18 พฤษภาคม 2554 22:58 น.

นิทานขรัวตา ควายเขาแหลม

คนกรุงศรี

นิทานเก่า เล่ามา ตาจำได้
เรื่องกลางไพร ลำเนา ที่เล่าว่า
ณ ชายทุ่ง เชิงเขา เนาพนา
มีควายป่า สี่ตัว มิกลัวใคร

เจ้าสิงโต ดุร้าย มุ่งหมายล่า
บ่อยครั้งมา ด้อมมอง จ้องจะไล่
กลุ่มควายป่า สามัคคี ดีกระไร
หันหลังชน กันไว้ ร่วมใจกัน

ควงเขาแหลม ต่อสู้ อยู่เป็นนิจ
ทั้งสี่ทิศ จังก้า ท่าแข็งขัน
สิงโตก็ มิกล้า มาประจัน
เป็นเช่นนั้น หลายครั้ง ต่างทะนง

เขาขั้นเทพ ของข้า น่ากลัวเหลือ 
จ้องฉีกเนื้อ เจ้าสิงห์ สิ่งประสงค์
มิตรไมตรี นับวัน เริ่มสั้นลง
ต่างเริ่มหลง ตนว่า เก่งกล้าจริง

เริ่มแยกกัน หากิน ไกลถิ่นฐาน
ใครทัดทาน มิฟัง แถมยังหยิ่ง
ตัวไหนเก่ง เกินข้า อยากท้าชิง
นับวันยิ่ง เหินห่าง ต่างก่อนมา

เมื่อกลุ่มควาย สามัคคี ไม่มีอยู่
สิงโตรู้ เรื่องราว เริ่มเข้าหา
คงไม่ยาก แล้วหนอ รอเวลา
เพราะควายป่า โง่เขลา เอาอย่างคน				
14 พฤษภาคม 2554 21:47 น.

นิทานขรัวตา หญิงแก่ กับชามเก่า

คนกรุงศรี

นิทานเก่า เล่ามา ตาจำได้
หญิงชรา ป่วยไข้ ไม่สุขสม
ร่างสั่นเทา มองไป ไม่น่าชม
ข่นอารมณ์ ลูกสะใภ้ มิใยดี

กินอาหาร หกเลอะ เปรอะไปทั่ว
ชังแม่ผัว มากเหลือ เบื่อจริงนี่
ทำชามข้าว แตกไป ก็หลายที
เลือกชามที่ บิ่นและเก่า เอาให้ใช้

หยิงชรา พยายาม ทำตามหมาย
ห่วงลูกชาย จริงแท้ อยากแก้ไข
เมื่อกินข้าว จึงนาง ห่างออกไป
มิอยากให้ ขุ่นข้อง หมองทุกคน

หลานถูกสอน เอาไว้ ให้เกลียดย่า
แต่ดูว่า หลานนี้ มีเหตุผล
เพราะย่าป่วย เจ็บไข้ ได้ทุกข์ทน
ฟังแม่บ่น ก็เมย ทำเฉยชา

จะเตือนใจ ให้แม่ แกได้รู้ 
ย่าเป็นผู้ เคยการุณย์ ทรงคุณค่า
อยากให้แม่ เปลี่ยนใจ ทำไงนา
บอกเรื่องย่า หนูหนอ ขอดูแล

เพราะชามเก่า แตกไป เกือบไม่เหลือ
ห่วงก็เมื่อ ตอนถึง ซึ่งคราแม่
อายุมาก เมื่อชรา ถ้างอแง 
หนูคงแย่ หาสิ่งใด ใส่ให้กิน				
13 พฤษภาคม 2554 21:58 น.

รักรัญจวน

คนกรุงศรี

ฟังกลอนหวาน ผ่านฟ้า เพลาค่ำ
ขับลำนำ ยินเสียง สำเนียงใส
มธุรส พจมาน หวานจับใจ
ดื่มด่ำใน ฤดี ดุจมีมนต์

ถึงรัญจวน หวนคิด อดีตผ่าน
ทำดวงมาน แปรปรับ เริ่มสับสน
ความหงอยเหงา เข้าติด ชิดกมล
ก็เพราะคน เคยรัก เขาจากลา

บอกสองเรา จะรักมั่น เมื่อวันก่อน
เมื่อคิดย้อน ครั้งใด ใจโหยหา
เราซื่อตรง คงมั่น คำสัญญา
ลิขิตฟ้า ผกผัน พรหมบันดาน

เพลงขลุ่ยเสริม เติมตอน บทกลอนจบ
มันยิ่งรบ เร้าใจ สุดไขขาน
แสนเจ็บปวด รวดร้าว หนาวดวงมาน
เวลากาล ผ่านมา มิซาเลย

เธออยู่ไหน คนดี ที่ปลายฟ้า
เคียงดารา แดนไกล ใช่ไหมเอ่ย
ฝากสายลม บอกความ ถึงทรามเชย
ใจข้าเอ๋ย คะนึง คิดถึงเธอ

ฟังบทกลอน คราใด ก็ใจหม่น
ดวงกมล รำพึง ถึงเสมอ
ฝืนข่มจิต ทำใจ เช่นไรเออ
มีน้ำเอ่อ รอบรอบ ที่ขอบตา				
13 พฤษภาคม 2554 21:07 น.

นิทานขรัวตา "ทวงเงินแม่ "

คนกรุงศรี

นิทานเก่า เล่ามา ตาจำได้ 
หญิงชรา ยากไร้ ไงเล่าหลาน
มีลูกมาก แต่ไย ไม่เจือจาน
แม้ข้าวสาร กรอกหม้อ มิพอกิน

ยืมเงินลูก สองพัน หลายวันก่อน
บอกว่าตอน หาได้ ให้หมดสิ้น
เจ้าลูกชาย ทวงมา เป็นอาจิณ
เป็นหนี้สิน เหตุใด มิใช้กัน

ฟ้องผู้ใหญ่ เป็นพยาน จัดการให้
เจ้าต้องได้ เงินแน่ ไม่แปรผัน
ขอเวลา สืบสาน มินานวัน
ให้เจ้านั้น ทำตามข้า มาลองดู

เอาถุงผ้า ผูกเอวไว้ ให้กระชับ
ทุกวันนับ กรวดใส่ เก็บให้อยู่
ครบสามเดือน แล้วหนา มาหากู
แม่เอ็งกู้ เท่าไร ข้าใช้เอง

มันรับคำ นำไป ปฏิบัติ
ง่ายชะมัด ดูท่า ว่ามันเก่ง
แค่ครึ่งเดือน ถุงย้อย ห้อยโตงเตง
มันรีบเร่ง พบผู้ใหญ่ มิไหวเลย

ผู้ใหญ่ถาม ความนัย เหตุใดเล่า 
ตอนแม่เจ้า ตั้งครรภ์ เจ้านั้นเอ๋ย
นอนในท้อง สุขสบาย ไหมเล่าเอย
แม่เจ้าเคย บ่นไหม ไม่ไหวทน				
9 พฤษภาคม 2554 22:42 น.

เธอคนนั้น

คนกรุงศรี

ตระกูลดี เลอเลิศ กำเนิดก่อ
ทั้งแม่พ่อ เพียบพร้อม ถนอมเจ้า
อีกญาติมิตร ห้อมล้อม ช่วยกล่อมเกลา
เรื่องโศกเศร้า สิ่งใด ไม่เคยมี

     ชะตานั้น ผันแปร มิแท้เที่ยง
     ฤๅจะเลี่ยง ลิขิตไป ได้หรือนี่
     ฟ้ากำหนด กฎไว้ ไร้ปรานี
     เกินกว่าที่ จะรับ แปรปรับทัน

สิ้นพ่อแม่ แม้ญาติ ขาดไออุ่น
คนเกื้อหนุน เคียงข้าง มิตรสร้างฝัน
รับน้ำใจ ไมตรี ที่แบ่งปัน
ก็สุขสันต์ ยอมรับ กับความจริง

     แต่โรคภัย ในกาย สุดหน่ายนัก
     ภาระหนัก ทุกข์เข็ญ เป็นอย่างยิ่ง
     กำลังใจ หลายหลาก หมายพักพิง
     กับอีกสิ่ง ยึดย้ำ ธรรมคุณ

ในสังคม วุ่นวาย หลากหลายหมู่
เธอต่อสู้ ล้างกรรม ที่นำหนุน
หวังชาติใหม่ ภพหน้า ฟ้าค้ำจุน
เร่งสร้างบุญ เก็บนำ ผลกำไร

     ข่าวเธอลับ หลับตา ลาลับโลก 
     จบทุกข์โศก เสียที ที่หม่นไหม้
     หลายปีผ่าน ผองเพื่อน ลืมเลือนไป 
     วันนี้พบ เธออยู่ใน ....ใต้แสงธรรม				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกรุงศรี
Lovings  คนกรุงศรี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกรุงศรี
Lovings  คนกรุงศรี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงคนกรุงศรี