30 สิงหาคม 2550 02:01 น.

สิ่งสุดท้ายที่จะสั่งเสีย

ลานเทวา

ไหวกาลสะท้านห้วง

สิ่งทั้งปวงเกิดแจ้งแสดงผล

ใดวิเศษเกินนภาธราดล

ณ สามัญสกลธรรมดา



เสียงอภิธรรมหลังความตาย

มิเคยย้อนใดหมายในหนหา

แต่ต้นตีนแตะตั้งรั้งชีวา

เกิดดับมาแสนหมื่นชื่นกระไร



ไม่มีดอกน้ำตา

ในความจริงแห่งมายาอันสาไถย

ประเดี๋ยวทุกข์ประเดี๋ยวสุขเคล้าคลุกไป

รึน้ำตาเจ้ารินไหลอยู่ทุกวัน



ไม่มีดอกรอยยิ้ม

โดยพรายพริ้มพร่างแย้มเจิดแจ่มฝัน

เพียงวาบไหวระรื่นหยิบยื่นปัน

ใช่นิรันดร์ในยิ้มพิมพ์ประกาย



ไม่มีดอกความสุข

ที่ปั่นปลุกคุณค่าแลความหมาย

ไม่มีดอกความทุกข์ที่รุกราย

ยังแต่ความวุ่นวายของอารมณ์



ไหวกาลสะท้านห้วง

สิ่งทั้งปวงแต่เริ่มเดิมปฐม

เกิดเพื่อดับลับไปในสายลม

ดีชั่วชมคำวางอ้างว้างใจ



อภิธรรมบทสุดท้าย

สิ้นลับหายด้วยเสียงสำเนียงไหว

เหตุปัจจะโย โ อ้ปัจจัย

มาแต่ใดไปแลล้วนแต่กรรม

-------------------------------

ลานเทวา				
26 สิงหาคม 2550 22:56 น.

ผงาดอาชา ขับเคลื่อน จักรวาลคำ......

ลานเทวา

ผงาดอาชาสู่ห้วงกาล

ขับเคลื่อนกลจักรวาลแห่งอักษร

จารึกฝันจากทรวงสู่ห้วงอมร

ด้วยอักขระกานท์กลอนจินตนาการ



โดยอิสระเสรีอันพิสุทธิ์

ปราศอาวุธอวิชชาพร่าผลาญ

ประพันธ์พจน์วจีมณีประพาฬ

ประดับงามอุทยานจินดาคำ



วิญญาณแห่งนิรนามภูผา

เคลื่อนครรลองปรีดาดื่มด่ำ

อเสกขวิทยวรรณกรรม

จารจดนำสู่ห้วงหทัยแล้ว



เพียงผงาดวาดกล้าอาชาข้าม

สมัยนามจักผ่องดั่งก่องแก้ว

โดยคำนำจักวาลผ่านแนว

โลกพร่างแพรวด้วยพจน์บทวจี



เสรีใดไหนเล่าในชีวิต

เท่าเสรีความคิดแห่งวิถี

จินตนาการผ่านพจน์บทกวี

ขับเคลื่อนอาชาวลีระเริงคำ


--------------------------------------

ลานเทวา				
21 สิงหาคม 2550 16:14 น.

นาฏกรรมแห่งดอกหญ้า

ลานเทวา

นาฏกรรมแห่งดอกหญ้า

ร่ายฟ้อนอวดฟ้ายามลมไหว

ระบำปีกผีเสื้อกวัดไกว

ลงไล้แตะแต้มแย้มยวน


แผ่วเพลงไผ่พริ้วผ่านสะท้านทุ่ง

สะพานรุ้งพาดงามยามลมหวน

หมู่วิหกเริงรื่นชื่นชวน

สายธารครวญผะแผ่วแว่วระริน


ตราบตะวันสีทองส่องสัจจะ

อิสระแห่งใจไม่สุดสิ้น

ชีวิตคือพืชพันธุ์ของแผ่นดิน

ก่อเกิดทั่วธรณินกว้างไกล


อิสระแห่งท้องทุ่ง

ท่ามแสงตะวันเจิดจรุงงามสดใส

อิสระแห่งชีวิตจิตใจ

ระบัดไหวท่ามมรรคาชีวาวาด


นาฏกรรมแห่งดอกหญ้า

พริ้วไหวมิต่างชีวาบทบาท

ลีลากระแสวนยลยาตร

ธรรมชาติใจรู้ลู่ทางลม


-------------------------------

ลานเทวา				
20 สิงหาคม 2550 20:03 น.

ฉันมีฝัน มาขาย....

ลานเทวา

บนถนนสู่ดาวเดือน

ข้าคือคนฟั่นเฟือนเร่ขายฝัน

เก็บตะกอนราตรีทิวาวัน

มาเสกสรรค์สื่อผ่านกานท์วจี



อรรณพห้วงแทนหมึกจารึกวาด

ดาริกาผ่องผาดแต้มแต่งสี

มวลลำนำแห่งบุหงามาลี

ถักเป็นสร้อยทิพย์มณีมาลัย



ด้วยปรารถนาแห่งฝัน

คีตารมณ์รำพันวิญญาณไหว

ณ ริมทางสัญจรแรมรอนใจ

ข้าวางสร้อยลำนำนั้นไว้แด่คนจร



เฝ้ารอคนผ่านมาซ่านซึ้ง

สังวาลสร้อยรำพึงอันไหวอ่อน

เร่เข้ามาเถิดหนาอย่าตัดรอน

มาชมก่อนไม่ซื้อหาไม่ว่าไร



ณ ริมถนนสู่ห้วงดาวเดือน

ข้าคือคนฟั่นเฟือนนิราศรัย

ปั้นแต่งฝันเร่จรตะลอนไป

สุดแต่ใครจักปองจับจองซื้อ



--------------------------

ลานเทวา				
18 สิงหาคม 2550 22:34 น.

ดับหม่น...ในรอยหมอง

ลานเทวา

น้ำตาเธอรินไหล....ในกระแส
โศกเธอแล....เศร้าปานใครผลาญพร่า
หรือดาวดวงห้วงใด....ไหวลับลา
ถึงได้ฝาก.....รอยน้ำตาให้ทรวงช้ำ


แม้การเหลียวแล...แก้ไข
จะปลอบอุ่นละมุนใด.....ดื่มด่ำ
เสกสร้อยจันทร์แรม...มาแซมคำ
มิอาจนำ.....จิตเดิมมาเติมรัก


จักรวาลใด...ในปรารถนา
พอเร้นร้าวแห่งชีวา.....อันหน่วงหนัก
เมฆาใดไหวอ่อน....จงผ่อนพัก
ให้ลมทักทายใจ......ในรอยเดิม


หวนเถอะนะ....ชีวิต
หวนจากความวิปริต....แต่เริ่ม
เอาอาทรห่วงหา......มาต่อเติม
เอารักเจิม....จิตเจ้าจากเงานั้น


เพื่อดับรอยหม่น....ของคนเศร้า
ปลดใจจากรูปเงา...ที่หวาดหวั่น
คืนสู่ไมตรี.....สัมพันธ์
ในคืนวัน....ที่ปรารถนา


ยังมีผู้คน.....นับแสนล้าน
ที่ร้าวราน....หัวใจยิ่งกว่า
เถอะเจ้า .....จงก้าวออกมา
นำรักจากชีวา....ไปปลอบโยน
-------------------------------
ลานเทวา				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลานเทวา
Lovings  ลานเทวา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลานเทวา
Lovings  ลานเทวา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลานเทวา
Lovings  ลานเทวา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงลานเทวา