คนกุลา
๐ ปิดตาหลับตรับเสียงสำเนียงพลิ้ว
วู่ลมปลิวเมฆหม่นบนฟ้าใส
หลับแล้วลงตรงตักหมายพักใจ
เพื่อจะได้เฝ้าฝันกลางจันทร์นวล
๐ คืนจันทร์ผ่องส่องดาวหลบพราวแสง
ด้วยเริงแรงสาดไสวพาใจหวล
นิ่งสนิทในนิทราครารัญจวน
สู่กระบวนนิมิตจิตเพริศพราย
๐ โสมผ่องเพ็ญเย็นวับจับผิวน้ำ
ดุจระบำโบกพัดสะบัดสาย
ระลอกพลิ้วทิวคลื่นชื่นพระพาย
กระพริบพรายคล้ายริ้วธงทิวงาม
๐ ไม้ตะคุ่มซุ่มดูอยู่ริมฝั่ง
ปานระวังชั่งใจหากไหวหวาม
คลอลมครวญหวลไห้ร่ายนิยาม
ราวทวงถามความหนึ่งซึ่งยังจำ
๐ ยังนึกได้ใช่ไหมในครั้งโน้น
ใครปลอบโยนยั่วเย้าให้เจ้าขำ
บอกหลับตาคราหลังดั่งเคยทำ
ค่อนคืนค่ำย้ำหาทุกราตรี
.....