1 กรกฎาคม 2552 10:20 น.

Transformers in Thailand‏

แทนคุณแทนไท

image001nst.jpg


แวะลงที่ใหนดี เมืองไทยดีใหม

...
ตัวไหนจะกล้ามา

image002fbf.jpg

ก็แปลงร่างเป็นรถบ้านเรา มันลำบาก

image004bzq.jpg

ถึงจะหนีเป็นคันอื่น

image005i.jpg

ก็ลำบาก ... อยู่ดี *-*

image006rov.jpg

ไหนยังมีพวกซุ่มโจมตีอีก...

image008h.jpg

แถมไม่ใช่แค่รถนะที่เดือดร้อน

image009l.jpg

ที่สำคัญ !!




จะแปลงร่างทั้งทียัง "ยัดเยียด" ให้ต้องเลือก


image011u.jpg

บางวันก็!

เจอแบบนี้
gfy9612462395921259481.jpg

บางวันก็...

คิดผิด...

เลยเจอแบบนี้
g2xfc12462397671259489.jpg


อุตส่าหนี

ยังมาผิดแล้ว ก็ผิดอีก

แบบนี่!!

70c9a12462399211259492.jpg

เฮ้อ !!!!!!!!!!

สยาม ยิ้มไม่ออก

ont-hodsard.gifEmoticon-008_onion.gifimage012g.jpg

ที่มา : Forward Mail
ไม่ใช่ความคิดผม แต่เป็นลิขสิทธิของคนสร้างสรรค์				
29 มิถุนายน 2552 18:33 น.

เธอคือ มายาสภาพที่ฉันพินิศถึง

แทนคุณแทนไท

moon2.jpg

อาทิตย์ดวงแดงกำลังเคลิ้มคล้อย
ไปพร้อมกับเธอ “ผู้เป็นมายาสภาพ” ที่ฉันพินิศถึง....

แล้วฉันก็พบว่า

แท้แล้ววันเวลาอันสุขชื่นสำหรับฉัน... คือฝัน
ฝันที่แม้มิอาจจะคว้าได้ดั่งวาดหวัง
แต่ก็ฝันได้ดั่งปรารถนา

ความฝันที่สัตย์ซื่อ
มิเคยใจชืดปฏิเสธความโศกดายทั้งมวล... ที่ฉันมี

ถึงแม้ว่า
มายาแห่งฝัน จะจับต้องครองคะนึงมิได้
ไร้รูปสภาพ ให้ยึดถือ
แต่มีนามสภาพให้ไขว่คว้าเสมอ... 

“นิจนาน และนิรันดร์มา”

%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%

เมื่อเธอกล่าวคำอำลาแด่ฉัน
สิ่งที่เหลือไว้สอนรอยอาลัย... คือนามสภาพที่ฉันครุ่นคิด...
ครุ่นคิดถึงวันเวลาอันสุขชื่น อิ่มใจ และละไมหวาน.. ณ กาลนั้นที่ผ่านล่วง

เมื่ออาทิตย์ดวงแดงเคลิ้มคล้อยหายไปอีกฝั่งฟ้า
ภายใต้รัตติกาลอันมิดมืด
เธอจึงมาแจ่มจ้าอยู่ในหทัยโศกของฉันเสมอ เสมอ

แม้ว่า... 
มายาที่ฉันสัมผัส… 
จักมิอาจสมปรารถนาใดได้ในรูปสภาพนั้น

แต่ฉัน...
ก็จักยืนยันที่จักคิดถึงและคะนึงหาเธอ
ภายใน "นามสภาพ" สมมุติถึง

attachment.php?attachmentid=466522&stc=1

ตลอดมา – และนิรันดร์ไป

พระจันทร์ที่ ๒๙ มิถุนาย์ ๕๒ / แทนคุณแทนไท
 				
7 พฤษภาคม 2552 09:41 น.

...รักแท้...

แทนคุณแทนไท

1.jpg 
หลังจากที่แต่งงานมาได้ 21 ปี 
ผมก็ค้นพบวิธีใหม่ในการทำให้ความรักสดใสมีชีวิตชีวาอยู่เสมอ 
  
  
เพราะ...วันหนึ่งภรรยาผมบอกว่า ผมต้องออกเดทกับผู้หญิงคนหนึ่ง 
มันเป็นไอเดียของเธอล้วน ๆ จริง ๆ นะ 
  
' ฉันรู้ว่าคุณรักเธอ ' ภรรยาผมพูด 
  
' แต่ผมรักคุณนี่ ' ผมเถียง 
  
' ฉันรู้ค่ะ แต่คุณก็รักเธอคนนี้ด้วยเหมือนกัน ' 
  
  

  
ผู้หญิงคนนั้นที่ภรรยาอยากให้ผมไปหา คือ ' แม่ ' ของผมเอง 
ซึ่งเธอเป็นหม้ายและใช้ชีวิตเพียงลำพังกับสัตว์เลี้ยงมา 19 ปีแล้ว 

  
เนื่องจากงานที่รัดตัว ทั้งเจ้านายและลูกค้าที่ผมจะต้องรับผิดชอบ 
และยังมีภรรยาและลูก ๆ ที่ต้องดูแล 
ทำให้ผมไปเยี่ยมแม่เพียงบางครั้งบางคราวเท่านั้น 

  
ผมตอบตกลงกับภรรยา และขอบคุณที่เธอให้โอกาสเช่นนั้น 
วันที่ผมโทรไปหาแม่ เพื่อชวนท่านออกไปทานข้าวเย็นและดูหนัง 

  
แม่ถามผมว่า   ' มีอะไรหรือ ? ลูกสบายดีรึเปล่า ?' 

  
แม่คิดว่าการที่ผมโทรมาหาอย่างกระทันหัน 
หมายความว่า มีเรื่องไม่ค่อยดีเกิดขึ้น 
ผมตอบแม่ว่า ' ไม่มีอะไรคับ ก็อยากคุยกับแม่ และคงจะดีมาก ถ้าเราได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ตามลำพังสองคนแม่ลูกบ้าง ทานข้าวด้วยกันสักมื้อ ดูหนังด้วยกันสักเรื่อง ' 

  
แม่นิ่งคิดไปครู่หนึ่ง แล้วตอบว่า   ' ได้สิจ๊ะ แม่ยินดีมากเลยจ้ะ ' + ' แล้วลูกมีเวลาว่างแล้วเหรอจ๊ะ หยุดงานได้เหรอ ' 

... 
  
เย็นวันศุกร์หลังเลิกงาน ผมขับรถไปรับแม่ที่บ้าน 
ผมรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย 
  

เมื่อผมไปถึงบ้านแม่ ผมก็สังเกตได้ว่า 
แม่เองก็ตื่นเต้นเหมือนกัน 
แม่สวมเสื้อโค้ทนั่งรอผมอยู่ในบ้านเรียบร้อยแล้ว 

  
แม่ม้วนผมแล้วสวมชุดที่แม่ใส่ในวันฉลองครบรอบการแต่งงานครั้งสุดท้าย 
พลางยิ้มรับผมด้วยใบหน้าที่แจ่มใสราวกับทูตสวรรค์ 
  
แม่บอกเพื่อน ๆ ว่า ' จะออกไปเที่ยวกับลูกชาย '    
แม่พูดขณะที่กำลังก้าวขึ้นรถ เพื่อน ๆ ของแม่ต่างพากันประทับใจยกใหญ่ 
  

เราไปภัตตาคารที่ถึงแม้จะไม่หรูหรา แต่ก็ดีเยี่ยม 
บรรยากาศก็อบอุ่นสบาย ๆ มาก ๆ 
ผมวางแผนว่าต้องเป็นร้านในสไตล์ที่แม่ต้องชอบ 

  
แม่ควงแขนผมเดินราวกับว่าเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง 

  
หลังจากที่เรานั่งเรียบร้อยแล้ว 
ผมต้องเป็นฝ่ายอ่านเมนูอาหาร 
เพราะแม่บอกว่า ' ตอนนี้สายตาของแม่อ่านได้เพียงตัวหนังสือตัวใหญ่ ๆ เท่านั้น ' 
  
  
เมื่อผมอ่านเมนูอาหารไปได้เพียงครึ่งหนึ่ง 
จึงหยุดเว้นจังหวะ เพื่อให้แม่ได้เลือกรายการอาหาร 
ผมเงยหน้าขึ้น มองเห็นแม่กำลังจ้องมองดูผมอยู่ด้วยรอยยิ้มระลึกถึงความหลัง 

  
แม่พูดเปรยขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า 
' ตอนที่ลูกยังเด็ก แม่ต้องเป็นคนอ่าน เมนูให้ลูกฟังหลายรอบ '   

  
ผมบอกแม่ว่า   ' งั้นตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ผมจะผลัดเวรให้แม่นั่งฟังสบาย ๆ บ้างแล้ว '   


ในระหว่างมื้ออาหารนั้น 
เราคุยกันอย่างถูกคอ - ไม่ใช่เรื่องราวพิเศษอะไร - 
เพียงแต่สลับกันถามว่าชีวิตของเรา 
  

เราคุยกันสนุกมากจนไปดูหนังไม่ทัน 

... 
  
เมื่อผมไปส่งแม่ที่บ้าน แม่พูดว่า   ' แล้วแม่จะออกไปเที่ยวกับลูกอีกนะ ' - 
' แต่คราวนี้ลูกต้องยอมให้แม่เป็นเจ้าภาพนะจ๊ะ ' 

  
' แน่นอนครับ ' ผมตอบตกลง 

  
' ดินเน่อร์เป็นยังไงบ้าง ?'   ภรรยาถาม เมื่อผมกลับถึงบ้าน 
' วิเศษมาก ๆ ดีเยี่ยมกว่าที่ผมคิดไว้มากเลย '   ผมตอบ 

  
อีกไม่กี่วันต่อมา แม่ผมเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน 
มันเกิดขึ้นกระทันหันมากจนผมช่วยอะไรไม่ทันเลย 

  
หลายวันต่อมา 
ผมได้รับจดหมายพร้อมใบเสร็จจากภัตตาคารที่ผมกับแม่เคยไป 
มีโน๊ตเล็กๆแนบมาด้วยว่า... 

' แม่จ่ายค่าอาหารชุดนี้เรียบร้อยแล้ว แม่รู้อยู่แล้วว่าแม่คงไปอีกครั้งไม่ได้ - 
แต่... แม่ก็จ่ายสำหรับสองคน   คือ สำหรับลูกกับภรรยา - ลูกคงเดาไม่ถูกหรอกว่าวันนั้นมีความหมายต่อแม่มากแค่ไหน ,   รักลูกมากจ๊ะ ' 

  
ณ วินาทีนั้น ผมได้เข้าใจถึงความสำคัญของการกล่าวคำว่า '' รัก ' 
ต่อคนที่เรารัก ในช่วงเวลาที่เค้าต้องการมัน 

  
ไม่มีอะไรสำคัญมากไปกว่าครอบครัวของคุณ 
จงให้เวลากับพวกเค้าในเวลาที่พวกเค้าต้องการคุณ 
เพราะสิ่งเหล่านี้ ไม่อาจผลัดวันประกันพรุ่งได้ 

  
  
- มีบางคนบอกว่า หลังจากที่คลอดลูกแล้วต้องใช้เวลาพักฟื้นราว 6 สัปดาห์   แม่จึงจะคืนสภาพเดิม 

คนนั้นไม่รู้ว่าหลังจากที่คุณได้เป็นแม่คนแล้ว ไม่มีคำว่าคนเดิมอีกต่อไป 

  
- บางคนบอกว่า คนเราเรียนรู้การเป็นแม่ได้เองตามสัญชาติญาณ 

คนนั้นไม่เคยพาลูกสามขวบไปซูเปอร์มาร์เกต 

  
- บางคนบอกว่า การเป็นแม่คนนั้นน่าเบื่อ 

คนนั้นไม่เคยนั่งรถที่ลูกวัยรุ่นขับ หลังจากที่ได้ใบขับขี่มาหมาด ๆ 

  
- บางคนบอกว่า ถ้าคุณเป็นคนดี ลูกออกมาก็จะดีเอง 

คนนั้นนึกว่าเด็กคลอดออกมาพร้อมกับคู่มือการใช้และใบรับประกัน 

  
- บางคนบอกว่า แม่ที่ดีไม่ควรขึ้นเสียงกับลูก 

คนนั้นไม่เคยเปิดประตูหลังบ้านออกมา ทันได้เห็นลูกหวดลูกบอลเข้าใส่หน้าต่างครัวของเพื่อนบ้านพอดิบพอดี 

  
- บางคนบอกว่า การเป็นแม่คนนั้นไม่ต้องมีการศึกษาก็ได้ 

คนนั้นไม่เคยช่วยลูกที่กำลังเรียน ป. 4 ทำการบ้านเลข 

  
- บางคนบอกว่า แม่รักลูกคนที่ห้าไม่เท่าลูกคนแรก 

คนนั้นไม่เคยมีลูกห้าคน 
  

  
- บางคนบอกว่า ช่วงที่ยากที่สุดของการเป็นแม่ คือตอนคลอดและตอนเลี้ยง 

คนนั้นไม่เคยยืนดูลูกขึ้นรถเมลไปโรงเรียนอนุบาลวันแรก 
ไม่เคยส่งลูกเข้าห้องหอในคืนแต่งงาน 
  
- บางคนบอกว่า งานของแม่นั้นหมู ๆ ปิดตาสองข้าง หรือมัดมือไว้ข้างหนึ่งก็ยังไหว 

คนนั้นไม่เคยสอนการออกเดินขายขนมให้กับเหล่ายุวนารี 
ที่กระจุ๊กกระจิ๊กคิกคักกันอยู่ตลอดเวลา 

  
- บางคนบอกว่า แม่เลิกกังวลได้แล้ว หลังจากที่ลูกแต่งงานออกเรือนไป 

คนนั้นไม่รู้ว่าการแต่งงานคือการนำลูกชายหรือลูกสาวคนใหม่เข้ามาอยู่ในสายใยใจของแม่ 

  
- บางคนบอกว่างานของแม่ สิ้นสุดลงเมื่อลูกคนสุดท้ายออกจากบ้านไป 

คนนั้นไม่เคยมีหลานยาย หรือหลานย่า 


- บางคนบอกว่า แม่รู้ดีอยู่แล้วว่าคุณรักท่าน เพราะงั้น ไม่ต้องบอกท่านก็ได้ 

คนนั้นไม่เคยเป็นแม่คน  				
27 กุมภาพันธ์ 2552 09:33 น.

--- คู่มือลิขสิทธิ์สำหรับนักเขียน ---

แทนคุณแทนไท

1189881699.jpgความรู้ทั่วไป ลิขสิทธิ์

ลิขสิทธิ์ หมายถึง สิทธิแต่เพียงผู้เดียวที่จะกระทำการใด ๆ เกี่ยวกับงานที่ผู้สร้างสรรค์ได้ริเริ่มโดยการใช้สติปัญญาความรู้ ความสามารถ และความวิริยะอุตสาหะของตนเองในการสร้างสรรค์ โดยไม่ลอกเลียนงานของผู้อื่น โดยงานที่สร้างสรรค์ต้องเป็นงานตามประเภทที่กฎหมายลิขสิทธิ์ให้คุ้มครอง โดยผู้สร้างสรรค์จะได้รับความคุ้มครองทันทีที่สร้างสรรค์โดยไม่ต้องจดทะเบียน

กฎหมายลิขสิทธิ์ให้ความคุ้มครองแก่งานสร้างสรรค์ 9 ประเภทตามที่กฎหมายกำหนด ได้แก่
    1. งานวรรณกรรม  ( หนังสือ  จุลสาร  สิ่งพิมพ์  คำปราศรัย  โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ฯลฯ )
    2. งานนาฎกรรม  ( ท่ารำ  ท่าเต้น ฯลฯ ) 
    3. งานศิลปกรรม  ( จิตรกรรม  ประติมากรรม  ภาพพิมพ์  ภาพถ่าย  ศิลปประยุกต์ ฯลฯ )
    4. งานดนตรีกรรม ( ทำนอง  ทำนองและเนื้อร้อง ฯลฯ )
    5. งานสิ่งบันทึกเสียง ( เทป  ซีดี ) 
    6. งานโสตทัศนวัสดุ  ( วีซีดี  ดีวีดี  ที่มีภาพหรือมีทั้งภาพและเสียง )
    7. งานภาพยนตร์ 
    8. งานแพร่เสียงแพร่ภาพ 
    9. งานอื่นใดในแผนกวรรณคดี วิทยาศาสตร์ หรือศิลปะ 

มาทำความเข้าใจกันก่อนจะ เขียนอะไรดีกว่าครับ

---คู่มือนักเขียน---

บทนิยาม

นักเขียนหมายถึง ผู้แต่งหรือผู้ประพันธ์งานเขียนประเภทต่างๆ ทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง เช่น นวนิยาย เรื่องสั้น สารคดี ตำรา บทความ ความเรียง กวีนิพนธ์ ฯลฯ

สิ่งที่ได้รับความคุ้มครอง

สิ่งที่จะได้รับความคุ้มครองคืองานที่นักเขียนได้สร้างสรรค์ขึ้น  ส่วนชื่อเรื่อง แนวความคิด
ข้อมูล สถิติ ข้อเท็จจริง ข่าว หรือบทบัญญัติของกฎหมายเป็นสิ่งที่ไม่มีลิขสิทธิ์

การคุ้มครองงานลิขสิทธิ์

นักเขียนจะได้รับความคุ้มครองโดยอัตโนมัติตามกฎหมายลิขสิทธิ์ทันทีที่สร้างสรรค์ผลงานโดยไม่ต้องจดทะเบียน  หรือไปจดแจ้งต่อหน่วยงานใด

แม้นักเขียนจะได้รับการคุ้มครองสิทธิในผลงานของตนเองโดยทันที  แต่นักเขียนสามารถนำผลงาน (หนังสือหรือแผ่นซีดี) มาแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น และกรมทรัพย์สินทางปัญญาจะออกหนังสือรับรองการแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์  ซึ่งสามารถใช้เป็นหลักฐานเบื้องต้นในการแสดงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ได้ ขณะเดียวกันยังสามารถใช้เป็นหลักประกันการกู้ยืมเงินจากธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ ตามนโยบายแปลงทรัพย์สินทางปัญญาเป็นทุนได้ด้วย

นอกจากนี้  นักเขียนยังอาจแสดงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในผลงานของตนโดยแสดงข้อความ เช่น สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 โดย ....... หรือ แสดงสัญลักษณ์ ©

สิทธิของนักเขียน

นักเขียนจะมีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในงานเขียนของตนที่จะทำการใดๆ ดังต่อไปนี้

1. ทำซ้ำ เช่น การทำสำเนา  การดาวน์โหลดลงเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือจัดพิมพ์งานเป็นรูปเล่ม เป็นต้น
2. ดัดแปลง เช่น การนำงานวรรณกรรมไปแปลเป็นภาษาต่างประเทศ หรือนำไปจัดทำเป็นบทละครโทรทัศน์ หรือบทภาพยนตร์ เป็นต้น
3. เผยแพร่ต่อสาธารณชน เช่น การนำผลงานเผยแพร่ลงในเว็บไซต์ต่างๆ และการจำหน่าย จ่าย แจกงานเขียน เป็นต้น
4. อนุญาตให้ผู้อื่นใช้สิทธิ ได้แก่ อนุญาตให้สำนักพิมพ์นำไปจัดพิมพ์ จัดจำหน่าย  อนุญาตให้ดัดแปลงหรืออนุญาตให้นำไปดาวน์โหลด และเผยแพร่ลงในเว็บไซต์ต่างๆ
5. ให้ประโยชน์อันเกิดจากลิขสิทธิ์แก่ผู้อื่น ได้แก่ การโอนผลตอบแทนที่ได้จากค่าลิขสิทธิ์ให้แก่บุคคลอื่น

การแสดงข้อมูลเกี่ยวกับลิขสิทธิ์

นักเขียนควรระบุข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานที่ตนได้สร้างสรรค์ขึ้น เช่น ชื่อผลงาน ชื่อผู้สร้างสรรค์ชื่อเจ้าของลิขสิทธิ์    ชื่อสำนักพิมพ์  ปีที่สร้างสรรค์  ปีที่พิมพ์/โฆษณา  ปริมาณที่อนุญาตให้ใช้งานได้  โดยไม่ต้องขอความยินยอม  เพื่อให้ผู้อื่นรับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับลิขสิทธิ์และเพื่อประโยชน์แก่ผู้ที่ประสงค์จะใช้งาน ในการติดต่อขออนุญาตใช้สิทธิในงานนั้น

อายุการคุ้มครองลิขสิทธิ์

ลิขสิทธิ์งานเขียนจะมีตลอดอายุของนักเขียนผู้นั้นนับแต่สร้างสรรค์ผลงาน และต่อไปอีก 50 ปี นับแต่นักเขียนผู้นั้นเสียชีวิต

การกระทำอย่างไรคือการละเมิดลิขสิทธิ์

การละเมิดลิขสิทธิ์มีได้หลายรูปแบบ เช่น 
-  นำผลงานของนักเขียนไปรวมเล่ม(อาทิ นำงานของนักเขียนหลายคนมารวมเล่ม) โดยไม่ได้รับอนุญาต 
-  นำผลงานไปเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตโดยไม่ได้รับอนุญาต          
-  นำผลงานไปจัดพิมพ์เป็นรูปเล่มโดยไม่ได้รับอนุญาต 
-  นำผลงานไปดัดแปลง (อาทิ ใช้เนื้อเรื่องเดิม ใส่ชื่อเรื่องใหม่) โดยไม่ได้รับอนุญาต 
ฯลฯ

เมื่อถูกละเมิดลิขสิทธิ์นักเขียนควรทำอย่างไร

เมื่อนักเขียนถูกละเมิดลิขสิทธิ์จะต้องดำเนินการดังนี้

1. ในเบื้องต้นนักเขียนจะต้องตรวจสอบผลงานของตนเองกับงานที่ละเมิดลิขสิทธิ์ว่า
มีการทำซ้ำกันหรือไม่ อย่างไร โดยตรวจสอบอย่างรอบคอบและระมัดระวัง เนื่องจากปัจจุบันมีงานเขียนที่มีลักษณะใกล้เคียงกันเป็นจำนวนมาก
2. เมื่อพบว่ามีการทำซ้ำ จนมั่นใจว่าถูกละเมิดลิขสิทธิ์แล้ว หากงานที่ถูกละเมิดนั้นเป็นหนังสือ ให้แจ้งไปยังสำนักพิมพ์ที่จัดพิมพ์เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบ และต้องแจ้งแก่ผู้กระทำละเมิดในทันที
3. เจรจากับสำนักพิมพ์และผู้กระทำละเมิดว่าจะชดใช้ค่าเสียหายอย่างไร
4. หากไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้ อาจทำหนังสือถึงกรมทรัพย์สินทางปัญญาขอให้
กรมทรัพย์สินทางปัญญาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทดังกล่าว (ไม่มีค่าใช้จ่าย) 

หากการดำเนินการตามข้อ 3 และข้อ 4 ไม่บรรลุผล  อาจเลือกดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ดังนี้

1) คู่กรณีอาจนำข้อพิพาทเข้าสู่กระบวนการของอนุญาโตตุลาการ กรมทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อตัดสินชี้ขาด คำตัดสินของอนุญาโตตุลาการถือเป็นที่สุด ไม่สามารถดำเนินคดีในชั้นศาลได้อีก (เว้นแต่เป็นคำชี้ขาดที่ขัดต่อกฎหมาย) 


2) นักเขียนอาจฟ้องร้องให้ดำเนินคดีต่อศาล  ซึ่งทำได้ 2 กรณี คือ

      2.1 การฟ้องร้องดำเนินคดีอาญา นักเขียนสามารถฟ้องร้องผู้ละเมิดลิขสิทธิ์เป็นคดีอาญาได้ หรืออาจใช้สิทธิในทางอาญาโดยการแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานตำรวจ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นผู้ดำเนินการสอบสวน สรุปสำนวนคดี และเสนอพนักงานอัยการเพื่อฟ้องร้องดำเนินคดีแก่ผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ต่อไป  
      2.2  นักเขียนฟ้องคดีแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายเพิ่มเติมจากการละเมิดลิขสิทธิ์นั้นๆได้อีก ในกรณีที่ค่าเสียหายในคดีอาญาไม่คุ้มกับความเสียหายที่เกิดขึ้น

      อย่างไรก็ดี หากนักเขียนไม่ประสงค์จะฟ้องร้องดำเนินคดีอาญาแก่ผู้กระทำละเมิด นักเขียนอาจฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในคดีแพ่งเพียงอย่างเดียวก็ได้

อายุความในการดำเนินคดีละเมิดลิขสิทธิ์

เมื่อถูกละเมิดลิขสิทธิ์  นักเขียนจะต้องฟ้องร้องดำเนินคดีภายใน 3 ปี นับแต่วันที่รู้ว่ามีการละเมิดและรู้ตัวผู้กระทำการละเมิด  แต่ต้องไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ กรณีที่นักเขียนต้องแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ นักเขียนจะต้องแจ้งความร้องทุกข์ภายใน 3 เดือนนับแต่รู้ว่ามีการละเมิดและรู้ตัวผู้กระทำละเมิด

เขียนหนังสืออย่างไรไม่ให้ละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น

การสร้างสรรค์งานลิขสิทธิ์

      การสร้างสรรค์ผลงานลิขสิทธิ์ ผู้สร้างสรรค์จะต้องสร้างสรรค์ด้วยตนเองคือไม่คัดลอกงานของผู้อื่น กรณีของงานเขียนก็เช่นกัน นักเขียนจะต้องเขียนงานจากความคิดสร้างสรรค์ของตนเอง โดยไม่ลอกเลียน ตัดต่อ หรือดัดแปลงงานเขียนของบุคคลอื่น  


การคัดลอกหรืออ้างอิงผลงานของผู้อื่น

     กรณีการคัดลอกหรืออ้างอิงงานเขียนของผู้อื่นบางตอนซึ่งทำได้ตามสมควร แต่ต้องระบุที่มาและชื่อเจ้าของลิขสิทธิ์ผลงานที่คัดลอกให้ชัดเจน  เพื่อให้รับรู้ความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานดังกล่าว โดยการคัดลอกหรืออ้างอิงจะทำได้ในขอบเขตที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น คือจะต้องไม่ขัดต่อการแสวงหาประโยชน์ตามปกติของเจ้าของลิขสิทธิ์ และไม่กระทบกระเทือนสิทธิของเจ้าของลิขสิทธิ์เกินสมควร (กรณีดังกล่าวศาลเท่านั้นจะเป็นผู้ตัดสิน)  หากไม่แน่ใจว่าการคัดลอก อ้างอิงดังกล่าวอยู่ในขอบเขตของกฎหมายหรือไม่ ก็ควรขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน  เพื่อป้องกันข้อพิพาทที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

เมื่อถูกกล่าวหาว่าละเมิดลิขสิทธิ์จะต้องทำอย่างไร

เมื่อมีผู้กล่าวหาว่างานเขียนของท่านละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น นักเขียนจะต้องปฏิบัติดังนี้ คือ

1. รวบรวมผลงานต้นฉบับที่เขียนไว้ในแต่ละครั้ง เพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงว่าได้เขียนผลงานด้วยตนเองไม่ได้ลอกเลียน ตัดต่อ คัดลอก หรือดัดแปลงงานของผู้อื่น
2. รวบรวมเอกสารหลักฐานการตีพิมพ์ครั้งแรกของหนังสือเล่มที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดลิขสิทธิ์
3. จัดเตรียมและตรวจสอบสัญญาการอนุญาตให้ใช้งานลิขสิทธิ์ (ถ้ามี) ว่าขอบเขตของสัญญาที่ตกลงกันไว้มีแค่ไหน อย่างไร 
4. จัดหาพยานบุคคลที่อ้างอิงได้ว่าผู้เขียนเป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานนั้นจริง
5. ตรวจสอบและเปรียบเทียบงานเขียนของท่านว่าละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้กล่าวหาหรือไม่
6. คู่กรณีอาจนำข้อพิพาทเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท  โดยทำหนังสือถึงกรมทรัพย์สินทางปัญญา
7. กรณีที่ไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ คู่กรณีอาจนำข้อพิพาทเข้าสู่อนุญาโตตุลาการเพื่อตัดสินชี้ขาด

นักเขียนที่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องลิขสิทธิ์ สามารถขอคำแนะนำหรือปรึกษาได้ที่ สำนักลิขสิทธิ์กรมทรัพย์สินทางปัญญา 


อ้างอิง พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ. 2537 http://www.ipthailand.org/ipthailand/index.php?option=com_docman&task=doc_download&gid=12&Itemid=47				
19 กันยายน 2551 16:02 น.

...แย่จัง...

แทนคุณแทนไท

5ssl1.jpg95m52.jpg80j83.jpg40nn4.jpgjfiz5.jpgoa9l6.jpgne047.jpg39j88.jpg				
Calendar
Lovers  2 คน เลิฟแทนคุณแทนไท
Lovings  แทนคุณแทนไท เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแทนคุณแทนไท
Lovings  แทนคุณแทนไท เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแทนคุณแทนไท