15 พฤษภาคม 2547 16:41 น.

แด่ผู้เป็นยอดดวงใจ

แก้วประเสริฐ


                   เธอรู้บ้างไหม  เธอคิดบ้างไหม  เธอนึกบ้างไหม
 ทำไมเธอถึงเป็นเช่นนี้    ทำไมเธอถึงเปลี่ยนไป   ทำไมเธอไม่นึกถึงหนหลัง
 เธอทำให้ฉันสุดปวดร้าว  เธอทำให้ฉันสิ้นหมดหวัง   เธอทำให้ฉันหลั่งน้ำตา

          อนิจจาความฝันพลันทลายสิ้น
มันโบกบินสูญไปดุจความฝัน
รักรัญจวนหวนไห้มาแทนกัน
ทุกคืนวันฉันเฝ้าเศร้าอกตรม

          นึกถึงวันพลันพบประสบรัก
สุดจะภักดิ์เฝ้าถนอมมิให้ขม
แสนลำบากยากเย็นก็ต้องทน
เพื่อให้คนรักเราได้สบายใจ

          ฝากสัญญารักไว้บนฟากฟ้า
ท้องนภาดารารับงามแจ่มใส
ทั้งสองเราแช่มชื่นระรื่นใจ
ผกาไม้งามเงาเมฆเฉกอารมณ์

          ระรื่นจิตติดตามไปดุจสวรรค์
สองผูกพันเกี่ยวก้อยตามเหมาะสม
เพื่อนทั้งหลายให้อิจฉามิตรอมตรม
มีคนชมว่าทั้งสองเหมาะสมกัน

          กาลเวลามิได้ไปตามแนวคิด
วิปริตจิตใจคล้ายผีมาเสกสรร
สิงสถิตในใจเธอสุดจำนรรจ์
เปลี่ยนรักนั้นไปกับชายใหม่ครอง

          เธอเปลี่ยนรักจากไปฉันไม่ว่า
ไฉนมาเยาะเย้ยให้ใจฉันหมอง
รสรักเก่าเบื่อแล้วหรือที่เคยปอง
จึงสนองอารมณ์ใคร่ที่มากมาย

          ทุกวันคืนฉันผิดหรือที่สนอง
คอยปกป้องเอาใจเธออันมากหลาย
ด้วยความจนฉันนี้จึงกลับกลาย
เธอเปลี่ยนไปจนฉันนั่งน้ำตาคลอ

          แสนเสียดายความรักที่มอบให้
แสนเสียดายในยิ้มรูปจริงหนอ
แสนเสียดายในรสรักที่พะนอ
แสนเสียดายหนอเฝ้าอยู่เดียวดาย.

                    แก้วประเสริฐ.				
14 พฤษภาคม 2547 13:51 น.

น้ำตาหญิงหม้าย

แก้วประเสริฐ


          พ่อทูนหัวทูลกระหม่อมน้องหญิง
พ่อทิ้งน้องไปใจให้สับสน
พ่ออยู่เป็นหลักชัยไม่วกวน
พ่อเป็นคนให้อบอุ่นกายใจ

          พ่อเอ๋ยเคยอยู่เป็นคู่ปรึกษา
แม้นภัยมาออกหน้ายิ้มสดใส
พ่อไปแล้วใครเล่าจะคุ้มภัย
โอ้ใจเล่าใครเขาจะแลมา

          น้ำตารินหลั่งไหลกายไร้สื่อ
ทั้งสองมือกอดไว้อยู่กับหน้า
สะอื้นฮักใจแทบขาดจากกายา
ซบดวงหน้ากับกายใจรอนรอน

          ลูกเอ๋ยมองพ่อในครั้งสุดท้าย
มองพ่อไว้พร้อมจำคำสั่งสอน
พ่อเคยอยู่สอนเจ้าทุกขั้นตอน
บัดนี้คำสอนเหลือไว้ให้จดจำ

          พ่อเขียนหนังสือแปะไว้ข้างฝา
ด้วยวาจาต้องต่อสู้ชีวิตล้ำ
ความดีละความชั่วเป็นตัวนำ
จะกระทำต้องหมั่นคิดตรึกตรอง

          สิ้นพ่อแล้วลูกเอยจำพ่อสอน
ทุกขั้นตอนต้องหมั่นเพียรสนอง
เหลือแต่เราแม่ลูกทำตามคัลลอง
เพื่อสนองคุณพ่อไว้ตราบสิ้นลม.

                  แก้วประเสริฐ.				
13 พฤษภาคม 2547 22:08 น.

โอ้คราฟท์จ๋า

แก้วประเสริฐ


          แสนเสียดายเจ้าคราฟท์ที่น่ารัก
ซุกซนนักโดดจากบ่อปลาฉัน
เจ้าเคยว่ายล้อเล่นกับพวกมัน
มีสีสันหลากหลายงามสะดุดตา

          ว่ายวนเวียนเฉียดโฉบแนวโขนหิน
น้ำตกรินหลั่งไหลตามแนวผา
เสียงน้ำพุพวยพุ่งสู่ท้องนภา
แล้วตกมาถูกน้ำเป็นฟองกระจาย

          บัดนี้เล่าเจ้าสิ้นแหล่งพิงพัก
คูหารักเคยได้อยู่เป็นที่อาศัย
เจ้าต้องมาสิ้นชีพชีวาวาย
เพื่อนทั้งหลายคงหมองต้องระทม

           เปรียบประดุจหญิงสาวสะครวญนัก
ชะล่านักในรูปทรงที่สวยสม
เอาแต่ใจไม่พินิจจึงอกตรม
แสนระบมขมขื่นใจไปอีกนาน

          ดุจปลาคราฟท์สวยสีสดวิไลนัก
แหวกว่ายกลับไปมาสนุกสนาน
ดุจสาวน้อยลอยล่องคบคนพาล
มิระวังกันเห็นกงจักรเป็นดอกบัว

           หยิ่งทะนงหลงตัวว่าเจ้าเก่งกล้า
โดดขึ้นมาจากขอบกั้นแนวรั้ว
เหมือนหญิงที่เชื่อคำล่อลวงตัว
จึงเมามัวตัวตายคล้ายคราฟท์เอย.

                     แก้วประเสริฐ.				
11 พฤษภาคม 2547 16:33 น.

อานุภาพกายานุสติ

แก้วประเสริฐ


          ฉันเขียนกลอนขึ้นมาก็หลากรส
ทั้งเคี้ยวคดลดหลั่นรักทุกข์สุขสันต์
จนเพื่อนนั้นแหนงหน่ายไปตามกัน
แต่เพื่อนนั้นถามละได้ในความจริง

          หากเพื่อนคิดเช่นนั้นฉันขอบอก
ไม่ลวงหลอกเพื่อนจะบอกในทุกสิ่ง
ฉันเคยได้ฝึกสมาธิเรียนธรรมจริง
แล้วทุกสิ่งสงบสุขทุกข์ร้างไกล

          ครั้นเมื่อจิตรวมใจสงบเป็นหนึ่ง
พิจารณาซึ่งกายเราไว้อย่าไปไหน
มองให้เห็นร่างกายประกอบอะไร
เหตุไฉนจึงรวมไว้เป็นตัวตน

          อันร่างกายเรานี้เกิดจากธาตุ
มีธาตุดินน้ำลมไฟรวมไม่สับสน
วิญญาณจึงเข้ามารับรู้ให้เป็นคน
หมั่นพิจารณาตนแยกไว้ให้จงดี

          เมื่อรู้ร่างกายการเกิดมนุษย์นั้น
สารพันธรรมชาติกำหนดไม่คงที่
อยู่ที่เวรกรรมเคยสร้างไว้เท่าที่มี
มันบ่งชี้หนทางไว้ให้ได้เดิน

          อันรูปกายวิญญาณนั้นหาใช่อมตะ
ควรลดละกำหนดรู้ไว้แต่เนิ่น
ด้วยทุกอย่างสลายไปอย่าเพลิดเพลิน
ถ้ามันเกินแล้วยากหวนกลับมา

          ด้วยเกิดแก่เจ็บตายนั้นเพราะตัณหา
มันนำมาความโลภโกรธหลงหนา
หลงติดบ่วงมารไว้มิได้นำพา
จนเวลาผ่านมาเป็นอสงไขยปี

          เพราะทุกอย่างธรรมชาติสร้างมากนัก
มันก็จักเปลี่ยนไปในทุกที่
อนิจจังความไม่เที่ยงแท้ย่อมมี
ใจใครที่หลงไว้ได้ครอบครอง

          ความทุกข์มันจะเข้ามาสู่สม
เกิดระบมใจร้อนดุจดั่งไฟต้อง
เผาผลาญจิตใจให้โศกหม่นหมอง
เป็นละอองครอบใจให้ทุกข์ตลอดไป

          สิ่งทั้งหลายธรรมชาติสร้างไม่คงที่
เมื่อเกิดมีขึ้นก็สูญสลายไปได้
เรียกว่าอนัตตาจะมาในทันใด
เหตุนั้นไซร้ไม่ใช่เราเขาแห่งตน

          อันรูปจิตวิญญาณอาศัยปัจจัยเหตุ
เป็นอนุเฉทที่หล่อเลี้ยงกายไม่ให้ป่น
มีรูปเวทนาสัญญาสังขารวิญญาณปน
รวมเหตุผลไว้ให้เกิดเป็นเวรกรรม

          รูปคือกายเราอาศัยธาตุรวมไว้
เวทนาได้เสวยอารมณ์สุขทุกข์กล้ำ
สัญญาคือจำได้หมายรู้เป็นตัวนำ
ส่งล้ำให้สังขารปรุงแต่งวิญญาณชม

          สิ่งเหล่านี้อายาตนะหกเป็นตัวแจ้ง
แสดงโดยตาหูจมูกลิ้นใจกายได้สม
ภายในมีรูปเสียงกลิ่นรสธรรมารมณ์
เป็นอารมณ์ก่อกำเนิดแก่หญิงชาย

          สำเร็จเสร็จสิ้นสร้างสรรค์สัตว์มนุษย์
ซึ่งจะผุดมาเป็นมนุษย์สัตว์ทั้งหลาย
แล้วชดใช้เวรกรรมทำในบั้นปลาย
เพราะทั้งหลายมิรู้เหตุกฎแห่งกรรม

          ธรรมะนี่ยังมีอีกมากมายนัก
เพียงชี้ชักให้เห็นร่างกายเราซ้ำ
เมื่อได้รู้ไม่หลงเกิดปัญญานำ
ควรจะทำหรือไม่ใคร่ครวญดู.

                    แก้วประเสริฐ.

เพื่อนรัก อวิชชานั้นจำไว้หลักใหญ่คือตัณหา  โลภะ โทสะ โมหะ  คือตัวรากเหง้าใหญ่แห่งอวิชชานี้แหละที่มันขจัดปัญญาเราให้เกิดมัวเมาเป็นทาสมันอยู่เสมอ มนุษย์แท้จริงย่อมมีจิตใจที่ประภัสสรเสมอมา เพราะตัวตัณหานี่แหละจ้าเป็นตัวนำ....รักเพื่อนเสมอ.				
9 พฤษภาคม 2547 22:35 น.

เพื่อนรัก

แก้วประเสริฐ


          เสียงหวีดหวิวกิ่งไม้ไหวลมพัดแว่ว
ต้นสนแผ่วกิ่งก้านอ่อนโอนเอนไหว
ใบสนเกลื่อนโรยราดพื้นต้นมากมาย
ดุจดั่งคล้ายพรมธรรมชาติวางเป็นแนว

           ปูเสื่อนอนรับลมใต้ต้นบนใบสน
ฟังเสียงลมแลคลื่นซัดฝั่งระลอกแถว
ลมโชยพัดคลื่นกระจายฟองตามแนว
โขดหินแถวตามหาดทรายละลานตา

           อารมณ์หนึ่งในฝันพลันลอยกลับ
ให้หวนนับอดีตกาลเวลากลับมาหา
คิดถึงตอนวัยเด็กหวนทวนกลับมา
ถึงเพื่อนยาที่เป็นเด็กทั้งหญิงชาย

          การละเล่นเป็นเด็กคือปากเป่ากบ
อันตัวกบคือวงยางหนังทั้งสองฝ่าย
ผู้ชนะยางต้องทับบนยางแล้วเอาไป
ฉันเล่นได้เอายางสอดใส่ในข้อมือ

           อีกอย่างหนึ่งคือการเล่นหมากเก็บ
ทุกคนเหน็บก้อนหินไว้ในมือถือ
ก้อนหินนั้นมีห้าเม็ดอยู่ในกำมือ
แล้วทอยมือกระจายเก็บตามวิธี

           การละเล่นมีมากมายหลายชนิด
สุดจะคิดหาเกมส์มาเล่นกันให้สุขี
เช่นทอยกองโดดเชือกตั่งเตหม้อตี
วิ่งเปรี้ยวหนีซ่อนหาขี่ม้าทรงเมือง

          เมื่อเป็นเด็กร่างกายฉันเล็กผ่ายผอม
ฉันต้องยอมพ่ายแพ้เขาในทุกเรื่อง
เพราะเพื่อนชายชอบรักแกอยู่เนืองๆ
จนมีเรื่องร้องเรียนถึงครูผู้ปกครอง

          จนเติบใหญ่อดีตฝังจำยังมีแต่เพื่อนหญิง
คอยปลอบสิ่งที่ฉันทุกข์ให้ไม่เศร้าหมอง
แต่หญิงที่ฉันรักไว้หมายจะเป็นคู่ครอง
ไม่สมปองจนฉันต้องหนีร้างให้ห่างไกล

           แต่เพื่อนหญิงทั่วๆไปใจนั้นสุดประเสริฐ
ช่างเลอเลิศเอาใจใส่มิได้ห่างร้างไปไหน
ฉันจึงรักและเทิดทูนหญิงกว่าชายทั่วไป
ถึงอย่างไรชายทั้งหลายอย่าโกรธเราจริง

           เพราะฉันนั้นแต่เด็กเล็กจนเติบใหญ่
มีเพื่อนชายน้อยมากกว่าเพื่อนหญิง
เขาเอาใจใส่ฉันทุกข์สุขด้วยใจจริง
เพื่อนจึงยิ่งมองฉันนั้นหญิงหรือชาย

           โอ้เพื่อนรักฉันทั้งหลายชายหรือหญิง
นี่คือสิ่งที่ฉันบอกไว้อันมากหลาย
เป็นสิ่งแท้แน่นอนที่ฉันมิกลับกลาย
แม้ฉันตายสบายใจบอกไว้ในใจตน

          สะดุ้งตื่นฟื้นกลับจากอารมณ์ที่ใฝ่ฝัน
เสียงนกลั่นร้องระงมบนยอดกิ่งสน
เพื่อนชายหญิงวิ่งกลับมาดุจไฟลน
เพราะทุกคนต้องรีบกลับเปลี่ยนกายา

          ยามตะวันพลันลาลับจากสุดขอบฟ้า
ราตรีมาเยี่ยมเยือนทุกอย่างยังหรรษา
เพราะจะมีงานรอบกองไฟไม่กี่ครา
ฉันบิดกายาไม่อยากลุกออกจากไป.

                    แก้วประเสริฐ.				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแก้วประเสริฐ