29 พฤศจิกายน 2548 11:14 น.

"เสียงใจ"

แทนคุณแทนไท

เมื่อคืนผมบอกคุณหรือเปล่า 
ว่าคิดถึง
...
ไม่ได้บอกซินะ
ใช่ผมจะไม่รู้สึก
แต่ผมไม่กล่าวเพราะเหตุใด
คุณคงรู้
...
หลายอย่างที่สัมผัสได้
แต่เมื่อไม่อาจไปถึงดั่งใจปรารถนา
...
ถ้าเลี่ยงได้
ผมจะเดินเลี่ยงจากมา
...
ถ้าความเป็นผมในวันนี้
ทำคุณทุกข์ทรมาน
ผมก็คงเดินจากไปอย่างเงียบเงียบ...
...
สายลมแสนสวย
ความเหงาแสนงาม
ความรักคือสิ่งใดเล่า...
ตอบผมที...
...
ถ้าผมเลือกได้
ผมคงเลือกใกล้วาสนาแห่งความรัก
และโชคดีแห่งการรอคอยมากกว่านี้
แต่ผมกำหนดได้หมดดั่งที่ใจหมายหรือคนดี...
...
ไม่เคยเลย...
...
ความรักเจ้าเอย
คุณปรารถนาสิ่งใด
แล้วผมปรารถนาสิ่งใดในความเป็นคุณเล่า
...
คุณก็รู้
ผมก็รู้...
ว่าเปล่าเลย...
นอกจากหัวใจที่ไหวเต้นไปพร้อมพร้อมกัน 
กับวันแห่งมิตรภาพ
ด้วยเนื้อในที่เอื้ออาทร...
...
นี่หัวใจผม
แหละนั่น หัวใจคุณ
...
คนดี 
ความเป็นผมในวันนี้
คงเป็นผม เช่นในวันวาน
....
ด้วยคิดถึงคุณ/แทนคุณแทนไท


พระจัทร์ที่ ๒๙ พฤศิจากาย์ ๔๘				
24 พฤศจิกายน 2548 18:13 น.

ทรราช หรือ ประชาธิปไตย

แทนคุณแทนไท



บ้านป่าเมืองเถื่อน

บ้านป่าเมืองเถื่อนนี้ ประเทศไทย
มีแต่ทุนจัญไร โลภบ้า
เมาอำนาจโกยไป ผลาญชาติ
ผูกขาดรวยล้นฟ้า มืดทั้งแผ่นดิน
บ้านป่าเมืองเถื่อนนี้ 
เพราะอัปรีย์มันครองเมือง
หมดแล้วความรุ่งเรือง 
พิศนาศสิ้นสกุลไทย
อำนาจร้ายกาจบ้า 
กาลีโลภโกยกำไร
รวบเอาอธิปไตย 
ไปกระทืบทำลายทิ้ง
ดึงฟ้าลงมาต่ำ 
ก่อเวรกรรมระยำยิ่ง
เบือดบิดปิดความจริง 
ปลดคุณหญิงจารุวรรณ
สตง. ของนายกู 
พวกสูอย่าเสือกป่วนปั่น
พณฯท่านจะโกงจะกินกัน 
อย่าฝันว่าจะขวางทางโกยกู
กูจะซื้อหุ้นสื่อสิ้น 
สะดวกกินสบายหวานหมู
ใครวะกล้าขวางมาลองดู
กูจะกระทืบให้ติดดิน
แล้วก็สั่งพาลมาชก สว. 
พ่อแม่พี่น้องเอ๋ยเห็นไหม
นี่แหละทักษิโณธิปไตย 
ใช้อำนาจบาทใหญ่ข่มเหงคน
นี่แหละทักษิณาธิปไตย 
ใช้อำนาจบาจใหญ่ข่มเหงคน
ตั้ง 7 กสช ไม่รั้งรอท่านขอมา 
จัดระเบียบสื่อปล้นประชา 
บ้าอำนาจร้ายกาจจริง
อวดสนามบินสุวรรณภูมิ 
คิดแล้วกลุ้มบ้าจี้ยิ่ง
มันหลอกลวงไปทุกสิ่ง 
เป็นเปรตปลิงสูบเลือดไทย
มันรวบ กฟผ. 
ปตท. นั่นเห็นไหม
สูบเลือดโกยกำไร 
ทำไมเรานั่งนิ่งเฉย
ปิดเมืองไทยรายสัปดาห์
ตามบัญชาเจ้านายชั่ว
เมืองนี้ช่างมืดมัว 
ความหวาดกลัวครอบคลุมเมือง
น้ำท่วมภัยพิบัติ 
เพราะว่ารัฐบาลร้าย
ทั้งโลกดิ่งวอดวาย 
รัฐทุนหมายลำลายชำเรา
ปัญหาทางภาคใต้
รัฐจุดไฟไปไม่เป็น
ตาบอดมองไม่เห็น 
ก่อลำเค็ญขยับขยาย
มันหลีกเลี่ยงเห็นภาษี 
ไอพีสตาร์นั่นหน้าด้านนัก
16000 ล้าน 
กักขละโลภระยำแท้
ท่านบอกว่าจะรับชอบเพียงผู้เดียว
ฟังแล้วเสียววาบฉิบหายแน่
พี่น้องต้องถูกรังแก 
แผ่รังสีอมหิตมืดมิดเมือง
นี่แหละประชาธิปไตยไทย 
ทุนจัญไรมันรวบสิ้น
ซ้ายจิ้งจกมันแอบหากิน 
รับใช้ทมิฆกระทืบประชาชน
สมัคร-ดุสิตคิดตามวัน
จัญไรนักกักขละยิ่ง
หยาบช้าป่าเถื่อนจริง
อสมท นิ่งไม่ปิดมัน
เช้าวันนี้ที่เมืองไทย 
ยุแยงให้คนฆ่ากัน
หยาบคายงี่เง่านั้น 
มันทำเฉยไม่รู้ไม่เห็น
คิดถึงเดือนตุลา 
พฤษภา ประชาชน
รวมพลังบนท้องถนน 
กล้าหาญโค่นเผด็จการ
โอ้หนอประชาชน 
เราจะยอมทนไปถึงไหน 
คนชั้นกลางสบายดีหรือไร 
ทำไมไม่เดินออกมา
น้ำมันแพงค่าแรงถูก
 ค่าเทรอมลูกค่าอาหาร 
ค่าผ่อนรถ ค่าผ่อนบ้าน 
หากช้านานต้องฉิบหาย
พี่น้องเอ๋ยจงลุกสู้ 
ประกาศชนรัฐโจรร้าย 
ต้องพลีชีพทั้งใจกาย 
สร้างโลกใหม่เพื่อไทยผอง 
ต้องลุกปลุกเพื่อนไทย 
ให้กล้าก้าวกู้ยุคขุกเข็ญ 
รวมพลังเพื่อพ้นทุกลำเค็ญ
สร้างไทยร่มเย็นร่วมกันเทรอญ


มันจ่ายเงินม๊อบรับจ้าง 
มาขัดขวางประชาชน
นักศึกษาก็สับสน 
ด่าผิดคนกระมังหวา
บุคคลสมควรด่า
ประธานวุฒิสภานะน้องเอ๋ย
อย่ามัวเสียเวลาเลย 
เชยแท้แท้ศรัทธาธรรม
ลูกพี่เก่ามันเฝ้าคลอเคลีย
เลียเท้าพาลมาหลอกใช้
ขอน้องจงกลับไป
ไล่สุชนงานงดงาม

กฏสำหรับสู้

1ต้องไม่กลัวไม่หวั่นไหว
2ผนึกผสานทุกเพื่อนไทย
3ต้องกล้าเปิดโปงทุรชน อย่างมีสติ
4ต้องเชื่อมั่นความจริงงามดี 
ต้องชนะอับปรีย์อย่างแน่นอน 
ประสานสู้ จักขบวนเป็นขั้นตอน 
ไม่ได้สอน จงตรองดู
				
22 พฤศจิกายน 2548 12:48 น.

"นี่ไงลมหายใจแห่งความรัก"

แทนคุณแทนไท

๑...
ที่รัก...
ฉันแวะมาทายทักรู้จักไหม
สิ่งที่เธอถามพี่ว่าอยู่ที่ใด
นี่ไง ลมหายใจ แห่งความรัก

คนดี...
วันเช่นนี้ใช่พี่ไม่เหนื่อยหนัก
การพลัดพรากจากเธอที่พี่รัก
พี่ ฦ จัก ปรารถนาเช่นว่านั้น

หวั่นหวาด...
เมื่อขาดปรารถนาในเชื่อมั่น
เราจักยึดเกี่ยวด้วยสิ่งใดกัน
แล้วเรามีเมื่อวานนั้นเพื่อสิ่งใด

เหน็บหนาว...
บนทางยาวก้าวย่างอย่างไรไหว
ถ้าปล่อยให้วันนี้ที่ห่างไกล
ทำลายความเป็นไปในรักเรา

ศรัทธา...
อย่าทิ้งทุกปรารถนานะน้องเจ้า
ในวันรุ่งพรุ่งนี้ยังมีเรา
เถิดมาฟังเรื่องเล่า บทกวี

๒...
"เดือนเคยดับลับไปในความมืด
ดาวเคยชืดจืดแสงที่เปล่งศรี
ผืนแผ่นดินเคยสิ้นฟ้า ทุกราตรี
ปฐพีแค่เคยมีทิวากาล

ไม่ทิ้งเผื่อเหลือสิ่งใดให้สัมผัส
เหนือทุกข้อบัญญัติจะตัดผ่าน
สองตาจ้องมองไปในวิญญาณ
ชัดได้ด้วยตำนานแห่งศรัทธา

เฉกเช่นกายธรรมชาติที่พลาดห่าง
ไยจักจางร้างรักสิเน่หา
ในดวงจิตสถิตมั่นนิรันดร์มา
เธอจักได้ประจักษ์ตาด้วยหัวใจ"

๓...
ที่รัก...
ฉันแวะมาทายทักรู้จักไหม
สิ่งที่เธอถามพี่ว่าอยู่ที่ใด
นี่ไงลมหายใจแห่งความรัก"... 

.............................................

พระอังคารที่ ๒๒ พฤศจิกาฯ ๒๕๔๘ / แทนคุณแทนไท				
21 พฤศจิกายน 2548 10:06 น.

..หนาวลมมาเยือน...

แทนคุณแทนไท

หนาวลมเช่นนี้
น้องคิดถึงใคร
...
แสงจันทร์อำไพ
เห็นใครอีกบ้าง
...
ที่โพ้นทะเล
ยวนเปลอ้างว้าง
...
อยากเห่กล่อมนาง
วางปรารถนา
...
ดวงไฟในเมือง
ยังเปรื่องศรัทธา
...
นอกชานบ้านนา
มีแสงไฟไหม
...
น้ำค้างหน้าหนาว
เย็นเข้าขั้วนัย
...
น้องผิงสิ่งใด
อุ่นไอในหวัง
...
นั่นบทกวี
พี่อ่านให้ฟัง
...
อย่าหมดกำลัง
เกรงหวังชังรอ
...
วันพรุ่งยังมี
คนดีอย่าท้อ
...
ฝากจันทร์พนอ
ห่มห่อหัวใจ
...
หนาวลมเช่นนี้
คิดถึงพี่ไหม
...
แสงจันทร์อำไพ
เห็นใจใครบ้าง
...http://www.oldsonghome.com/music/listen.php?song_id=1350...


พระจันทร์ที่ ๒๑ พฤศิจิกาฯ ๔๘ / แทนคุณแทนไท

				
18 พฤศจิกายน 2548 14:10 น.

"วิหารรัก"

แทนคุณแทนไท

วิหารรัก

...๑...  
เคยฝันว่าถ้าเป็นเช่น มหาวิหาร	
คงหลงรักวิญญาณแห่งแดดฝน
ที่เพียรกร่อนกัดทุกข์ความทานทน	
ไม่ปล่อยการผ่านพ้นเป็นนิรันดร์
ถึงขนาดคาดว่าถ้าเป็นทะเล		
คงหลงชื่นคลื่นเห่กล่อมเปลฝัน
ที่เพียรหลอมทุกสายน้ำเข้ารวมกัน	
สานทุกความสัมพันธ์สรรสายใย...	

...๒...  
สิ้นหวังยังไม่พร้อมจะน้อมรับ	
จนทุกสรรพสิ่งเร้นเห็นความหมาย
สุข ทุกข์ รุกเร้าเข้าครองใจ		
นั่นที่ไป แหละนั่น ก็ที่มา
เมื่อเวลาผ่านมาทำหน้าที่		
หลายวันดีกลับมีร้ายคอยหมายท่า
แว่วว่ากรรมคือเครื่องชี้เจตนา	
เหตุอาจไม่ประจักษ์ตาถ้าไม่คิด
ผลของความเจ็บปวดที่รวดร้าว	
แม้อรุณอุ่นผ่าวยังหนาวจิต
เพราะตรองความเท่าทันของชีวิต	
ยังยึดติดไม่คิดจะละวาง
ความสุข ความทุกข์ ในชีวิต		
แนบสนิทชิดใกล้ยากไกลห่าง
ความจริงความฝันนั้นบอบบาง	
เป็นแต่รอยภาพร่างของความทุกข์
ในวันพรุ่งรุ่งอรุณและพลบค่ำ	
อาจสวยล้ำฉ่ำชื่นคืนความสุข
ฦ อาจมีแต่ท้อ มารอรุก		
จนยากปลุก วิญญาณการยอมรับ

...๓...  
เย็นน้ำค้างที่หยดรดริมแก้ม		
เป็นของแถมในวัยวันอันหน่ายหนับ
รอบ เร่ง เว้น ว่าง สว่าง วับ		
บัดเดี๋ยวมืด บัดเดี๋ยวดับ สลับไป
ถึงมองเห็นเส้นชัยก็ไกลลิบ		
กี่โยชสิบ กี่แสน อยู่แดนไหน
เคยหมายว่าถ้าฝ่าถึงคงซึ้งนัย	
แต่ไม่รู้เมื่อไรจะได้มี
	
...๔...  
ยังชะเง้อเพ้อฝันแม้มันเจ็บ		
สู้ทนเก็บเศษแก้วอันแววสี
ถึงเลือนลางร้างหวังดั่งธุลี                           
นิดหนึ่งก็ยังดีกว่ายอมแพ้
วิหารแห่งความรักและความฝัน	
แม้ว่ามันมิรู้อยู่ไหนแน่
ศรัทธามั่นถวายมันทั้งดาลแด	
พ่ายแพ้ ก็แค่นั้นเหมือนบั่นมาน

...๕...  
แม้เป็นเพียงเกร็ดกรวดที่ปวดร้าว	
จักเพียรก้าวคราวทุกข์ที่รุกผ่าน
เหมือนแดดฝนที่หล่นเสียดความทนทาน	
จนกร่อนทุกข์ที่รุกราน วิหารใจ
เรียนรู้ ความทุกข์และความสุข	
เก็บมาปลุกปลอบฝันวันวันแพ้พ่าย
เถอะพรุ่งนี้แม้นไม่มีวันแห่งชัย	
แล้วทำไมวันนี้ต้องยอมแพ้...

...๖...  
เป็นวิหารความรักและความหวัง
ตราบชีพยังหวังรู้ว่าอยู่แน่
ที่ในมานย์ยังซ่านทรวงทั้งดวงแด
ถึงพ่ายแพ้กี่หวัง "ก็ยังรอ"...	
                                                 
 ฯลฯ  

 วิหารรัก /  ๐๗ พฤศจิกาย์ ๔๘
 				
Calendar
Lovers  2 คน เลิฟแทนคุณแทนไท
Lovings  แทนคุณแทนไท เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแทนคุณแทนไท
Lovings  แทนคุณแทนไท เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแทนคุณแทนไท