13 พฤศจิกายน 2549 21:50 น.

ไร้หัวใจ

กระต่ายใต้เงาจันทร์


แห้งผากเกินเข้าใจ
เพราะอะไรทำให้เป็น
นัยต์ตาเริ่มเยียบเย็น
และหัวใจเริ่มยืนยัน


ห่างไกลคนละฟ้า
หมื่นภูผามาขวางกั้น
ทะเลกว้างอ้างว้างนั้น
เหมือนพรากจิตไม่ติดกาย


แค่มดกัดเคยรู้เจ็บ
แค่หยิกเล็บแทบปางตาย
มีดกรีดร้องวี๊ดว๊าย
แต่ทำไมจึงนิ่งมอง


นี่หรือคือฉันนี่
มีชีวีเหมือนใครผอง
มีเลือดไหลรินนอง
มีน้ำตาพาไหลริน


เป็นคนเหมือนเหมือนกัน
มีความฝันตีนติดดิน
มีบ้านต้องอยู่กิน
เคยมีรักมายาใจ


รักเราต้องรักเขา
ต้องรักเท่ากันเข้าไว้
เกลียดเขามากเท่าไร
คือเกลียดเราเท่าเท่ากัน


แห้งผากเหลือหัวใจ
เพราะอะไรเริ่มงงงัน
โลกยับพับลงพลัน
เพราะโลกในเราไร้น้ำ


แห้งผากเสียสนิท
ดั่งก้อนอิฐก้อนดินดำ
ร้อนในและเงียบงำ
เพราะหวั่นกลัวหรือลวงตน

ตื่นเถิดหัวใจหิน
ตื่นมายินเหตุและผล
ตื่นเถิดข้างในคน
จงตื่นใจมาเป็นใจ


มาเป็นหัวใจที่อ่อนนุ่ม
มีน้ำชุ่มหล่อเลี้ยงใน
มีรักคอยรินไหล
มีน้ำตาสามัญชน


เมื่อเป็นคนจงมีใจ
เมื่อมีใจจงเป็นคน
เหตุใดจึงลืมตน
มาเป็นคนไร้หัวใจ				
13 พฤศจิกายน 2549 17:13 น.

.....*?**....อยาก...*?**..

กระต่ายใต้เงาจันทร์

..***..***....
ตอนนี้ฉันต้องทำงานหนัก
ไม่ได้พักหัวใจให้เหว่หว้า
อ่านตำราเป็นเพื่อนทุกครั้งครา
ได้แค่สี่ห้าหน้าแทบบ้าตาย.....
.....*....*......

พอเริ่มอ่านหัวใจให้โทรมทรุด
เพราะไม่หยุดคิดถึงจึงไม่ไหว
เจ้าหัวใจไยสั่นฝันไปไกล
เพราะอะไรจึงโหยหาทุกนาที....
.....*.....*.....

จึงขอตัวออกจากห้องประชุม
เดินดุ่มดุ่มรีบไปให้เร็วรี่
รถไอติมอยู่นั่นโปรดจอดที
ซื้อสามรสสามสีมีไหมเธอ....*
.....*.....*.....

ก็ฉันหิวไอติมจนตาลาย
ถ้าปวดกบาลกินทันใดหายเสมอ
ยิ่งไอติมรสวนิลายิ่งอยากเจอ
กินหน่อยเหอะ...ไอติมจ๋า....มาเร็วไว...*				
11 พฤศจิกายน 2549 16:55 น.

ไม่เคยลืม

กระต่ายใต้เงาจันทร์


ไม่เคยสักนิดไม่คิดถึง
ยังคำนึงวันเก่าเราไม่หาย
แม้ผืนฟ้าขวางกั้นเราเพียงกาย
แต่สายใยมิคลายแม้ไกลตา


เสียงสีซอยังเสนาะเพราะข้างหู
ยังซึ้งอยู่ห้วงฤทัยไยสเน่หา
ฟังเพลงหวานออดอ้อนก่อนนิทรา
ทุกทิวาราตรีเคยมีกัน


ในร้อยรสบทกวีที่เคยเขียน
ยังวนเวียนอยู่ในหัวใจฉัน
บทประพันธ์พลิ้วหวานผ่านคืนวัน
อยู่เนิ่นนานมิเลือนเหมือนเวลา


ยังคงรอตรงนี้ณ.ที่เก่า
ที่สองเราผูกพันธ์เฝ้าฝันหา
ถึงอยู่ห่างเพียงกายใช่ร้างลา
บอกกลับมาบทเพลงเรายังเฝ้าฟัง				
6 พฤศจิกายน 2549 20:01 น.

หนาวนี้ที่ใจ

กระต่ายใต้เงาจันทร์



หมอกขาวพราวพร่างกลางป่า
ยอดหญ้าชุ่มฉ่ำน้ำค้าง
หอมกลิ่นไอฝนจางจาง
ทิวสนสล้างครรลอง  


เย็นใจเย็นกายได้เห็น
ไอเย็นระเรื่อยลอยล่อง
รอเพียงลำแสงสีทอง  
ตะวันสาดส่องหมอกจาง 


ลมหนาวพัดพาความเหงา   
เหมือนเรารู้สึกอ้างว้าง 
ทอดทิ้งไร้คนเคียงข้าง    
หนาวอย่างรวดร้าวที่ใจ


เย็นใจเย็นกายหนาวเหน็บ
หนาวเจ็บซุกซ่อนหม่นไหม้
รักเราปองร้างห่างไกล
หนาวเหน็บเจ็บในเดียวดาย				
4 พฤศจิกายน 2549 15:45 น.

อนิษฐานลอยกระทง

กระต่ายใต้เงาจันทร์


จันทร์เอ๋ยจันทร์เพ็ญ
ลอยเด่นเดือนสิบสอง
สองตลิ่งน้ำนอง
ไทยผองสุขอุรา


ลอยเอ๋ยลอยกระทง
ลอยลงคงคา
หลากหลายนานา
ดาษดาชีวี


หลากสีแตกต่าง
มาสร้างวิถี
ตั้งหวังต่างมี
ส่องสีประกาย


อนิษฐานด้วยใจ
คว้าไขว่เป้าหมาย
ปล่อยลงลอยไป
จุดหมายปลายทาง


กระทงน้อยใหญ่
ลอยไปน้ำพร่าง
สำแดงปล่อยวาง
พึ่งทางอิสรา


พรุ่งนี้แล้วหนอ
ที่ขอดั่งหา
หลั่งแม่คงคา
ล้างคาวในที


กระเอ๋ยกระทง
ลอยลงวิถี
รุ่งขึ้นอีกที
คงคาใสพราว				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกระต่ายใต้เงาจันทร์
Lovings  กระต่ายใต้เงาจันทร์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกระต่ายใต้เงาจันทร์
Lovings  กระต่ายใต้เงาจันทร์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกระต่ายใต้เงาจันทร์
Lovings  กระต่ายใต้เงาจันทร์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกระต่ายใต้เงาจันทร์