30 พฤศจิกายน 2549 23:48 น.

จิต..เจียรนัย..!

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1931.html
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song6020.html
อายฟ้าดิน..MY HEART WILL GO ON   
.......................

ขอรจนากลอนสอนสัจจซึ้งสักหนึ่งบท
ฝากงามงดท่ามโลกโศกสิ้นหวัง
ว่าที่จริงทุกสิ่งอนิจจัง
ไร้จีรังรักฤาทุกข์สุขมายา

จากดวงใจหญิงหนึ่งผู้ครองเศร้า
ผ่านรานร้าวบทเรียนเสน่หา
ท่วมระทมตรมหมองไหม้กัปป์กาลเวลา
หากทว่ามิยอมพ่ายหมายฝากดี

ให้สัจจทุกข์ระทมเจียรนัย
จิตดวงใสดวงงามหอมศักดิ์ศรี
ค่าของคนผู้ทุกข์ทนคือความดี
พร่างรัศมีบุญงามนิยามภักดิ์

ปรารถนาโลกนี้มีเมตตา
ฝากดินฟ้าสวรรค์ซึ้งประจักษ์
ว่าชีพชนม์ลมหายใจแสนสั้นนัก
รอ..ผู้ภักดิ์เคียงปลอบขวัญนิรันดร์กาล...!
.....................


คริสมาสฝันสวรรค์รอ..

คืนนี้เป็นคืนคริสมาสอีฟ
ทั่วทุกแห่งหนในโลกหล้าหลายประเทศ..
รวมทั้งที่นี่....ประเทศไทย 
เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง


เสียงเพลง..
ไฟพราว ประดับประดา 
ม่านมนตราแห่งความสนุกสนาน
กำลังคลี่หวานผ่านคืนฝันวันสุข 
ที่ทุกดวงใจ
จะได้มาแย้มยิ้มเอมอิ่มเยี่ยมเยือนคนในครอบครัว
ที่ปีหนึ่งบางทีจะมีแค่หนเดียว
ที่จะได้กลับมาพร้อมหน้าพร้อมตากัน
ได้มาร่วมรับขวัญปันแบ่งความสุขสนุกครึกครื้น
ที่แสนจะระรื่นชื่นฉ่ำใจ


และ
ก่อนหน้านี้..นานนับเดือน 
ต้นคริสมาส
จะเริ่มถูกประดับประดาตกแต่งด้วยไฟพร่างพราว
ด้วยของขวัญมากมี
แม้กระทั่งหน้าทำเนียบขาว
ที่ออกข่าวไปทั่วโลก


เป็นประเพณี
ที่ท่านประธานาธิบดี
และท่านสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง
จะต้องขึ้นไปทำพิธีตกแต่งประดับประดาต้นตริสมาสสูงใหญ่
และ
จุดไฟแรกเริ่มนิมิตมงคล
รอวันเฉลิมฉลองพร้อมกันทั่วทั้งประเทศ
เพื่อแสดงความชื่นชมยินดีในวาระ
ที่ปีใหม่กำลังจะเวียนมา


สำหรับ..ผม..คืนนี้
กำลังมุ่งหน้าไปสนามบินดอนเมือง
ให้ทันเที่ยวบินสองทุ่ม
และ
ราวๆสี่ทุ่มกว่าๆ
ผมจะได้สัมผัสสนามบินChanghi ของประเทศสิงคโปร์


แล้ว
ผมจะจับแท๊กซี่   
เพื่อต่อไปยังสถานี Cabel Car 
แล้ว
ข้ามไปยังเกาะเซนโตซ่าที่อยู่ใกล้ๆกัน
เพื่อไปยัง*สถานที่นัดพบ..กับใครบางคน*
ที่ดวงกมลผมหลงรักหลงรอมานานแสนนาน


นะนาทีนี้
ใจผมดวงนิ่งนิ่ง
ดวงดีดีดวงเดิมเดิมดวงดินดิน
ที่เคยรู้รำงับรู้ดับทุกสรรพสิ่งได้

ไม่ว่าสิ่งใดที่มาเวียนกรายมากระทบ
ก็แค่ภายนอกเพียงนั้น
ผมหาได้เคยรับอารมณ์ใดอารมณ์ใคร
ให้มามีอำนาจสิงสถิตในใจให้นานเนาก็หาไม่


แต่แสนแปลกดี
ที่..ในวันนี้
กลับเต้นตึกตั๊กในจังหวะรักแบบแผกพิเศษพิสุทธิ์
ยากที่จะหยุดให้เข้าจังหวะเดิม..


เพียงผมยอมตามใจ 
เพราะอยากเพิ่มความรู้สึกแปลกใหม่ที่แสนดีแสนงาม
ที่นานทีนานครั้ง
 ก็จะทำให้รสชาติชีวิตผมนี้
ที่แสนเงียบเหงา วังเวง
ได้ครื้นเครงได้พลันพาเพริศแพร้ว 
เกินกว่าใจจักรำงับใจได้
จำต้องปล่อยไปเลยตามเลย..เพียงมิให้เกินเลย..แค่นั้นก็คงพอ
ขอแค่สุขเล็กๆบ้างเป็นบางวัน
ฝันเป็นบางราตรี
ทวีความรู้สึกดีดีก็เท่านั้นก็เท่านี้เอง


เสียงหัวใจผมในนาทีนี้
จึงราวบรรเลงเพลงรักยิ่งกว่ารัวกลอง
ที่พูดแล้วก็คงยังน้อยไป

ผมว่า..ราวมีบทเพลงคริสมาสทั้งโลกหล้า
มาบรรเลงกระหึ่มก้องอยู่นะบ้านภายใน
ให้สี่ห้องหัวใจผมแสนระริกระรัวราวแรกรัก..


ผม..พยายามค่อยๆหายใจเข้าออกอย่างช้าช้า
เพียรภาวนาพุทโธ
แต่โอ้ละหนอละนี่ 
ทำไมวันนี้หัวใจดวงดีดวงงาม
กลับไม่ยอมสงบ..โลดเต้นไม่เป็นส่ำเอาเสียเลย


ใช่แล้ว.ละครับทุกดวงใจที่รักที่แสนห่วงใยผม
ได้โปรดเมตตาเข้าใจรับรู้
ให้อภัยหัวใจดวงร้าวดวงเศร้านี้ด้วยเถิดได้โปรดกรุณา
หากรับรู้ว่า
มีบางสิ่งแสนดีที่หวานแสนหวาน
ที่พาให้หัวใจผมปานเปรมปรีย์เอมอิ่ม
และ
เลือกที่จะบินลัดฟ้า
มาตามหา*ปาฎิหารย์รักมหัศจรรย์รักภักดี*
ถึงแดนดินเมืองลอดช่องแดนสิงห์โตพ่นน้ำ


ที่อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
ฟ้าดินจะเมตตาเป็นใจให้ผม
ได้พบยอดดวงหฤทัย
ที่ผมรอคอยเธอมานานแสนนาน
ปานชั่วกัปป์กัลป์เลยทีเดียว


ผม...รอวันนี้มาราวชั่วชีวิต
วันที่พรหมลิขิตสวรรค์บันดาล
ให้ได้มาพานพบเธอ..*นางใจนางในฝัน*


ที่ผมคิดว่าบางที
สวรรค์ส่งฤานรกสาปมาให้ผมกันแน่ละหนอละนี่
ที่ทำให้หัวใจดวงแสนดีสุขสงบ
กลับต้องมาพบทั้งสุขทุกข์ระทม
ตรมตรอมหอมหวาน
คลุกเคล้ากับรักคราวนี้ที่แสนเศร้า
ต้องเฝ้าเพ้อพะวงหลงรอคอย
ราวถูกร้อยรัดรึงด้วยโซ่พันธนาการทางดวงวิญญาญ์



ที่
ผมยอมแพ้
ยอมพ่าย
ยอมถอดใจกายวางไว้แทบเท้าแทบตักเธอ..เสียแล้ว..อย่างสิโรราบ



คืนนี้แล้วสินะ..
ที่ผมจะได้พบกับอัญมณีใจ
ที่ส่องไสวพร่าง
ที่ผมใช้นำทางดั่งเข็มทิศ
ให้มานิรมิตฝัน


มาสร้างพลังปิติเกษม
เพื่อสรรสร้างสิ่งดี
เพื่อคืนกลับให้โลกนี้
อย่างหลอมรวมพลีภักดิ์
อย่างรู้รักเป็นรักเย็น
อย่างคนเหนือโลกย์ 
แม้นจะพบโศกสุขในบางหน


เพราะ
ผมก็ยังไม่พ้นความเป็นปุถุชนคนเดินดิน
ที่ยังต้องรินน้ำตาสังเวยบ้าง
ใช่ว่าลูกผู้ชายจะร้องไห้ไม่เป็น เสียที่ไหนเล่า
หากยังต้องพบรานร้าว
ยังไม่สละเพศออกบวช..ทั้งชีพ..ชนม์..ตลอดไป


หลายปี...
ที่ผม...มีชีวีชีวัน
ภายใต้เงื้อมเงาฝัน ดวงตะวันกระจ่างแห่งจิตวิญญาณ
อันแสนอบอุ่นอ่อนหวานแสนดี

เธอ..ผู้มากมีน้ำใจเมตตาหลั่งริน
ทุกระแสสินธุ์มิสิ้นสาย
*ให้*ผม ด้วยสายใจสายใยรักแสนพิสวาทเสน่หา
ให้
ผม..ที่เพียรหนีเส้นทางรักพันธนา
สู่เส้นทางธรรม..
ต้องมาจบเห่เอาลงตรงแทบตักเธอ..


แต่ช่างเถอะนะ
มันก็ไม่เลวนักหรอก
กับการที่ผมได้บทเรียนในทางโลกย์
บทที่มีชื่อว่าโศกสุขให้นำมาทดสอบใจ..ฝึกฝนจิต
เพียรสอนชีวิตจริง


ให้กมลยอมรับว่า
ทุกสรรพสิ่งคือวิบากเก่าวิบากกรรมวิบากรัก 
จงรีบชดใช้หนี้รักภักดิ์พลี
หากหนีไม่พ้นมาชนเข้าเต็มๆเสียให้หมดสิ้น


กับ
ทุกสิ่งที่เป็นดั่งสัจจะและบทเรียนชีวิต
ก่อนที่ฟ้าจะลิขิตให้ผืนดินกลบหน้า 
เพราะ
ผมคิดว่าประสบการณ์ตรง
จะสอนให้คนคงมั่นหนักแน่นแก้ปัญหา
ทายท้าดีกว่าการหนีแบบหัวซุกหัวซุน..


เมื่อยังมีนวลใจละมุน
ยังต้องการหวานหอมกรุ่น
สร้างความหวังพลังใจ


จากใครสักคน
มาเคียงคู่ใจเป็นคู่ธรรมคู่ทอง
ประคองกันไปจนกว่าชีพจะวายปราณ..
ร่างรานใจร้าวจะแตกดับฝากฝังไปกับธุลีหล้า


หัวใจผม...
จึงราวมีดวงดอกไม้บานตระการหวานหอม
ส่งกลิ่นสะพรั่งรินตลอดเวลา 
หาใช่อย่างที่บางคนบอกไม่..
*ว่ารักคือทุกข์แสนยิ่งใหญ่เกินทานทน*


เพราะ
ผม..พยายามลากหัวใจรักผม
ให้พัฒนาไปในทางสร้างสรร
ใช่คิดฝันแต่เรื่องต่ำกว่าสะดือทะเล 

ซึ่งนั่นหาใช่เรียกว่ารักแท้ไม่
หากคือเนื้อหนังในที่ไม่นานเน่า
หาใช่จะยึดใสสวยได้นานไป
เสียที่ไหนกันหนอเล่าเจ้ายอดดวงใจ


หลายปี
ที่เธอคนดี รักผม..แบบทนรอ
มิพ้อ..มิท้อแท้..มิพ่ายแพ้ใจ

บางครั้ง
ผมแกล้งลวงใจเธอ 
ให้เผลอหวั่นไหวว่า
ผมไม่ไหวแล้วจะลาบวชไม่สึกนะ
ไม่มีวันให้พบเจอ 
อยากรอก็รอเก้อละเมอไปคนเดียว
ให้เหี่ยวแห้งแบบบัวคาบึง
คนเอื้อมไม่ถึงผึ้งตอมไม่ได้เถอะนะ


ผมทายท้า
และ
เพียรพยายามพาตัวหนีเข้าร่มธรรม
ใช้วาจาที่ห้ำหั่น
ให้ฝันเธอค้างเติ่งต่องแต่ง
เหมือนแกล้งให้ช้ำในตาย
วันละหลายหนหลายรอบ
รีบประชดบอกกับเธอไป


เพ้อไปเลยคนดี
เพราะ
รักของเรานี้
ต้องจบลงตรงคำว่าพรากลา 
หามีวันได้พบพานกันไม่


แต่เธอ..ก็ไม่เคยระย่อ 
ราวหลงโง่งมเชื่อมั่นศรัทธา
ในนิยายรักอันแสนหวาน..อันหามีจริงไม่
ในโลกใบใหญ่

ที่นับวันจะยิ่งย่ำแย่
ที่หาคนรักแท้รักจริง
ที่ยากยิ่งกว่าคำงมเข็มในมหาสมุทร
อันแสนสุดลึกล้ำยากหยั่งหา

ราวกับว่า
หลงรอละเมอรอท่าหาค่าคนค่าคำรักนิรันดร์
ฝันหวานได้หวานดีมานานปี
ที่ช่างแสนดีแสนพิลึกผู้หญิงเสียจริงๆเลยเชียว



ผมทน..ลองใจทดสอบจิตไม่ไหว 
จนถึงในวันนี้นาทีนี้ไง
ที่ต้องยอมพ่ายหัวใจอันแกร่งกล้า
ราวอัญมณีเพชรเด็ดดวงของเธอ


ที่พร้อมพลีบูชารัก
ใช้ใจเดิมพันใจ ไม่ระย่อ ไม่หวั่น ไม่หวัง 
และ
ที่ผมรู้..เธอมีเพียงพลังแห่งรัก
กับความหวานละมุน
ที่กรุ่นหอมราวดวงดอกไม้


และ
นั่นแหละคือมนต์มารหวานร้าย
ที่ค่อยๆทำให้ชาย
ยอมตายยอมสยบมานักต่อนักแล้วในแผ่นดิน
 ที่แสนมากมีมิสิ้นในประวัติศาสตร์แห่งโลกหล้า
ที่
ชายชาตินักรบผู้หาญกล้ามาล้านเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ
ยังยอมพลีกับคำรักนี้
ที่ราวโลกต้องคำสาป
ให้ชายหญิงต้องมาหมายมาดพิสวาทกัน
เพื่อสร้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ฤาไฉน



มหัศจรรย์แห่งรัก!

ขุมปัญญาในอณูของดอกไม้
เป็นมนต์ร่ายระบำรอผีเสื้อ
ขุมปัญญาที่ธรรมชาติโอบเอื้อเฟื้อ
คือเหลือเชื่อมหัศจรรย์รักผลักดันมา..

โลกหมุนไปมีธรรมชาติมีทุกสิ่ง
จักรวาลมีสิ่งลี้ลับให้ค้นหา
ไยดวงจันทร์ถึงโคจรรอบโลกทุกวันมา
ไยมนุษย์ต้องเหว่ว้าอาวรณ์ออดอ้อนใจ

เพราะคือมหัศจรรย์รักในโลกนี้
ให้มีดีมีร้ายหรือไฉน
ให้เผ่าพันธุ์มนุษย์สืบทอดไป
เป็นบ่วงใจบ่วงกรรมย้ำโลกเรา

ตัดบ่วงใจตัดเยื่อใยสิ้นสวาท
หมดสิ้นชาติหมดสิ้นกรรมใจเลิกเขลา
ไม่หมุนวนหมุนเวียนใช้กรรมเก่า
ให้ใจเราว่างว่างวางเฉย..เลิกรักใคร! 

..........



หาก
สำหรับผม..รักเธอแบบพิศดาร
ผม..บอกเธอว่า
ระหว่างเรา
แค่มาสร้างตำนานฝันปันพลี
แบ่งสิ่งดีดีงามงามให้แก่กัน


ก่อน
วันที่จะเลิกวนว่ายในวงรัก พากันพ้นพันธนา 
หากให้เป็นธรรมชาติ
อย่าบังอาจฝืนคำประกาศิตลิขิตพรหม

มาตรแม้นถึงจะพบตรมตรอมใจ
ในรักสักเพียงไหน
ก็คงจงเข้าใจ
ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมดาธรรมชาติชีวิต
ราวใช้ลองผิดลองถูกด้วยตนเอง
ในทุกยามกับกาลเวลาเนานานที่ผันผ่านฝากดี


และ
แล้วพยายามหยุด
หาทางออกให้พบเจอ 
มิลอยเก้อในทะเลโลกย์แห่งวัฎฎสังสาร
ให้ยาวนานออกไปอีก


เพียง
แค่มาพานพบ
เพื่อพากันขึ้นฝั่งฝัน 
ใช่พากันจมน้ำตายทั้งคู่แบบดูดำไม่เหลือดี
มีแต่ติดเปลือกตมจมน้ำตาย

 

ผม..คิดมากตลอดทาง
ราวท่องในอากาศวาดวิมานรัก
จนสมาธิกระเจิงกระจายกระจุยไร้สติ
และ
ต้องมารำงับหยุดลงตรงที่
ได้ยินเสียงกัปตันประกาศก้อง
ให้ทุกผู้โดยสารสุภาพบุรุษสุภาพสตรี
เตรียมตัวลงด้วยความปลอดภัย..สบายผิดกันตามอัตภาพ


ยามมาเดินทางท่องเที่ยว
เกี่ยวเก็บประสบการณ์
ใช่..เพียงแค่เตือนให้ระวังมิจฉาชีพก่อนลงบางเมือง
ที่ไม่น่าประเทืองประทับใจเอาเสียเลย


ผม..ยังได้ยินเสียงเธอ
แว่วมาหวานมากับฟ้ากว้างในสายลมหนาว
ก่อนที่ผมจะเดินทางตามมาสมทบ


*คนดี..มาถึงแล้วนะคะ
และ
แวะทายทักเพื่อนเก่านิดหน่อย
กับเดินหาอาหารอร่อยๆทาน 
และไปรำลึกอดีตที่ออชาร์ดโร๊ด 
ที่ราวกับบ้านหลังที่สองก็มิปาน
เพราะอยู่มานานจนเคยคุ้น


ที่รัก..
อย่าห่วงอาการหัวใจรักกำเริบนะคะ 
มียามาค่ะ
และหวังหัวใจคงไม่มาพยศ
ให้มาหมดสุขเจียนตายที่นี่ค่ะ
ในเวลาอย่างนี้
ที่เรารอมาแสนนานนะคะอย่ากังวลค่ะ*


และ
*ได้ข้ามมาเช็คอินรอที่โรงแรมแล้วค่ะ 
ตั้งบนเนินสวยมากอย่างที่เห็นในเนต
อยากให้คุณมาถึงเร็วๆ
จะได้มาเอนอิงพิงกันนั่งดูโค้งอ่าวแสนงาม
ที่ราวสวรรค์สรวงลอยลงมาเยือนโลกหล้าเลยละค่ะ


เมื่อคืน
ออกไปเดินตากน้ำค้าง
หนาวนิดนิด อึดอัดแน่นหน้าอกนิดหน่อยค่ะ
คงเพระาอากาศเย็น
 เลยต้องใส่เสื้อหนาวแทนอกอุ่นๆของคุณไปพลางๆ


แล้ว
ไปนั่งรับความงาม
อย่างดายเดียวลำพัง
ก็แสนสุขสงบดี
ได้ทำใจดวงนี้เริ่มเข้าที่เข้าทางค่ะอิอิ


กลัวเพียงวันที่พบคุณจะเต้นไม่เป็นส่ำค่ะที่รัก
และ
งามไฟพริบพราวราวดาวลอยบนผืนน้ำเลยค่ะ
งามมาก 
หากคุณเห็นต้องบอกว่านี่ไงสวรรค์ สวรรค์!!


ที่
คุณบอกว่าให้จับนิมิตฝันไว้ไงเล่าคะ
หากว่าเราสองยังไปไม่ถึงที่
ที่เราคิดไว้ว่าจะประคองกันไปให้ถึง
ที่ว่างแสนว่าง
งามแสนงามกว่านั้นยังไงล่ะคะ



จำได้ไหม..
ที่คุณบอกว่าหากวันไหนปราณแตกดับ
ให้เรามาจับมือไปพร้อมกัน
*ดั่งคำมั่นสัญญารัก
ดั่งสัจจะเพียรอธิษฐานขอพรพระเมตตา
ให้วิญญาญ์ทั้งสองจะได้ไม่ดายเดียว*
...............
...............



ผม..คิดถึงเธอ..จนกระทั่งนาทีนี้
ที่นั่งอยู่บนรถแท๊กซี่ขึ้นบนทางด่วนเพื่อไปพบเธอ
ผมรักเธอเกินกล่าว
คิดถึงเธอ คิดถึงมาก


และ
ราวกับทุกเรื่องราวกำลังไหลบ่า
ออกมาจากทุกห้วงอณูจิต
ในนิมิตแห่งความทรงจำ
อันแสนงดงามหวานหอม


หลั่งไหลระรินมิสิ้นสายรักสายเสน่หา
ราวกับว่า
คือสายธารศักดิ์สิทธิ์แห่งรักภักดิ์พลีในทุกคำพูดระหว่างเรา
ที่ฝากกันไว้แสนยาวนาน
ผ่านกาลเวลาที่แสนรักเอยแสนรักในกมล


ผม..เป็นห่วงเธอ 
เพราะทราบว่า
เธอมีหัวใจดวงร้าว
ดวงที่
คงเหงาเศร้าสร้อย
แถมยังเป็นโรคหัวใจมาตั้งแต่เกิด


หากวันนึง
ผมพรากลาไกลไปตราบชั่วนิจนิรันดร
ใครกันเล่า
จะเฝ้าทะนุถนอมดูแลห่วงใย


และ
ลึกๆ..ผม..คิดว่าเป็นความผิดผม 
ที่ไม่เคยล่วงรู้มาก่อน
ว่าเธอมีหัวใจอันอ่อนบางเปราะบางเพียงไร
ผมยังไปเติมเพิ่มทุกข์ระทมทับ
ในดวงใจให้เธอมากขึ้นมากเข้าเสียอีก


และ
เธอ
ก็ไม่เคยปริปากบ่น
ได้แต่ทนร้องไห้ๆเงียบๆ
แถมบางทีกลับมาขอโทษผมเสียอีก
ที่
ผม..นี้แสนสงสาร
และยอมยินดีพลีชดใช้
ด้วยรักภักดีตราบวันตาย
และคงหมายถึงอีกกี่ภพกี่ชาติก็ยอม


คนดี..
ไม่กี่นาทีแล้วนะครับ
ผมเตรียมคำรักคำมั่น 
และ
รู้ไหมในกระเป๋าผมมีอะไร
เป็นของขวัญกำนัลรัก
ที่จะพลีมอบตอบแทนน้ำใจงามของคุณ


ผมหวังจะคุกเข่ามอบให้คุณ
แทนวิญญาณรักภักดีดวงนี้

แหวนแต่งงานสองวงของคุณพ่อคุณแม่ผม
ที่ผมเก็บงำไว้ตั้งแต่วันที่ท่านมอบให้
ด้วยคำลาว่า
*คือแทนรักแทนความสัตย์ซื่อ
หากหัวใจลูกมีรักแท้แน่ใจในหญิงใด
นี่คือสิ่งแทนความภาคภูมิปิติใจ


ในความหนักแน่นใจดั่งแผ่นผา
เพชรบนเรือนคือ*อัญมณีล้ำค่า*
แทนค่าคำทั้งสิ้นทั้งปวง

ที่หวังให้สวมรวมรัดร้อย
ให้ทั้งสองยอดดวงใจ
*ดั่งดวงเดียวกัน*ไปตราบชั่วกาลนานนิรันดร์
ที่จักไม่มีวันสลายแม้นความตายมาพรากจาก



คนดี..ผม..รอนาที
ที่ผมจะได้สวมสอดและกอดรัดคุณแนบแน่น
แทนคำรักทั้งปวงระหว่างเรา..
รอผมนะคนดี..ไม่กี่นาทีแล้ว..นะยอดดวงใจ..
................
.................


เขาหลับตาลงช้าๆ
ดวงหน้าแสนหวานเศร้าของเธอลอยวนคว้าง
คล้ายมาสถิตกระจ่างนะกลางดวงใจดวงจิต

ในนิมิตแสนงามเศร้าโศกสะเทือน
และ
ทำไมภาพนั้น
ราวกับเธอกำลังร่ำไห้คล้ายรอท่า
ให้เขามารับจับจูงมือราวกับน้องน้อย
ผู้หลงทางรอพี่ชายที่แสนดี

ภาพตรงหน้า ราวภาพจริง
สิ่งที่เขาอยากจะลืมตาตื่นขึ้นมารับรู้
และจูงมือเธอไปด้วยกันพร้อมกับซับหยาดน้ำตา


หากทว่า
ก่อนที่ทันจะได้ยินเสียงดังสนั่นราวฟ้าผ่า
และ
โลกหล้าราวจะถล่มทลาย..
นานนาที......
...........
............
ก่อนที่
รถที่เขานั่งมา
จะพลิกคว่ำพลิกหงายหลายตลบ
และก่อนที่กระแทกกับราวสะพานจนหยุดนิ่ง
มีเพียงแสงไฟลุกท่วมโชนไปไกลอย่างน่าสยดสยอง


ในมโนสุดท้าย
เขาได้ยินเสียงใครบางคนแว่วมาอย่างลุกลนแสนตกใจ!

*รีบเอาร่างคนออกมา..เร็วเข้า..ช่วยกันเร็ว!*
ก่อนถังน้ำมันจะระเบิด*


สำหรับเขา..
รู้สึกตัวเบา
ราวลอยล่องไปบนฟากฟ้ากว้างอันแสนฉ่ำเย็น
ลมหายใจว่างเปล่า และ
เขาค่อยๆล้วงแหวนสองวงมากำไว้แนบแน่น
อย่างแสนรักแสนอาวรณ์ในอุ้งมือ..
เขาครางเบาๆคนดีพี่จะไปรับ..นะครับรอพี่นะนะ
และ
ก่อนที่ลมหายใจจะปลิดปลิว
ราวกับเขาเห็น
*ภาพพระพุทธองค์ในนิมิต*
ที่ทอดพระพักตร์เมตตามองลงมา
ราวรอรับร่างเขาไว้ในอุ้งพระหัตถ ์แห่งกรุณา
ที่เขาเพียรสมาธิภาวนา
ฝึกจิตจับเสมอมาก่อนวันตายก่อนตาย


และแว่วเสียงทรงพลัง
ที่ราวฟ้าสั่งถึงมั่นภักดิ์ในคำมั่นสัญญาให้ระลึกรู้

*พี่ขอพรพระอธิษฐานจิตทุกคืนวัน
หากวันไหนปราณดับเราสองจะจับจูงมือน้องพี่
ไปพร้อมกันนะคนดีที่แสนรัก..
..........................
............................................


เธอ..งีบหลับไป
ด้วยดวงใจหวั่นหวามราวมีลางสังหรณ์เตือน
และ
ในมโนนึก
 เธอ..
ได้ยินเสียงสุดที่รักราวมากระซิบคำ


ไปด้วยกันนะครับคนดี..พร้อมรึยัง
พี่มาแล้วนะ
ก่อนที่...
หัวใจดวงร้าวดวงน้อยๆ
ราวค่อยๆรับรู้...
ที่


ดูเสมือนเริ่มเต้นเพียงแผ่วเบาอย่างช้าช้า
และ
พลันค่อยๆหรี่แสงตะวันลาแห่งดวงชีวี อย่างเงียบงันสงบงาม
ในท่ามกลางสายลมหนาวบางเบาลำพัง...
ในค่ำคืนที่มีเพียง..ดาวร่ำไห้สังเวย!
ในรักอันแสนงามงดนี้..ที่ยิ่งกว่านิรันดร์รัก

............................
.........................................


คนดี..ที่ไหนจ๊ะนี่ 
พาน้องมาที่ไหน
ไหนบอกจะมารับไปนั่งดูไฟพราวเหนือโค้งอ่าว
รับคริสมาสไงเล่าจ๊ะ


แล้ว
ทำไมที่นี่ถึงงามราวสวรรค์เลยละคะ
แล้ว
นั่นเรือนในฝันของเรานี่คะ
ในฝันที่มีต้นไม้ดอกไม้นานาพรรณหอมฟุ้งกระจายเลย


และ
นั่นงามกว่างามเลยค่ะบึงบัวค่ะคนดี
บัวที่คนดีเคยสัญญา
จะพายพาน้องไปเก็บถวายพระไงคะ


น้องขอบคุณนะคะ
ที่พาน้องมาที่นี่
น้องมีความสุขจังค่ะ
เหมือนสวรรค์วาดไว้เลย
คนดี..
ต่อแต่นี้เราคงไม่พรากกันเล้วใช่ไหมคะที่รัก


ใช่ครับคนดี
เราจะไม่มีวันพรากจากกันอีกแล้ว

มาเราเดินไปดูเรือนรักร่มขวัญ
ของเรากันดีกว่านะ
น้องคงอยากรจนาเล่าให้เพื่อนๆฟังละสินะ
ถึงทุกสิ่งที่นี่
ที่เราได้พบว่ามันมีจริงยิ่งกว่าจริง


สิ่งที่เราเรียกกันว่าความฝันนิรันดร์รัก ปาฎิหารย์รัก
ขอเพียงจักทำความดีพลีเพื่อโลกหล้า
และ
เพียรพลีภักดิ์ให้จิตจับ
รู้รักษาคำมั่นสัญญารัก
ให้รู้หนักแน่นมั่นคงสัตย์ซื่อถือตรงต่อกัน
อย่างไม่หลงโลกย์


แล้ว
ทุกสิ่งที่แสนงาม
จะตามมารอท่าทุกดวงใจ
เช่นเฉกเดียวกันกับเราครับ..คนดี..
ยอดดวงใจในหฤทัยแสนรัก!


...........................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song14.html

เธอ มาจากไหน เธอจะเป็นใคร
ฉันไม่เคยคิด รู้ แต่บัดนี้ เธอมาสถิตย์
มาอยู่ใกล้ชิด ในดวงใจฉัน
เธอมาจากไหน จากดินผืนใด
หรือจากสวรรค์ ฉันก็จะรัก
รักเธอเท่ากัน ไม่เคยจะหวั่นแม้คำนินทา
คนเดียวเท่านั้น ในชีวิต
คนเดียวสนิท แนบ อุรา
คนเดียวที่ฉัน บูชา 
ยอดปรารถนา คนเดียวในโลก
เธอ มาจากไหน เธอจะเป็นใคร
ฉันถือเป็นโชค แม้รักเธอแล้ว
ฉันต้องเศร้าโศก เป็นคนโชคร้าย
ในโลกก็ยอม

คนเดียวเท่านั้น ในชีวิต
คนเดียวสนิท แนบอุรา
คนเดียวที่ฉัน บูชา 
ยอดปรารถนา คนเดียวในโลก
เธอมาจากไหน เธอจะเป็นใคร
ฉันถือเป็นโชค แม้รักเธอแล้ว
ฉันต้องเศร้าโศก เป็นคนโชคร้าย
ในโลกก็ยอม...

.....................



http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song6020.html
MY HEART WILL GO ON   


Every night in my dreams
I see you, I feel you
That is how
I know you go on
Far across the distance
and spaces between us
You have come to show you  go on
Near, far, wherever you are,
I believe
that the heart does go on
Once more,
you open the door
And youre here in my heart,
And my heart will  go on and on
Love can touch us one time
and last for a lifetime,
And never let go till
were gone
Love was when I loved you,
one true time I hold to
In my life well always go on
Near, far, wherever you are,
I believe
that the heart does  go on
Once more,
you open the door
And youre here in my heart,
And my heart will go on and on
  
Youre here,
theres nothing I fear,
And I know that my heart will
go on
Well stay forever this way,
You are safe in my heart and
my heart will go on and on...

 

				
28 พฤศจิกายน 2549 18:08 น.

ณ..วันนี้..!

พุด


ฝนโปรยสายมาหยาดเย็น
ฉันนั่งในกระท่อมดูละอองฝนพราย
ต้นไม้พลิกพลิ้วรับลีลาวสันต์

ดอกไม้ในใจฉัน
ก็พลันพลอยผลิกลีบตระการ
หวาน หวาน  หวาน..อย่างบรรเจิดบรรจง...


ฤดูกาลผ่านมาผ่านไป....
เป็น*ปีทองอันแสนสุข*ยิ่งใหญ่ 
มาปลอบดวงหฤทัยขวัญ
ให้มีวันชื่นคืนสุขประโลม
เพื่อ..
เลือนลบรอยช้ำ..ลืมระกำระทม
ให้ใจดวงหมองไหม้ระบมลึกล้ำในบึ้งใจ
ได้...
พลอยใสสว่างกระจ่าง..จรัสช่วงโชติชัชวาลย์
ปานประหนึ่งเพชรรุ้งรุ่งพราวพร่าง
ด้วยพลังแห่งปาฏิหารย์รักมหัศจรรย์รอ...


ฉัน..หอมหอมอวลกลิ่นลั่นทม
ที่...กำลังพรมดวงดอกปลิดปลิวลิ่วลอยลงมา
ประดับพื้นพสุธา
ซึ่ง..
ดูราวกับความเศร้าตรา
จักลาเลือนเสมือนลั่นทมในยามนี้

ดวงดอกรัก ดอกภักดิ์ 
กำลัง..ผลิช่อแตกละออจากกอใจ
เป็นดอกแห่งความหวามไหว 
ในทุกเสน่หาทิวาวัน
ที่.....
พรหมสรรสวรรค์ส่งเทพบันดาล.....!
............................



ทิวาหวานวันนี้ชีวีขวัญ
ดั่งตะวันนำทางใจส่องไสว
ดวงดอกรักบานตระการกลางลานใจ
คือปาฏิหารย์ภักดิ์ยิ่งใหญ่ใจดวงนี้

ดอม ดอม หอม หอมรอยที่รัก
สุขสลักภิรมย์ตราบชีพนี้
เปิดประตูให้ยอดดวงใจก้าวล้ำมาในชีวี
คล้องฤดีด้วยกุญแจธรรมล้ำค่างาม....!
.....................



http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4258.html
ณ.วันนี้ 

ญ .....ดังมี สิ่งใดมาดลใจฉัน
ดังใจ โอ้เอยเฝ้าคอยเธอนั้น
นานแสนนาน ฮืม
จึงมาเจอกัน
คล้ายบางสิ่งผูกพัน
ร้อยใจเราร่วมกัน
ช .....ดังมี สิ่งใดมาดลใจฉัน
ดวงใจ โอ้เอย มีเพียงเธอนั้น
นับวัน ฮืมจนแรกเจอกัน
ใจฉันเพียงต้องการ แต่เธอตลอดมา
ช.... ฝากคำสัญญา ฝากวาจา
รักเธอไม่เสื่อมคลาย
ญ ....หมื่นพันสัญญา
ร้อยวาจา หนึ่งเดียวที่เข้าใจ
ช .....รอคอย ผ่านวันเนิ่นนานเพียงไหน
ญ ....คืนวัน ผ่านไปไม่มีความหมาย
พร้อม นับวันนี้เธออยู่ภายในใจ
และหวังเพียงได้ครอง
รักจนตราบนานตลอดไป

ช .....ฝากคำสัญญา ฝากวาจา
รักเธอไม่เสื่อมคลาย
ญ ....หมื่นพันสัญญา
ร้อยวาจา หนึ่งเดียวที่เข้าใจ
ช ....รอคอย ผ่านวันเนิ่นนานเพียงไหน
ญ ....คืนวัน ผ่านไปไม่มีความหมาย
พร้อม นับวันนี้เธออยู่ภายในใจ
และหวังเพียงได้ครอง
รักจนตราบนานตลอดไป
นับวันนี้เธออยู่ภายในใจ
และหวังเพียงได้ครอง
รักจนตราบนานตลอดไป... 
 
				
25 พฤศจิกายน 2549 15:18 น.

ก้าวรัก..ในรอยใจ..!

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song45.html
บุพเพสันนิวาส..


จันทร์เสี้ยวทอดวงอ่อนหวาน
ดารารายกระพริบระยิบระยับประดับราวฟ้า
สองฟากฝั่งถนนคือดงหญ้า
ที่มีดงตาลเคียงขนานคันนาสองฟากฝั่ง
ที่แลเห็นนาข้าวสุกปลั่งสุดลูกหูลูกตา
และ...
มีบึงบัวขุดไว้พร้อมเลี้ยงปลานานาพรรณ 
ในท่ามกลางดงไม้...
ต้นไม้ไทย ดอกไม้ไทย
ที่เขียวสด หอมพร่างหลังสายวสันต์ละหลั่งริน


ไหนจะมีสวนผลไม้รายรอบล้อม
แถมมีเสียงไผ่กอซัดส่ายเสียดสีซู่ซ่าๆรับแรงลม
คล้ายกับว่าจะยินดีต้อนรับทุกแขกผู้มาเยือน..


ผมกำลังขับรถ 
ด้วยดวงใจดวงหมดจดแสนสงบสุขอย่างที่สุด
เพื่อ*ก้าวตามรักในรอยใจ*
ตามรอยยอดดวงหฤทัย ของผม

*ผู้หญิงที่สวรรค์สรรส่งลงมา*
เพื่อ..
ให้มารอท่าผม รอคืนฝันวันสรรสร้างภารกิจร่วมกัน
ภารกิจทั้งทางโลกย์ทางธรรม 
ราวคู่ขวัญเคียงใจกันไปจนตราบชีพวาย
ผู้หญิงที่มีวงหน้านวลละม้ายคล้ายดั่งนางในฝัน 
ที่....
ผมไม่เคยนึกฝันจะได้พบเจอ
หลังละเมอเพ้อหามานานปี
ผู้หญิงที่ ผมใช้ใจเดิมพันใจเพียงนั้นถึงได้มา
ผู้หญิงที่ดูราวดายเดียวเหว่ว้า
ทว่า....แสนจักมีจิตใจอันเข้มแข็ง
เด็ดเดี่ยวเป็นที่สุด..


ผู้หญิงที่สามารถหยุดโลกให้เลิกหมุนได้ชั่วขณะ
ยามเธอร่ายบทกวีด้วยลีลาเร้าใจ
ผู้หญิงชาวไพรที่แสนดูติดดิน 
ใช้ชีวินอย่างแสนเรียบง่ายธรรมดา

ผู้หญิงที่รักท้องทุ่งนา ป่าเขาลำเนาไพร
รักแสงเทียนวับแวมรำไร รักสายฝนปรายโปรย
รักโรยร่วงปลิดปลิวละลิ่วลอยคว้าง
ของมวลใบไม้ในราวป่าและรักไม้ดอกนานาพรรณ
และ..
ที่สำคัญเธอผู้มีความฝันแสนยิ่งใหญ่สวยงาม
เธอ..ที่ผม ยากจะหานิยามใดมาวางเทียบได้เทียม
นอกจากคำว่า..รักเธอ และรักเธอ เสียเหลือเกินแล้ว


เสียงเพลงในรถ 
กำลังบรรเลงแผ่วแว่วหวานคลอเคล้า
ด้วยท่วงทำนองอันแสนโอบเอื้ออ่อนโยน
พาให้..
หัวใจดวงพิสุทธิ์ของผมยิ่งแสนผ่องแผ้วพราวพร่าง
ด้วยความอบอุ่นอิ่มเอม เปรมปรีย์อย่างที่สุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song45.html
บุพเพสันนิวาส 

เมื่อคิดให้ดีโลกนี้ประหลาด
บุพเพ สันนิวาส ที่ประสาทความรักภิรมย์
คู่ ใคร คู่ เขา รักยังคอย เฝ้าชม
คอยภิรมย์ เรื่อย มา
ขอบน้ำขวางหน้า ขอบฟ้าขวางกั้น
บุพเพยังสรรค์ประสบ ให้ได้สบ พบรักกันได้
ห่าง กัน แค่ ไหน เขาสูงบัง กั้นไว้
รักยังได้ บู ชา
ความ รัก ศักดิ์ ศรี รักไม่มี พรหมแดน
รักไม่มี ศาสนา
แม้น ใคร บุญ ญา ได้ ครอง กันนา
พรหม ลิขิต พาชื่นใจ
รักเหมือนโคถึก ที่คึกพิโรธ
ความรักเช่นนั้นให้โทษ
จะไปโกรธ โทษรักไม่ได้
ไม่ ใช่ บุพ เพ สันนิวาส แน่ไซร้
รักจึงได้ แรม รา

ความ รัก ศักดิ์ ศรี รักไม่มี พรหมแดน
รักไม่มี ศาสนา
แม้น ใคร บุญ ญา ได้ ครอง กัน มา
พรหม ลิขิต พาชื่นใจ
รักเหมือนโคถึก ที่คึกพิโรธ
ความรักเช่นนั้นให้โทษ
จะไปโกรธ โทษรักไม่ได้
ไม่ ใช่ บุพ เพ สันนิวาส แน่ไซร้
รักจึงได้ แรม รา... 
 


ผม..หยุดรถ ริมทางท่ามซอยเปลี่ยว
ที่จันทร์รูปเคียวราวนาวาทอง 
กำลังลอยล่องท่องไปในทะเลเมฆ
ที่แสนวิเวกเงียบงาม ปานประหนึ่งสวรรค์สรวง
ประดับด้วยดาวรายเรียงดวง
ดั่ง....
รวงดาวนับหมื่นแสนแขวนฟ้าระยิบระยับ
ช่างแสนงามจับตาจับใจ...


ณ..เบื้องหน้าผม
คือ...
 กระท่อมหินหลังใหญ่  
ซ่อนตัวอยู่ในดงไม้ไทยไพรพฤกษ์
ที่...
แสนเงียบงาม 

ผมเห็นแสงเทียนทอทอดลอดออกมา
จากบานหน้าต่างและประตูกระจกที่จรดถึงพื้น


ผม..ถึงกับแทบล้มทั้งยืน
ตะลึงอึ้งอั้นราวฝันไปอีกคราครั้ง
เพราะนี่คือกระท่อมในฝันของผมเอง
ที่...
ผมเคยบรรเลงบอกไอเดีย
อันแสนบรรเจิดพริ้งเพริศเอาไว้ให้เธอได้รับรู้และ
เธอก็รู้ว่า ...
จักเป็นเรือนหอรวงรังแห่งรักของเรา

เธอ..ที่กำลังบอกใบ้...
ให้ผมมาตามหาลายแทงแห่งรักแท้นิรันดร์
มาตามฝัน 
ที่...
เธอบอกว่าพลันจะพบสิ่งมหัศจรรย์อันแสนยิ่งใหญ่
อย่างที่สุดในชีวิตหนึ่งนี้ของผม


กระท่อมหิน..ก่อด้วยอิฐเก่า 
แฝงตัวสงบนิ่งเงียบงาม 
ในท่ามกลางพันธุ์ไม้เลื้อยที่กำลังเปลือยช่อดอกหอม
เหนือโค้งขอบประตูไม้บานใหญ่ราวโรงนา
ที่...
ผมต้องรีบพาตัวเองผลักเข้าไป
สำรวจดูสภาพโครงสร้างภายในแล้วถึงกับตะลึงงัน
ฝันแทบปลิดปลิวย้อนยุคสู่..*ศตวรรษที่18 ตามบ้านแบบทัสคัน*
ที่ก่อด้วยหินทั้งก้อน..
ให้กระท่อมนี้ดูงาม
ราวกระท่อมรักกระท่อมฝันอันแสนหวานแสนสงบสุข


กระท่อมที่...
หลังคามุงสวยด้วยแผ่นไม้เรียกว่า*แป้นเกล็ด*
ให้เข้ากับสภาพดงไม้ไทยรายล้อมหอมหวาน

กระท่อม...
ที่เพดานสูงตระหง่าน 
งามด้วยโครงเคร่าไม้ธรรมชาติกลมกลึงหนาหนัก
รับกับระเบียงเดินไปสู่ห้องนอน 
ที่มี..
ราวจับราวโรงละคร โรงโอเปร่า..
หากมองลงมา..จะเห็น..โถงกลางโล่งว่าง.
ที่งามสล้างส่องประกายเติมความอ่อนหวาน
ด้วยพื้นหินโบราณแผ่นโตระยิบ..ดิบเดิม..


มีเตาผิง..ก่อไว้ยามเข้าไต้เข้าไฟ..
ให้มีบรรยากาศ..วูบๆไหวๆ
ไปตามเปลวไฟในอารมณ์รักอารมณ์โรแมนติก
จากเสียงแตกปะทุและกลิ่นไม้ฟืนหอมๆ

มีห้องอ่านเขียนหนังสือ
ที่โต๊ะ  ชั้น หิ้งวางหนังสือ
ทำจากไม้กระดานจากสะพานเก่าทั้งแผ่น
ดูดิบดิบแบบธรรมชาติ..
อันอ่อนหวานตามอย่างชนบทหมดจดใจ..


โคมไฟ..ระย้า
หากทว่าแปลกตางามระยิบระยับจับใจ
ด้วยมีที่วางเชิงเทียนให้พร่างไหวนับร้อย
จากโครงไม้ผสมเหล็กอ่อนช้อย 
ด้วยรายละเอียดแกะสลัก
ลายผีเสื้อเกาะกลางเกสรกลีบดอกไม้เริงร่ายระบำเริงร่า
.............



และ...
นาทีนี้..
น้ำตาผมกำลังละหลั่งริน อย่างไม่สิ้นสาย
อย่างไม่อายฟ้าดินอย่างสิ้นความทรนง
อย่างที่...
ลูกผู้ชายที่พึงได้รับความรักหนักแน่นมั่นคง
มาอย่างยาวนาน 
ให้ก้าวพ้นล่วงผ่านทุกข์อุปสรรค
ที่จักควรพลีสังเวยให้กับแม่ยอดรัก*หนึ่งเดียวในดวงใจ*


ผม...ค่อยๆสกดกลั้นความปิติโสมนัส
แล้วค่อยๆผลักบานประตูไม้สักเข้าไป
ณ..ภายในห้องนอน..
ที่มีเตียงตรงกลางตั้งวางไว้
อย่างเด่นสง่าภายใต้ยอดโดมดั่งปิระมิด 
ที่นิรมิตออกแบบ
ให้มองเห็นเพดานดาวพราวพร่างฟ้า
เต็มอ้อมฟ้า...อ้อมฝันฝันฝัน...

ผม...รู้ดี..ว่านาทีนี้จักไม่มีร่างเธอ ดั่งคำมั่นสัญญา
ดั่งสัจจะวาจาที่ให้ไว้
หาก..ระหว่างเรา..
นี่คือวิมานรักวิมานฝันที่มาปันแบ่ง
ให้โลกแล้งไร้ยังมีความสดชื่นอภิรมย์...


ผม..นั่งลงตรงที่นอน...
ที่มี...ปลอกหมอนสีขาวนวลนุ่ม
ยังมีรอยบุ๋ม..
ราวเธอเพิ่งลุกจากไปไม่กี่นาทีนี้
ทิ้งกลิ่นหอมละมุน ของดวงดอกลีลาวดี
ที่...
แสนเศร้าซึ้งไว้ให้ผม...ค่อยๆเอื้อมมือ
ไปคว้าหมอนมากอดแทน..
ไว้อย่างแนบแน่นแนบอก
ด้วยอ้อมแขนอ้อมใจนี้เฝ้ารักรอ..มาแสนนาน


ผม..ทิ้งตัวลงนอนขวางไปตามเตียง
แล้ว...
ค่อยๆหลับตา
และ....
ในมโนปรารถนา
ราวกับว่า...ผมคือมัจฉา
ที่...
กำลังแหวกว่ายในทะเลแห่งว่ายเวิ้งฝันนิรันดร์รัก
ที่มี...
เธอเคียงข้างอย่างมิอ้างว้างใจ...ไปตราบชั่วกาล.....!!!!




				
19 พฤศจิกายน 2549 22:30 น.

มายา..สะท้อน..!

พุด

2812596920093489037XQHLRL_ph.jpg
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1873.html
โลกแห่งความฝัน


ดึกดื่นดายเดียวบนทางฝัน
เสี้ยวจันทร์แรมใจลอยคว้าง
เงาเมฆเทาทึมทอดวาง
อ้างว้างร้างไร้คล้ายมายา

รักรอมานานชั่วกาลกัปป์
เนานับนานนึกห่วงหา
เหลียวไปไหนเล่าเจ้าดวงตา
เหว่ว้ามีเพียงเงียบสะท้อน

ทอดทิ้งทุกข์ทนวนรัก
ทายทักสัจจธรรมสอน
ยึดใดใครได้เฝ้าอาวรณ์
แค่ฉากตอนละครโลกย์ชีวี

ผ่านมาผ่านไปเท่านั้น
กี่ฝันกี่โศกชีพนี้
กี่ลมหายใจสิ้นไปทบทวี
ก็แค่นี้แค่นั้นมนุษย์..!
...................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1873.html
โลกแห่งความฝัน 

เมื่อชีวิต ยังรักที่จะฝัน
และบอกกับใจ ทุกวันที่ผ่านมา
ด้วยปีกแห่งฝัน จะโบยบินไปถึงฟ้า
หวังจะไปให้ถึงในซักวัน
กว่าชีวิต จะพ้นไปอีกวัน
อีกกี่ความฝัน ที่ฉันจะไขว่คว้า
อีกกี่คำถาม ที่รอคอย การค้นหา
แล้วถึงรู้ว่ามัน ไม่มีจริง
โลกแห่งความจริง
ฉันเป็นเหมือนคนตาบอด
โลกแห่งความฝัน
ฉันมองเห็นวันสดใส
แต่ในวันนี้ โลกแห่งความฝัน
ทอดทิ้งฉัน ไปไหน
โลกไม่สดใส เหมือนวันก่อน
กว่าจะรู้ ชีวิตคืออะไร
กว่าจะรู้ หัวใจคงอ่อนล้า
เฝ้ารอความฝัน
ให้ตกตะกอนช้า ช้า
เพื่อให้ฝันชัดเจน และเป็นจริง

โลกแห่งความจริง
ฉันเป็นเหมือนคนตาบอด
โลกแห่งความฝัน
ฉันมองเห็นวันสดใส
แต่ในวันนี้ โลกแห่งความฝัน
ทอดทิ้งฉัน ไปไหน
โลกไม่สดใส เหมือนวันก่อน
กว่าจะรู้ ชีวิตคืออะไร
กว่าจะรู้ หัวใจคงอ่อนล้า
เฝ้ารอความฝัน
ให้ตกตะกอนช้า ช้า
เพื่อให้ฝันชัดเจน และเป็นจริง... 
 


เงียบสะท้อน..


จากหนังสือบ้านภายในเงาภายนอก.
เขียนโดยคุณโกศล กลมกล่อม
กวีร่วมสมัยเจ้าของรางวัลสมาคมภาษาและหนังสือแห่งประเทศไทย
พ.ศ2532 และ2542
รางวัลรวี โดมพระจันทร์ และรางวัลลมหายใจกวีพ.ศ2534
เข้ารอบสุดท้ายรางวัลซีไรท์พ.ศ2535 2538 และ2541

กวีที่พุดพัดชาชื่นชมศรัทธาในคำ
ในความงามสมถะเรียบง่ายที่เป็นตัวตนอันแสนยิ่งใหญ่ค่ะ
จึงพยายามนำมาถ่ายทอดเพื่อแบ่งฝันแบ่งสิ่งอันสวยสดงดงามนี้ที่ก่อเกิดงามพร่างสว่างกลางใจ..ดวงน้อยนิดนี้..นะคะและ
ด้วยรักทุกดวงใจไทยโพเอม
หวังเป็นแรงบันดาลใจค่ะ
..........
 

ผมกลับมาสวนโมกข์ปลายเดือนพฤษภาคม 2540
ใบไม้แห้ง กระจัดกระจายบนทางเดินใต้ดงไม้
ผมเดินตามทางที่เคยผ่าน
ต้นไม้น้อยเติบโตเป็นต้นใหญ่..
มีคนบอกว่าเสียงของต้นไม้สอนมนุษย์ให้เข้าใจชีวิต

แดดอุ่นยามเย็นลอดช่องว่างของกิ่งใบ ลมอ่อนผ่านบางเบา
แดดสีทองอยู่เบื้องหลังภูเขา ก้อนเมฆสงบวางที่ขอบฟ้า
ผมหยุดยืนกลางลานกว้าง ก้อนหินและกรวดทรายนิ่งฟังคนเดินทาง
ไม่เคยร้องสิ่งใด

ผมกลับมาที่นี่เวลาเดิมทุกปี เดินรอบสวนโมกข์จนทั่วทุกครั้ง
มีความเปลี่ยนแปลงรอบตัว ไม่มีสิ่งใดดำรงอยู่ถาวร..
ต้นไม้ ท้องฟ้า แม้แต่กรวดทราย

จนวันนี้ ผมเข้าใจสิ่งที่ท่านพุทธทาสภิกขุกล่าว  เดินดูเสียให้ทั่ว
เมื่อผมได้เดินท่องไปในจิตวิญญาณของตน เฝ้าดูความเปลี่ยนแปลงของชีวิต
แต่ละขณะ ทั้งความทุกข์ และความสุข

ผมยืนอยู่ ณ..สถานที่เผาสรีระของท่านพุทธทาสภิกขุ ต้นไม้ใหญ่รอบด้านน้อมลงเคารพ
ความรักความศรัทธาแผ่ทั่วความรู้สึก ขณะที่ผมคุกเข่ากราบตรงพื้นทราย
ภาพวัยเยาว์ปรากฏ ต้นมะขามหน้าบ้านเงาของบ้านทอดลงอบอุ่น
รอยยิ้มของย่าที่มีต่อหลานคนเล็ก ผมเคยพูดว่า..ถ้าเรารวยเราคงมีความสุขมากกว่านี้
เสียงย่าตอบเบาๆ
เราอยู่กันพร้อมหน้าอย่างนี้ หิวบ้าง อดบ้าง เราก็มีความสุข
แล้วเคราสากของพ่อสัมผัสแก้ม แม่ถือไม้เรียวเรียกมากินข้าว ผมแอบออกไปวิ่งเล่นนอกบ้าน

ภาพท้องนากว้างใหญ่ แว่วเสียงกระดึงของวัวควาย ผมเป็นเด็กน้อยวิ่งริมคันนา
รอยผืนดินแตกระแหงเหมือนรอยย่นบนใบหน้าของตาและยาย เมฆฝนทะมึนเหนือเทือกเขา

ต้นไม้ใหญ่น้อยทั่วขุนเขายืนอ่อนน้อมท่ามกลางพายุใหญ่จนสงบ
สายน้ำคือความห่วงหาอาทร เฝ้าเดินทางจนถึงทะเล แสงตะเกียงจากเรือประมงติดขอบน้ำ
เมื่อฟ้าสางเด็กน้อยวิ่งไปช่วยพ่อยกปลาลงจากเรือ

ผมเดินทางมาสู่เกาะ พบกับ วรรณะ เพื่อนผู้รู้จักกันคราวที่เขาเดินทางมาส่งพระรูปหนึ่ง
กลับสวนโมกข์ ผมอาศัยบ้านพ่อและแม่วรรณะบ้าง วัดร้างบ้าง ผมอาสาเป็นครูสอนหนังสือ
ในโรงเรียนเล็กๆ ซึ่งอยู่ใกล้กัน เสียงร้องเพลงของเด็กเป็นเสียงเดียวกับคลื่น
วันที่จากลาไม่รู้เหงื่อหรือน้ำตานองบนใบหน้า

ความรักทำให้เรามีความสุข ความรักหล่อเลี้ยงหัวใจให้อยู่ในโลกอันเปล่าเปลี่ยว
จนคราวเราจากกัน ความทุกข์สอนผมให้เข้าใจความรักที่แท้ ความรักที่สรรพสิ่งมีต่อชีวิต
และชีวิตมีต่อสรรพสิ่ง ประดุจสายใยอันอบอุ่นคล้องวิญญาณเป็นหนึ่งเดียว

ชีวิตไม่เคยหยุดทำหน้าที่ และชีวิตไม่เคยมีวันหยุด ชีวิตหนึ่งสอนอีกชีวิตหนึ่งให้เข้าใจชีวิต

ผมกราบพื้นทรายเป็นครั้งที่สอง ใบไม้ร่วงสู่พื้น ผมเงยหน้าขึ้นเห็นฝูงนกพากับบินกลับรัง 
ลูกนกบินทันฝูงแล้ว ผมเคยเป็นนกหลงฝูงกลางป่าเปลี่ยว เป็นนกแปลกหน้าในเมือง
เวลานี้ผมรู้สึกเป็นเช่นเดียวกับท้องฟ้า อ้าแขนรับความเปลี่ยนแปลง

โลกนี้ไม่มีสิ่งใดดำรงอยู่ถาวร ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงเสมอ ทั้งตัวเราและผู้อยู่รอบข้าง
เมื่อวันที่ย่าจากไป ผมนั่งอยู่กับย่าจนลมหายใจสุดท้าย คืนวันที่พ่อจากไป
ผมเห็นรอยยิ้มของพ่อจนตื่น และวันที่ท่าพุทธทาส ภิกขุ อาพาธ
อยู่โรงพยาบาลประจำจังหวัด ผมเดินทางมาทันขณะลูกศิษย์พาท่านกลับสวนโมกข์

แปลกใจที่เราจากกัน แต่คล้ายเรายังอยู่ใกล้กัน อยู่พร้อมหน้ากัน 
ความคิดเหมือนเดินทางมาในความเงียบ สะท้อนภาพแล้วภาพเล่า ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ทุกวินาทีผ่านไป ทำให้เราเข้าใจภาพต่างๆมากขึ้น เข้าใจชีวิตชัดเจนขึ้น

ฟ้าเริ่มมืด เสียงจักจั่นเรไรดังทั่วในความเงียบ เวลานี้ความเงียบและเสียงกลับไม่ขัดแย้งกัน
กลายเป็นหนึ่งเดียวกัน

หน้าผากของผมสัมผัสพื้นทรายเป็นครั้งสุดท้าย น้ำตาอันมิอาจห้ามเอ่อขึ้นมาด้วยความรู้สึก
ศรัทธาต่อทุกสิ่งมีค่าที่ผ่านมาและสอนผมให้เข้าใจชีวิตในวันนี้...........


เงียบสะท้อน


เคยอยู่เดียวท่องเที่ยวไหม
มองไปทั่วทางช่างเงียบเหงา
เพื่อนเพียงเสียงใจสั่นไหวเบา
เป็นเงาติดข้ามความลำเค็ญ

ค้นหาสาระไร้สาระ
ราวจะคว้าได้กลับไม่เห็น
ถอนใจ สายธารกลับผ่านเย็น
 ปลาเป็นว่ายทวนได้ปลาตายลอย

                           
แล้วเสียงเพียงแผ่วผ่านแว่วอยู่
เหลียวดูใบพลิ้วใบปลิวผล็อย
บ้านเก่าเช้าใหม่ใจเคยคอย
แง้มน้อยหน้าต่างอย่างรีบรน

เงียบฟังความเงียบ เงียบสะท้อน
โลกย้อนโลกแสดงทุกแห่งหน
ใจย้อนยินใจเข้าใจตน
ชัดจนเปิดกว้างกระจ่างชัด


มอบให้..คนดีในดวงใจ..
ที่หวังเป็นพลังอันยิ่งใหญ่สร้างงามในดวงใจ..
ไปสู่ฝัน..สู่ดวงดาว..สู่สายรุ้งประดับราวใจไปชั่วกัปป์กาล..
และระหว่างเรา..เงียบสะท้อนงาม..ใจถึงใจ..ไม่มีคำว่ากาลเวลา...

ให้...
เชษฐภัทร ...ด้วยรักและอยากแบ่งปัน..
เพื่อสรรสร้างงานงามในโลกบรรณพิภพ
พี่พุด..
				
16 พฤศจิกายน 2549 15:12 น.

ความสุข..มีปีก..!

พุด

3234_b1_061014000828.jpg
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song293.html
หนี้รัก

แล้ว..
ปาฏิหารย์รักมหัศจรรย์รอ เรื่องราวระหว่างเรา
ที่แสนยิ่งใหญ่งดงาม
จะเริ่มต้นตรงไหนดีเล่า..เจ้ายอดดวงหฤทัย

กับวันนี้...
วันที่ฟ้าสีทองผ่องไสว ใจแสนเกษมกระจ่างสว่างเย็น
ท่ามทุกนาทีหัวใจเต้นเสียเหลือเกิน

วันที่ทุกอณูแห่งเลือดเนื้อ จากจิตวิญญาณแลร่าง
ช่างเอิบเต็ม อิ่มเต็มเสียนี่กระไร

หลังพ้นผ่านพายุทุกข์เข็ญ อันแสนโศกสะเทือน
เสมือนแทบล้มประดาตาย


หากจิต..ของมณีดวง ดั่งรวงเพชรพร่างพราวแพรวพราย
ฤาจักยอมพ่ายก็หาไม่...!

ผ่านคืนฝันวันเหน็บหนาวแห่งชีวิต
เพียงเพียรอธิษฐานจิตสร้างกุศลทานทำความดี
พลีให้โลกแลฟ้าดินสิ้นทั้งอินทร์พรหมได้รับรู้ เมตตา

ใจดวงรานร้าวเหว่ว้า อ้างว้าง
ราวหลงทางกลางทะเลโลกย์โศกลำพัง
มองมิเห็นฝั่งฝัน รอ...


หากหัวใจดวงทองดวงธรรม ก็มิเคยท้อ
ขอเพียงสร้างสิ่งดี 
พลีสะสมเสบียงบุญสร้างทุนธรรมทาน
หว่านโปรยแด่ผู้ทนทุกข์ยาก 
หากมีโอกาสแม้นเพียงสักเล็กน้อย
ค่อยๆทำ ระรินร่ำหยาดน้ำค้างใจ 
พร่าง*หอมให้*  ใส่อย่างไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทน


ขอเพียงให้โลกแล้งไร้นี้ 
ยังมีคนดีต่อเติมเพิ่มขึ้นอย่างไม่รู้สิ้นรู้จบให้ยิ่งทบทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูน*พลังแห่งแผ่นดิน*

ณ..วันนี้ มณีดวง จึ่งมานั่งนิ่งๆริมฝั่งฝันเจ้าพระยา
ภายใต้ร่มเงาของลีลาวดี
ที่ต่างกำลังพากันปลิดปลิวโปรยปรายไปทั่วทั้งพื้นหญ้า

ให้ดอกสีขาวนวลเหว่ว้า
พาให้ได้สัมผัสดายเดียวอย่างล้ำลึก


อย่างตรึงตรา
ราวกับว่าธรรมชาติกำลังสอนสัจจธรรม
ว่า....
ไม่ว่า ความสุข ฤา ความทุกข์ ล้วนมีปีก
พร้อมจักโบยบิน 
หาก..
ใจดวงงามรู้ถวิลวางทุกข์ทุกสรรพสิ่งรายล้อม
อย่างไม่ยึดมั่นถือมั่น

และ...

เรียนรู้ปันแบ่ง...เอื้อโอบฝัน

ตราบจนกว่า...วันลมหายใจแสนสั้นจักสิ้น...!!

.....................


ความสุขมีปีก...

ความสุขติดปีกสีขาว
พร่างพราวรายล้อมเจ้าจอมขวัญ
ทายทักแย้มยิ้มแบ่งปัน
โอบฝันเอื้อสุขทุกข์มลาย

จูบแก้มเกศเกล้าเจ้ายอดรัก
พิมพ์พักตร์ผุดผ่องปองหมาย
พริ้มเพราเงาขวัญละม้าย
คลับคล้ายสองร่างพร่างงาม

โลกตรงหน้าฟ้าเฝ้าดูเป็นสักขี
พธูเทวีงามเกินใครในโลกสาม
พรหมพลีพรอย่างอ่อนโยนเฝ้าติดตาม
ในนิยามปาฏิหารย์รักนี้ที่เฝ้ารอ

นับแต่นี้ราตรีกาลที่มืดมิด
สู่อรุณรุ่งแห่งชีวิตอธิษฐานขอ
ในอ้อมโอบแห่งรักมหัศจรรย์รอ
ดั่งสายใจถักทอคล้องจิตขวัญนิรันดร...
.....................



http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song293.html
หนี้รัก 
อรวรรณ วิเศษพงศ์ 
หากจะรักแล้ว รักใคร ก็จง รักเถิด
ความรักบรรเจิด พริ้งเพริด หนักหนา
ชีวิตคนเรา นั้นสั้น เหลือคณา
อย่า รอ ช้า ปล่อยเวลาให้ผ่านเลยไป
หากมีหนี้แล้ว ขอให้ เป็นหนี้ รักเถิด
ดอกเบี้ยที่เกิด คือพลังรัก พิไล
รักเธอเสมอ รักเธอ จากดวงใจ
ยอดพิศมัย หลอมอยู่ใน กาย เธอ
หากวันใด ที่แสงทองของ ชีวิตผ่าน
โลกตระการ จะมืดครึ้ม หมองเหม่อ
วาระนั้น จะได้อดีตไฟรักปรนเปรอ
หล่อเลี้ยง บำเรอ ต่อชีวิตให้ชื่น บาน
หากเป็นหนี้แล้ว ขอให้ เป็นหนี้ รักเถิด
หนี้รักบรรเจิด พริ้งเพริด แสนหวาน
รักกันเสมอ แม้เวลา ผัน ผ่าน
สองเราสราญ เพราะหนี้รัก สลัก ใจ

หากเป็นหนี้แล้ว ขอให้เป็นหนี้รักเถิด
หนี้รักบรรเจิด พริ้งเพริด แสนหวาน
รักกันเสมอ แม้เวลา ผัน ผ่าน
สองเราสราญ เพราะหนี้รัก สลัก ใจ... 
 


				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด