31 ตุลาคม 2550 00:03 น.

เพียงธรรม..เพียงเธอ..!

พุด

3-1064-Lindayellow.jpg3-1064-Lindaveil2.jpg
ทัดจำปีเคลียแก้มยิ้มแกมเศร้า
ผ่านเรื่องราวเศร้าสร้อยสุดโศกศัลย์
วันมงคลยิ่งใหญ่เหนือดวงชีวัน
ฟ้ารินร่ำหยาดน้ำตามาสังเวย

เงียบงันในดวงใจเกินใครจักหยั่งรู้
เทพเฝ้าดูพร้อมน้ำค้างคำกระซิบเอ่ย
อย่าเสียใจจนเสียขวัญปล่อยวันเลย
ฝึกให้เคยโลกนี้ไม่จีรัง

ทุกสิ่งตั้งอยู่แล้วดับไป
หมุนวนใหม่ให้มวลมนุษย์มิสิ้นหวัง
ดั่งดวงสุริยาฟ้าสว่างให้พลัง
ลืมเรื่องราวหนหลังยากย้อนคืน

จึ่งเงียบงันในท่ามมายาโศก
ธรรมดาโลกพุทธะสอนให้ตื่น
ดั่งบัวบานเหนือน้ำจิตงามชื่น
ทุกวันคืนการพลัดพรากฝากสอนสัจจธรรม...!

.....................


				
29 ตุลาคม 2550 10:18 น.

เจ้าเกิดมาทำไมในโลกนี้..เพียงเสพสุขสุนทรีย์ฤาไฉน..!

พุด

es54.jpges72.jpg
เจ้าเกิดมาทำไมในโลกนี้
เพียงเสพสุขสุนทรีย์ฤาไฉน
ฤาทำดีพลีแด่โลกก่อนสายไป
ยังประโยชน์ยิ่งใหญ่แด่แผ่นดิน

ลมหายใจแสนสั้นวันแสนโศก
วันลาโลกให้ใครใครอาลัยถวิล
ฟ้าร่ำไห้เดือนดับน้ำตาริน
ทั้งธรณินท์ทุกสรรพสิ่งนิ่งเงียบงัน

เกิดแก่เจ็บตายว่ายวนวัฏฏวิบาก
ความพรากจากรอเรานะยอดขวัญ
เพียรสะสมบุญบารมีมีสติกับปัจจุบัน
ก่อนสิ้นแสงตะวันในดวงใจ

และนี่คือคำตอบชอบด้วยเหตุ
หนีเทวษทุกข์ทนหมุนวนใหม่
รักษาศีล สมาธิ ปัญญาภาวนาทุกวันไป
นานแค่ไหนอย่าท้อรอถึงฝั่งพระนิพพาน..


es83.jpges92.jpg				
28 ตุลาคม 2550 10:04 น.

พุทธ..ปัญญา...!

พุด

tripa168.jpg
ใจผ่องแผ้วรับกุศลจิต
ปล่อยวางชีวิตสับสน
ไม่ยึดมั่นถือมั่นตัวตน
งามกมลก่อเกื้อด้วยแรงบุญ

พุทธธรรมนำทาง
มิอ้างว้างให้เรือบุญนำหนุน
พายเพียรสู่ฝั่งฝันละวายวุ่น
ชื่นละมุนดั่งเพชรพร่างณ..กลางใจ

สุขฤาทุกข์อยู่ที่ใจใช่ไหนอื่น
หากรู้ตื่นรู้เบิกบานจิตไสว
เหมือนบัวทองผ่องพรายงามเหนือใด
มิหวั่นไหวหลงโลกย์โศกมายา

รักใดไหนเล่าเท่ารักธรรม
ระรินร่ำดั่งน้ำค้างดับเหว่ว้า
คือนิรันดร์ภักดิ์คู่กัปป์กาลเวลา
คู่บุญญาพาจิตเราสู่แดน โลกุตตรธรรม...!

.................



006004Byrum_Rose0013.jpgkauai-wedding-flowers.jpgดั่งดวงเนตรในทุกยาม!


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4.html

ใต้ร่มไม้ใบระยิบระยับไหว
ฟังธรรมใจรับแดดทองส่องพรายพร่าง
ใจดวงทองรับยอดธรรมส่องนำทาง
ใสกระจ่างอัญมณีทิพย์นิรมิตใจ..

หลับตานิ่งทิ้งทุกสิ่งไว้ภายนอก
ตาในบอกเปิดจิตงามรับพร่างใส
ดอกบัวบุญแย้มคลี่บานกลางบึงใจ
ยอดพระรัตนตรัยดั่งน้ำค้างลงพร่างริน..

ในนิมิตเราเคียงกันลานดอกจิต
น้อมชีวิตกราบกรานถวายสิ้น
มีเพียงว่างวางทุกข์น้ำตาริน
หวังสุดสิ้นทุกข์ระทมเคยห่มใจ..

แกะเปลือกใจพบจิตใสอย่างช้าช้า
แก่นชีวาคือทำดีมิหวั่นไหว
รู้สละออกเพียรรู้ให้น้ำค้างใจ
หอมดวงใจใสเย็นพร่างสร้างรอยบุญ..

เสียงสวดก้องสะท้อนทาบอาบอุ่นนัก
ฝากใจภักดิ์สองดวงจิตอันหอมกรุ่น
ใบไม้ร่วงพรูพร่างกระจ่างใจรับอรุณ
ดอกพุดไพรใจละมุนรับวันพร..

แล้วดวงจิตกระจ่างก็พร่างวับ
งามธรรมจับนวลเนื้อจิตซึ้งคำสอน
สนิทแนบแอบแสนรักฟ้าอวยพร
ให้เราสองล่วงสู่ฝั่งฝันวันนิพพาน..!




ใบบัวไปวัดมาในยามเช้า
นุ่งผ้าถุงตีนจกผืนสวยลายดวงดอกไม้

รัดผมด้วยดวงดอกเล็บมือนางสามสีสลับ
แดงชมพูนวลพราว
ขับมุ่นมวยผมยาวดำขลับ
ที่พันทบยกรวบไว้เผยให้เห็นต้นคอเรียวระหงงาม


มีเขาคนดีที่แสนรักช่วย
หิ้วตะกร้าเงินถักสานลายสวยละเมียด
ลายแมลงปอเกาะเกสรดอกไม้ฝากหยาดสายเสน่หา
และ
มีอาหารคาวหวานผลไม้พร้อม


ในมือใบบัว
ถือช่อดอกบัวสีขาว
ที่*เขาคนดี*เพิ่งพายเรือลงบึง
เก็บมาให้นำไป
น้อมกราบถวายพระ

และ
ดวงดอกไม้ไทยรายรอบบ้าน
ที่นำมามัดรวมงามแบบบุหงาส่าหรี่
พร้อมมีพวงมาลัยมะลิห้อยอุบะ
ด้วยดวงดอกรักพราวพิสุทธิ์
แทนดอกดวงใจใบบัว..และเขาคนดี
ที่กำลังจูงมือใบบัวอยู่นะนาทีนี้
อย่างทะนุถนอมแสนรัก



สองร่างค่อยๆก้าวไปในเขตขอบขัณฑสีมา
เขาค่อยๆประคองใบบัวให้นั่งลง
ตรงลานหินใต้ร่มปีบใบระยิบระยับ

ที่ดวงดอกแดดสีทองกำลังทอทอดส่องลงมา
จนเกิดประกายพร่างพราย
ราวใบไม้แก้วกำลังควงฟ้อน
อ้อนออดออเซาะสายลมหนาว
ในยามเช้าที่ช่างแสนงามนี้


สองดวงใจน้อมจิตใสประภัสสร
ชวนกันฟังธรรม
และหันมาแย้มยิ้มเย็นฉ่ำ
ยามสายธรรมแทรกผ่านไปรินรด
*ให้บัวบุญดอกงามในลานจิตบึงใจ*
ได้แย้มตระการรับหยาดน้ำค้างจากยอดพระรัตนตรัย


จบฟังธรรม น้อมนำใจถวายสังฆทาน
ก้มศิระกรานกราบพระสงฆ์
และพระประธานขอประทานพร 
เพื่อให้สองดวงใจมีความสุขและเจริญจิตในธรรม 


เขาขับรถพาใบบัว ไปตลาด
ไปซื้อปลา ไปปล่อยในแม่น้ำ

ไปยืนนิ่งนิ่ง
ให้ใบบัวเอนอิงพิงไหล่กว้าง
มองดูสายน้ำสายใจเจ้าพระยา

ที่ระรินไหลเอื่อยๆอย่างช้าๆ
ราวกับว่าคือธารน้ำรัก
ระหว่างกันและกันที่แสนฉ่ำเย็น
และ
ยังประโยชน์ให้แด่ผืนหล้าพสุธาไทยเรานี้ที่ได้หยัดยืนดำรง..



เวลายังมีที่เขาคนดีจะ
ขับรถพาใบบัวไปอยุธยา  
ไปนั่งใต้ต้นลั่นทม เหว่ว้า
ที่เขารู้ดีว่า
*คือต้นไม้แห่งรักระหว่างสองเรา*

ที่มีฉากหลังเป็นโบราณสถานแสนงาม
ที่ย้อนรอยกาลรอยเก่าเงางามแห่งอดีต

กลิ่นลั่นทมหวานเศร้า
ราวย้อนเตือนถึงคืนวันแห่งรัก
ที่สวรรค์และฟ้าดินได้เมตตาส่งเขามาพบกับใบบัว


เขาคนดี
ค่อยๆก้มลง
เลือกเก็บดอกลั่นทมสีชมพูและขาว
ที่ยังสดหวานพราวแตะแต้มเต็มพื้นหญ้ามาสองสามดอก
และ
ยิ้มอย่างเอาอกเอาใจ
หันมาทัดผมให้ใบบัว
อย่างแสนรักแสนทะนุถนอมอ่อนโยน

เป็นกิริยาละมุนละม่อมที่หายากยิ่งนัก
ที่แสนงามนักจากน้ำใจรักภักดี
และมาจากนวลเนื้อใจดวงดี
ดวงที่ได้รับการอบรม
ให้รู้ค่าคำว่าสุภาพบุรุษลูกผู้ชาย
ที่จักพึงให้เกียรติผู้หญิงคนเดียวคนดีที่แสนรัก


เขาโอบตระกองกอดใบบัว
ไว้ด้วยอ้อมแขนแข็งแรง
และค่อยๆไล้ลูบจูบแผ่วผิวไปตามริมเรียวแก้ม
ที่ถ่ายทอดพลังแห่งหวานหอมทั้งสิ้นทั้งมวล

นัยน์ตาสีสนิมเหล็กทอแววหนักแน่นมั่นคงจงรัก
ราวผู้ชายโบราณ
ที่มัก..มีรักภักดิ์พลีวางไว้แทบตัก
มอบให้ผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวในดวงใจนี้
ที่จักเป็นดั่งรักนิรันดร์
เป็นดั่งตำนานให้ตราไว้
ให้จำจดอย่างสุดงดงามล้ำลึก..ในรู้สึกไปตราบชั่วกาล....


แล้ว
ถึงพาไปวัดมเหยงค์ 
ที่มีธรรมชาติสวยสด
ด้วยลานธรรมลานทอง
และ
มีกำแพงแก้วสองชั้นล้อมรอบพระอุโบสถ
ที่มีลวดลายปูนปั้นแสนละเอียดสวยงาม
มีพระเจดีย์ช้างล้อม
ที่ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจตุรัสยาวด้านละ 32 เมตร 
มีช้างเห็นได้ทั้งตัวที่ประดับโดยรอบองค์พระเจดีย์ 
เป็นแบบลังกา 
เหมือนพระเจดีย์ช้างล้อมที่จังหวัด สุโขทัย
และ
ให้ใบบัวนั่งราวเจ้าหญิง
เป็นนางแบบ ค่อยๆคลี่ยิ้มหวานเศร้า
แกมเคล้าซึ้งโศก..สะเทือน
กับงามเงาในอดีตกาล
แล้ว
ให้เขาวาดภาพสเก๊ตต์
ลงไปบนกระดาษที่เตรียมไว้
อย่างละเมียดละมุน


และ
นี่คือโลกธรรม โลกทิพย์ และ
โลกรักที่แสนหวานหอมอบอุ่นกรุ่น
ด้วยดวงดอกแห่งความดี

อย่างที่สองดวงใจนี้ได้หลอมรวมรัก
*เป็นหนึ่งเดียว*
พากันเกี่ยวก้อยสู่แดนดินแห่งฝันอัน
คือรักที่จักเป็นนิรันดร์ไปตราบชั่วกาล....


และ
ราวกับ
บทกวีแสนงาม
ของคุณทมยันตี
จะหวานแว่วแผ่วมากับฟากฟ้ากว้าง
มาปลอบประโลมสองดวงใจอันแสนสงบงามเงียบนี้
ที่ช่างแสนสุขและเอมอิ่มเปรมปรีย์ด้วยภาคภูมิปิติเป็นยิ่งนักแล้ว..


เจ้าร่างน้อยเอย อย่าอาวรณ์เทวษ 
พี่ไม่ละดวงเนตร ยังอยู่กับเจ้าไม่หายไปไหน 
ยามตื่นจะแลหาเจ้า  ยามหลับจะฝันถึงสายใจ 
พี่ไม่ลี้หนีหาย  ห่างไกลหัวใจเจ้าเอย 

..พ่อไม่ลี้หนีหาย  ห่างไกลหัวใจแม่เอย... 





http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4.html
จงรัก   

โปรด อย่าถาม ว่าฉันเป็นใคร
เมื่อในอดีตและโปรด อย่าถาม 
ว่าอดีต ฉันเคย รักใคร
รู้ไว้อย่างเดียว เดี๋ยวนี้รักเธอ
และรักตลอดไป รักมากเพียงไหน 
กำหนดวัดได้ เท่าดวงใจฉัน
อย่า เพียรถาม ว่าฉันจะรัก 
เธอนานเท่าใดฉันตอบไม่ได้ 
ว่าฉันจะรัก ชั่วกาล นิรันดร์
เพราะชี วิตฉัน คงไม่ยืนยาว
ไปถึงปานนั้นรู้แต่เพียงฉัน 
หมดสิ้นรักเธอเมื่อ ฉันหมดลม

อย่า เพียรถาม ว่าฉันจะรัก
เธอนานเท่าใดฉันตอบไม่ได้ 
ว่าฉันจะรัก ชั่วกาล นิรันดร์
เพราะชี วิตฉัน คงไม่ยืนยาว
ไปถึงปานนั้นรู้แต่เพียงฉัน 
หมดสิ้นรักเธอเมื่อ ฉันหมดลม...

 
silk-wedding-flowers.jpgV266542_CROP1.jpg				
27 ตุลาคม 2550 08:30 น.

อมตะนคร..พาราณสี...!

พุด

060510Varanasi8.jpges60.jpges11.jpgttlife8.jpg
ณ..แผ่นดินชมพูทวีป พาราณสี
มากคนดียึดมั่นศาสนา
งดงามอยู่ริมฝั่งคงคา
สายธาราจากแดนสรวงสู่ปวงชน

เทวสถานสะพรั่งสองฟากฝั่ง
ฝากฝังศรัทธาทุกแห่งหน
ชำระบาปพร่ำภาวนาท่องมนต์
เผาร่างคนที่รักล้างมลทิน

ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน
ป่าร่มขวัญยิ่งใหญ่หวนถวิล
บุญสถานพระศาสดาแสดงธรรมหลังฝนริน
ธรรมจักรหมุนมิสิ้นสืบสอนใจ.

พาราณสีที่บุญจาริกภูมิพุทธศาสนา
ข้าวกล้าสุกปลั่งไสว
เป็นแดนธรรมแดนทองเหนือแดนใด
กระจ่างใสสอนวางว่าง..พบทางบุญ...!!!


%B4%CD%A1%BA%D1%C7%208.jpgsocie1.jpg
หลวงวิจิตรวาทการ กล่าวไว้ในหนังสือของดีเมือง อินเดียว่า ใครมาเยือนอินเดีย แล้วไม่ได้แวะ พาราณสี ถือว่ายังมาไม่ถึงอินเดีย!! เพราะเมืองหลวงของแคว้นกาสีในสมัยพุทธกาลแห่งนี้ ยังคงรักษาเอกลักษณ์ ความเป็นอินเดียดั้งเดิมไว้ได้ทุกกระเบียดนิ้ว เรียกว่าถ้าอยากรู้จักโฉมหน้าแท้จริงของแดนภารตะ ต้องมาชม กันที่พาราณสี จะได้อรรถรสครบถ้วน ทั้งด้านความงดงามน่าจดจำ และมุมมืดที่สงวนไว้เป็นความลับสุดยอด!! 


socie2.jpg
พาราณสี ได้รับการขนานนามให้เป็น เมืองศักดิ์สิทธิ์ของอินเดีย หรือ Holy City โด่งดังในเรื่องความเคร่งครัดศาสนา ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของ แม่น้ำคงคา และทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองคยา ท้องถนนในเมืองไม่เคยหลับใหล พลุกพล่านไปด้วยรถรานานา ชนิด แถมยังเบียดเสียดยัดเยียดไปด้วยผู้คนหนาแน่นทุกตารางนิ้ว โดย มีประชากรอาศัยอยู่มากกว่าเมืองไทยถึง 2-3 เท่าตัว แต่เชื่อหรือไม่คะว่า เจ้าถนนตัวจริงกลับเป็นบรรดาสัตว์ ท้องถิ่น ที่เดินเพ่นพ่านเข้าตรอกโน้นออกซอยนี้แบบไม่เกรงกลัวใคร ทั้งโค, กระบือ, แพะ, แกะ โดยเฉพาะ โคหรือวัว จะมีหนาตาเป็นพิเศษ และยังมีอภิสิทธิ์เหนือคนอย่างเหลือเชื่อ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน จึงไม่มีใครกล้าแหยมเข้าไปทำร้าย เพราะชาวอินเดียมีความเชื่อฝังใจว่า วัว เป็นพาหนะของท้าวมหาเทพ ถือเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ถ้าเกิดเหตุรถชน วัว จะมีความผิดร้ายแรง กว่าขับรถชน คน!! 


socie4.jpg
และ...
เพราะเมืองนี้เป็นนครแห่งแสงสว่าง ตามความ เชื่อว่าที่นี่เป็นเมืองแรก ที่แสงสว่างสาดส่องเข้ามา หลังจาก ที่พระเจ้าสร้างโลก แต่ละปีจึงมีชาวอินเดียและผู้นับถือศรัทธาจากทั่วโลก หลั่งไหลเข้ามาหลายล้านคน เพื่อสักการะ แม่น้ำคงคา โปรยเถ้าถ่าน และสวดมนต์ให้ผู้จากไป 

สำหรับ พุทธศาสนิกชนนั้น 
นิยมเดินทางมาเมืองนี้ เพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุ รวมทั้งชมประเพณีเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาตามริมฝั่งแม่น้ำคงคา ไม่ว่าจะเป็น ดูการประกาศพระศาสดา, ดูคนอาบสรงในคงคา, ดูการวันทาดวงอาทิตย์, ดูพิธีการปลงศพ, ดูการเคารพน้ำศักดิ์สิทธิ์, มาปลงสัจจะแห่งชีวิต, มาพินิจสองฝั่ง อย่างเป็นธรรม ตลอดจนสัมผัสประเพณีการอาบน้ำล้างบาป และการเผาศพ อันเลื่องชื่อ 

socie6.jpg
ชาวฮินดูเชื่อกันว่า แม่น้ำคงคา ความยาวกว่า 2,500 กิโลเมตร เป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่ไหลมาจาก สรวงสวรรค์ ใครได้อาบ ได้ดื่มกิน ถือเป็นมงคลแก่ชีวิต และการจุ่มตัวลงแม่น้ำแห่งนี้ สามารถชำระล้างบาปที่ทำมาทั้งชีวิต นอกจากนี้ พวกเขายังศรัทธาเป็นมั่น เหมาะด้วยว่า หากจะตายต้องมาตายที่เมืองนี้ เพื่อจะ ได้ขึ้นสวรรค์!! จึงมี มรณะโฮเต็ล โรงแรมสำหรับผู้ป่วยหนักที่กำลังรอความตาย ตั้งอยู่ใกล้ท่าเผาศพด้วย และศพที่เผาริมฝั่งแม่น้ำคงคา จะไม่เผาให้มอดไหม้เหลือแต่ เถ้าถ่าน แต่จะเผาแค่ให้ร่างไหม้ แล้วนำไปลอยที่กลาง แม่น้ำ เป็นอาหารของนกกาและฝูงปลาก่อนจมสู่ใต้คงคา เพราะเชื่อกันว่า ผู้ที่ถูกเผาในแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ จะหลุดพ้นจากวงโคจรชีวิต ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีก แต่ได้ขึ้นสวรรค์ในทันที ด้วยเหตุนี้ ชาวฮินดูจากทั่วสารทิศ ไม่ว่ารวยหรือจน จึงดิ้นรนมาเหยียบพาราณสีให้ได้สักครั้งในชีวิต!! ถ้าอยากชมการเผาศพตามประเพณีเก่าแก่ของชาวฮินดู ก็ต้องย่องไปดูที่ ท่าน้ำมณิกรรณิการ์ฆาต หนึ่งในท่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่สุด 


socie8.jpg
คนต่างถิ่นอย่างพวกเรา หากได้มีโอกาสไปเยือน พาราณสี แล้วบังเอิญเหลือบไปเห็นศพลอยมาในแม่น้ำคงคา อย่าเพิ่งขวัญหนีดีฝ่อจองตั๋วเครื่องบินกลับบ้านให้เสียฟอร์ม!! เพราะชาวภารตะเชื่อกันว่า มาอินเดียเห็นช้างจะโชคดีเห็นผีจะมีโชคลาภยิ่ง ถ้าเจอทั้งซากศพและนกแร้ง พึงทราบไว้เลยค่ะว่า โชคลาภกำลังเพิ่มพูนทวีใครอยากมีโชค ก็ต้องขยันสอดส่ายสายตาเข้าไว้!! 

socie11.jpg
ทุกคนที่เดินทางเยือนอินเดียหนแรก มักจะอดเป็นห่วงเป็นใยในสวัสดิภาพของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำคงคาไม่ได้ และอาจขนลุกขนพองไปด้วย เมื่อเห็นชาวภารตะทั้งดื่มกินและอาบน้ำจากแม่น้ำคงคาหน้าตาเฉย ทั้งๆที่หากคะเนจากสายตาดูแล้ว ความสาหัส ของมลภาวะคงไม่แพ้คลองแสนแสบบ้านเรา!! ใครอยากชมวิถีชีวิตริมน้ำแท้ๆของชาวเมืองนี้ละก็ ลองนั่งเรือรับจ้างจาก ท่าน้ำทศวเมธ แล่นออกไปกลางแม่น้ำคงคา คุณจะได้เห็นพวกแขกมาอาบน้ำกันคึกคัก ทั้งวักน้ำลูบหน้าลูบตา บ้างก็นั่งสวดมนต์ นั่งสมาธิ และดัดตนตามท่าโยคะต่างๆ ตามท่าน้ำใหญ่ๆยังมีหมอนวดท้องถิ่น คอยให้บริการ คิดค่าจ้างเพียงน้อยนิด แต่ผ่อนคลาย เหมือนขึ้นสวรรค์ปานนั้นเชียว!!  

อย่างไรก็ดี องค์การอนามัยโลกเคยนำตัวอย่างน้ำในแม่น้ำคงคาไปตรวจวิเคราะห์ เพราะเป็นห่วงเป็นใยในสุขอนามัยของชาวอินเดีย แต่ผลลัพธ์ปรากฏว่า จำนวนแบคทีเรียในแม่น้ำคงคาอยู่ในระดับที่ไม่เป็น อันตรายต่อสุขภาพของคน เนื่องจากในแม่น้ำคงคามีกำมะถัน ซึ่งช่วยปรับสมดุลได้ตามธรรมชาตินี่ละความมหัศจรรย์ของเมืองศักดิ์สิทธิ์แห่งอินเดีย ซึ่งยืนหยัดอยู่คู่แดนภารตะมานานกว่า 4 พันปีแล้ว โดยชาวฮินดูเชื่อกันว่า แม้โลกจะถูกทำลายด้วยน้ำ หรือไฟ แต่ยังไงซะ พาราณสี ก็จะเป็นอมตะนครตลอดกาล! 

ขอบพระคุณด้วยคารวะจากข้อมูล

http://www.thairath.co.th/ 
http://blog.ssk.ac.th/?p=96

				
26 ตุลาคม 2550 11:46 น.

เรือบุญ...!

พุด

chalermchai9_bigpic.jpgchalermchai11_bigpic.jpg
ฉันมีเรือบุญอยู่ลำหนึ่ง
เรือลำซึ่งจะพาข้ามสู่ฝั่งฝัน
เรือธรรมเรือทองล่องสู่แดนนิรันดร์
เพียรประคองรักษ์เรือลำนั้นก่อนสายเกิน

เรือที่รวมชีวิตจิตวิญญาณ
ให้ข้ามผ่านพ้นทุกข์สุขสรรเสริญ
มิหลงมั่นมายาคำยอเยิร
มิหลงเพลินกิเลสโลกย์โศกลวงลวง

เรือลำนี้มีไว้แค่ใช้ข้าม
มิใช่งามประดับหรูฤาห่วงหวง
ในเส้นทางธารน้ำตาบ่าล้นทรวง
ให้พาล่วงลอยเหนือโศกพบโลกทิพย์

คือเรือบุญในดวงจิตสถิตรู้
นำทางสู่นิพพานหวังสถิต
ดั่งหางเสือนำทางธรรมนำชีวิต
ตราบชั่วนิจนิรันดร์...ขวัญพร้อมพลี.....!


31a.jpg30a.jpg				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด