6 ธันวาคม 2550 10:33 น.

มอบรักแทนผ้าห่ม....

คีตากะ

เหมันต์เยือนเยี่ยมแล้วไม่แคล้วหนาว
มองเดือนดาวเคว้งคว้างกลางฟ้าใส
น้ำค้างพรมพร่างพื้นยืนหนาวใจ
ห่วงคนไกลจะหนาวคราวลมมา

ลมเหนือล่องท่องใต้ทำให้หนาว
กี่ครั้งคราวคอยใครใจโหยหา
ดั่งเลื่อนลอยหงอยเหงาเคล้าน้ำตา
คงเหว่ว้าอ้างว้างกลางเหมันต์

อะไรหรือที่เธอละเมอใฝ่
สิ่งอันใดกั้นขวางทางแห่งฝัน
สิ่งใดหนาคาในใจแจ่มจันทร์
สิ่งใดฉันขาดไปไยเฉยชา

เธอต่ำต้อยด้อยค่าหรือว่าสูง
เป็นนกยูงหรือเศษดินสิ้นค่าหา
ไม่สนใจไยดีที่ผ่านมา
เพียงมีรักชักพามิอาลัย

มอบความรักแทนผ้าห่มต้านลมหนาว
ทุกย่างก้าวมีกันไม่หวั่นไหว
ความคิดถึงแทนคำย้ำเตือนใจ
ฝากอุ่นไอแห่งรักปกปักเธอ......
				
5 ธันวาคม 2550 13:20 น.

เพียงมีเธอและฉัน.....

คีตากะ

เรือลำนี้มีเธอและมีฉัน....
ต่างช่วยกันพายล่องท่องน้ำใส
แหวกธาราแห่งรักสู่หลักชัย
ด้วยหัวใจมุ่งมั่นมิผันแปร

ท้องธารนี้มีเธอพบเจอฉัน...
ทุกวารวันสรรค์สร้างทางรักแท้
ฝ่าเกลียวคลื่นยืนสู้อยู่ดูแล
เป็นกำลังใจให้แก่กันและกัน

เส้นทางนี้มีเธอคอยเคียงคู่....
รักมั่นอยู่ก้าวไปไม่หวาดหวั่น
แม้มืดมนสับสนทนฝ่าฟัน
จับมือกันต่อสู้สู่ปลายทาง

ท้องทุ่งนี้มีเธอเพ้อกับฉัน...
คลอเคลียกันชิดใกล้ไม่เหินห่าง
เสมือนเงาเฝ้าตามติดทุกทิศทาง
ช่วยถากถางอุปสรรคแห่งรักเรา

ฤดูกาลนี้มีเธอเดินร่วมฉัน...
ร้อนหนาวฝนบุกบั่นในวันเหงา
สุขหรือทุกข์ปลุกปลอบหอบฝันเรา
ไม่ว่างเปล่าเหมือนเป็นเช่นผ่านมา

นาทีนี้มีเธอเหม่อมองฉัน....
ดวงตานั้นเปี่ยมรักเป็นนักหนา
เสียงเธอเพราะเซาะทรวงดวงชีวา
กลิ่นกายาหอมหวนชวนคำนึง

ค่ำคืนนี้มีเพียงเธอในใจฉัน...
ไถ่ถามจันทร์ฝากฟ้าคราคิดถึง
ผ่านบทกวีลิขิตวิจิตรซึ้ง
ดังอื้ออึงเต็มทรวงทุกห้วงใจ.......



***ความรักที่แท้จริงนั้น เธอจะไม่รู้สึกมีภาระ
ความรักที่แท้จริงทำให้คนรู้สึกเบาสบายมากตลอดเวลา
ไม่มีข้อผูกมัดอะไร ไม่มีภาระ....


ถ้าเรามีใจกว้างต่อผู้อื่นและอภัยต่อผู้อื่นอยู่เสมอ
แม้ว่าเขาปฏิบัติไม่ดีต่อเรา เราก็ยังคงปฏิบัติดีต่อเขา
และรักเขา นี่แหละคือหัวใจของเด็กๆ....


เมื่อเราทำอะไรด้วยความตั้งใจจริง
และเป็นไปตามธรรมชาติ ผลก็จะออกมาสำเร็จสมบูรณ์
เพราะเป็นสิ่งที่มาจากพระเจ้า จากปัญญาที่แท้จริงของเรา
จากธรรมชาติที่แท้จริงของเรา
เมื่อไรที่เรามีการคาดหวังหรือมีความภาคภูมิใจอยู่ในนั้น
หรือมีการคิดคำนวณอยู่ในนั้น งานเหล่านั้นก็จะเสียไปหมด...


เพราะฉะนั้นทุกๆครั้งเราควรสร้างความคิดที่บริสุทธิ์มากๆ
ความรักอย่างไม่มีเงื่อนไข และมีความตั้งใจที่ดีตลอดเวลา
โดยไม่หวังสิ่งใดๆตอบแทน นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุด...


จงเคารพทุกคนและมองทุกคนด้วนสายตาอันบริสุทธิ์
จะเป็นการดีต่อตัวเธอตลอดเวลา
นี่แหละคือวิธีที่ดีที่สุดในการมองผู้คน.....


เราก็มีทางเลือกอยู่ระหว่างสิ่งที่เป็นลบและสิ่งที่เป็นบวก
มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก คือทุกครั้งที่เราคิดอะไรที่เป็นลบ
เราก็เปลี่ยนหันมาทางที่เป็นบวก ทุกครั้งที่เราอยากจะพูดอะไร
ที่เป็นลบ ก็ให้เปลี่ยนกลับมาพูดในสิ่งที่เป็นบวกเสีย
ทุกครั้งที่เราอยากจะเกลียดใครบางคน 
ก็คิดใหม่อีกหนแล้วเปลี่ยนมารักเขาคนนั้นแทน....


จริงๆแล้วไม่มีใครที่เลวจริงๆ เพียงแต่เขาเกิดมาพร้อมกับ
ความโน้มเอียงที่จะเรียนรู้ เขาจะเรียนรู้ได้เร็วมาก
ไม่ว่าสิ่งที่ดีหรือสิ่งที่เลว ถ้าเขาเรียนสิ่งที่ดีเขาก็กลายเป็นคนดี
ถ้าเขาเรียนสิ่งที่เลว เขาก็มีแนวโน้มที่จะเลว....


สิ่งที่เลวไม่ได้มาจากหัวใจ แต่มาจากนิสัย
ส่วนสิ่งที่ดีนั้นติดตัวมาตั้งแต่เกิด สิ่งที่ดีมาจากหัวใจของเธอ
เพราะเธอเกิดมาพร้อมๆกับสิ่งเหล่านั้น
เธอเกิดมาโดยมีคุณสมบัติแห่งสวรรค์......


ความเชื่อคืออะไร? ไม่ใช่เป็นการเชื่ออย่างตาบอด
แต่เชื่อในความสูงส่งของเธอเอง ในสิ่งที่เธอทำได้
เชื่อว่าตัวเธอเคยยิ่งใหญ่ขนาดไหน และจะยังคงยิ่งใหญ่ต่อไป....


อย่าไปเชื่อถือใคร หากคนนั้นพูดเรื่องไร้สาระ
และต่อต้านขบวนการพัฒนาของเธอเอง
จงเชื่อตามผู้ที่มีคำสอนอันยิ่งใหญ่ สูงส่ง มีระดับสูง
และทำให้เธอเกิดแรงบันดาลใจที่จะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ขึ้น
มีความั่นใจมากขึ้น และมีปัญญามากขึ้นภายในตัวเธอ
นั่นแหละคือมหาอาจารย์ผู้สูงสุด......


สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตนี้ ในหลักการบำเพ็ญของเราก็คือ
 ความรัก รักผู้อื่น รักตัวเราเอง จงหลุดพ้นจากความเกลียดชัง
อคติ ทัศนคติที่ชอบวิพากษ์วิจารณ์ และความคิดในทางลบ
เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งไม่ดี  เป็นภาระซึ่งผูกมัดเราไว้
กับโลกแห่งวัตถุ หรือผูกมัดให้เราอยู่ในสามโลก
ถ้าปราศจากสิ่งเหล่านี้ เราก็จะหลุดพ้นตั้งแต่มีชีวิตอยู่.....


เวลาที่เรารักใครสักคน เราก็รักตัวเอง
เราเสริมเติมความประเสริฐของตัวเราให้สูงขึ้นจริงๆ
ไม่ใช่ว่าเราช่วยใครหรอก เราช่วยตัวเราเองนั่นแหละ....


สาเหตุของความทุกข์ทั้งมวลไม่ได้มาจากสภาวะภายนอก
แต่จริงๆแล้วมากจากทัศนคติของตัวเราเอง...


เราต้องเคารพตัวเราเองก่อนที่คนอื่นเขาจะเคารพเรา
ถ้าเราไม่มีความมั่นใจในตัวเอง 
ก็จะไม่มีใครมีความมั่นใจในตัวเราได้
หากเรายังจำความยิ่งใหญ่ของตัวเราเองไม่ได้
ก็ไม่มีใครจำความยิ่งใหญ่ของเราได้เช่นกัน....


พยายามมีชีวิตที่มีสุขภาพดีและเรียบง่าย
ดำรงชีวิตให้เรียบง่าย และคิดในเรื่องที่สูงส่ง
คิดในทางบวกอยู่เสมอ เพราะเพียงแค่การคิด
ก็สามารถเปลี่ยนลักษณะของชีวิต
เปลี่ยนสิ่งต่างๆในแต่ละวันของเธอ และเปลี่ยนชะตาชีวิตของเธอ....


ความรักเป็นกฎที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาล
ไม่ว่าสิ่งใดล้วนสามารถได้รับการชำระล้างด้วยความรักที่แท้จริง
ดังนั้น เมื่อเธอทำสิ่งใดเพื่อการกุศล
จงทำด้วยความรัก อย่ากังวลเกี่ยวกับกรรม....

                 อนุตตราจารชิงไห่				
4 ธันวาคม 2550 13:58 น.

ขอเพียงรักหนักแน่น.....

คีตากะ

ขอเพียงรักหนักแน่นดุจแผ่นดิน
ไม่สูญสิ้นจากฤดีมิหวั่นไหว
ผ่านทดสอบรอบด้านด่านพาลภัย
ยังหัวใจรักมั่นนิรันดร

แต้มสีสวยด้วยใจให้งามหรู
ด้วยชมพูพรายแพรวแพร้วสลอน
เปลี่ยนโลกซึ้งตรึงตราด้วยอาทร
มิสั่นคลอนรักแอบแนบอุรา

เอ่ยคำรักฝากใจในนิยาม
อันงดงามความหมายในภาษา
ล้นจากใจไหลหลั่งพรั่งพรูมา
จนเกินกว่าทัดทานผ่านม่านใจ

กลีบกุหลาบหยิบโรยโปรยทางรัก
จงพ้นผ่านอุปสรรคยากเพียงไหน
ขอความรักชักนำดั่งแสงไฟ
จนก้าวไปถึงจุดหมายที่ปลายทาง

ผูกโบว์ให้ใจสองแทนของขวัญ
มอบต่อกันแทนใจยามไกลห่าง
ผูกพันธ์ใจมั่นไว้ไม่เว้นวาง
รอร่วมทางเปิดกล่องมองชื่นชม

สวมแหวนหมั้นนิ้วนางที่ข้างซ้าย
ด้วยสายใยแห่งรักถักทอสม
คล้องเกี่ยวใจให้หมั้นหมั่นเพาะบ่ม
รอภิรมย์วันเคียงเยี่ยงสัญญา

จูบหนึ่งมอบปลอบขวัญวันฟ้าใส
แด่คนไกลดั่งจิตคิดห่วงหา
แม้นสิ้นดินสิ้นฟ้าพสุธา
ยังรอท่าไม่สิ้นรักไปจากใจ....
				
3 ธันวาคม 2550 15:56 น.

แสนงอนแสนงาม....

คีตากะ

รายงานตัวฝากหัวใจไว้แนบตัก
สุดที่รักคือเธอละเมอฝัน
ส่งคำหวานปานน้ำอ้อยร้อยรำพัน
บอกรักกันทุกวันฉันชื่นใจ

แม้นแสนงอนแสนงามตามคิดถึง
คงลึกซึ้งคำรักเพียรซักไซ้
ถ่อยทอดคำย้ำบอกออกจากใจ
แจ้งความนัยให้รู้อยู่ประจำ

อยากกอดเธอเพ้อหายามล้าอ่อน
หมายเคียงนอนนับดาวพราวชื่นฉ่ำ
หวังแนบชิดมิตรแท้แพ้น้ำคำ
จะเก็บงำความเหงาเฝ้ารอเธอ

รักของเรายังใหม่ไม่เก่าเลย
เป็นเหมือนเคยอย่างนั้นมั่นเสมอ
รักล้นปรี่มีฉันมั่นรักเธอ
ใจคอยเหม่อมองฟ้าถามหากัน.....
				
30 พฤศจิกายน 2550 13:24 น.

เรื่อยเปื่อยคำกลอนวอนรัก...

คีตากะ

....คำรักจากคืนหม่น....

จดจารถ้อยร้อยคำลำนำขาน
อาจไม่หวานกินใจในอักษร
ส่งถึงเธอเจอกันวันก่อนนอน
ฝากบนหมอนใบนั้นหลับฝันดี

อ้อมกอดดาวพราวฟ้าคงว้าเหว่
อยากกล่อมเห่เธอนอนผ่อนสุขี
ท่ามกลางคืนเปลี่ยวเหงาเศร้าฤดี
ยังคงมีหนึ่งใครส่งใจมา

เบื้องหลังคืนดื่นดึกระลึกถึง
เธอผู้ซึ่งอาทรวอนภาษา
ส่งถึงใจได้รับสดับพา
ตอบแทนว่ารักเธอเสมอใจ

เธอเป็นใครไยหลบไม่พบหน้า
รอสบตาเพียงเธอเพ้อฝันใฝ่
ส่งข้อความถามรักทักทายใจ
ทำปลื้มใจจริงแท้แม่น่ามล

คนเดียวดายหมายใจได้เคียงคู่
รอคอยอยู่เนานานพานหมองหม่น
ฝากคำรักจากใจใครบางคน
กลางคืนหม่นฟ้ามัวสลัวมอง....

............................................

ถ่ายทอดรักจากทรวงดวงใจหนึ่ง
ส่งตรงถึงทรามวัยใจห่วงหา
ลึกสุดใจไขขานสื่อสารมา
ผ่านภาษาต่ำต้อยร้อยรำพัน

ความรู้สึกล้ำลึกจารึกจด
ร้อยเรียงบทภาษาพาใฝ่ฝัน
กลั่นถ้อยคำย้ำเตือนเหมือนจำนรรจ์
เพียงเสกสรรอักษรามาบรรยาย

แม้นยากนักจักเอ่ยเฉลยถ้อย
คำนับร้อยหมื่นพันสรรค์ความหมาย
คงผิดเพี้ยนเวียนวนจนใจกาย
เพียรเขียนร่ายแต่เปลือกเลือกหาคำ

บทสรุปสุดท้ายหมายบ่งบอก
ใช่ลวงหลอกเล่นมาภาษาย้ำ
แทนจิตใจไร้เสียงสำเนียงคำ
เพียงเพ้อพร่ำใจสั่งมาว่ารักเธอ...

.......................................

...ลิขิตรัก ละลายใจ....

เมื่อเธอวางอัตตาละลายแล้ว
เธอคงแพร้วงดงามล้ำนักหนา
จงรักฉันมั่นเดิมเริ่มกานดา
ด้วยฉันหาใช่ใครคือใจเธอ

ตัวตนฉันนั้นสมมุติดุจภาพวาด
ฉันเติมสาดสีแสงแจ้งเสนอ
ลิขิตเขียนเพียรเคล้าเฝ้ารักเธอ
ส่งคำเพ้อมากมายละลายใจ

เหตุเธอทุกข์รุกร้อนกัดกร่อนจิต
เพราะยึดติดอัตตาพาหวั่นไหว
บัดนี้แจ้งแห่งสัจจ์ปลงตัดใจ
อย่าเปลี่ยนไปเกลียดชังนั่งอาวรณ์

ครั้นอัตตาพร่าผลาญสังหาญสิ้น
ความรักรินจากใจอย่าได้ถอน
นั่นคือรักรักแท้แท้อาทร
นี่คือรักฉันสอนวอนบอกเธอ

หากเธอมีรักนี้ไม่มีทุกข์
สงบสุขใสเย็นเช่นนั้นเสมอ
วางตัวตนผลประโยชน์โกรธเกลียดเธอ
แล้วจะเจอบางสิ่งนอนนิ่งนาน

จิตใจว่างทุกอย่างดีมีอิสระ
จงเลิกละยึดมั่นสร้างสรรค์สาน
มุ่งสู่ธรรมล้ำค่าหาดวงมาน
ซึ่งเบิกบานกลางใจในตัวเธอ

อย่าให้ภาพลวงตามาปิดกั้น
จงหาฉันทุกวันมั่นเสมอ
ใช่หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ใจละเมอ
ฉันคือเธอจงรู้ดูดีดี

เราเป็นหนึ่งเดียวกันตั้งวันแรก
อย่าหลงแบกอาฆาตรบาดหมางหนี
ฉันรักเธอจริงแท้แน่คนดี
รักแบบที่ไร้เงื่อนไขไร้ตัวตน

เมื่อเธอว่างปัญญาย่อมจ้าแจ่ม
ฉันยิ้มแย้มทักทายตั้งหลายหน
แต่เธอไปสนใจใครบางคน
คนที่จนคนไม่หล่อพ่อไม่รวย

เธอจึงทุกข์เพราะมายาพาใจหวั่น
เป็นเช่นนั้นเป็นไปเป็นได้สวย
รักฉันเถอะ ! รักฉันมั่นอำนวย
ฟ้าจะช่วยเธอพ้นสิ้นมลทิน.....

................................................

....ชลธีมีความรัก....

แว่วเสียงครวญชวนชมชลธี
ล่องเรือผ่านนทีวจีขาน
คุ้นสำเนียงเพียงยินถิ่นตระการ
ดังใกล้บ้านของเราเฝ้าฟังคำ

ท่องสายน้ำฉ่ำเย็นช่างเป็นสุข
ค่ำคืนปลุกแสงดาวพราวชุ่มฉ่ำ
เดือนในน้ำงามตาน่าจดจำ
หิ่งห้อยทำคืนเหงาไม่เปล่าดาย

เลียบริมฝั่งนั่งมองเหม่อท้องน้ำ
ยังเก็บงำภาพสวยด้วยเฉิดฉาย
เคยเที่ยวเล่นเย็นย่ำล้ำเพริศพราย
เหม่อมองสายน้ำหลั่งครั้งเคยมา

ใจสะเทือนเหมือนใครคนใกล้ถิ่น
ยังหลั่งรินน้ำใจให้โหยหา
ถึงบางใครในฝันจินตนา
คงเหว่ว้าอ้างว้างพลางรอคอย

น้ำใสเย็นเห็นแล้วแจวเรือผ่าน
แสนสำราญชมแหล่งแสงหิ่งห้อย
ใต้ลำพูดูชื่นคืนจันทร์ลอย
คล้องเกี่ยวก้อยคนดีไมตรีกัน....

.................................................

.....แสวงธรรมจำจากจร....

จำใจพรากจากแล้วแก้วตาเอ๋ย
มิรู้เลยจะกลับมาเพลาไหน
ยีนตัวเก่าเสื้อยืดขาวก้าวเท้าไป
กระเป๋าใบบนบ่าบ่ายหน้าเดิน

ขุนเขาแห่งวิญญาณยากผ่านนัก
สู้ด้วยรักด้วยใจไม่ห่างเหิน
มุ่งสู่ธรรมล้ำค่าฝ่าเผชิญ
เพียงก้าวเดินตามพระศาสดา

มุ่งภูผาเลื่องลือชื่อเขาใหญ่
หนทางไกลสุดแลชะแง้หา
ไม่ท้อถอยคอยสู้สู่สัจจา
แม้นชีวาแลกได้เพื่อใฝ่ธรรม

ก่อนสิ้นลมหายใจขอได้สู้
ให้โลกรู้ตัวเราเฝ้าก้าวย่ำ
ทิ้งร่องรอยร้อยสู้ดังผู้นำ
จารึกธรรมเกริกไกรให้ผองชน

งานฌานใหญ่ไทยจัดฝึกหัดจิต
ทั่วสารทิศต่างมาหาเหตุผล
เกิดทำไมตายทำไมมองใจตน
เพียงหลุดพ้นปัญหาน่าท้าทาย

อย่าประมาทอนาถแท้แม่งามขำ
ไล่คว้าคลำความมืดอืดอาดหลาย
หลงกระแสแฟชั่นจนวันตาย
จะอับอายตัวเองเล็งผิดทาง

หมายชักชวนนวลน้องลองมาบ้าง
หวั่นเกรงนางบอกเชยเดินเลยห่าง
ยังเป็นสุขสนุกแท้เดินแต่ห้าง
ปล่อยพี่ร้างไร้คู่อยู่เดียวดาย

มาบุญครองคลองถมสีลมย่าน
เมืองทองฯงานไบเทคไฮท์เทคหลาย
ทั้งเซนทรัลพันธ์ทิพย์ทิปโก้พราย
พาต้าขายของมากนักจตุจักรพราว

ทั้งสยามฯเวอร์เทรดเดินเตร็ดเตร่
ชอบนั่งเหร่สวนลุมดูหนุ่มสาว
ไนท์พลาซ่าบาร์เบียร์เพลียบางคราว
คาราโอเกะยาวนั่งเฝ้าไมค์

มาจนเบื่อเหลือระอาเวลานี้
ท่องราตรีลายตาพาหลงใหล
หลากแสงสีลีลาน่าหนักใจ
เหลือทิ้งไว้ความเหงาว่างเปล่าทรวง

หันหลังออกนอกกรุงมุ่งสู่ป่า
ให้พฤกษาปลอบใจดั่งในสรวง
อยู่ธรรมชาติอาจดีมีโชคดวง
ได้ก้าวล่วงแดนธรรมล้ำโลกา

ปล่อยชีวิตติดยึดอึดอัดวาง
เดินตามทางแห่งตนพ้นกังขา
ไปเพื่อสุขสนุกนักหากกลับมา
มีเวลาจะมาเล่าให้เจ้าฟัง

..............................................

ฝากเพลงแซวใครบางคน.....อย่าเศร้าอย่าเหงาอย่าทุกข์.....

เพลงหัวใจฝังเพชร(ยิงไม่เข้า...ฮ่าๆๆๆๆ)

พี่คนไม่หล่อ มาง้อคงเสียเวลา
แม่สาวแห่งเมืองล้านนา อย่าหมิ่นคนจนบ้านไกล
คนพเนจร วอนบอกพี่รักจากใจ
มาขอปรับความเข้าใจ ทำไมน้องเมินหน้าหนี

พี่คนไม่เท่ ว้าเหว่หัวใจทุกคราว
หวังความเห็นใจจากสาว ชาวเมืองเชียงใหม่โสภี
แง่งอนเรื่องใด ทรามวัยมาตัดไมตรี
ทำหนุ่มเมืองราชบุรี ล้นปรี่ด้วยน้ำตานอง
 
*เขาว่าสาวเหนือรักใครไม่เคยหลอกลวง
ทำชายให้ต้องช้ำทรวง คำลวงใช่ไหมนวลน้อง
พี่คนจริงใจ เพียงหมายหัวใจใฝ่ปอง
ไม่เคยคิดแค่ทดลอง ไยน้องมาตัดสัมพันธ์

พี่ทนบากหน้า พ่อตาจะดุยอมทน
ขอเพียงหัวใจน่ามล รักล้นเหมือนวันก่อนนั้น
ถึงพี่คนโซ ไม่โก้เหมือนคนเธอฝัน
เพียงแค่ภายนอกนงคราญ ใจนั้นฝังเพชรเลี่ยมทอง....
				
ไม่มีข้อความส่งถึงคีตากะ