4 กรกฎาคม 2546 21:13 น.

พ้นพันธนา!

พุด


 
พ้นพันธนา.
หัวใจของฉัน ผู้หญิงคนนี้ 
ที่คิดว่าน้อมรับธรรมชาติมาแต่อ้อนแต่ออก 
บอกใครถ้วนถี่ก็มิได้หมดใจ 
นอกจากพยายามรจนาออกมาได้บ้าง 
เป็นบางส่วนเสี้ยวของชีวิต...  

ตอนเป็นอาจารย์ มักจะยกตัวอย่างธรรมชาติงาม
มาน้อมนำใจให้ลูกศิษย์ สาวชาวกรุง 
ผู้มิเคยได้สัมผัสของจริงได้รู้ว่า ฟ้างาม นั้นน่าตะลึงหลงเพียงใด 

มันเปลี่ยนสีไปราวเวทีธรรมชาติ 
ที่เล่นแสงสี แสงสวยโดยไร้มือผู้ใดบังคับควบคุม 
ทุกสิ่งที่ฉันได้ซึมซับ กลับรื่นรินไหลให้กับดวงใจอ่อนเยาว์ 
ให้อ่อนโยนที่ละนิดทีละน้อย อ้อยสร้อย รวมเป็นกอบกำ 
จนยึดครองสี่ห้องหัวใจของฉันไปหมดสิ้น...

จนถึงวันนี้ นาทีนี้..  
ฉันเคยมียามเช้าที่แสนดี มียามเย็นที่แสนงาม 
มีพระจันทร์ให้ฝันในยามค่ำ 
มีพระอาทิตย์เริงระบำ ตั้งแต่เช้าจนตกเย็น
เป็นราวเพื่อนใจในทุกโมงยาม 

มีหาดทรายกว้าง มีน้ำทะเลสวย 
มีดวงดาวสุกใส สว่างระยิบระยับ 
ใกล้จนแทบเอื้อมมือคว้าไขว่ได้ นับดาวแทบไม่ทัน 

เป็นคืนฝันวันงดงามแจ่มกระจ่างใจ 
จนเขียนออกมามิได้หมดสิ้น..  

เมื่อย่างสู่วัยสาว วัยร้าวไหว กับคนและความรักเพรียกหา 
สองตาจะมืดบอดสนิท ลืมคิดลืมมอง ธรรมชาติ 
เฝ้าโศกตรม รำพึงรำพันฝันหาบ้าๆบอๆ กับพิษรัก 
ที่หลงลมคว้าไขว่ ให้ใจมีพันธนา 
แทบเป็นบ้าเป็นหลังไม่เป็นอันกินอันนอน..

และในยามนั้น ใช่จะมีไทยโพเอมให้ฝากฝันฝากรักระทม 
ถ่ายเท ใจอย่างในยามนี้เสียที่ไหนกัน 
ที่มากมีคนหัวอกเดียวกัน มากมายมากมีมาปลอบประโลมใจ..  

วิธีหนีทุกข์ ยามอกหัก ยามนั้นคือ...
ได้พักใจนั่งรถไฟซมซานกลับบ้าน 
เสียงรถไฟชึ่กชั่ก ๆๆ กับเส้นทาง สายงามทอดยาว 
จะช่วยลดร้าวระบมใจลง และค่อยๆลืมหมองหม่น
ไปจนตลอดทาง..ยาวไกล......... 

 เคยนั่งอ้างว้าง บนเรือโดยสารยามเย็นกลางทะล 
และยามอาทิตย์ใกล้จะลาลับฟ้า
เป็นภาพ ที่สวยจนพรรณาไม่ออกบอกไม่ถูกเอาเลยที่เดียว 
ได้แต่นิ่งงันฝันคว้างลอยเลื่อนราวมีวิมานตรงหน้า 

และทุกคราครั้งเมื่อถึงบ้าน..ฉันจะกระโจนลงทะล 
ให้หายว้าเหว่ เปล่าเปลี่ยวใจ   ไปลอยคอกลางทะเล
มีพระอาทิตย์เป็นเพื่อน มีดาวเดือนเห่กล่อม..
บางทีดำลงไปนิ่งนานให้น้ำเค็มขมของทะเลสอนใจ 
ยามที่รักแบบโงหัวไม่ขึ้น

 เพื่อรอคำถามว่าจะเลือกโผล่ขึ้นมาหาหวานมันส์ให้กับชีวิต
หรือว่าจะโง่งมงายให้ขมปี๋กัดกินใจและร่าง.....ต่อไป.... 
 และบางทียามที่ไม่มีน้ำทะเลช่วยเห่กล่อม 
จะมีแต่น้ำตาเป็นสายเดียวกับน้ำจากฝักบัวพรูพร่าง 
ยามตรอมตรม..ฉันจะพุ่งดิ่งตรงไปใต้ฝักบัวปล่อย
ให้สายน้ำพรูพร่างหยาดรด.. เปียกโชกแล้วนั่งค้างนิ่ง 
รอให้สายน้ำใสรุนแรงละลายหยาดน้ำตาไปกับสายน้ำราว.. 
ประโลมร่างไร้ใจให้คืนกลับ......ด้วยใสเย็น..  

เคยร้องไห้ กลางสายฝนเดียวดาย 
กับยามไกลบ้าน เคยข้ามเคเบิลคาร์
พาร่างบอบช้ำและใจมืดหม่น เดียวดาย 
ไปนั่งดูไฟพริบพราวจากเรือในโค้งอ่าวสิงคโปร์ที่เกาะเซนโตซ่า.....  

เคยและเคยมาทุกรูปแบบ 
ที่ระบมกับพิษรักที่หนักยิ่งกว่าพิษไข้เสียเป็นไหนๆ.. 

แต่มาวันนี้..ใจดวงนี้ ถึงที่สุดแล้ว 
แม้จะมีน้ำตา แต่คงแค่ไหลออกมาระบาย
ใช่จะยอมรับไม่ได้ กับความผันแปรมิแน่มินอน
ของเกมรักซ่อนเงื่อน..ซ่อนใจ..

 รู้ระกำ รู้ทำใจ ปล่อยวาง รู้ว่าง รู้ปลดปล่อยจิตให้อิสระ 
ไร้พันธนาด้วยโซ่ตรวนแห่งกรรม 
ไม่ว่าจากใคร จากใจต่อใจ จากเขา จากเราเอง.. 
ไม่มีอะไรแน่นอน..เท่ากับความว่างความพอดี 
ความรู้ทัน....รู้เท่าทุกสิ่ง..ที่เป็นธรรมดาๆโลก 
ที่มนุษย์มากมีต้องเวียนว่าย หนีไม่พ้นเพรงกรรม
ที่เคยร่วมสร้างกันมาแต่ภพก่อน ปางก่อน.. 

 เวลาผ่านไป ไม่ช้านาน ทุกร่างรัก 
ที่แย่งชิง ริษยา เสน่หา มืดบอด หวงแหน
ก็จำต้อง โรยรา ร่วงหล่น ปนเปื้อน คืนกลับสู่ผืนดิน..ทุกตัวตน...
ยามสนธยาแห่งชีวิตมาเยือน.. 

				
4 กรกฎาคม 2546 20:37 น.

สายฝนสายฟ้าฟาดสวาทวาย!

พุด


เดินจากไปกับสายฝนสายฟ้าฟาดสวาทวาย!

แสงเทียน สายฝน สายฝัน
ระริกหวั่น วะวับแวม แซมไม้หอม
หอมกุหลาบ มะลิซ้อน พราวพะยอม
ก้มดมดอมระรินรื่นชื่นฉ่ำใจ....

เดินออกไปเงยหน้าท้าหยาดฝน
เปียกปอนจนหนาวร่างระริกไหว
พอกับใจดวงร้าวดวงเศร้าเหน็บหนาวใจ
ให้สาใจสาเจ็บเก็บมานาน..

คิดถึงยามเป็นเด็ก ตัวน้อยน้อย
เราเฝ้าคอยเล่นน้ำฝนสนุกสนาน
วันเวลาของชีวีที่สราญ
ค่อยผันผ่านถึงวันนี้มีแต่ตรม..

มองสายฝนเปลี่ยนไปเป็นสายเศร้า
ใจรานร้าวร่ำไห้กลางสายฝน
ปล่อยหยาดน้ำตาปนเปื้อนกับลมบน
น้ำตาฝน น้ำตาฟ้า น้ำตาใจ..

ล้างหัวใจด้วยเสียใจตอกย้ำย้ำ
ให้จำจำเจ็บเจ็บเกินทนไหว
ย้ำคำลาด้วยคำว่าเสียใจและเสียใจ
เดินจากไปกับสายฝนสายฟ้าฟาดสวาทวาย!

				
4 กรกฎาคม 2546 20:29 น.

ดวงจันทร์ในทะเล!

พุด



ดวงจันทร์ในทะเล 
คิดถึงเธอเหลือเกิน... 
ในคืนฝันวันพระจันทร์เต็มดวงอย่างนี้.... 
กับยามที่แลไปเห็นแสงจันทร์สกาวสาดส่องแสง
เป็นสายสวยสีทองทาบทา กระทบผืนน้ำทะล 
งามระยับระยิบบนผืนผ้ากำมะหยี่สีเงิน.. 

คืนที่ฟ้า..แตะแต้มแกมเพชร พรายพร่างด้วยดวงดาริกา 
พริบพราวนับร้อยพัน  
ดวงจันทรา..ในทะเล.. ฝัน..... 
ที่งามน่าหลงใหล ในคลองตา ในอ้อมใจละมุน.. 
แต่เหตุใดหนอ..ฉันจึงจับต้องไม่ได้ เล่าดวงใจ...  

ฉันค่อยๆไต่ตาม เลาะลงมาจากกระท่อมบนเชิงผา 
ในราตรีนี้ ที่ตั้งอยู่บนโขดหินสูงชัน 
ที่ดวงใจฉันฝ่าพายุจริง พายุร้าย พายุรักมาพักอยู่ลำพัง..
เพื่อหาทางออกให้หัวใจ..ที่ร้าวระบม หลายแรมคืน..แล้ว.. 

 หัวใจชา..เสียจนไร้ความกลัว ไร้หวั่นไหว หวาดเสียว 
ว่าจะลอยละลิ่วลงสู่ผืนน้ำเบื้องล่าง อย่างอ้างว้าง ดายเดียว 
สังเวยรัก..นี้ที่หนีไม่พ้น...เสียที.. 

ฉัน..ขอแค่ไต่ตาม ลงไปหาฝัน 
บนหาดทรายขาวยาวเหยียดผืนนวลที่โอบโค้งทะเล อย่างรักใคร่.. 
โลมไล้ด้วยฟองคลื่นละมุน นิ่มนวล อ่อนหวาน อ่อนโยน..ยิ่งนักแล้ว 
ราวเห่กล่อมด้วยทิพยดนตรี  

ฉันหยุดยืน..มองตรงไปยังเกลียวคลื่นสีทอง
 เลื่อมวะวับวาวยามกระทบแสงจันทร์นวลละอองผ่องเพ็ญ 
ราตรีมีมนต์ขลัง เห่กล่อมให้ฉันตกอยู่ในภวังค์ฝัน..  

นั่นไง..ดวงจันทร์ ในทะเล.. 
เงาจันทร์ ในทะเล กับเงาใจดวงนี้ที่ดั่งถูกสวรรค์แกล้งลวง..
ให้พบและได้รักเธอ..ให้ละเมอครวญคร่ำ. ร่ำหา..มายาวนาน.....  

ฉันลุยน้ำทะเล..ลงไป หวังคว้าไขว่สัมผัส ดวงจันทร์งามตา 
ที่ดูราวกับว่าใกล้แสนใกล้ ใกล้แค่เอื้อม 
แต่ไย!..ถึงเอื้อมไม่ถึง..เล่า!

น้ำทะเลขมปร่า ปะทะร่าง ปะทะหน้า 
ให้หนาวรานร้าวราวร่างแยก ไปถึงหัวใจที่กำลังแหลกยับเป็นธุลี  
ดวงใจในฝัน ดั่ง ดวงจันทร์ในทะเล.. 
โอ้ละเห่ ทะเล..เหว่ว้าเอย..ใช่เรื่องจริง.. 

ตื่นเสียทีสิ...มากับพบโลกจริง.
ที่น้ำทะเลที่เค็มขมกำลังเตือนใจ..
ให้ไหวร่างเดินขึ้นฝั่ง หันหลังกลับ 
พร้อมกับพริบพราวราวหยาดน้ำตาจากดาว 
และราวหยาดน้ำตาจากใจและจันทร์ กับฝันค้าง...
กับดวงดาราบนฟ้ากว้าง....ที่ไยร่ำไห้ด้วยเศร้าหม่น 
และกับลมละเมอที่หยุดนิ่งงันสะเทือน.......
				
4 กรกฎาคม 2546 09:37 น.

อ้อนใจ!

พุด


ขอเขียนกลอนอ้อนใจใครคนหนึ่ง
คนฝากซึ้งตรึงใจในวสันต์
คำคิดถึงซึ้งรุนแรงแข่งแสงจันทร์
นำทางฝันส่องสว่างกลางนวลใจ..

มองแมกไม้กับเงาจันทร์ขวัญฝากพ้อ
และอ้อนขออย่าแรมไกลใจหวั่นไหว
ในโลกฝันฉันมีเธอเพ้อเพ้อไป
เป็นเงาใจรจนาฝันวันแสนดี..

สายวสันต์พาฝันเก้อเพ้อกลอนหวาน
แม้นร้าวรานหวานดวงใจใครคนนี้
ฝากคิดถึงซึ้งเศร้าถึงคนดี
ในฤดูมีฤดีมีรักรอ..

เด็ดดอกไม้หอมหอมกล่อมหลับฝัน
ขอฝากจันทร์ฝากใจใครละหนอ
วางเคียงหมอนราวนอนใกล้หอมละออ
สวดมนต์ขอรอชาติหน้ามาคู่เคียง! 
				
25 มิถุนายน 2546 00:06 น.

วสันต์สอน!

พุด


ฟ้ายามเช้า..แจ่มสวย..
หลังฝนพรำพรำทั้งคืนเมื่อคืนนี้
เพื่อนสีเขียวของไพลรายรอบบ้าน
ระบัดใบเริงร่ารับหยาดฝน
ใบเขียวจึงดูสล้าง สดชื่น สวยใสกว่าทุกวัน..

ไพลมองผ่านกระจกใสแจ๋ว
ที่ถูกสายฝนชะล้างเมื่อคืนนี้
แล้วยิ้มออกมาอย่างยินดี..
ที่เห็นดวงดอกไม้นานาพันธุ์ของไพลนั้น
กำลังบานชูช่อ ล้อสายลมสะอาดหอม 
กับสายลมยามเช้าที่พัดไหวระริน..

กุหลาบดอกตูมตั้งเผยอแย้มหวานบานอีกคราแล้ว
หางนกยูงฝรั่งก็ออกดอกแดงพรืดเต็มต้น
ไหนจะพุดเวียตนามที่บานพราวจนเก็บไม่หวาดไม่ไหว

ไพล..ดีใจที่วันนี้ไพลมีดวงดอกไม้หลากสี
ประดับโต๊ะเขียนหนังสือ ให้หอมจรุงไปทั้งวัน
จนถึงยามค่ำถึงดึกดื่น..
ที่ที่ไพลจะนั่งอ่านหนังสือหรือเขียนหนังสืออยู่ตรงนี้
ที่เป็นมุมสงบสุข แสนดี อย่างเหลือเกิน..

แต่พอยามเย็นมาเยือน..
พลันฟ้าที่แจ่มสวยนั้นก็พลันหม่นมัวราวใจคน
ที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เดี๋ยวร้องไห้เดี๋ยวหัวเราะสลับกันสุขทุกข์
เป็นสัจจธรรมเฉกเช่นเดียวกันกับธรรมชาติงาม
ที่หมุนวนหมุนเวียนเปลี่ยนผันมาเยือนมาสอนใจ...

ฟ้าสวยกลับเศร้าเทาทึมราวร้าวรานจนอยากร้องไห้
ยามแหงนเงยมอง..ไปรายรอบทุกทิศทาง..
ลมพายุพัดแรง น่ากลัว
จำปี ที่เชยชิดถึงชายคา สลัดใบร่วงกราวปลิวว่อนไปตาม
กระแสลมแรงที่พัดกระโชกกระชั้น..
ร่มสีเหลืองคันใหญ่ ที่กางไว้ใต้ต้นก็พลันราวจะปลิวไปตามแรงลม..

ไพล..ใส่เสื้อฝนสีฟ้า รีบพาร่างออกไปนอกชายคา
ไปดูแลอ่างปลา..และ
เร่งมือกวาดใบจำปี มิให้พัดไปไกล กลัวว่าจะไปอุดท่อระบายน้ำ
นี่คือความรับผิดชอบของคนรักต้นไม้ ที่ต้องขยันหมั่นเก็บกวาด
มิใช่แค่..ปลูกหวังเชยชมเพียงอย่างเดียว..
แต่ต้องเอาใจใส่ดูแลต่อส่วนรวมมิให้ไปตกตามถนนและหน้าบ้านใคร..

กล้วยกออวบงาม ที่สูงใหญ่แทงใบโชว์ความเขียวอ่อนสวยใส
แทบถึงชั้นสองริมหน้าต่างห้องนอน..
บัดนี้ออกเครือมากมีหวีงามห้อยต่องแต่ง 
หวาดเสียวว่าจะหักราญลงมา จนต้องไปหาเชือกมาผูกไว้

ในท่ามกลาง สายฝนกระหน่ำหนัก ที่พรมพร่างฝอยฝน
ราวธรรมชาติประทานฝันให้หัวใจไพลพลันสะอ้าน...
หวานไปกับฝนแรกแทรกบทเรียนสอนใจนี้ที่เวียนวน
ให้ผู้คนบนผืนโลกยอมรับโศกสุขราวฤดูกาลที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป..
ตราบใดที่หัวใจยังไม่ว่าง..วาง
เพื่อหนีห่างหนี้กรรม..หนี้รักนี้  ที่คู่โลก คู่คน  วนย้อนรอยมิรู้จบ.....
.........
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด