30 สิงหาคม 2548 09:07 น.

ในคำนึง..!

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song401.html
(ฟ้าแดง)
..................


เสียงฝนพรำสายตอนใกล้รุ่ง
ปลุกให้ใจดวงหนึ่ง
ลุกขึ้นมาแหงนเงยมองม่านฟ้ามืดหม่น
ด้วย..
ใจดวงระทมด้วยบาดแผลที่มือระบมยังมิหายดี



ในราตรี
ที่ไร้ดาวเดือน
มีเพียงลมหนาวเคล้ากลิ่นไม้ไทยรายรอบเรือนต้นไม้..
วิมานดินวิมานจำปีเป็นเพียงพื่อนเพียงนั้น..

เสียงโทรมือถือดังเตือนว่ามีข้อความจากโพ้นฟ้าไกล
แดนดินในฝัน*ฟ้าจรดทราย *
ที่กำลังหมายรอให้ไปเยือน


บทกวีแสนงามในจินตนาก็พลันผุดพร่าง...
อย่างเงียบงาม....
ในสงบเงียบแห่งบรรยากาศยามเช้า
เคล้าด้วยกลิ่นกรุ่นละมุนหอมหวานแห่งดวงดอกไม้
ที่....
กำลังสยายกลีบระรินพร่าง
มาโอบเอื้อนวลเนื้อใจที่แสนเหน็บหนาวอ้างว้าง...
มานานเนิ่นเกินนับ..ทุกนึก..ในคำนึง..!

..................



นาฬิกาโลกบอกเวลาว่าเช้าแล้ว
ดวงดอกแก้วร่วงพราวคราวได้ฝน
มะลิลามาลาลีชีวีคน
ดอกจำปีหล่นจำปีผ่านมิหวานลา

มือระบมใจระทมเจ็บแสนเจ็บ
ดวงดอกเล็บมือนางร้างรอท่า
โมกค้อมดอกสะอื้นกลืนน้ำตา
ลั่นทมเหว่ว้าออกพวงพราวหนาวเหน็บใจ

วันเหมือนเดิมเพิ่มมาใจมีแผล
อย่ายอมแพ้เพียรสร้างเส้นทางไสว
ใจดวงเดิมเริ่มต้นใจดวงใหม่
ให้คนใครผ่านไปในวังวน...

ไม่มีแล้วไม่มีวันขวัญสะอื้น
หลับฤาตื่นแค่หมายใจไม่สับสน
ทิวาวันราตรีหวานซ่านกมล
แค่คำคนคำลามาเชือดใจ

แบ่งลั่นทมจากช่อในกอเศร้า
ทัดผมเกล้าแซมริมแก้มแกมหวามไหว
ไร้นำตาไร้อาวรณ์อ้อนอาลัย
มีใจใหม่ใจแกร่งกล้าท้าตะวัน

อีกไม่นานดอกไม้หวานตระการช่อ
ให้เฝ้ารอเชยชมดั่งใจฝัน
มีสายใยสายใจมั่นผูกพัน
คือสายฝันสวรรค์ไพรรอคืนหลังไปสู่*แดนดินแห่งฝันสวรรค์วนา*
.........................



ลุกขึ้นตั้งใจจุดเทียนหอมๆให้ไสววับแวม
แกมเสียงสายฝนพร่าง 
พลางต้มน้ำร้อนชงชาหอมๆดื่ม
แล้วทำแซนวิชเแกมกินกับผลไม้หลากพันธุ์ 

ทั้งกล้วยน้ำว้าสวน
ที่เพื่อนนำมามอบให้
เมื่อไม่กี่วันที่กำลังสุกได้ที่...
ทั้งลางสาดแสนดีที่แสนจะหวานหอม จากบันนังสตาร์
ที่....
เพื่อนบอกว่ามาจากสวนเพื่อนเองที่ยกมาฝากเป็นลัง


หากทำไมเล่า....ใจจึงคิด..สิ้นหวังไร้หวาน..
เมื่อคิดถึงสถานการณ์ภาคใต้
คิดถึงสวนผลไม้
ที่เคยกรายพวงระย้าย้อยห้อยนวลไปกับความ..ร่มรื่น
มากลายเป็นสวนเรื้อรก ไร้  แรมร้าง...
มิมีใครกล้าย่างกรายไปใกล้...ด้วยหวาดกลัว




เมื่อวานทั้งวัน..
ที่ฟังการอภิปรายในสภา
ถึงการลงมติที่จะยอมรับพระราชกำหนดหรือไม่
และ
ทำไมหัวใจจึงนิ่งอึ้ง นิ่งอั้น...
ยามได้ฟังคุณโต้งคุณไกรศักดิ์ ชุณหวัณ
กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ที่ตอนนี้
แม้นกระทั่งองค์การสหประชาชาติยังพากันหวั่นวิตก
มิอยากให้เราใช้กฎหมายรุนแรง


เพราะ
โลกนี้จะยิ่งแล้งไร้ และจะทบทวีความแรงร้อน
และอย่าลืมว่า...รายรอบประเทศเรานั้นคือพี่น้องมุสลิมทั้งนั้น

และ
ในโลกนี้มีมากกว่าสองพันล้านคน...จงจำจดไว้ให้ดี
ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไร...


ประเทศเล็กๆอย่างเรา
จึงควรคิดถึงการสมานฉันท์อยู่กันแบบพี่น้อง
ในร่มเงาแห่งความเอื้อโอบ

รู้ปันแบ่งรู้รักสามัคคี
ในเงื้อมเงาแห่งผืนดินทองแผ่นดินธรรม
อันแสนอุดมนี้ 
ที่ใครๆต่างพากันจ้องมองด้วยอิจฉา


และ...
ในท่ามสถาบันหลัก
อันคือหลักชัยแลร่มฉัตรแห่งความยุติธรรม
ไม่กีดกันแบ่งแยกแผกผิวผิดพรรณ
ไม่ว่าชนชาติศาสนาใดใดก็ตาม
 และ...
เป็นประเทศเดียวอันแสนงามอุดมด้วยทรัพยากร
ที่มิแร้นแค้น
ทั้งๆที่แผ่นดินอื่นยังมิมากมีผู้คนที่ยังอดหยากหิวโหย..



มินับถึงความโชคดี....
ที่เราทุกผู้มีโอกาส
ได้เลือกนับถือศาสนาอย่างมีอิสรภาพ
ได้พบน้ำพระอมฤตธรรมอันแสนใสเย็นฉ่ำพิลาสพิไล
ให้ได้น้อมนำมาสอนใจ
มานำเส้นทางใจเพื่อมุ่งไปสู่ฝั่งฝันพระนิพพาน



ที่หวังรอให้เราคนไทยทุกพุทธศาสนิกชน
ดั่งบัวบานเหนือน้ำ
และเพียรภาวนาสมาธิอธิษฐาน
หวังหลุดพ้น....

ได้พบสายแสงทองแสงธรรม
มารินร่ำมาอบร่ำพร่ำบ่ม...
จนกลายเป็นคนเต็มคน
เป็นมนุษย์เหนือโลกย์
มิหวังว่ายวนเวียนโศก..ไร้สุข 
เพิ่มทุกข์ให้โลกยิ่งวิโยคสะเทือน..
จนแทบมลายแหลกราญ..

............


น้ำตาแห่งความรานร้าวระบม
กับมือที่บาดเจ็บ
ในนาทีนี้ยังน้อยไป

เมื่อค้นพบหนาวเหน็บในจิตวิญญาณเสียยิ่งกว่า
กับความห่วงใยชาติ..บ้านเมือง



เมื่อคิดถึงผู้คนในโลกอันแสนกว้างใหญ่ไพศาลนี้
ที่...
นับวันจะสิ้นไร้สามัคคี
ราวไม่เคยมีสติปัญญาพากันเบียดเบียนกันและกัน

เสมือนไม่เคยรู้ค่าคำมรณาณุสติ
 ไม่เคยคิดว่า..แท้แล้วชีวาชีวิตเรานิดหนึ่งน้อยนี้นั้น
*ช่างแสนสั้นนัก*


และ
รู้ไหมว่า กว่า 1400ชีวิตรอเยียวยา
*เด็กกำพร้าจากความพลัดพรากจากความไร้รักสามัคคี*
ในความแตกแยกทางความคิด
และ...
ในแต่ละชีวิตแสนเยาว์วัยไร้เดียงสานั้น 
เคยมีใครหันไปคิดบ้างว่า

ในทุกก้าวย่างแห่งหนทางชีวิตข้างหน้า
จะมี...
รอยแผลร้ายติดไปในใจยาวนานสักแค่ไหน...
ที่จะ...
ไม่มีวันลบลืม...เลือนลาง..จางหาย..ไป...
ตราบจนกว่าลมหายใจจะสิ้น.....

.............



กับ..เช้านี้
ที่ฟ้ายังสลัวเลือนราง
ในม่านหมอกแห่งการเมืองและชีวิตที่กำลังวายวุ่น
กรุ่นด้วยกลิ่นสงคราม
เราเคยตั้งคำถามกับตัวเองไหมว่า..



ประวัติศาสตร์
อยุธยาที่ไร้ร้างเกิดจากสิ่งใด...

และ
กับเรื่องราวในวันนี้
ราวรอยไร้รักสามัคคี..
กำลังค่อยๆย่างกรายมาเยือนแผ่นดินอีกคราแล้ว
อย่างช้าช้า..
อย่างที่ประชาชาติไทย
อย่าเมามัวประมาท 
และ
เยาวชนแห่งชาติ
อย่าหลงเพียงวาดหวังรักสนุกสุขเพียงลำพังอยู่เลย...!!

.......................


หัวใจดวงไพร 
ดวงไหวระบม..ระทมจากบาดแผล
จึงพร่างสลัวมัวหม่นราวหมอกเมฆในยามเช้า
กับ...
เศร้าล้ำลึกในทุกข์อณูนึกอรุณอุ่นไอ..ที่มิอิ่มใจเอิบงาม
ในยามกมลร้าว..ด้วยเศร้าแสนเศร้า..ในคำนึง...

*******************************************




http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song401.html
ฟ้าแดง.... สุนทราภรณ์... อโศก สุขศิริพรฤทธิ์


สนธยาฟ้าแดง
สุรีย์ร้อนแรงโรยอ่อนรอนแสงหม่นมัว
สกุณาเรียกหารังตัว
ชะนีเรียกผัว รัวเร้าร่ำกำสรวล
โอ้ชีวิตชีวิตจิตใจ มันหนาวเย็นเป็นไข้
พิไลพิลาศครวญ
สิ้นตะวันสรวลสันต์จาบัลย์รัญจวน
เห็นลางพบพรางร่างนวล
ให้โหยหวนชวนเศร้า
สิ้นแสง สิ้นสีโศลกแดงแฝงแทงใจเรา
สายัณห์เงื้อมเงา
ลบล้างสล้างเสลา จางห้วงหาวพราวใจ
ฟ้าแดง ฟ้าแดงผันแปรเปลี่ยนแปลงแผลงไป
ตราบอาสัญฉันยังฝันใฝ่
จูบแดนฟ้าอาลัย ฝังรอยรักใคร่ฝากเธอ

สิ้นแสง สิ้นสีโศลกแดงแฝงแทงใจเรา
สายัณห์เงื้อมเงา
ลบล้างสล้างเสลา จางห้วงหาวพราวใจ
ฟ้าแดง ฟ้าแดงผันแปรเปลี่ยนแปลงแผลงไป
ตราบอาสัญฉันยังฝันใฝ่
จูบแดนฟ้าอาลัย ฝังรอยรักใคร่ฝากเธอ



				
28 สิงหาคม 2548 01:32 น.

รอวันกลับเหมือนกับทะเล!

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song2461.html


อีกคราครั้ง
ที่ทะเลกำลังแนบหน้ากับหน้าต่างเครื่องบิน
เพื่อทอดทัศนาวิวทิวทัศน์แห่งกรุงเทพเมืองฟ้าอมร

ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ผืนฟ้าเบื้องล่าง
ในท่ามกลุ่มเมฆสลับสล้างซับซ้อนณ..เบื้องบน

เมืองงามดูราวเมืองตุ๊กตา
เมื่อมองลงมาแบบเบิร์ดอายวิว

นกเหล็กที่กำลังร่อนฉิวปลิวลม
เพื่อพาผู้คนที่มีเทศมากกว่าไทย
ไปยังแดนดินแห่งความฝัน
 เกาะสวรรค์หาดสวาทมิร้างแรมไร้รักให้ได้พักใจ

ไปกับซีแซนด์ซัน
และกับฝันพร่างฟ้ากระจ่างน้ำทะเลสีมรกตแสนงาม
รอด้วยอาหารทะเลสดสดหลากรสราคาดีที่ไม่แพง
แถมยังมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย

มีสปาที่สร้างไว้รองรับร่างยอมเมื่อยล้า
แบบที่ว่าจะจำจดไม่ลืม
แทบไม่อยากตื่นกลับมาเผชิญโลกจริงเลยทีเดียวเชียว...



และ
เที่ยวนี้
ทะเล...
พบกับพี่ชายของเพื่อน
และ
เป็นยอดฮีโร่ในดวงใจในวัยเด็ก..ก่อนขึ้นเครื่อง
ตอนที่ไปนั่งรอ
และขอเลือกดื่มน้ำส้มสดรสดี
แถมมีขนมกล้วย...กล้วย..แกมให้รำลึกนึกถึงอดีต

พี่ชายคนดี
ที่เป็นผู้ชำนาญในไม้ป่า
และเป็นนักพัฒนาอุทยานแทบทั่วเมืองไทย

เลย..สวัสดีและคุยแลกเปลียนทัศนะกันไปมา
ก่อนลาไปคนละลำ

ทะเลได้ฝากขนมไหว้พระจันทร์
ให้เอาไปกินตอนไปดูงานบนภูเขา
ที่เกาะใหญ่ทางทะเลตะวันออก
และ
ทะเลขออ้อนออดขอไปชมสักวัน
กับอยากได้ฟังความรู้เรื่องพันธุ์ไม้นานาพรรณ
จากนักวิชาการเกษตรที่คร่ำหวอดมาแสนนาน



ทะเล...ได้ที่นั่งริมหน้าต่างให้มิร้างแรมวิวอีกตามเคย
และ
ได้คู่เคียงไหล่...มิใช่เคียงเขนยเชยชิดใกล้กับคนฝรั่งเศส
ที่ทะเลทราบ
เพราะว่าพูดภาษาอังกฤษแล้วเขาได้แต่เซย์เยสๆโนๆ
ส่งภาษามาบอกว่าพูดไม่ได้ๆ
ก็คงคล้ายๆเราคนไทย
ที่คงพูดภาษายาวีมิได้..ทั้งที่ชิดใกล้มาเลเซียนิดเดียวเอง



ทะเล..
นั่งนิ่งๆทิ้งตาอ้อยสร้อยและละลอยละลิบ
พาจิตดวงไสวไปไต่ตามก้อนเมฆนั่น  นี่
แล้ว
ก็พลีจูบจากใจส่งฝากไปถึงทุกคนดีที่พรากลา
ที่ทะเลคิดถึงทุกครายามเหว่ว้านั่งเหงาดายเดียว
เหลียวไปมีแต่คนหัวแดงทั้งลำ



และ
ทะเลก็น้ำตารินทุกคราครั้ง
เมื่อเครื่องบินบินผ่านบ้านเกาะของทะเล
ที่ทะเลแสนปลื้มปิติภาคภูมิ 
ที่ได้มีผืนดินที่นี่ที่แสนงามราวสรวงสวรรค์
ที่นักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลก
ต่างพากันหลั่งไหลมาตามหาฝันพระจันทร์หวาน
อย่างหลามล้นแทบทุกฤดูกาล

ทะเล..เคยตอบคำถามบางคน
ว่าทะเลทำบุญมาด้วยสิ่งใด
ทะเลถึงได้มีที่ดินที่ดั่งอัญมณีไพรณ.กลางเกาะมหัศจรรย์


ทะเลได้แต่คิดว่า
ทุกความฝันความดี
ที่ทะเลเกิดมาเพื่อพลีให้แด่มนุษย์ทุกผู้
ผู้ยากไร้หากมีโอกาส

คือสัจจธรรม ธรรมะ
ที่วาดวงสอนให้ทะเลซึ้งทราบว่า
การทำดีต้องได้ดี
อยู่ที่จะช้าหรือเร็ว
และ
เรามักเรียกกันว่าคือบุญวาสนา
ที่ทะเลศรัทธาและเชื่อว่า
มาตรแม้นเราทำดีจากดวงใจใสเย็น
โดยมิคาดหวังสิ่งใด


นั่นคือบุญกุศลที่แสนยิ่งใหญ่
ที่ฟ้าดินจะเมตตารับรู้
และ
จะคอยเคียงคู่ปกป้องทุกข์ผองภัยผจญให้เราพ้นมาร
พบแต่คนดี มีแต่พลังแห่งความสุขเกษมเอมอิ่ม
แย้มยิ้มยินดีอย่างมิทุกข์ร้อนใดนาน

ไม่กี่นาทีข้างหน้าแล้ว
ที่เครื่องจะพาผู้โดยสารต่างชาติต่างภาษา
ลงสัมผัสสนามบินที่งามติดดินอย่างที่สุด
เพราะตัวอาคารนั้นใช้หลังคามุงจาก
และ
ออกแบบอย่างเรียบง่ายใช้วัสดุท้องถิ่น



ทะเล...
ต้องต่อเรือที่เรียกว่าสปีดโบ๊ทไปอีก45นาที
ที่จะมีรถแวนอย่างดีจากสนามบินพาไปยังท่าเรือ

ทะเลกดโทรไปยังอีกฝั่งเกาะบ้านเกิดที่แลละลิบ
เห็นหลังคาสะท้อนวะวาววิบในเงาแดด
น้องสาวคนดี..บอกว่า
หากขึ้นเรือแล้วให้โทรมาอีกที


เพราะคืนนี้
เธอคนดีที่คือเจ้าแม่ปาร์ตี้พร้อมองครักษ์ซ้ายขวา
จะต้องจัดสถานที่อีกคราแล้ว
การจัดที่ว่าคือต้องห้อยโหนต่องแต่ง
ไปแขวนกระดาษเครื่องพวงพราวหลากสีสันบนต้นมะพร้าว
ให้ระโยงระยางระย้าราวกับงานวัด

เธอ..บอกจะให้จะ รา..จร..จอห์นนี่
(ที่ดำรงว่าที่น้องเขย)
มารอรับยามย่างเท้าลงจากเรือที่ท่าเทียบ



ทะเล...สงสารฝรั่งมากหน้าหลายตา
ที่ณ..บัดนี้มาสามัคคีชุมนุม
กันที่ท่าเรือกับกระเป๋ากองแทบเท่าภูเขาเลากา
ที่อุตส่าห์ลากพาข้ามน้ำข้ามทะเลมา
แบบโอ้ละเห่ละช้า 

เพื่อมาหาความประเทืองประทับใจ
จากแดนดินไม่ศิวิไลซ์หากไสวด้วยแสงแดดกล้า
จนพาตัวดำมะเมื่อม
บ้างก็ออกเลื่อมสลับลายราวงูลอกคราบ
ไหนจะแทบถอดเสื้อเดินเปลือยเปล่า
ด้วยร้อนแดด
ทีพากันแผดเผารับลม

หากหัวใจ
ยังสดชื่นระรื่นรมย์
ด้วยยังมีดวงดอกไม้เมืองร้อน
คอยออดอ้อนเอาใจชูพร่างไสวไปทั้งเกาะ




นั่น..ใครเล่าใคร
ทำไมกระเป๋าใบใหญ่จัง

หวังว่าคงไม่มีชามช้อนกาละมังเตา
ให้สงสัยว่าจะหนีเหงาหนีหนาวหนีหิมะ
มาตั้งรกรากสักสามเดือน

เพราะณ..บัดนี้จะมีคนไทยหัวใส
ทำบ้านให้เช่าแบบยาวๆแบบไม่แพง
ไม่ต้องไปนอนโรงแรม รีสอรท์บังกาโลว์ 
ให้กระเป๋าแบนจนแฟนทิ้งอีกต่อไป
...........


ทะเล...เห็นจอห์นนี่แล้วกำลังสปี๊คกับใคร ชาติไหนไม่รุ
คงชวนไปปาร์ตี้คืนนี้แน่ๆเลย

จอห์นนี่ตรงเข้ามาสวมกอดและหิ้วกระเป๋าให้
เลยส่งของขวัญคือสร้อยหอยร้อยถักด้วยด้ายสีฟ้าใส
เป็นแฉกแหวกหวานคล้ายดวงดอกไม้
จากจตุจักรที่มีเหลือเพียงสามอันในโลกหามีไม่แล้ว(คนขายบอก)
ให้เราสามคนสวมใส่เล่นราวแฝดสาม
ในยามนี้
เพราะให้น้องสาวคนดีอีกอัน



จอห์นนี่เอาใจ
พาไปร้านริมฝั่งสั่งปลาชุบแป้งทอดแนมกับสลัดให้อย่างรู้ใจ
เพราะพากันมากินหลายทีแล้ว
ติดใจรสชาติปลาสดสด
ไหนจะต้มยำทะเลที่อร่อยแซ่บล้ำ 
ตามด้วยยำสาหร่ายกับกุ้งสด
และ
นี่คือบทแรกเรื่องอาหารที่ทะเลมาทีไร
ต้องตามรับประทานของยามวัยเยาว์
แบบมิให้พลาดสักรายการ
จนพุงอวบหลามราวงูเหลือมกลับมาทุกทีทุกที..



คอยติดตามตอนต่อไปภาคสอง
ที่เกี่ยวกับปาร์ตี้ๆที่ทะเลนี้แสนระอาใจค่ะ
...................





http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song2461.html

ทะเลไม่เคยหลับ ดิอิมพอสซิเบิ้ล 


มอง ซิมองทะเล
เห็น ลม คลื่นเห่จูบหิน
บาง ครั้งมันบ้าบิ่น
กระแทก หินดัง ครืน ครืน
ทะเล ไม่เคยหลับไหล
ใครตอบ ได้ไหม ไฉน จึงตื่น
บาง ครั้งยังสะอื้น ทะเลมันตื่น อยู่ร่ำ ไป
ทะเล หัวใจของเรา
แฝง เอา รักแอบเข้าไวั
ดู ซิเป็นไปได้ ตื่นใจเหมือนดัง ทะเล ครวญ
ยาม หลับไหล ชั่วคืน
ก็ถูก คลื่นฝัน ปลุกฉัน รัญจวน
ใจ รักจึง เรรวน
มิเคย จะหลับ เหมือนกับ ทะเล

ทะเล หัวใจของเรา
แฝง เอา รักแอบเข้าไว้
ดู ซิเป็นไปได้ ตื่นใจเหมือนดัง ทะเลครวญ
ยาม หลับไหล ชั่วคืน
ก็ถูก คลื่นฝัน ปลุกฉัน รัญจวน
ใจ รักจึง เรรวน
มิเคย จะหลับ เหมือนกับทะเล... 
 
  




				
27 สิงหาคม 2548 09:52 น.

เจ้าช่อมะไฟใยยวงแห่งขวัญ...!

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song413.html



ดวง...ขอย้อนรอยถอยหลัง
กลับไปสู่...
ความทรงจำแสนงาม
กับ
*ต้นมะไฟในฝัน*

ต้นไม้
ที่งามพวงพราวราวไฟสุกลูกโพลงสีทองสะพรั่งสว่างไปทั้งสวนริมภู..

สวนที่คนที่รักดวงทั้งคู่
พรากลาจากดวงไปเป็นนิรันดร์แล้ว...!

สองพี่น้องที่พากันแย่งชิงเอาอกเอาใจดวง
และมีพวงมะไฟงาม 
เป็นดั่งตำนานแห่งความหวานหอมพร้อมเปรี้ยวแปลบ
หากมิแสบทรวง
กลับ..
หวานเศร้า..ให้แสนรานร้าวใจในนาทีนี้ยามนึกย้อน...
......................



ดวง...
นุ่งผ้าถุงผ้าซิ่นแสนสวยสีไพล
ขี่จักรยานคันน้อยน้อยสีเหลืองอ้อยสร้อย
ยามตะวันคล้อยใกล้โพล้เพล้เหว่ว้าโอละเห่ละช้า
ที่...ทายทักระเรี่ยยอดไม้ อย่างแสนสบายใจ

ไปตามเส้นทางสายงาม 
ไปสู่สวนฝัน...สวรรค์ระรื่นรมย์..ริมชายชลท่าน้ำของเพื่อนรัก 

ผู้อยากพิทักษ์ครองใจดวง
รวมทั้งพี่ชายที่แอบส่งจดหมายรัก
มาแบบนับไม่ถ้วน 
แบบหวานอวล..จนต้องแอบอมยิ้มยามรำลึกถึง..ในวันนี้

จดหมายที่...ดวงจำได้ดีว่าจะขึ้นต้นอย่างนี้เลย
*ในกระท่อมท่ามกลางแสงตะเกียงอันริบหรี่...*
และ...
จะมากมีคำหวานแบบลูกทุ่งๆ
ที่แสนจริงใจ
ที่แสนใสซื่อ

ในวันนี้..ที่ดวงน้ำตารื้นชื่นเต็มนัยน์ตา
เมื่อใจดวงค้นพบว่า 
*อดีตที่ล่วงลาเลยลับนั้น*
ช่างแสนพิเศษพิสุทธิใสนัก...ในยามวัยเยาว์



และ...
ดวงแสนเหงาเงียบงามใจ...ปิติใจเมื่อค้นพบว่า...

ในชีวิตนิดน้อยหนึ่งนี้นั้น
ความเป็นนิรันดร์รักมีจริง

นิรันดร์แบบจดจำ
เพียงความดี
พลีให้แค่สิ่งแสนดีแสนงามแด่กัน

ดั่งใจดวงขวัญ ฝันได้รับเสมอมา
จากดวงชีวาชีวีผู้ที่รักดวงอย่างจริงแท้
และแน่นอน...
จนตราบร่างม้วยมรณ์มรณา

ฝากเพียงความล้นค่า..ในความทรง..จำอันแสนยากจะเลือนลืม...!




ดวง..ย้อนรอยกลับไปในวันนั้น
วันแห่งฤดูร้อนแห่งเดือนคิมหันต์
วันที่ฟ้าใสกระจ่าง
วันที่...
ดวงดอกไม้ป่า
พากันร่ายฟ้อนอวดกลีบอรชรอ่อนหวานอ้อนโอบไพร เอื้อโอบใจ

วันที่ดวงแสนเยาว์วัย
ยืนใต้ร่มเงากิ่งใบมะไฟ
ในแสงพริบพร่างสะพรั่งพราว
ระย้าย้อยห้อยไปด้วยพวงผล

ในวันที่
ดวงกมลของดวง..มีแต่รอยยิ้มแสนอิ่มเอม
และเสียงหัวเราะแห่งความสุข

วันที่
พี่ชายเพื่อนเพียรรุกร่าง
ค่อยๆคืบคลานปีนขึ้นไปบนต้นมะไฟ
ให้กิ่งไหวโยกเอน

ด้วยใจดวงกล้าหาญแบบชายหนุ่มบ้านป่าบ้านดอย
ให้คนข้างล่างคอยรอรับพวงมะไฟมะไฟ
ที่แสนไสวพร่างสว่างช่อ..ช่างน่าเก็บน่ากินเสียไม่มี...



วันที่
เขา....คนดี..บอกให้ดวงรอกางเสื้อยืดแนบเนื้อสีขาวออกกว้างๆ
อยู่ข้างล่างกิ่งกราย

แล้ว...
เขาจะค่อยๆหว่านพรายพวงงามลงมา
ด้วยดวงใจใสซื่อนักหนา
ดวงก็กางเสื้อออก
และ...
เมื่อแหงนเงยหน้าบอกให้เขาโยนพวงมะไฟลงมา

เหตุใด
จึงพบใบหน้าเจ้าเล่ห์เพทุบายยิ้มหวัว
ราวพบมหัศจรรย์ฝันอันแสนบรรเจิดจิตบรรเจิดใจ

ดวงจึงก้มลงมองตัวเองแล้วไซร้
ถึงรู้ว่าแท้แล้ว
นวลเนื้อแน่นสีขาวพราวไสว
ในเงางามท่ามร่มมะไฟใบระยิบคือที่มา
แห่งรอยยิ้มพิไลไหวหวามให้หวั่นไหวไปกับนัยน์ตาเจ้าชู้
เพราะว่า..
ดวงมิทันรู้ระวังตัว

บัวดอกงาม
ยามเริ่มตูมตั้ง
คงพาคนบนต้นมะไฟ..ฝันพร่าง
และ
นั่นคือความอายเกินทานทน
จนเลิกรอรับพวงมะไฟฝันหันหลังหนีโยนทิ้งไปอย่างไม่ไยดี
ก่อนที่จะทั้งโกรธทั้งอายที่เสียรู้



คนดี...ดวงใจในวันนี้
ไม่มีทั้งสองคนดีที่พลีใจ
จะมี...
ก็เพียงพวงมะไฟในฝัน
กับสวรรค์ลอยพลอยรับรู้ราวเรื่องแห่งรักไร้เดียงสา
หากทว่า
แสนงดงามในท่ามโลกทุกวันนี้
ที่ไร้วับแวมหวามไหวในเรื่องรักใสใส
รักแบบทำอะไรไม่เป็น 
ทั้งที่เห็น..
แต่..
ไม่รู้ไร้ครูไร้ใคร

มีเพียงใจดวงวัยเยาว์
ที่ถูกกล่อมเกลาให้รักนวลสงวนตัวรักงาม
อย่าผลีผลามกลัวพลาดพลั้ง



และ...
นี่คือความหลังกับมะไฟฝันวันงาม

วันที่โลกในนิยามรักเก่า
ให้เราอยากค้นหาติดตาม...อย่างละเมียดละไม

ไม่ร้อนรักรุกลนปนเปไปด้วยความใคร่...
ไร้เสน่หาสวาทหวาม
อย่างรีบร้อนรุนแรง.. มิแฝงรักใต้ต้นมะไฟมะไฟ

ที่ขนาดนั้นทำเช่นไร..เช่นไร.....
ไฟรักก็ยังมิเคยลุกบุกโหมให้เสียสาวสิ้นงาม..!
................





http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song413.html
กาลเวลา ลินจง บุนนากรินทร์


ฉันปล่อย ให้กาล เวลา
ตัดสิน ชะตา ปัญหา หัวใจ
แม้ จะรักเธอ รักเธอ เท่าใด
แต่ หัวใจ ดวงนี้ มีสิ่ง ผูกพัน
ขอให้ เป็นเพียง การคอย
อย่างน้อย เรายัง เรียนรู้ ใจกัน
เพราะว่า หัวใจ ของเรา ผูกพัน
วันหนึ่ง วันนั้น
ความฝัน อาจ เป็นความจริง
เรารู้ การคอย คือการ เจ็บปวด
เป็นความ เจ็บปวด
รวดร้าว ใจทุกสิ่ง
ทุกหยด ของกาล เว-ลา
ที่ ปรารถนา และ ความจริง
คอยสิ่ง ที่เรา มั่นใจ
ฉันปล่อย ให้กาล เวลา
ช่วยชี้ ชะตา ไม่รู้ วันใด
แม้ จะต้องคอย และคอย ต่อไป
นาน สักเพียง ไหน
ปล่อยให้ กับกาล เวลา

เรารู้ การคอย
คือการ เจ็บปวด
เป็นความ เจ็บปวด
รวดร้าว ใจทุกสิ่ง
ทุกหยด ของกาล เว-ลา
ที่ ปรารถนา และ ความจริง
คอยสิ่ง ที่เรา มั่นใจ
ฉันปล่อย ให้กาล เวลา
ช่วยชี้ ชะตา ไม่รู้ วันใด
แม้ จะต้องคอย และคอย ต่อไป
นาน สักเพียง ไหน
ปล่อยให้ กับกาล เวลา...


................

				
26 สิงหาคม 2548 08:44 น.

สายน้ำวน..!

พุด

http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song839.html
(สายน้ำไม่ไหลกลับ)
.................



ใกล้ค่ำแล้ว
ฟ้าสวยเหลือเกิน
หลากสีทั้งแดงส้มชมพู..

ยามนี้ทุกสีสาดสายลงมาไล้โลมยอดหญ้า
ดูราวกับว่าเป็นสัญญาแห่งความพรากลา
แล้วค่อยเริ่มต้นหมุนมาทายทักในเช้าวันใหม่...


นกกาและผู้คนที่จำต้องทุกข์ต้องทน
ยังจำต้องว่ายวนเวียนวัฎจักรชีวิต
หาเช้ากินค่ำ 

ต่างพากันรอเวลาบินกลับรังราวนกไพร

เป็นดั่งนี้...ตราบชั่วนิจนิรันดร์

เพื่อประทังดำรงท้อง
ฤา...
หวังหวานหวังว่า
จะดำรงร่างใจ
ให้มีจิตวิญญาณไสวทำสิ่งแสนดีแสนงาม
ฝากไว้ให้โลกหล้าก่อนผืนดินจะกลบหน้า



ก่อนที่ฟ้าจะกลายสีพิโรธ
ก่อนดินน้ำลมไฟจะเล่นบทโหดไร้ปรานี
แด่มวลมนุษยชาติ

ที่มากมายมากมีหมายมาดเพียงมาตักตวง

อย่างราวจะทวงหนี้บุญคุณ
ให้รู้สำนึกลึกซึ้งถึงค่าคำว่า..สายเกิน...



ดวงนอนนิ่งนิ่งริมตลิ่งในดงหญ้า
ริมชายป่าริมบึงกว้างมิร้างรัก
กับฟ้าสีโศกโลกสีไพล
กับใจดวงเดิมเดิมดายเดียว
กับความเงียบสงบงาม

เงียบเสียจนได้ยินเสียงทุกสรรพสิ่งรายรอบ

เสียงลมพัดใบไม้ไหว
เสียงสายน้ำไหลระริน
เสียงนกผกโผผินกลับรัง
เสียงราวชายฝั่งกระซิบคำรำพันรำพึงแด่มวลแมกไม้ริมชายชล
ได้ยินแม้เสียงกมลเต้นตามจังหวะลีลาหากทว่าว่างเปล่าเบาสบาย

ตะแบกยังฟ้อนอ้อนพรายในเงาแดดแสนสวยสีทองสะท้อนตา
พาให้ดวงใจไหวหวาม
ไปตามเสน่หาแห่งมนตรากลีบกรายในยามตะวันโพล้เพล้...


ดวงรัก..แสนรักบึงนี้
ที่แอบเรียกว่า*ทะเลสาบสีเงิน*

รักแสนรักสายชล..ที่เรียบนิ่งสงบในยามพลบค่ำ
รักเสียงเรไรร่ำ
รักเสียงแห่งธรรมชาติไพร
ที่เหลือน้อยลงในราวเมือง
ราวป่าใหญ่ไพรกว้างพลางแทรกซ่อนซุก
ให้เพียงผู้รู้รักคุณค่างามเงียบ..ค้นพบ


ดวง...
คิดถึงบทเพลงเกี่ยวกับสายน้ำ
และบางทีแสนแปลกดี
ที่ดวงเกิดมากับทะเลทะเล
หาก...
ในดวงใจแสนโอละเห่กลับประทับใจทะเลสาบ
ที่ราวเป็นภาพในทิพยนิรมิตฝัน
อันแสนประเทืองใจในทุกยามเหว่ว้า


และ
เป็นมาตั้งแต่ยามเยาว์
ที่ยามเหงาใจจะแอบไปนั่งดูปฎิทินภาพ
ทะเลสาบและขุนเขาในเงาหมอกหยอกล้อ
ด้วยดวงใจแสนเยือกเย็นในทุกยามที่ได้ทอดทัศนา
จากร้านกาแฟเล็กๆในตลาด


ที่คุณลุงเจ้าของร้านบอกกับดวงว่า
ภาพที่มาได้คือภาพจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์
แดนดินที่งดงาม ด้วยม่านหมอก
และ...
ดวงดอกไม้ป่าดอกเล็กๆที่ขึ้นพรายพร่างพื้น
ไล่ตามเนินหญ้าเขียวขจีไปตามเนินภู



และ
กับฟ้าที่ดูกว้างกระจ่างใสเขียวคราม
มีกระท่อมหิน เรียบง่ายดูแล้วแสนสงบใจ
พร้อมกับ
ป่าไพรดงสน
และทะเลสาบเรียบใสในฤดูคิมหันต์



ดวงจึงค้นพบตัวตนว่า
ดวงรักธรรมชาติที่ดิบดินติดดิน
ที่ราวร้างไร้ผู้คน
หากมีชีวิน ผสานผสมไปกับความสงบสมถะ


และ
นี่คือที่มา
ที่ทุกครายามดวงมีเวลา
จะหยิบหนังสือดีดีทั้งของไทยเทศ
ที่เกี่ยวกับป่าใหญ่ไพรกว้าง
และอย่างเรื่องของลอร่า อิงกัส์ล ไวเดอร์
ที่*คุณสุคนธรส *แปล และมีครบชุดมาอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า...



http://www.siamnovella.com/product_info.php?cPath=73&products_id=10136

*บ้านเล็กในป่าใหญ่
บ้านเล็กในทุ่งกว้าง
เด็กชายชาวนา
ริมทะเลสาบสีเงิน
เมืองเล็กในทุ่งกว้าง
ฤดูหนาวอันแสนนาน
ปีทองอันแสนสุข
สี่ปีแรก9
..............



และ
เพียรหาหนังฝรั่งดีดี
ที่มีชีวิตสัตว์และผู้คนยังดำรงตนย้อนรอยถอยหลังกลับไป
ราวเพิ่งเริ่มสร้างบ้านแปลงเมือง

ในยุคที่โลกยังมีพรมแดน.และแสนลี้ลับ
หากแสนสงัดสงบสุข เกินจะบอกกล่าว


ดวงมาเล่ารจนาระบายคลายความเบื่อเมือง
เบื่อโลกทุกวันนี้
ที่ดวงกำลังเพียรพยายามจะหนีให้พ้น
แม้นอาจจะต้องทน*เป็นปลาผิดน้ำ..*อีกสักนิดสักหน่อย
แต่ดวงก็ไม่เคยเลย...ที่จะคิดท้อถอย ยอมยกธง 
.

ยังคงคิดด้วยดวงใจใสซื่อตรงคงมั่น
ที่...
จะหันหลังคืนกลับ  ณ..บ้านป่าบ้านไพร
ด้วยดวงใจเต็มร้อย
ที่ยังคงละห้อยโหยหารอ...

เพียง
หวังขอสนิท...
สถิตแนบเนา
แบบสุขเหงางามเงียบ
ได้อย่างกลมกลืนไปตราบชั่วนิจนิรันดร์
ตราบชั่วฟ้าดินสลาย.....!!

.............................................



http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song839.html
สายน้ำไม่ไหลกลับ.... อรวี สัจจานนท์ 

โอ้ความรักที่ร้าวรานไกล
ดุจสายน้ำไหลผ่านไป
ลงไหลไปแล้วไม่เคยคืนมา หา
สาย น้ำเชี่ยวโกรกไหล
วกวนแล้วไหล ไป
ไหลไปแล้วไม่กลับมา
คิด เปรียบไปก็คล้ายเหมือนว่า
รักเอยไม่คืนหวนมา
จากลาไปยังหนใด
คิด ถึงเมื่อก่อนเคย
รักฉันเป็นสุขเอย
ไหนเลยจึงต้องจากไกล
คอย เฝ้าคอยคร่ำครวญหวนไห้
รักเอยจากไปแล้วไย
จากไปเหมือนสายน้ำวน
ร้าง ไปร้างไกลสุดหวัง
ล่องลอยไปไกลเหมือนดัง
สู่วังแม่เอยสายชล
ฉัน สิยังคร่ำครวญเพ้อบ่น
ไหว้วอนให้สายน้ำวน
ช่วยดลให้รักฉันคืน
เขา คงไม่กลับมา
หัวใจพร่ำเรียกหา
น้ำตาหลั่งนองกล้ำกลืน
นอนหลับตาต้องผวาตื่น
สายน้ำไม่เคยไหลคืน
ไม่คืนเสียแล้วรักเอย

เขา คงไม่กลับมา
หัวใจพร่ำเพรียกหา
น้ำตาหลั่งนองกล้ำกลืน
นอนหลับตาต้องผวาตื่น
สายน้ำไม่เคยไหลคืน
ไม่คืนเสียแล้วรักเอย
คงไม่คืนเสียแล้วรักเอย






				
24 สิงหาคม 2548 13:40 น.

หยาดน้ำผึ้งฤาว่าอสรพิษ...!

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song6080.html


ผมกำลังยืนรอรับเธอ..
แม่ดวงดอกรัก..ดอกบานไม่รู้โรยในดวงใจผม
ที่กำลังจะเหินฟ้าบินกลับมาสู่อ้อมอกอ้อมใจผมในวันนี้...!



วันที่ฟ้าจริงและฟ้าในใจผม
แสนไสวสว่างกระจ่างแจ้งจรัสจรุง...พอกัน

ราวมีอัญมณี..เพชรพร่างพราย
กระจายรัศมีสีชมพูพริ้งพราว
ณ...ภายในเรือนใจผมเลยทีเดียว



วันที่ตะวันแดง..ดวงแรงร้อน
*แห่งแดนดินทะเลทราย*
 มิหมายกรายกล้ำ
มาทำให้ร้อนอกร้อนใจไปได้เลย...แม้นเพียงนิดน้อย

หากมีเพียงสายน้ำรักระริน ระริน
ในสี่ห้องหัวใจ
กำลังไหวออดอ้อน
อ้อยสร้อยเซาะไซร้กระซิก กระซี้  กระซิบ  
พิรี้พิไรรำพึงรำพัน
เพียงเท่านั้น...เท่านี้... ณ บึงใจ..!

เพียงคำสั้นสั้นซึ้งซึ้งแสนสุขซ่านหวานใจ
ว่ารักรักรัก..เหนือสิ่งใดในหล้าโลกแล้ว..



ผม..มีความสุข...

สุขนี้
เหนือความคิด ความฝัน
เหนือความคาดหวัง คาดเดา

หากเป็นเพียงเงาชะตาฟ้าดินลิขิต
และหวังเมตตาสวรรค์จักปรานี
ให้สถิตทอดในดวงใจรักไปเป็นนิรันดร์



ผม...
คือ..ผู้ชายในฝันในภาพนี้ 
ที่มีเลือดเนื้อและชีวิตจริง
และ..
ยังยืนนิ่งๆอยู่ตรงนี้
เพื่อที่จะทอดตา..ดูเวิ้งฟ้า
ที่กำลังจะพาดวงใจผมคืนกลับมา..จากแผ่นดินของเธอ



ผู้หญิง..แสนงามใจราวนางฟ้า
ที่
มิใช่งามเพียงใบหน้า
ที่นับวันรอโรยร่วง..ล่วงสลายไปตามวัยวัน

หากทว่า
เธอคือ..

ผู้หญิง..คนดี..
ที่ชอบถ่อมตัวเสมอมา
และ
ชอบใช้ชีวีธรรมดาๆ..ดิบเดิมติดดิน
แม้นชีวินเธอจะร่อนบินราวนกไพร
จำต้องเหินบินไปกับนกเหล็กลำใหญ่สีเงินงาม
ได้สัมผัสโลกแสนศิวิไลซ์ไปทั่วทุกถิ่นที่..ทั่วโลกนี้ก็ตาม



คนดี..ที่ชอบเดินตามพิพิธภัณฑ์
ดูศิลปวัฒนธรรมในเมืองต่างๆ
แทนการเดินในศูนย์การค้า

คนดี..ที่รู้คุณค่าของการมีลมหายใจ 
ไม่เคยคล้อยชีวิตหลงไป...ตามกระแสกิเลสโลกย์
ไม่หลงเสพโศกเพียง*วัตถุสุขนิยม..*

มิหลงลมยกยอปอปั้นว่าเธอคือคนงามหนึ่งในปฐพี
มีเพียงคุณความดีและค่าคำกุลสตรีไทย
ที่เธอยึดมั่นไว้ในหัวใจดวงพิสุทธิ์ดวงใสแสนดีของเธอ




คนดี..ที่ผมสารภาพว่า..
*ผมหลงรักเธอ..และรักเธอ*
จนเกินกว่าจะบอกกล่าว
นับตั้งแต่นาทีแรก..ที่พบ..เห็น

เธอ...
ผู้..มากับสายลมร้อนผ่าวในแดนดินทะเลทราย
มาปรากฎกายราวโอเอซิส ในยามเช้า
ราวดวงดอกไม้เมืองร้อน
ที่แสนน่าทนุถนอมอ่อนหวาน

ที่ผม..ได้แต่คุกเข่าให้พระเจ้าเบื้องบนได้ประทานพร
ให้หัวใจผมลูกผู้ชายหัวใจดวงทรนง
หากทว่าอบอุ่นมั่นคง

และ
หากรักใครแล้ว..จักซื่อตรงรักอย่างจริงแท้
อย่างแน่วแน่หนักแน่น
ไม่แคลนคลอนไปตราบชั่วฟ้าดินสลาย
และ
ตราบสิ้นลมหายใจสุดท้ายแห่งชีวิต...

ให้ผมได้พบความสุขสมหวัง
มีเธอเคียงข้างเป็นดั่งนางใจ
ไปตราบนานเนาตราบจนชั่วนิจนิรันดร....



ผม..ลูกผู้ชาย...
ที่เลิกเดียวดายอ้างว้าง
นับตั้งแต่ได้พบเธอ
ย่างเท้าก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในชีวิต

ผู้หญิงที่กำลังเนรมิต...ให้โลกผมเป็นสีชมพู..ชมพู
โลกที่น่าอยู่ยามมีเธอเคียง

โลกที่ผมเคยคิดว่าแสนลำเอียงไม่ยุติธรรมเสมอมา



เพราะ
*ผมกำลังมีความรัก*
ภาวนาให้ผมนะครับ
ให้ผมสมหวัง...

เพราะ
เธอ..คนดีที่ผมแสนรักนักรักหนา
เธอแสนระมัดระวังตัวไม่ผลีผลาม
และเคยตั้งคำถามกับผมว่า...



*ผมคือหยาดน้ำผึ้งฤาว่าอสรพิษ
มาให้ชิดเชยชิมลองลิ้มหวาน
แล้วพรากลาดวงดอกไม้ให้ร้าวราน
ทิ้งพิษผลาญสวาทวาย..ตายทั้งเป็น...*
*****************




ระหว่างเราทั้งคู่...
พระเจ้าคงกำลังเฝ้าดูอยู่
และ
รอวันเวลาพิสูจน์ใจ

รอ...ให้หัวใจดวงงามดวงดีดวงทองผ่องผุดของเธอ
ตัดสินใจ....
ที่จะพลีใจมอบร่างให้กับผม..

ผู้ชาย...ที่เธอ
บอกว่ามีเพียงสิ่งเดียว
ที่เธอ..หลงประทับใจ

มิใช่ความหล่อ..ความรวย 
หากคือความทรนง ทรนง...
จะทรนง..แบบไหน..ฤาอย่างไรนั้น
วันหลัง
ผมจะกลับมาเล่าให้ฟังอีกทีนะครับ..
...............................




http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song6080.html

POWER OF LOVE ......Celine Dion 


The whispers in the morning
Of lovers sleeping tight
Are rolling like thunder now
As I look in your eyes
I hold on to your body
And feel each move you make
Your voice is warm and tender
A love that I could not forsake
'Cause I'm your lady
And you are my man
Whenever you reach for me
I'll do all that I can
Lost is how I'm feeling
lying in your arms
When the world outside's
too Much to take
That all ends when I'm with you
Even though there may be times
It seems I'm far away But Never
wonder where I am
Cause I am always by your side
'Cause I'm your lady
And you are my man
Whenever you reach for me
I'll do all that I can
We're heading for something
Somewhere I've never been
Sometimes I am frightened
But I'm ready to learn
About Of the power of love

The sound of your heart
beating Made it clear
Suddenly the feeling
that I can't go on
Is light years away
'Cause I'm your lady
And you are my man
Whenever you reach for me
I'll do all that I can
We're heading for something
Somewhere I've never been
Sometimes I am frightened
But I'm ready to learn
'Bout Of the power of love

				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด