5 กุมภาพันธ์ 2550 16:10 น.

เรื่อง"ลาว"สาวแมงกุ๊ดจี่

แมงกุ๊ดจี่

"ให้อภัยสักครั้งหนึ่งเธอคงไม่ใจร้าย  ถ้าไม่สายไปมาคืนดีกันได้ไหม?
ให้อภัยสักครั้งหนึ่งเธอคือคนสำคัญของใจ  อยากบอกเธอว่าเสียใจ
อยากให้เธอรู้ทั้งใจยังรักเธอ"   เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้น  วนไปมาซ้ำ ๆ
ฉันงัวเงียหรี่ตามองหาโทรศัพท์    มือก็ควานหา  ปกติมันอยู่ข้างหมอนนี่หวา...
เอ่อเจอแล้ว...

"สวัสดีค่ะ"   เสียงอู้อี้    ของคนเพิ่งตื่นนอน
"ยังไม่ตื่นอีกเหรอย่ะหล่อน  "   เสียงโวยวายดังตาสายมา
"อื้อ ๆๆ  ใครว่ะ  "  ฉันโวยกลับมั่ง    ตาก็ยังปิด..ซุกตัวใต้ผ้าห่มอุ่น  คริ ๆ
"ตื่นได้แล้ว  นอนกินบ้านกินเมืองรึไงย่ะ"  เสียงมันยังโวยไม่เลิกยัยคนนี้
"ก็อากาศมันหนาวเย็นจะตาย    ใครจะตื่น"  ฉันตอบกลับ
"ลุกได้แล้ว   นี่มัน  9  โมงเช้าแล้ว  11  โมงเจอกัน  ฉันจะรอหล่อนที่หน้าร้าน  Savensen"
   เสียงหล่อนสั่งเจื้อยแจ้วมาตามสาย...
"อิหยังน้อ     คนสินอนเด๊เนี๊ย   ฮู้บ่"    ฉันพูดแบบโมโห ๆ   ก็อากาศมันหนาวใครอยากจะตื่น
"ไม่ต้องนอนแล้ว    เดี๋ยวจะพาหนุ่มไปแนะนำให้รู้จัก"   เสียงหล่อนพูดตื่นเต้นม๊าก  มาก
"ฮ๊ะ  ฮ่ะ  อั่นหยังหน่ะ  "  
"พอบอกว่าเป็นเรื่องหนุ่ม ๆ   หูพึ่งเชียวนะย่ะ"    มันกระแนะกระแหน  ฉันจริงเพื่อนคนนี้
"เออ ๆ   11  โมง   หน้า  Savensen  เจอกัน"   ฉันตอบไปเพื่อปัดความรำคาญ    
   จริง ๆ   ก็เป็นอย่างที่มันบอกนั้นแร่ะ   เดี๋ยวต้องไปเจอชายหนุ่มต้องแต่งตัวสวยหน่อย  อิอิ

ใช้เวลาในการอาบน้ำแต่งตัวก็    40  นาทีได้   
วันนี้เลือกใส่เสื้อสีดำแขนยาว  กางเกงยีนส์ตัวโปรด  อิอิ     
ไม่ปล่อยผมสลวย    เลือกที่จะรวบผมไว้   แล้วปล่อยหน้าม้าลงมาหน่อย ๆ
เลือกกระเป๋าใบโปรด     อิอิ    ใบนี้แพงที่สุดเท่าที่เคยซื้อมา    (ไม่ได้อวดนะแค่เล่าให้ฟัง  คริ ๆ)
หันซ้าย   หันขวา    หน้ากระจก     อืม...โอเค   ออกนอกบ้านได้แล้ว   


ใช้เวลาในการเดินทาง  อีก  20 นาที...
มาถึงหน้าร้านไอศกรีม    10.30 น.  พอดี  อืม...ยังพอมีเวลาเตล็ดเตร่สักพัก   
เดินไปร้านซีเอ็ดฯ  เพื่อฆ่าเวลาระหว่างรอ...ดีก่าาาา...อิอิ 

"ให้อภัยสักครั้งหนึ่งเธอคงไม่ใจร้าย  ถ้าไม่สายไปมาคืนดีกันได้ไหม?
ให้อภัยสักคครั้งหนึ่งเธอคือคนสำคัญของใจ  อยากบอกเธอว่าเสียใจ
อยากให้เธอรู้ทั้งใจยังรักเธอ"   เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้น...

มองดูชื่อในหน้าจอก็เห็นว่าเป็นยัยเพื่อนตัวแสบ...
"สวัสดีย่ะ"   ฉันตอบกลับอย่างอารมณ์ดี
"เดี๋ยวจะถึงแล้วนะ  หล่อนถึงไหน?แล้วย่ะ"  เสียงเจื้อยแจ้วจนแสบแก้วหู..
"อืมฉันมาถึงตั้งแต่   10.30  นาฬิกา   แล้วย่ะ"   ฉันโต้แย้งไป   
   น้ำเสียงฉันกำลังตำหนิมันอยู่...ว่ารอนานแล้วนะ
"จะถึงแล้วเนี๊ย !   รออยู่หน้าร้านไอศกรีมนั่นแร่ะ  ถึงแล้ว"  หล่อนยืนยัน
"เอ่อ ๆ  แค่นี้แร่ะ   เดี๋ยวจะไปรอ"   ฉันตอบไป...

...ฉันก็อดที่จะสำรวจตัวเองไม่ได้   เพราะยัยเพื่อนบอกว่าจะพาหนุ่มมาด้วย
เข้าห้องน้ำส่องกระจกสักหน่อยก็ดี...   หมุนซ้าย  หมุนขวา    อืม...ใช้ได้...  คริ ๆ  
เดินไปหน้าร้านไอศกรีมก็เห็นยัยตัวแสบโบกไม้   โบกมือ   ยิ้มแต้  อยู่หน้าร้าน...


ฉันส่งยิ้มดีใจเพราะไม่ได้พบ   กันนานมากแล้ว   
ปีเกือบสองปีแล้ว  ส่วนใหญ่ก็คุยโทรศัพท์ซะมากกว่า    
ล่าสุดที่เจอกันเป็นวันที่เพื่อนสาวมีปัญหาชีวิตรุมเร้าอย่างหนัก...

"มาถึงนานแล้วเหรอ?"     หล่อนถามพร้อมกับมากอดด้วยความคิดถึง
   ฉันโอบกอดรับรอยสวมกอด  เหมือนหล่อนจะคิดถึงมาก...
"เฮ้ย ๆๆ ฉันหายใจไม่ออก"   ฉันบอกเป็นสัญญาณ    ก่อนจะไอ...แค๊ก ๆๆ
"ก็มันคิดถึงนิ   ไม่เจอตั้งนาน  เกือบสองปีแล้วนะ"   หล่อนพูด ๆ  พูด  ฉันได้แต่ยิ้มรับ..

"เอ้อ   เกือบลืมแนะนำหนุ่มให้รู้จัก"    หล่อนบอก 
   ตัวฉันเองก็ลืมมองคนรอบข้าง    เพราะดีใจที่ได้เจอเพื่อนสาวตัวแสบ...
"นี่อั่งเปา"   หล่อนแนะนำให้รู้จัก    ฉันมองแล้วต้องยิ้ม   เป็นเรื่องที่เซอร์ไพส์มาก ๆ
"โอ้โห!  ทำไม?  รูปหล่ออย่างนี้นะ  "  ฉันยิ้มรับกับแววตาที่ค้นหา    และดูท่าขี้สงสัย  
    แต่เป็นแววตาที่ไร้เดียงสาเพื่อหาคำตอบ   และตื่นเต้น    แววใสมองตาแป๋วเลยนะ

"อั่งเป่า    นี้ป้ามะกรูดนะลูก"     หล่อนพูดพร้อมกับอุ้มเด็กชายอายุ   11  เดือน
"อั่งเป่าเหรอ?   "   ฉันเอ่ยขึ้น  ใช่ของขวัญพิเศษสำหรับหล่อน  แต่อั่งเป่าไม่เหมือนแม่เลย
"โตขนาดนี้แล้วเหรอ?   "  ฉันเอ่ยขึ้นต่อ  
เพราะครั้งสุดท้ายที่ฉันเจออั่งเป่ายังอยู่ในท้อง ได้  4  เดือนเอง...ยังเป็นวุ้นอยู่เลย
"หล่อใช่มั้ยล่ะ   นี่แร่ะชายหนุ่มที่จะแนะนำวันนี้"    พอหล่อนพูดจบ   ฉันก็มีรอยยิ้ม
  เปื้อนแก้มปริ   จนไม่อยากหุบ
"โอ้โห!  นี่เป็นคู่เดทที่อายุน้อยที่สุดที่เคยเดทเลยนะเนี๊ย"   พอพูดจบ
   ก็พากันหัวเราะครึ้นเครงกัน      อั่งเปาเหมือนรู้ว่าพูดถึงยิ้มใหญ่เลย   น่ารักจริง ๆ    

...ทักทายกันได้สักพักมันจะใกล้เที่ยงแล้วนิ
พากันไปหาข้าวกินดีก่าาา   เดทครั้งนี้ประทับใจไม่น้อย...
"กินข้าวเสร็จแล้ว   ฉันฝากอั่งเปาหน่อยสิ"   พูดจบพร้อมทำสายตาอ้อนวอนตามเคย
"อืม...แล้วหนุ่มน้อยจะอยู่กลับฉันเหรอ?แก"   ฉันพูดจบก็มองหน้าหนุ่มน้อย
แหม๋เจ้าชู้แต่เด็ก  ทำตาหวานส่งมาเชียวนะ  พอรู้เขาพูดถึง  โตขึ้นคงไม่ใช่เล่นนะเนี๊ย...
"ได้อยู่แล้ว   อั่งเปาน่ารัก"   หล่อนรีบรับรอง   (แม่มันเห็นแก่ตัวเกินไปเปล่า?)
"แก  จะไปไหนย่ะ  "  ฉันพูดประชดหล่อนไป...
"เดี๋ยวฉันมา   ขอเวลา  30  นาที"   หล่อนยืนยันคำพูดว่าต้องไปแน่ ๆ  
"อืม  ก็ได้  ก็ได้  "   ฉันหันไปหาอั่งเปา 
"เนอะอั่งเปาเนอะ ๆ  แม่เปิดโอกาสให้ป้าจีบแล้วลูก"   ฉันยิ้มหวานให้หลาน
"อืม....อิ่มแล้ว  เดี๋ยวฉันมานะ"   แล้วมันก็ลุกไปเลย   ดูมานสิ   จริง ๆ  เลย

...วันนี้อั่งเปาคงเป็นตุ๊กตาของคุณป้าแล้วลูก   อิอิ
ไม่ใช่นางงามแต่ก็รักเด็กได้นี่นาเน๊อะ    ฉันมองหน้าอั่งเปาแล้วยิ้ม...
วันนี้ป้าพาเที่ยวห้างลูก    เดี๋ยวเราไปกันเลย   อั่งเปาน่ารักมาก ไม่งอแงเลย
เลี้ยงง่าย   แม่เค้าเองก็หลงลูกจะตาย   ถ้าไม่ใช่ฉันคงไม่กล้าฝากหรอกนะเนี๊อ  (โม้จังเนาะ)

เวลาผ่านไปนานแล้วนี่หว่า   ทำไม?    ยัยเพื่อนตัวแสบยังไม่มาอีกนะ
"เดี๋ยวเราเดินเล่นกันก่อนเนาะ   อั่งเปาเนาะ"   ฉันคุยกับหนุ่มน้อย...
  อั่งเปาเลี้ยงง่ายสมกับแม่มานโม้ไว้จริง ๆ   น่ารัก    อั่งเปาเป็นลูกครึ่ง  จปล.
  พ่อเป็นจีน  แม่เป็นลาวภูไท    เลยกรายเป็นจีนปนลาว  เหอ ๆ  

เดินไปเรื่อย ๆ   ผ่านหน้าร้านทอง  มองซ้ายมองขวา  
อืมอั่งเปามีสร้อยทอง  นี่หว่า  อิอิ   สองสลึงได้...

อั่งเปายิ้มดีใจแน่ ๆ  เลย   เงียบ ๆ  ไว้ลูกเดี๋ยวแม่อั่งเปารู้   ฉันพรึมพรำบอกเด็กน้อย
ฉันถอยสายสร้อยทองอั่งเปาออก   ใส่ให้ใหม่เรียบร้อย  (เอ๊ะ ๆ อย่าเพิ่งคิดว่าจะขโมยนะฮ

อืม...ฉันรีบสวมสายสร้อยคืนให้อั่งเปาใหม่    
"หมั้นไว้ก่อนนะลูกนะะะ"   พูดยังไม่ทันจบ   มีมือตบพัวะเข้าที่หัว...
"โอ้ยใครว่ะ   เจ็บนะโว้ย"   ฉันโวยวายก่อนหันหน้าไปหาต้นเหตุ
"นี่หล่อนลูกฉันยังไม่ทันโตเลยนะแก"   ยัยเพื่อนตัวแสบมันโวยวายมาดูดิ
"อะไรกัน  ฉันก็แค่อยากให้หลาน  แกเกี่ยวไรด้วย   ยัยนี่แปลกเนาะ  โย่วว"  ฉันบ่น
"เน๊อะอั่งเปา  เนอะ "  ฉันหันไปหยอกหลานต่อ   โดยไม่สนใจแม่มาน  อิอิ
"ฉันเป็นแม่มันนี่นา  ทำไม?  จะไม่เกี่ยว"   มันยังพร่ามันหายดูดิ
"เอ่อ  แค่ซื้อจี้อันเล็ก  ๆ  ให้อันไม่ถึงพัน  แกทำโวยไปได้หรือมันน้อยไปย่ะ"  
   พูดประชดหน่อยก็ไม่ได้ทำหน้างอนะ
"เปล่า?  ไหน?ดูดิ  อืมสวยดี   เหมาะกับอั่งเปา"    หน้าตายิ้มอย่างพอใจยัยตัวแสบ
"ทำไม?  แกไม่แต่งงานซะทีล่ะ"   มันมองหน้ายังมาพูดแทงใจดำฉันอีกนะ
"ฉันรออั่งเปาโตก่อน   ฉันหมั้นไว้แล้วนิ"   ฉันพูดหน้าตาเฉย...
"แกตัดสินใจหาใครสักคนได้แล้ว   ฉันว่านะแกน่ามีครอบครัวได้แล้ว"   
ทำพูดดีจริง ๆ เพื่อนฉัน

"มาเดือดร้อนอะไรกับฉัน  เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะย่ะ"   
ฉันพูดจบ   ก็ทำให้บรรยากาศเงียบ      ใบหน้าเพื่อนสาวกลับหม่นเศร้าทันที   
ทำให้ใจเริ่มไม่ดีแล้วสิ    พูดไม่คิดอีกแล้วฉัน...

"อืม...ไว้อั่งเปามีสาว   มาขอแต่งงานแล้วฉันก็ค่อยแต่งก็ไม่สาย.."  ฉันพูดให้ติดตลก...
"ตามใจแก    ก็ดี  หล่อนจะได้ไม่ต้องลำบากอย่างฉัน"   ทำหน้าเศร้าอีกแล้วยัยเพื่อนบ้า
"ลำบากอะไร   ดูสิ   อั่งเปาเป็นของขวัญที่น่ายินดีจะตาย"  ฉันปลอบเพื่อนสาว...

....อั่งเปาเป็นเด็กน่ารักมาก  แต่อาภัพแต่เด็ก  
เพราะกำพร้าพ่อ   เพราะความผิดพลาดของแม่...เพื่อนฉันเป็นคนน่ารัก
นิสัยดีตั้งแต่สมัยเรียน   เขาโดนฉันรังแกตลอดเลย   อิอิ  ฉันไม่ดีเท่ามันหรอก...เพื่อนคนนี้

....วันที่ร้องไห้ทุรนทุราย    อยากเอาอั่งเปาออกตอนอายุครรภ์ได้สี่เดือน
ฉันยังจำได้    ตอนนั้นเราทะเลาะกันอย่างหนักมาก  ฉันไม่อยากให้เพื่อนต้องบาป
พยายามเกี่ยกล่อม    และช่วยแก้ไขปัญหาทุกอย่าง    และทุกวันนี้เขายืนได้ด้วยตัวเอง
และมีหลักยึดก็คือ   "ลูก"    ผู้หญิงเมื่อมีลูกก็ทำให้กลายเป็นคนเข้มแข็งขึ้น   อดทนขึ้น
ตอนนี้ดูท่าหล่อนมีความสุขมาก   และรักอั่งเปามากอั่งเปาเป็นขวัญที่ดีและมีค่าสำหรับหล่อน
เธอเข้มแข็ง  เป็นได้ทั้งพ่อและแม่   และสามารถเลี้ยงลูกคนเดียวได้  จนฉันทึ่ง  และอึ้ง
ที่เพื่อนฉันยืนได้อย่างเข้มแข็ง...

....บ่ายสองแล้วต้องไปส่งสองแม่ลูกขึ้นรถประจำทาง
เพราะบ้านหล่อนอยู่อีกอำเภอ   นั่งรถอีกชั่วโมงครึ่งกว่าจะถึง...

...."เรื่องลาวสาวแมงกุ๊ดจี่"    ก็แค่เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น
แต่ดูเหมือนฉันนินทาเพื่อนยังไงไม่รู้เนอะ     แต่ฉันก็รักเพื่อนคนนี้มาก   
และเดทของฉันวันนี้ก็มีค่ามาก     ฉันก็ยังเป็นแบบลาว ๆ   อย่างสาวแมงกุ๊ดจี่...				
Calendar
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟแมงกุ๊ดจี่
Lovings  แมงกุ๊ดจี่ เลิฟ 2 คน
Calendar
Lovings  แมงกุ๊ดจี่ เลิฟ 2 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแมงกุ๊ดจี่