6 กันยายน 2547 12:16 น.

พระราชดำรัสในหลวงทรงรับสั่งให้กำลังใจ

แก้วประเสริฐ


                      ในหลวงทรงรับสั่งให้กำลังใจ

         ท่านสุเมธเคยขายเศษเหล็กไหม
เศษเหล็กเหล่านั้น  เวลาขาย  คุณค่ามันต่ำ
คงได้เงินมาไม่กี่บาท  แล้วถ้าเราเอาเศษเหล็ก
         เหล่านั้นมาหลอมรวมกันเป็นแท่ง
เวลาหลอมนี่  เหล็กมันคงรู้สึกร้อนมาก
พอหลอมเสร็จเรานำมาทำเป็นดาบ
คงต้องนำมาตีให้แบนอีก
เวลาตีก็ต้องคอยเอาไปเผาด้วย
ต้องตีไป  เผาไป  อยู่หลายรอบกว่าจะเป็นรูป
         เป็นร่างดาบอย่างที่เราต้องการ
ต้องผ่านความเจ็บปวด  ความร้อนอยู่นาน
แถมเมื่อเสร็จแล้วถ้าจะให้สวยงามดังใจ
         ก็ต้องนำไปแกะสลัดลวดลาย เวลาที่แกะ
ลวดลายก็คงต้องใช้ของแข็งมีคมมาตีให้เป็น
ลวดลายอีก  แต่เมื่อเสร็จเป็นดาบที่งดงามก็จะมี
คุณค่าที่สูงมาก  เทียบกับเศษเหล็กคงจะต่างกันลิบลับ
จะเห็นว่ากว่าที่เศษเหล็กไม่มีคุณค่ามากนักจะกลายเป็น
         ดาบอันงดงามนั้น  ต้องผ่านอุปสรรคมามากมาย
ทั้งความเจ็บปวดต่างๆกว่าจะประสบความสำเร็จ
         ดังนั้นขอให้จำไว้อย่างหนึ่งว่า


    ใครไม่เคยถูกตี  ถูกทุบ  เจอเรื่องเลวร้ายในชีวิตมาเลยนั้น
                                จงอย่าได้หาญคิดทำการใหญ่ 

                                


                    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ  ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทข้าพระพุทธเจ้านายแก้วประเสริฐ  พบพระบรมราโชวาทเห็นว่าปวงชนชาวไทยบางคนอาจจะยังไม่ได้อ่าน ข้าพระพุทธเจ้าจึงอัญเชิญพระราชดำรัสของพระองค์มาเผยแพร่เพื่อจักให้ประชาชนชาวไทยใช้เป็นเครื่องประเทืองปัญญา ประกอบประพฤติตนดำเนินชีวิตต่อไป     ควรมิควรขอพระองค์ทรงโปรดพระกรุณาด้วยพระพุทธเจ้าข้า.............แก้วประเสริฐ.
                    วันที่ ๖ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๗				
5 กันยายน 2547 15:24 น.

สร้างทานให้มีผลมาก

แก้วประเสริฐ


                   สร้างทานให้มีผลมาก

         ดูกรวัจฉะทานะเพื่อจะมอบ
ประกอบรอบคอบด้วยจิตผ่องใส
มิเลือกลักขณากาละที่จะไป
สร้างเพื่อไว้ได้อวดคนเชยชม
         ด้วยความคิดสะอาดปราศอคติ
พร้อมใช้สติปัญญามาสะสม
ทำการสร้างกุศลผลอารมณ์
โดยระดมด้วยใจมั่นให้คง
         วาระหนึ่งพึงมีด้วยสาเหตุ
กำหนดเขตเจตนาภิกษุสงฆ์
ที่ละนิวรณ์ห้ามาหมายตรง
อย่าเจาะจงลงสงฆ์รูปวิไล
         พระอเสกขะวางไว้มีได้ห้า
ซึ่งนำมาศีลขันธ์อันสดใส
อีกสมาธิขันธ์ขันธ์ปัญญาเกรียงไกร
ดุจแก้วใสวิมุตติขันธ์พลันพ้นหลุด

         วิมุตติญาณทัสสนขันธ์นั้นแจ่มแจ้ง
รู้เหตุแสดงแฝงดับเกิดเป็นที่สุด
สำเร็จกิจแห่งสงฆ์ตรงวิมุตติ
มุ่งหมายฉุดผลทานนำผ่านขจร
         แถมอีกหน่อยค่อยพิจารณาคิด
นั่นคือปิดกั้นไว้แล้วได้สอน
มิให้เขาส่งผ่านทานขั้นตอน
โดยบั่นทอนผลบุญเกื้อหนุนนำ
         มันเป็นกรรมเสริมสร้างอย่างมหันต์
หนึ่งคือนั้นอันตรายหมายบุญทำ
สองนำลาภปฏิคาหกมาตกระกำ
สามบอบช้ำกำจัดถูกทำลาย
         อุปมาดั่งโจรปล้นขนวัตถุ
ที่บรรจุผลบุญหนุนเหลือหลาย
เป็นเหตุให้กุศลผลต้องมลาย
ครั้นเมื่อสลายตายไปสู่อเวจี.                       

                ๙๙๙   แก้วประเสริฐ.   ๙๙๙ 				
4 กันยายน 2547 22:48 น.

แสงธรรมนำส่อง*ดอกบัวสีน้ำเงิน

แก้วประเสริฐ


                            แสงธรรมนำส่อง

       แสงธรรมชักนำส่อง.......... ประกาศก้องทั่วโลกา 
ฝูงมารหวั่นผวา............... หนีหลบหน้าแทรกกายหนี 
       หมู่ชนคนทั้งผอง.............บัดนี้ต้องร้องโศกี 
ต่างชาติมาราวี.................นำธรรมนี้ขยี้แหลกลาญ 
       โอ้เหล่าชาวพุทธเอ๋ย....... อย่าละเลยธรรมสังขาร 
แม้นภัยมารรุกราญ.......ขอสมานรักสามัคคี 
       พิบัติมันเพียงนาม...........อีกไม่นานคงหลีกหนี 
หมั่นสร้างคุณความดี.....จะได้มีที่พึ่งพา 
       ทุกข์เอ๋ยมันแค่ทุกข์......มันร้อนรุกเหลือคณา 
อนิจจังจะนำพา............ นำมาสู่การเปลี่ยนแปลง 
       อนัตตาเข้ามาแทรก....... มันดับแตกตามสีแสง 
ท่านเพียรช่วยอีกแรง...แล้วโน้มแสงธรรมรุ่งเรือง. 

                           ดอกบัวสีน้ำเงิน

         ดอกบัวแก้วแพรวพราววับวาวจิต 
ฟ้าลิขิตน้ำเงินสีที่สดใส 
ดารดาษวาดสีสันต์อันวิไล 
ให้ดินไว้ใช้สร้างตามครรลอง 
         ก่อกำเนิดกุมารีที่งามพร้อม 
เลอเลิศน้อมย้อมจิตมิเป็นสอง 
ช่วยสร้างสรรค์ธรรมไว้ให้เกริกก้อง 
คนแซ่ซ้องก้องฟ้าทั่วธานี 
         ที่สิบสามมีนาฟ้ากำหนด 
ตามเบื้องบทกฎเกณฑ์แห่งราศี 
สองสี่เก้าเก้าเร้าอารมณ์สมฤดี 
ตามเดือนปีที่ฟ้ามาประทาน 
         นามบุษกรเมธางกูรดรุณน้อย 
เธอตามรอยพุทธองค์ทรงสร้างสรรค์ 
ประกาศอภิธรรมเจ็ดคัมภีร์ตำนาน 
จนพ้นผ่านกาลเวลาสู่ปัจจุบัน 
         แสดงเหตุเจตสิกจิตปลิดแตกดับ 
วงจรกลับดับเกิดขณะจิตพลัน 
ที่สร้างสรรค์ดีชั่วมั่วทุกวัน 
จนมีอันพลันเกิดแก่เจ็บตาย 
         ครบวารดิถีปีที่กำเนิด 
เมธีเลิศปัญญาพามารสลาย 
ขอจงได้เกษมสันต์พลันสบาย 
เป็นหลักชัยมูลนิธิฯคู่ฟ้าดิน. 

               ๙๙๙   แก้วประเสริฐ.   ๙๙๙				
3 กันยายน 2547 14:25 น.

สาเหตุแห่งการเกิดใหม่

แก้วประเสริฐ


         โลกหมุนเวียนเปลี่ยนตามกระแสนั้น
สุดแปรผันหันหวนทวนกระแส
ทั้งวัตถุจิตใจไม่เหลียวแล
ยากจะแก้ไขด้วยใจใฝ่อวิชชา
         เพราะมอบให้ตัณหาพาแช่มชื่น
สุดระรื่นกามารมณ์สมใจหนา
อีกโมหะเข้าครองต้องเข้ามา
แล้วนำพาโทสะระรานกัน
         อีกความโลภครอบงำซ้ำเติมจิต
ปล่อยชีวิตผันผวนจนโศกศัลย์
มอบตัณหาพาจิตคิดผูกพัน
สร้างกรรมนั้นพันผูกจนเกิดภพ
          กรรมนั้นเปรียบไร่นามาหว่านกล้า
วิญญาณหนามาเป็นพืชสมทบ
ตัณหาเร้าเฝ้าอารมณ์เข้าประจบ
เป็นยางสยบกลบทางสร้างความดี

          เมื่อวิญญาณประดิษฐ์ฐานผ่านพบ
ถูกยางลบจบเส้นทางอันสุขี
เพราะอวิชชาหาเหตุมาราวี
ด้วยเหตุมีตัณหามาผูกใจ
          ผลกรรมอำนวยผลให้ในรูปธาตุ
อวิชชาวาดตัณหาพาหวั่นไหว
แล้วผูกใจให้เป็นทาสมิไป
สร้างภพใหม่ได้มีผลการเกิด
          เป็นที่มาพามนุษย์และหมู่สัตว์
เข้ามาสกัดผลักดันนั้นเป็นเลิศ
อวิชชานำตัณหามาละเมิด
เป็นบ่อเกิดหมุนเวียนเปลี่ยนภพไป
           ด้วยสาเหตุเช่นนี้ที่เป็นผล
ดังนั้นชนที่ประเสริฐเลิศแจ่มใส
ใช้ศีลสมาธิปัญญามากลับกลาย
สร้างจิตใจหมายมุ่งพุ่งนิพพาน.

                   ๙๙๙   แก้วประเสริฐ.   ๙๙๙				
3 กันยายน 2547 12:08 น.

เสียงครวญชวนฝัน

แก้วประเสริฐ


                     เสียงครวญชวนฝัน

         หวีดเสียงแว่วแผ่วพลิ้วไผ่เสียดสี
ดุจดนตรีขับขานสนานเสนาะ
ลมโชยพัดผ่านมาพาไพเราะ
จิตจำเพาะเจาะลึกให้นึกถึง
         คำสัญญาว่าไว้ได้หวนคิด
ช่างถูกปลิดความหวานผ่านรัดรึง
สุดคิดถึงผ่านไปให้ตราตรึง
เปรียบสะดึงขึงขนดรดราดใจ
         ใบไผ่ริ้วพลิ้วคล้อยลอยจากต้น
แล้วหมุนวนวกผันหันผลักไส
เปรียบดั่งคล้ายชีวิตคิดจากไกล
ยากจะได้โลมเร้าเคล้าคู่ครอง
         ลมเอ๋ยลมพรมรักกลับชักหนี
ชั่วชีวีมีเจ้ามิเป็นสอง
ยิ่งหวนคิดจิตใจยากใฝ่ปอง
น้ำตานองมองไผ่ให้คร่ำครวญ

         ก้มมองไปไร้แล้วโธ่อกเอ๋ย
แผ่นดินเคยเกยรักกลับกำสรวล
เจ้าเคยเล่นซ่อนหามาชักชวน
บัดนี้ล้วนครวญไว้ใจอกตรม
         กาลเวลามาผ่านทำให้เปลี่ยน
โลกที่เพียรเรียนรักไม่เหมาะสม
นี่แหละหนารักมากไปให้ระบม
เฝ้าโศกตรมขื่นขมระบมกาย
         หากใครเล่าเฝ้าพะนอมอบใจรัก
ขอจงจักระวังไว้ยังไม่สาย
พิษรสนั้นมากมายยากมลาย
เมื่อช้ำหทัยใจรู้ถูกรักลวง
         นี่แหละหนาคือโฉลกเป็นโรครัก
ปล่อยตัวนักมักคว้าแค่ลมหวง
ดวงใจจิตคิดไว้แทบล้นทรวง
มันคือบ่วงห่วงรักผลักอกตรม 
         ลมพัดผ่านกิ่งไผ่ไหวส่งเสียง
เป็นสำเนียงเย้ยเยาะมิได้สม
ดุจใบไผ่ลอยลิ่วปลิวตามลม 
ล้อเล่นลมบ่มบอกไว้อนิจจัง.

                 ๙๙๙   แก้วประเสริฐ.   ๙๙๙				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแก้วประเสริฐ