30 มกราคม 2555 18:12 น.

มีเธอ...

แมงกุ๊ดจี่

เดือนแห่งความรักกำลังจะมาเยือน...
ในปี 5 5  ความรักคงคึกคัพิลึก   แห่ะ ๆ  ขอฮาก่อนโฮ  แร่ะกัน  คริคริ

สายลมหนาวยังคงพัดพลิ้วโปกปลิวทิวไผ่ไหวเอน
เหงาหัวใจดีจังโน๊ะ สายลมหนาวทำให้อยากปรับความคิดไปอยู่โหมด "ความรัก"   อิอิ




siamhadotcom-23323.jpg

บรรยากาศทำให้อยากคิดทบทวนและรื้นค้นเรื่องราวต่างๆ  แต่พอมานึกทบทวนทำให้รู้สึกสับสน  "เรื่องหัวใจ"  ทำไมต้องคิดนะ  ปล่อยให้มันดำเนินไปตามเพรงไม่ได้หรือ?  บางอย่างก็ทำตามใจตัวเองไม่ได้สินะ


คิดวกไปวนมาทำให้คิดถึงคำถามที่หลานๆ  ถามเรื่องความรัก...เด็กกำลังอยู่ในวัยรุ่นวัยเรียน  กำลังว้าวุ่นกับความรัก  ที่อยู่ในวัยเรียน เขาถามว่า "ป้ากับน้าทำไม? ยังไม่แต่งงาน"   เขาคงสงสัยใครๆ ทำไม? แต่งกันแล้ว  พอตอบเขาไปว่า "ยังไม่ถึงเวลาจ๊ะ"  เขาก็มีคำถามอีกว่า "ป้าไม่เคยมีความรักหรอ?" คำถามสุขท้ายทำเอาป้าสะอึกไปนิดนึง  ส่วนคุณน้าคนสวยอมยิ้ม คุณน้าคงมีคำตอบในใจแต่คุณป้าอย่างฉันละไม่มีคำตอบที่ใช่ในความคิด จึงได้แต่ตอบหลานไปว่า  "ไว้มีเวลาป้าจะเล่าให้ฟัง" ดูเด็กๆ  ตื่นเต้นอยากรู้เรื่องราวของป้าเสียจริง  ไว้ให้เด็กๆ  มาค้างกับป้าก่อนนะเราค่อยคุยกัน...


เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมาหาเรื่องหนีออกจากค่ายฯ  เหตุเพราะมีเรื่องกวนใจหลายเรื่อง จึงขออนุญาตออกมาอยู่เงียบๆ  เพื่อให้ใจมีสมาธิคิดและตัดสินใจ เมื่ออยู่บ้านตลอดทั้งวันกลับทำให้ชีวิตเงียบเหงา  แต่ว่าไม่เศร้าเพราะยังอยู่กับความคิดกับบางเรื่องวนเวียน วกวน กลับ ไป-มาในหัว



โลกโซเซียลเนตเวิร์คคงจะทำให้ช่วงเวลาที่กำลังคิดทบทวนผ่อนคลายได้บ้าง...
พอล็อคอินเข้าสู่ระบบ  สู่โลกโซเซียลมันทำให้ฉันเจอความว่างเปล่าแต่ว้าวุ่นทำให้นึกน้อมเข้าไปสู่พุทธวจนะ นี่คือความไม่เที่ยง  ความไม่มีตัวตน  ไม่มีเรา 
สิ่งที่เห็นคือความ "ไม่มี" "เราไม่มี" "เขาไม่มี" ความรักของฉันอยู่ในโลกซึ่งไม่มี มันว่างเปล่า...ฉันฝากหัวใจไว้กับความไม่มี  ในโลกโซเซียล  และปล่อยมันไว้อย่างนั้นมาเนิ่นนานมากแล้ว  นับเวลาได้เกือบสิบปีแล้วสินะ  ที่ฉันฝากใจไว้กับคนในโลกโซเซียลเนตเวิร์ค ตลอดระยะเวลาที่ฉันฝากใจไว้กับคนในโลกโซเซียลมันกลับทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัย  ว่าฉันจะไม่ถูกความรักทำร้าย เพราะรักของฉันเป็นความคิดถึง  ห่วงใย  ส่งฝากผ่านสายเคเบิล  และส่งผ่านไปกับลมฟ้าอากาศเบา-เบา  โดยที่คนในโลกโซเซียลนั้นไม่เคยได้รับมันแม้สึกกึ่งของความรู้สึกฉัน





to%20know%20u.JPG

เอ๊ะ...อาจรู้ก็ได้สักเสี้ยวของความรู้สึกเพราะบ่อยครั้งที่ฉันแอบแนบไปกับตัวอักษร และบ่อยครั้งที่แอบซ่อนไปกับท่วงทำนองของบทเพลงบางบทเพลง...ที่ซึ้งปนเศร้าและแอบเหงาในบางจังหวะของเสี้ยวอารมณ์นั้นๆ



หัวใจของฉันเล่นซ่อนแอบกับใครหลายคนบนโลกจริง...ในบางช่วงจังหวะที่ก้าวเดินของชีวิต  ฉันยังแอบอุ่นกรุ่นด้วยไอคิดถึงคนที่ซ่อนตัวในโลกโซเซียลนั้น
เขาไม่รู้หรอกว่ามันอบอุ่นและหนักแน่นเพียงไหน?  กับความรู้สึกละมุนที่เกิดขึ้นกับหัวใจของคนบนโลกจริง  บางครั้งฉันก็บอกไม่ได้ว่ารอยยิ้มที่สดใสบนใบหน้าที่เหมือนว่ากำลังมีความรักนั้นได้มาจากไหน?  เมื่อใครใครมีคำถาม





no%20one%20know.JPG

หลายคนบนโลกจริงพยายามจะตามหาหัวใจของฉันให้เจอ  (เหมือนเว่อร์โน๊ะ แต่จริงอ๊ะ คริคริ)    พยายามค้นแต่เขากลับไม่พบหัวใจดวงที่อ่อนไหวนี้  ว้า...ฉันเลียนแบบทศกัณฑ์เข้าให้แล้ว  ถอดใจไว้อีกที่นึง   ฉันถอดไว้ในโลกโซเซียลที่มีแต่ความแปรผันไปตามกระแส 555




หลายครั้งที่คนบนโลกจริงเพียรถามว่าทำไม "รักไม่ได้"  ทำไม? ฉันจึงรักเขาไม่ได้...ฉันได้แต่นิ่งเงียบเพราะฉันเองไม่สามารถตอบออกไปได้ว่าฉันมีคนรักแล้ว...แต่คนรักของฉันอยู่ที่ไหนเป็นใคร ฉันตอบไม่ได้  จึงได้แต่นิ่งเงียบแต่การนิ่งเงียบมันทำให้ฉันรอด  รอดจากการถูกรุกเร้าเอาคำตอบ และปลอดภัยจากความรักของเขาเหล่านั้น  ฉันไม่สามารถตอบออกไปอย่างที่ใจคิด  ฉันรู้เพียงจะไม่ตอบคำตอบที่หลอกตัวเองและเขา  ที่มันอาจจะเป็นคำตอบหรือเงื่อนไขในการทำร้ายกันภายหลัง...ฉันควรเห็นแก่เขาไม่ใช่เห็นแก่ตัว... จนในบางครั้งรู้สึกใจหายเมื่อความรู้สึกแวปขึ้นมาว่า "ฉันไม่เคยรู้จักความรักหรือ? ฉันรักใครไม่เป็นหรือ?"



ถ้าหาก...(มันเป็นเพียงการคาดเดาแต่ไม่ได้วาดหวัง) วันหนึ่ง....คนในโลกโซเซียลปรากฎตัวอยู่ตรงหน้าฉันและเขาพร้อมจะมอบความรักที่รอคอยนั้นให้มาฉันคงรับมันไว้ไม่ได้   เพราะฉันไม่อาจรักคนบนโลกจริงได้ ขอให้เขาเป็นเพียงคนที่ซ่อนอยู่ในโลกโซเซียลนั้นต่อไป  เพราะฉันคงไม่ให้อภัยในสิ่งที่เขาล้อเล่นกับความรู้สึกของฉันมาอย่างยาวนาน   ความเสียใจ ความกลัว และความรู้สึกที่เสียไปมันไม่อาจย้อนคืนกลับมาได้อีก  "มีเงินเป็นหมื่นล้านก็ซื้อเมื่อวานคืนมาไม่ได้"    นี่คือเรื่องจริงมันเป็นสัจจธรรม 



เวลาที่ล่วงไปแล้วไม่มีทางจะหวนคืนกลับไปเริ่มใหม่หรือแก้ไขได้อีก...
มนุษย์มีเวลาเท่ากันในหนึ่งวัน เรามีเวลาที่สำคัญเพียงเวลาเดียวคือ "ปัจจุบัน"  




หากฉันจะปล่อยให้ปัจจุบันข้างกายของฉันมันว่างเปล่า  แต่ไม่ได้ว่างไว้รอใครในอนาคต  เพียงแต่เขาคนนั้นไม่มีตัวตนนั้นเอง  เพราะเขาเคียงข้างฉันในทุกเวลา   แต่ไม่มีใครล่วงรู้ได้ว่าเขาคือใคร  แม้แต่ตัวฉันเอง ใจของฉันเอง  สิ่งที่รู้คือ  ฉันรู้สึกไปเอง  หรือฉันอาจสับสนที่คอยหลอกตัวเองมาอย่างยาวนานพอๆ  กับเขาคนนั้นในโลกโซเซียล  ฉันไม่อยากให้เขาปรากฏตัวในโลกจริง ขอให้ฉันได้อบอุ่นใจอยู่อย่างนี้ต่อไป...เมื่อใดฉันหันหลังให้โลกโซเซียลเขาก็จะเลือนหายไปพร้อมๆ ความรู้สึกนั้น   และเมื่อวันนั้นมาถึง...หัวใจของฉันคงพร้อมจะตั้งสัจจะอธิษฐาน กับความหวังสูงสุด  มันจะเป็นคำตอบทั้งหมดของชีวิต  ที่จะเติมเต็มกำลังใจในการตั้งสัจจะบารมีให้เต็ม...  





1310891302.jpg

ฉันควรขอบคุณเขา  ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เขาช่วยให้ฉันสละคนในโลกจริงได้อย่างง่ายดายเพราะในหัวใจฉันรู้สึกเหมือนมีเขาอยู่เหมือนรอคอยเขาอยู่ทั้งที่รู้ว่าเขาไม่มีตัวตน...แม้ว่าการรอของฉันนั้นจะรอทั้งที่ไม่รู้ว่ารอคอยใคร  เหมือนหัวใจรู้ว่าต้องรอ  การรอเขามันทำให้ฉันหนักแน่นในการเติมกำลังใจได้เต็มเพราะแรงกำลังของกิเลิสที่เรียกว่าความอยาก  ที่มาจากความรักมันแผ่วแรงกำลัง  ทำให้ฉันไม่ต้องทำร้ายใครใครที่ผ่านเข้ามาแล้วผ่านไป  และฉันไม่ได้ทำร้ายตัวเอง




ciDsc.gif

แต่ก็ยังมีคนหนึ่งที่เขาพร้อมจะรอและเข้ามาเปลี่ยนแปลงเพื่อจะหาใจดวงอ่อนไหวนั้นให้เจอในโลกจริง  อีกไม่นานวันที่ฉันจะหันหลังให้คนในโลกโซเซียลอาจใกล้เขามาเต็มทีแล้ว  ฉันอาจต้องหันหลังแล้วยอมรับความจริงตรงหน้าและมองหน้าผู้ชายหน้าตี๋คนนี้ให้ชัด   ถ้าเขารักคนอื่น หากคนอื่นคนนั้นคือฉัน  ฉันก็ควรหันหลังให้โลกโซเซียลนี่ซะ  แล้วมาจ้องมองแววตาเขาให้ชัดและลงลึก  เพราะแววตานั้นอาจเชื่อมให้เขาเข้าใกล้ใจที่ฉันซ่อนเอาไว้ก็เป็นได้






มีเธอ....

โลกเดียวดายปลายทางดูว่างเงียบ
ดำเนินเรียบพร้อมก้าวแม้นร้าวไหว
ปลอบปลุกตนแกร่งกล้ามุ่งหน้าไป
ศักดิ์เกรียงไกร...ศรัทธานำพาเดิน...

วันเหนื่อยล้าหวาดหวั่นยากบั่นถึง
มีเพียงหนึ่งเวียนลอบปลอบเผชิญ
"คอยเคียงข้าง"ขับขานอยู่นานเนิ่น
ยามขัดเขิน...อยู่เคียงแต่เพียงเงา...

โปรดยังเป็นเช่นนั้น  *อย่าผันแปร*
เปรียบรักแท้คอยหวงแนบทรวงเหงา
ยามเหน็บหนาว*หนึ่งนั้น*มาบรรเทา
เมื่อใดเศร้า...เคียงอยู่เพียง *ผู้เดียว*

แนบ*ปรอยคำ*ประทับประดับทรวง
เพรงกาลล่วงผ่านวัน*รัก*ขันเกลียว
อยู่เคียงฝัน เคียงเงา  ใช่เปล่าเปลี่ยว
คอยคล้องเกี่ยว...ทุกครายามล้าใจ...

เพราะ*มีเธอ" แบ่งปัน ความฝันสวย
*มีเธอ* ช่วย  ประคอง ครรลองใส
คือความหมาย *มีเธอ* เสมอไป
นานเท่าใด  หัวใจนี้   คือ*มีเธอ*    จบไงอ่ะ


ปอลิงลอ:-  อยากเขียนเกี่ยวกับรักบ้าง  ไรบ้าง
                จะ วาเลนไทน์แล้วน๊าาาา  ขอให้หัวใจเต็มเปี่ยมไปด้วยรัก  ทั้งจากคนอื่นและตัวเองมอบให้กันและกันนะคะ 				
5 มกราคม 2555 10:59 น.

"น อ ย ด์"

แมงกุ๊ดจี่

%5BWallcoo_com%5D_Haruhiko%20Mikimoto_in



ปล่อยสายตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง  เห็นแต่ลมพัดพลิ้ว ยอดดอกหญ้าไหวลู่ลิ้วตามแรงลม  ฉันพยายามดึงตัวเองกลับมาไม่อยากให้ตัวเองเหม่อแบบไร้จุดหมาย

"คนแบบฉันหัวใจไม่เคยหนักแน่นเอาซะเลย  อ่อนไหวเกิ๊น"  ฉันบ่นกับตัวเอง 
แม้ว่าจะดูเหมือนอ่อนไหวในบางช่วง แต่ฉันก็เข้มแข็งชอบอยู่คนเดียว  แต่ขี้เหงา  (ทำไมเป็นแบบนี้นะ ">;< )


ฉันกลับมาสนใจโทรศัพท์ที่อยู่ในมือแล้วเลื่อนดูเบอร์ใน Contact list ที่มีอยู่ประมาณ 100  หมายเลข ความรู้สึกตอนนี้อยากโทรหาใครสักคน  ใครก็ได้  แต่ไล่ดูแล้วไม่รู้จะโทรหาใคร  โทรไปทำไม?  เฮ้อ..!!!!

"เฮ้อ...ไม่รู้จะโทรหาใคร" ฉันบ่นพรึมพรำกับตัวเอง

"เริ่มต้นวันแห่งความช้ำ หายใจก็เริ่มลำบาก..
เหมือนหัวใจเธอวันนี้ อยู่ห่างออกไปแสนไกล.."

ลมหนาวพัดพลิ้วปลิวผ่านจากระเบียง ฉันปล่อยความรู้สึกล่องไป
ฉันได้ยินเสียงเพลงเปิดคลอล่องมาตามสายลมหนาวเบาเบา 
เสียงเพลงที่แว่วมาทำให้ฉันเปลี่ยนความสนใจหันไปที่วอลลุ่มลำโพง
แล้วหมุนมันเพิ่มระดับของเสียงเพลงให้ดังกระหึ่ม!!!!!!  


%5BWallcoo_com%5D_Haruhiko%20Mikimoto_in

"เริ่มต้นวันแห่งความเหงา จุดจบคงรอไม่ไกล... 
เหลือเวลาอยู่อีกไม่นานแล้วใช่ไหม
เหลือเวลาอยู่เคียงข้างกันสั้นลงทุกที
เฝ้าดูความรักเริ่มจางหาย สุดมือจะคว้าคืนมาอย่างเดิม
ไม่เห็นจะมีทางไหนจะได้หวัง... เหลือเพียงไม่นาน.. "  




"ฉันนอยด์อะไรหนักหนา ทำไมอ่อนไหวแบบนี้  
ความรู้สึกตอนนี้ตรูอกหักหรอ  ไม่นี่.....
เขาโน้นอกหักไม่ใช่ตรู  จะซึมเศร้าไปทำไม?"  

ฉันบ่นพร้อมกับเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง 



"แค่เพียงได้รู้ ว่าคิดถึงกัน 
แค่เพียงเท่านั้น ที่ฉันต้องการ 
แค่เพียงได้รู้ ว่าคืนและวันที่ฉันนั้นต้องพ้นผ่าน 
ยังมีหนึ่งคนที่รอฉันอยู่ "


เสียงโทรศัพท์ดังแว่วปนกับเสียงเพลงฉันมองโทรศัพท์ที่ถืออยู่ในมือ
หน้าจอแสดงภาพถ่ายของหนุ่มหน้าตี๋ พร้อมชื่อและหมายเลขของคนโทรเข้ามา "พี่อรรจน์"  ฉันมองผ่านเลยไปสู่ลานกว้างของทุ่งหญ้าที่ลมหนาวโลมปลิวพลิ้วสะบัด มันคงทำให้ฉันรู้สึกโปร่งโล่งสบายกว่าการที่มองรูปหนุ่มหน้าตี๋ที่โชว์ในหน้าจอโทรศัพท์ ที่ทำให้ฉันมีแต่ความอึดอัดคับข้องเกินจะบรรยายได้ ฉันปล่อยให้โทรศัพท์ดังและสั่นอยู่ในมืออย่างนั้นหลายรอบ  แล้วก็เงียบไปในที่สุด


ฉันไม่มีเหตุผลที่จะรับสายเขาอีก "เราคบกันโดยที่เรารู้ว่ามีวันยุติ" นี่คือสิ่งที่เขาบอก  การยุติมันคงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคนเห็นแก่ตัวอย่างฉัน  เพราะในเมื่ออีกใจมีเงื่อนไข เพื่อทำร้ายหรือเอาเปรียบอีกใจก็ไม่มีเหตุผลอะไร ที่จะต้องดำเนินต่อไปเพื่อทำร้ายจิตใจกันและกัน   ฉันปล่อยให้เวลามันดำเนินมานานมากเกินไปแล้วหนทางที่ควรทำคือ "ยุติ"  ทุกครั้งที่มีการ "ยุติ"  เกิดขึ้นฉันมักเศร้า หดหู่  ที่มัวไปคิดแต่เรื่องของคนอื่น   บางคนบอกกับฉันว่า "ความรักไม่มีผิดไม่มีถูก" "ไม่มีได้เปรียบเสียเปรียบ" "ความรักเหมือนผลประโยชน์ต่างตอบแทน" "หากอยากได้รักจงรักเขาตอบ"  ฯลฯ  และอีกมากมาย


สำหรับฉันความสัมพันธ์ไม่ใช่ความรัก  จุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ระหว่างกันถ้าใช่ก็คบต่อไปแบบรู้ว่าต้องมีวันยุติ แต่ถ้าไม่ใช่ก็ทางใครทางมัน ฉันเคยอ่านเจอในบทความของใครคนหนึ่ง  เขาบอกว่า "ความดึงดูดระหว่างชาย-หญิงมีวันหมดอายุ" ซึ่งเป็นผลที่มาจากกามคุณ "รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส" ตลอดระยะเวลาที่ผ่านฉันรู้สึกเฉย ไม่อยากครอบครอง  ไม่อยากเจอ ไม่อยากได้ยินเสียง ไม่อยากใกล้  ทุกครั้งที่มองใบหน้าขาวแบบคนจีนก็ทำให้นิ่งในรู้สึก ฉันไม่น่าไปดูดวงมาเล้ยยยยให้.......ตายเถอะ  ไม่งั้นคงไม่เกิดจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่เฉยๆ  แบบนี้ 


เขาบอกกับฉันว่า "พี่ก็เคยคบคนอื่นนะ  แต่ที่ผ่านมาทุกคนไม่เหมือนหนู"  ฉันควรขอบคุณเขาหรือเปล่านะที่ได้ยินแบบนี้  ฉันพบเขาแบบไม่ทันตั้งตัวอยู่ในช่วงจังหวะที่หมอดูทักไว้  จึงลองปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินมานานเกินไปแล้ว  ความรักควรจะก่อตัวขึ้นกลางใจแต่กลับกลายเป็นถูกกรีดซ้ำแผลเป็นที่เคยมีทำให้ต้องกั้นระยะห่างไว้  ฉันบอกเคยเขาว่า "น้องจะโทร.หาเมื่อคิดถึง แต่ถ้าพี่อรรจน์คิดถึงน้องก็โทร.ได้ตลอดเวลา"  แต่ที่ผ่านมาฉันไม่เคยโทรหาเขาเลย แต่เขาก็ยังโทร.มาสม่ำเสมอในช่วงแรก  แต่หลังๆ  คงเบื่อที่จะคุยอยู่คนเดียว  เบื่อที่จะหาเรื่องมาเล่าให้ฉันหัวเราะ  ตลกฝืดๆ  ของเขา มันคือความไม่สมดุลสินะจนเขาค่อนขอดมา "ถ้าเกิดพี่ตาย เพราะอุบัติเหตุ หรืออะไรก็แล้วแต่คงไม่ได้มาเผากันหรอกมั่ง" เป็นผู้ชายมาดขรึมแต่เวลาเหน็บก็เจ็บเลือดไหลซิบคือผู้ชายคนนี้



คงเป็นเพราะฉันรักตัวเอง  คิดถึงแต่ตัวเอง มันกลายเป็นความกลัว กลัวว่าเมื่อมีใครที่เดินเข้ามาแล้วเขาจะมาเอาเวลาที่มีไป 
ฉันยังอยาก "ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ"  
"นอนอ่านหนังสือทั้งวันแบบไม่ต้องลุกไปไหน"  
"เพ้อฝันคิดพล็อตเรื่องสั้น-นิยาย ได้แบบหวานๆ"  
"อยากไปไหนตอนไหนก็ไม่ต้องกังวล"
และที่สำคัญฉันอยากตั้งจิตอธิษฐานสัจจะไว้กับบางอย่างซึ่งกำลังใจต้องเต็ม... 
แต่ตอนนี้ฉันรู้ว่ายังไม่ถึงเวลาเมื่อช่วงจังหวะมาถึงฉันจะตั้งสัจจะนั้น


1159669911.jpg


ถ้าหากว่า...
มันอึดอัดก็ควรหยุดมันซะ  อย่าให้มันอึดอัด  อย่าให้มันต้องเหนื่อยล้าต่อไป
ระยะเวลาที่ผ่านมาแม้ว่าคบกันแบบเฉยๆ  ฉันอยู่ได้คนเดียว  ทำอะไรคนเดียว  ฉันเข้มแข็งมากเกินไปที่จะมีใครมาดูแล พี่อรรจน์คนไม่มีเวลาเคยบอกว่า "ดีแล้วที่หนูเข้มแข็งดูแลตัวเองได้ พี่จะได้ไม่ห่วง"  ความเป็นจริงฉันอยากได้อิสระสำหรับทำทุกเรื่องต่างหาก  ไม่ต้องมาดูแลห่วงใยใส่ใจฉันเพราะมันจะทำให้ฉันอึดอัด แต่ทุกครั้งที่เขาทวงถามความห่วงใยจากฉัน  ฉันมักบอกได้ไม่เต็มปาก "ห่วงสิคะ"    เพราะเขามีคนคอยห่วงใยมากมาย  แต่ฉันกลับไม่มีใครเลยในวันที่อ่อนแอ  (ความจริงก็มีนะถ้าคนเหล่านั้นรู้  แต่ใครละอยากให้คนรอบข้างไม่สบายใจ)


จนฉันถูกตั้งคำถามจากผู้ใหญ่
"การที่เขาโทร.หาก็แสดงว่าห่วงใย  แล้วทำไม? เราไม่โทร.หาเขาบ้างล่ะ"

จริงหรอ?  "ห่วงใย"  แต่ฉันคิดมุมกลับว่าเขาเองก็แค่ "เหงา" อยากคุยกับใครสักคน เพราะทุกครั้งที่โทร.มาเขาเหมือนห่วงใยก็จริงแต่แฝงไว้ด้วยผลประโยชน์ ต้องมีสักอย่างสิหน่าในแต่ละครั้ง


ฉันตั้งใจจะให้ของขวัญตัวเองอีกครั้งในปีนี้
ด้วยการเอาอิสระที่มีทั้งหมดคืน  (ซึ่งความเป็นจริงไม่เคยมีใครแย่งมันไปจากฉันได้โฮ๊ะ โฮ๊ะ....)  
ฉันจะขอ "ยุติ"  และให้อิสระแก่เขา ให้ความสัมพันธ์ที่เหลือเป็นเพียงคนรู้จัก  ไม่ต้องไปทานข้าวตามเวลานัด  ไม่ต้องโทร.หาตามหน้าที่
เขาไม่ต้องฝืนทำหน้าตาตี่  ยิ้มร่าว่าห่วงใย  เขาเป็นผู้ชายที่ผู้หญิงหลายคนอยากครองไม่ใช่พูดเว่อร์เกินไป  เชื่อเถอะว่าจริง ด้วย option ที่เขามี  รูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ  รับประกันด้วยภาพลักษณ์ที่โก้หรู   ขับเบนซ์กินลม ชมหูฉลาม   555 ???  ทัวร์ทานอาหารจีน  555 ไม่เว่อร์เชื่อเถอะ!!!!!!




missyou.jpg

แต่สำหรับฉันนั้นไม่ใช่เป้าหมายสูงสุด  และไม่ใช่คำตอบทั้งหมดในชีวิตเพราะทุกคนมีเป้าหมายแตกต่างกันไปกาไม่ควรอยู่เคียงคู่หงส์  เป็นกาดงควรอยู่ในป่าพนาสัณฑ์ วิเวกอย่างอิสระ เรียบง่าย  สงบสุข 

  




นอยมาจากคำว่า Paranoia ( แพ - ระ - นอย - อะ ) เป็นโรคหรือภาระทางจิตชนิดหนึ่ง 
คือ ผู้ป่วยจะมีอาการหวาดระแวงหลงผิดว่าคนอื่นจะมาทำร้ายเขา 
บางคนไม่กล้าไปไหนเพราะเชื่อว่ามีคนมาล่าเขาทั้ง ๆ ที่ไม่เป็นความจริง 
ผู้ที่รู้สึกอย่างนี้เรียกว่า paranoid ( เช่น He is paranoid, I am paranoid เป็นต้น ) 
แต่คำนี้กลายเป็นสำนวนแล้ว จะใช้อธิบายเมื่อใคร ๆ คิดมาก กังวลมากเกินไป กลัวคนหรือสถานการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้น

				
Calendar
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟแมงกุ๊ดจี่
Lovings  แมงกุ๊ดจี่ เลิฟ 2 คน
Calendar
Lovings  แมงกุ๊ดจี่ เลิฟ 2 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแมงกุ๊ดจี่