30 กรกฎาคม 2558 13:07 น.
คีตากะ
รอยยิ้มนั้นบาดใจหวั่นไหวจิต
อาจพิชิตกองทัพนับหมื่นแสน
ดวงพักตร์ดั่งเทพธิดาฟ้าเมืองแมน
ชายทั่วแดนลุ่มหลงอนงค์นาง
เธอปรากฏเบื้องหน้าพาคลุ้มคลั่ง
ยากยิ่งหยั่งดวงจิตคิดสะสาง
ฟากฟ้าใดส่งมาพาเลือนราง
สบเนตรนางความหมองล่องมลาย
รอยยิ้มฝากรอยใจให้คิดถึง
สุดตราตรึงภาพเธอละเมอฉาย
ยังปรากฏกลางทรวงมิล่วงคลาย
พาวุ่นวายยิ่งนักสุดจักปาน
มาตรแม้นมิสบหน้าเพียงคราหนึ่ง
พาคิดถึงร่ำไปให้ร้าวฉาน
เพ้อรำพึงถึงเธอเหม่อวิญญาณ
จนการงานมิอาจทำเฝ้าคำนึง
เธอมีจริงสิ่งลวงฤาสรวงสร้าง
ยากปล่อยวางอำนาจความคิดถึง
จะอยู่ไกลเพียงใดใจรำพึง
ยังตราตรึงยิ้มนั้น...ฝันละเมอ....
30 กรกฎาคม 2558 13:08 น.
คีตากะ
ลูกกลมใส...สวยพราวราวดวงแก้ว
สีเพริศแพร้วยามต้องแสงส่องฉาย
มุมหักเหสร้างสรรค์พรรณราย
เกิดเส้นสายเจ็ดสีมณีปาน !
ดั่งมณีรัตน์สีใสในหัตถ์น้อง
รามสูรปองไล่ล่าเงื้อง่าขวาน
นางเมขลาหลบเร้นเผ่นทะยาน
ดลพิมานปั่นป่วนเสียงครวญครืน
ทรัพย์สมบัติพัสถานตระการเนตร
มักก่อเหตุเหลือคณาหากฝ่าฝืน
แหวกกฎเกณฑ์แห่งสวรรค์อันยงยืน
พาล้มครืนเศรษฐกิจชีวิตพัง
แท้เป็นเพียงฟองสบู่แลฟูฟ่อง
ปัจฉิมล่องหนหายกลายสิ้นหวัง
ภาพงดงามแปรเปลี่ยนเพี้ยนน่าชัง
ความจีรัง...หามิได้...ในโลกา...
10 เมษายน 2556 21:36 น.
คีตากะ
อยากจะร้องเพลงกล่อมทำนองซึ้ง
มอบเธอซึ่งปวดร้าวคราวสับสน
เรื่องราวรักรบกวนชวนวกวน
จากตัวตนบางใครในวันวาน
เธออาจท้อต่อใจที่ไหวหวั่น
สุดจะกลั้นน้ำตาพาร้าวฉาน
กัดกร่อนทรวงเนิ่นมาพร่าซมซาน
มันจะผ่าน...ผ่านไปอย่าได้เกรง
หากเหนื่อยนักพักก่อนย้อนดูจิต
เพียงความคิดเคลื่อนไหวไล่ข่มเหง
ใครเล่าใครตอกย้ำซ้ำตัวเอง
ประพันธ์เพลงบทเศร้ามาเนานาน
เธอทำดีที่สุดแล้วแก้วตาเอ๋ย
ทุกคนเคยพลาดผิดหลงทิศสถาน
เพียงบทเรียนสอนใจในวันวาน
ให้เธอหาญวันพรุ่งรุ่งทิวา
ฟ้าคงรู้สิ่งเธอพบเจอผ่าน
ดินคงจารจดไว้ให้ศึกษา
แม้ไร้คนเข้าใจในกานดา
อย่าลืมว่ามีฉันนั้นอีกคน...
10 เมษายน 2556 22:09 น.
คีตากะ
รถด่วนบขส....ชะลอจอด
เหม่อมองลอดหน้าต่างพลางทอดถอน
เห็นศาลาหลังนั้นพลันอาวรณ์
ก่อนบังอรยืนอยู่ใต้หูกวาง
รอรถเมล์ทุกวันหมั่นเพียรพาก
หลังแยกจากเรียนจบพบความห่าง
เธอเรียนอาชีวะคนละทาง
เราเดินต่างม.ปลายสายสามัญ
ใต้ร่มเงาโพธิ์พฤกษ์รำลึกถึง
เมื่อครั้งซึ่งเยาว์วัยได้สุขสันต์
วัดหนองโพโตใหญ่ได้พบกัน
เรียนร่วมชั้นนงรามความเป็นมา
คนสวยโพธาราม...นามกระฉ่อน
เชื้อสายมอญ, ลาวเวียงเพียงบุปผา
ใครพบเห็นเป็นมองจ้องจับตา
ดั่งดาราลอยล่องต้องตะลึง!
วัดขนอนหนังใหญ่เคยได้ทัศน์
เราเคยนัดเที่ยวท่องต้องคิดถึง
งานหาดทรายประจำปีที่ริมบึง
สบตาซึ้งดวงแขริมแม่กลอง
เรียนศาสตร์ศิลป์แตกฉานเชี่ยวชาญนัก
แต่เรียนรักตกซ้ำช้ำกลัดหนอง
ติดตัวรอหลายปีที่แม่กลอง
พอเรียนจบรักล่องต้องลาไกล
นั่งรถเมล์ผ่านมาพาปั่นป่วน
ยามรถด่วนหยุดป้ายชายตาไหว
มองหาสาวเมืองโอ่งโด่งดังไกล
ยังอาลัยกานดา...โพธาราม...
10 เมษายน 2556 22:10 น.
คีตากะ
หนุ่มเคมี....ห้องแล็บแอบมองเหม่อ
ทุกวันเจอนงคราญผ่านหน้าห้อง
มือถือสารเคมีที่ทดลอง
ได้แต่มองผิวเผินเธอเดินผ่าน
หนุ่มเคมี-สาวชีวะพบปะบ่อย
แล็บต้องคอยพึ่งพาค้นหาสาร
ห้องติดกันชั้นสองต้องช่วยงาน
ร่วมประสานประสิทธิ์ผลิตภัณฑ์
โรงงานใหญ่งานหนักพักผ่อนน้อย
เห็นเนื้อกลอยผายผอมยอมโศกศัลย์
ถือตะกร้าเข้าไลน์ไม่เว้นวัน
สู้บากบั่นทำงานนับนานปี
พบกันยิ้มยามผ่านสราญจิต
เสมือนมิตรรู้ใจในวิถี
ตะกร้าคนละใบผูกไมตรี
กำลังใจนั้นมีในแววตา
วันหนึ่งเธอเข้าแล็บแอบกระซิบ
ให้ช่วยหยิบถือของต้องมาหา
ไร้คนช่วยด้วยหญิงจึงพึ่งพา
หนุ่มอาสาช่วยไปไม่รีรอ
เมื่อเคียงใกล้ได้ชิดสนิทสนม
เธองามสมเพรียบพร้อมย่อมทดท้อ
สำรวจตัวมอมแมมแถมมอซอ
รูปไม่หล่อยากแค้นแสนระอา
ข่าวตอกย้ำแฟนเธอเป็นวิศวะ
รูปสุดจะหล่อเหลาเงินเนาหนา
จำต้องถอยออกห่างอย่างระอา
ด้วยน้อยหน้าเงินน้อยต่ำต้อยเรา
กระจกใหญ่บานนั้นทุกวันนี้
ยังคงมีนางฟ้าใบหน้าเฉลา
เดินผ่านไปทุกคราสง่าเงา
แต่ว่างเปล่าคนมอง....ต้องทำใจ...