล้าคลอหนอรักเป็นอาจินต์
ปลุกปลอบชีวินมิร้างแลห่างไกล
          ความสวยสดหยดย้อยนางคล้อยเคลื่อน
น้ำตาเปื้อนสองปรางหยาดน้ำใส
ใบหน้าเคยสวยสล้างเป็นยองใย
หมดสิ้นไปหมองคล้ำน้ำตานอง
          ในโลกนี้มีอะไรมิกลายพราก
ต้องหันจากสิ่งรักมิจักสนอง
จงคำนึงพึงคิดมาตริตรอง
มิต้องหมองเป็นสิ่งที่จริงจัง
          พรุ่งนี้นั้นพลันเวลาให้ครุ่นคิด
อย่ามาสถิตคิดสิ่งดุจมนต์ขลัง
ขอนวลเจ้าเฝ้าถนอมออมพลัง
แล้วเก็บฝังความเศร้าเร้าอาดูร
          ดึงร่างน้อยสั่นสะท้านมารั้งกอด
พลางพร่ำพลอดใจจิตมิคิดสูญ
ลูบเกศาเชยปรางหวังเกื้อกูล
สร้างไออุ่นเสริมสร้างเพื่อรั้งใจ	
          บุพการีท่านสิ้นแล้วแก้วตาเอ๋ย
อย่าละเลยทำตัวเจ้าเฝ้าผ่องใส
สร้างกุศลผลบุญหนุนเกื้อไป
เพื่อท่านไซร้ได้พบวิมานทอง.

              ๙๙๙   แก้วประเสริฐ.   ๙๙๙				
21 พฤศจิกายน 2547 15:34 น.

แว่วเสียงนางครวญ

แก้วประเสริฐ


                     แว่วเสียงนางครวญ

          สำเนียงแจ้วแว่วหวานซึ้งซ่านโศก
ประโลมโลกพลิกห้วงล้วนหวนหา
อ้อยอิงเอิบเนิบนาบจับวิญญาณ์
ดุจนำมาภาพหลังครั้งระทม
          บ่มบอกความในใจสลายยิ่ง
รักระวิงอิงไว้แสนขื่นขม
ช้ำทั้งนอกข้างในใจระบม
เธอครวญพรมเสียงสั่นเร้ารัญจวน
          โอ้ความรักมักช้ำระกำจิต
ยากจะปลิดไขว่คว้ามากำสรวล
สิ้นเสียแล้วแนวทางต้องโศกครวญ
ให้หันหวนล้วนเพลงกล่อมอารมณ์
          ยืนฟังเสียงมองดูหมู่แมกไม้
ที่ปลูกไว้รายเรียงเคียงเหมาะสม
บางออกดอกหยอกล้อภมรดม
มัณฑนารมหยาดน้ำกลางกลีบใบ
          เสียงหวานฉ่ำล้ำลึกกึ่งออเซาะ
สุดฉอเลาะเพราะพริ้งสิ่งสดใส
เข้าโน้มเคล้ากลิ่นหอมซาบซึ้งใจ
ของดอกไม้ให้ซ่านพล่านความคิด
          โอ้กานดาช่างหวนชวนใฝ่ฝัน
ดวงใจนั้นรัญจวนอยากใกล้ชิด
ชวนน้องมาชมดอกไม้ไมตรีจิต
เพื่อสนิทมิตรสหายคลายกังวล
          โลกใบนี้มีไว้ให้คลายโศก
อย่าวิปโยคดวงใจให้สับสน
สิ่งที่ดีมีล้นหลายหลากปน
หากแยกจนเหลือไว้ให้เปรมปรีดิ์
          เพียงคำนึงพึงคิดมิอาจสม
จนสายลมพัดกระจายไม่สบศรี
เสียงเพลงหายมลายลับจากชีวี
ม่านฤดีคงประสบพบแนวทาง.

        ๙๙๙   แก้วประเสริฐ.   ๙๙๙

				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแก้วประเสริฐ