19 พฤษภาคม 2549 16:46 น.

เยี่ยมรุ้ง

ตราชู

เยี่ยมรุ้ง
	ฝนหาย, สายรุ้งจรุงหาว
วามวาวแวววับระยับสวรรค์
มาเถิด เยี่ยมรุ้งรุ่งลาวัณย์
เจ็ดสีเจ็ดสันจำรูญทรง
	เอ่ยถ้อยทักทายถามสายรุ้ง
อำรุงแรไล้โลกใหลหลง
เคลื่อนเรียงเคียงรำรำบำบง
ไยปลงใจปองปรองดองดี
	เจ็ดสีไม่มีจักเดียดฉันท์
งามสรรพ์สิ้นเสร็จทั้งเจ็ดสี
ตรึงตราแต่งตรูรู้ไมตรี
คล้อยคล้อยเมฆีคู่ครรไล
	ผิดกับหมู่คนมัวค้นคิด
ขาขวิดขันแข่งแย่งคว้าไขว่
หลายเผ่า, หลายพ้องก็จองภัย
มากสี, มากใส่โสมมทราม
	สีมึง, สีกู กู้ศักดิ์ศรี
ยายีเหยียบย่ำหยันย้ำหยาม
กดขี่เข้มข้นก่นคุกคาม
ไม่อร่ามราวรุ้งโรจน์รุ่งราย
	ตอบทีเถิดรุ้งอำรุงเลิศ
สีเฉิดเทริดสรวงส่องช่วงสาย
เมื่อไรผู้คนเกลื่อนกล่นกาย
จึงหมายร่วมสมัคร สามัคคี
______________________________________________				
19 พฤษภาคม 2549 15:41 น.

ผ่านหมอกพบดอกไม้

ตราชู

เพื่อนๆทุกท่านครับ ความจริง ร้อยกรองบทนี้ เกิดขึ้นจากการนั่งแต่งกาพย์ยานีเล่นของผม ในเวลาซึ่งยังว่างจากงาน เดิมทีก็คิดว่าไม่เห็นมีสาระอะไร เพราะแต่งเล่นๆ แต่จะลบทิ้งไปก็อดเสียดายไม่ได้
เลยนำมาให้ลองอ่านกันดูครับ มีข้อติคำติงอย่างไร ผมยินดีรับไว้เสมอครับ เพื่อการปรับปรุงในวันข้างหน้า ขอขอบพระคุณทุกท่านครับที่เป็นกำลังใจให้ผมเสมอมา

ผ่านหมอกพบดอกไม้

                สรวมใจซึ่งใสแจ้ง

มุ่งเร้าแรงมารวมรอม

ทุกข์ย้ำอย่าจำยอม

แม้เยิ่นยาวความหนาวเย็น

                ขอมือมาถือมั่น

ซึ่งคมขรรค์ข้ามลำเค็ญ

ห้ำหั่นอาธรรม์เห็น

ด้วยใจฮึกรำลึกหาญ

                ขอเท้ามาเทาเที่ยว

ช่ำชองเชี่ยวด้วยเชิงชาญ

ด้นดั้นแม้กันดาร

สักเพียงใดก็ใฝ่เดิน

                แกล้วกลั่นมุ่งมั่นกล้า

ถึงขวางหน้าคือขุนเนิน

สิงขรซับซ้อนเขิน

เสลาขั้นยังมั่นคง

                สักวันสิ่งฝันไว้

ย่อมสมใจสมเจตน์จง

แสงล่องจักส่องลง

รังรองทามเรืองรามทอง

                ผ่านหมอกพบดอกไม้

อบอวลไปเอมใจปอง

สิงคลิ้งสรรพ์สิ่งครอง

ทรงคุณค่าราคาควร				
19 พฤษภาคม 2549 11:31 น.

เมื่อไร

ตราชู

ท่านผู้อ่านทุกท่านครับ ร้อยกรองบทต่อไปนี้ ผมเขียนด้วยความหดหู่ใจเป็นที่ตั้ง ขอท้าวความสักนิดนะครับ
	นับแต่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัส เมื่อวันที่ ๒๕ เมษายน เกี่ยวเนื่องด้วยปัญหาการเมืองนั้น ตอนแรก ทุกฝ่ายปฏิญานน้อมรับในกระแสพระราชดำรัส แต่หลังจากนั้นแล้ว อะไรเกิดขึ้นบ้าง ทุกท่านย่อมทราบดี สรุปก็คือ ต่างคนต่างยังถือทิฐิ ต่างฝ่ายยังจ้องเอาชนะคะคานกัน ประเทศชาติ, ประชาชน อยู่ที่ไหน ไม่มีใครคิดถึง จนสภาพเศรษฐกิจของเราถดถอยก็ยังไม่มีใครรู้สึก ผมอยากถามทุกฝ่ายว่า เมื่อไร? เมื่อไร? จะคืนประชาธิปไตยให้บ้านเมืองเราเสียที

เมื่อไร?
สัททุลวิกกีฬิตฉันท์ ๑๙
	ครวญคำนึงอุระหนาว ณ คราวอดุระเนือง
ขุ่นข้นกมลเคือง						คดี
	ไทยแยกแตกสติหมุนกรุณมนะมิมี
วุ่นว้าเพราะราวี						พะวง
	ไหนว่าซื่อปฏิญาณประสานหทยะตรง
ไยเลี่ยงและเบี่ยงหลง					เลอะเลือน
	แม้จอมราช ธ จะตรัสพิพัฒน์พจนะเตือน
ยังบ้ายกระลายเบือน					บฟัง

	ต่างเทิดถือทิฐิล้นอนนต์ปะทะพลัง
แน่นฝาก ณ รากฝัง						คุไฟ
	ใครท้วงใครก็มิคร้ามมิขามภิรุกใคร
จึ่งไทยซิ่อาไทย						อธรรม์
	โอ้ครานี้บุระหน่วงระลวงทุพละนำ
กรรมกรรมนะกรรมกรรม					กระลูน
	แสนสงสารนระผองพะพ้องทุกขะพูน
โศกสรรพมิลับสูญ						สิหนอ
	รอรอโรยสุขะร้างก็ต่างสถิตะรอ
ขอขอก็ขอขอ						เขษม
	ยังไป่รื่นฤดิปรีดิ์ทวีรมยะเปรม
ห้วงหาวพระพราวเหม					ฤเห็น
	โอ้ทุกหย่อมติณะหญ้าธราดลมิเย็น
ครอบคลุ้มคละคลุมเข็ญ					มิคลาย
	เมื่อไร?ภาวะเทวษประเทศอุณหะวาย
สมมานสราญหมาย					ประมวล
	เมื่อไร?ศรีปิติส่งประสงค์ถิระมิซวน
เลิกผันฉกรรจ์ผวน						ไผท
	เมื่อไร?หนอนระเติบและโตอธิปไตย
หรรษานราศัย					กสานติ์?
(๑๙ พ.ค. ๒๕๔๙)


ขออนุญาตอธิบายคำบางคำ สำหรับเพื่อนๆสมาชิกรุ่นเยาว์เข้าใจครับ
	กระลาย คำนี้แผลงมาจากคำว่า กลาย ที่แปลว่า เปลี่ยนแปลงไป นั่นเอง
	ภิรุก หรือ ภีรุก หมายถึง หวาดกลัว
	อาไทย ทีฆสระจากคำว่า อไทย อักษร อ เป็นอุปสรรคภาษาบาลี ใช้เติมหน้าคำมีความหมายว่า ไม่ ส่วนคำว่า ไทย แปลว่า อิสระ ฉะนั้น อไทย หรือ อาไทย จึงแปลว่า ไม่อิสระ
	ระลวง หมายถึง เป็นทุกข์ หรือ เป็นห่วง (คำเขมร)
	เหม หมายถึง ทองคำ
	ติณะ หรือ ติณ หมายถึง ต้นหญ้า (ภาษาบาลี ถ้าสันสกฤต ใช้ ตฤณ)

	กสานติ์ หมายถึง สงบสุข
________________________				
19 พฤษภาคม 2549 08:57 น.

ดุจกรานเถกิงเกรียง

ตราชู

ดุจกรานเถกิงเกรียง

โคลงกระทู้
	จุดไฟใจฝัน สู่วันซึ่งหวัง
	จุด  เพลิงเริงโชติเชื้อ				ชีวิน
ไฟ  เจิดในใจจินตน์						แจ่มจ้า
ใจ  หมายบ่ายโบยบิน					สะบัดโบก
ฝัน  ท่องถึงฟากฟ้า						ใฝ่เร้ารอคอย
	สู่  ดอยดำแหล่งพู้น				ภูสูง
วัน  ยิ่งยงดังยูง						ย่างฟ้อน
ซึ่ง  เสียงเร่งยังจรูง						เรียกร่ำ
หวัง  ต่อเติมพลังป้อน					เปี่ยมห้าวเหิมโหม
วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
	ใจแจ่มประเจิดผิวประจักษ์
อุปสรรคระดมโซรม
มาเถิดมุทานพิริยโถม
มนเทิดมโนธรรม
	ท่องเที่ยวสถานสถลแถว
จิตแน่วผนึกนำ
โทกรประกอบพลวกำ
จริแกร่งอหังการ
	ฟ้าฟาดฤฝ่ามรุตฝน
บมิบ่นประจัญบาน
ยรรยงผยองวิหทะยาน
คติย้ำมิยำเยง
	แสงแววสว่างสุวไสว
กระจะไกลมิกลัวเกรง
โชติวามชวาลชิวเชวง
ประลุหวังกระจ่างแวว
	ธงทิวประเทืองธวชเทิด
พิศเพริศสะบัดแพรว
โบกนำถนัดรถยแนว
ทศนารุจานัยน์
	หากถ้ามิท้อ ณ ปณิธาน
ก็จะชาญพิชิตชัย
กร้าวแกร่งกระเกริกปณิธิไกร
ดุจกรานเถกิงเกรียง
___________________________________________________				
18 พฤษภาคม 2549 16:22 น.

กุหลาบรัก

ตราชู

กุหลาบรัก
พุชงคประยาตฉันท์ ๑๒

	รวีรามอร่ามรุ่ง
มนุญมุ่งมโนมาน
สกุณขับสดับขาน
ประนังคีตประณีตคลอ
	นภาพิศพินิจผ่อง
ประภัสสร์ทองประไพทอ
จรัสพูนจรูญพอ
พิภพแผ้วพระแพรวพรรณ
	ระรื่นชมภิรมย์เช้า
เสน่ห์เนาสนิทนันท์
ประสานเฉิดประเสริฐฉันท์
ประโมทย์ชวนประมวลเชย
	ประดุจร้อยประดอยรัก
เมลืองหลักมิลาเลย
หทัยผองจะถ่องเผย
มิผันผ้ายมลายพัง
	เสริงศานติ์สราญส่ง
ประยุกต์ยงประโยชน์ยัง
พิไลวาดพิลาสหวัง
เสถียรพาสถาพร
	อุราอุ่นกรุณเอื้อ
ประโชติเกื้อประชากร
ระอาทุกข์กระอุกถอน
เพราะรักแท้จะแรทาง
	กุหลาบช่อก็รอฉ่ำ
เพาะรักจำฤเจือจาง
ไสววรรณสวรรค์วาง
วิถีชัดถนัดฉาย
	กุหลาบรักสลักรุ่ง
กมลมุ่งก็มากมาย
สนิทใกล้ ณ ใจกาย
นุกูลกันนิรันดร์กาล
(๓๑ ม.ค. พ.ศ. ๒๕๔๙)
________________________________________________________				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงตราชู