7 เมษายน 2547 12:57 น.

ใจดวลใจ!

พุด


URL http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4..
(จงรัก)
บันดาลใจจาก..งานงามสูตรรัก..จักทดลอง
ของคุณอัลมิตรานะคะ
************

ฉันลงทุนเขียนเกมรักด้วยหัวใจขึ้นบทหนึ่ง
เป็นเกมซึ่งใช้ความฝันใช้หวามไหว
ใช้หัวใจใสซื่อเดิมพันใจ
เทหัวใจให้บางคนจนหมดใจ

มาวันนี้เขาคิดว่า..ฉันผู้แพ้
ตามเกมแก้ไม่ทันจนหวั่นไหว
หารู้ไม่ในเกมรักเรื่องหัวใจ
แท้จริงไซร้คือลิขิตของฟ้าดิน

เกมหัวใจจบลงแล้วนะยอดรัก
แม้อกหักยับเยินใช่หมดสิ้น
แม้ขมขื่นชอกช้ำน้ำตาริน
ยังตัดสินไม่ได้ใครทุกข์ทน..

เพราะวางหัวใจเดิมพันไว้ในเกมนี้
เธอรู้ดียามนี้ใครสับสน
แม้จากไปฝากจริงใจกลางกมล
ฝากเกมกลเกมใจเป็นบทเรียน..

เกมสุดท้ายถามหัวใจใครชนะ
เธอหรือจะแน่ใจไยแปรเปลี่ยน
ถามหัวใจไปมาวกวนเวียน
โลกหมุนเวียนใจหมุนวน..จนสุดท้ายบอกกับใจ..แพ้ดวงใจใครคนนี้ที่รักจริง!!

************



เดิมพัน..ด้วยใจ..ใจดวลใจ 
**************

เคยบ้างไหม..
ที่คุณเปิดใจ..ให้ใครบางคน..ก้าวเข้ามา..
ในโลกของชีวิตอันแสนเงียบเหงาของคุณ.. 

เข้ามาสัมผัส..รับรู้..เข้าใจ 
ถึง..ความรัก ความหลัง ความหวัง พลังใจ 
เท่าที่คุณมี..คุณเป็น..คุณอยู่ 

คุณค่อยๆปล่อยให้เขาเดินก้าวล้ำเข้ามา ..
ในใจดวงน้อย..ทีละนิด..ทีละนิด..โดยที่คุณไม่ทันรู้ตัว 

ที่สุดเขาก็กลายเป็น..ส่วนหนึ่งในชีวิตของคุณ....
เหมือนโลกที่ต้องมีพระอาทิตย์. 
ในตอนกลางวัน ..และ  มีพระจันทร์ในยามค่ำคืน......
วันใดที่เขาหายไป...
โลกที่เคยอบอุ่น....
ที่ดูราวมีใครสักคนที่พร้อมจะเคียงข้าง.... 
รับรู้และรับฟัง.....พลันเดียวดาย.......ไร้หวัง
ราวท้องฟ้าไร้จันทร์ในคืนแรม......

ไม่ยากเลย...ลองดู....
ถ้าคุณอยากให้ใครสักคนรักคุณ...และขาดคุณไม่ได้.....
ให้เขาเห็นความสำคัญ.....และคุณค่าในตัวคุณ..... 

เพียงอย่าท้อแท้......สิ้นหวัง...
คิดเสียใหม่......ยิ่งให้คุณจะยิ่งได้........
ในทุกทุกเกมของชีวิต..กับ..ทุกทุกคน.....

และโดยเฉพาะกับคนที่คุณรักเขายิ่งชีวิต....

ไม่มีอะไรที่คุณจะเสีย...
มีแต่ศรัทธาเปี่ยมด้วยรัก..จริงใจ ..มั่นคง..หนักแน่น..... 
เป็นเดิมพันใจ..เพื่อ..ใจ...เท่านั้น.....

และคุณจะพบว่าคุณคือผู้ได้มา...มิใช่เสียไป....... 

เกมของรัก...เกมของใจ .....
เกมของความหวัง.....และเกมของความฝัน........ 

เพียงใช้ใจดวงงามที่ใสซื่อ....อดทน...รอคอย.....เพียงนั้น ..
โลกทั้งโลกก็จะอยู่ในมือคุณ................... 

เส้นทางใจ...เส้นทางชีวิต
ที่จะมีใครสักคนคู่เคียง...
ไม่ว่า..ในยามทุกข์..หรือสุข.ตราบนิรันดร์.. 

บางครั้งเส้นทางนี้..มิได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ..
มิได้หวานหอม..ตั้งแต่บทเริ่มต้น......

ขอเพียงคุณ......ไม่ยอมแพ้พ่าย.....
เอาใจดวงที่เปี่ยมรักบริสุทธิ์ล้ำ.....หนักแน่นยิ่งกว่า..... 
ขุนเขาและแผ่นผา.........แผ้วถาง ฟันฝ่า...
ปลายทาง.....มีสวรรค์บนดิน 
ที่พระเบื้องบนจะประทานให้.....

มีความรัก..ความอบอุ่น..... 
มีน้ำใจจากหญิงงาม มากค่า 
พร้อมเด็กน้อยที่บริสุทธิ์ใสประโลมใจคุณทุกโมงยาม......... 

เปรียบประดุจสายธารา..แห่งชีวิต..
ที่คุณจะได้ดื่มกิน..แหวกว่าย..เย็นฉ่ำทั้งใจกาย....... 
ตราบวันสุดท้ายแห่งลมหายใจของชีวิตนี้ที่แสนงาม.............. 
 



นิยามรักฉันหรือคือจุดจบ! 

นิยามรักของฉันหรือคือจุดจบ
คือการลบจากใจไม่ใฝ่หา
หากไม่รักไม่ทุกข์ท้อทรมา
กับคำว่าพลัดพรากต้องจากไกล...

รักคือนิยามความทุกข์ใช่ไหมเล่า
คือห้วงหาวห้วงเหวให้หวั่นไหว
รักคือนิยามมายาลวงหลอนใจ
ให้ดวงใจคนในโลกโศกระทม..

นิยามรักของฉันหรือคือจุดจบ
มิใช่การค้นพบให้ขื่นขม
รักของฉันรอเวลาลบช้ำตรม
เลิกระทม..รอเงียบงาม ว่างเปล่ามาแทนใจ!

				
5 เมษายน 2547 10:22 น.

มายาเมฆ..

พุด


URLhttp://http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=496
อยากให้ฟังเพลงหยาดรุ้งคลอค่ะ
เพลงรักอมตะ แม้ตาเธอจะบอดเขาก็ยังรักภักดิ์มิทอดทิ้ง

********

 
ถือเป็นโชคมีดวงตามองฟ้ากว้าง
สร้างหวังหวานผ่านคืนฝันวันร้าวไหว
ถึงเดียวดายใช่!สิ้นไร้ในดวงใจ
หนทางไกลรอทอดรับกับนภา..

เมฆคือเมฆสวยงามนิยามว่าง
สอนบางอย่างเติมบางสิ่งหยุดนิ่งหา
จิตรกรรมความฝันลอยลับลา
ฟ้าคือฟ้าสูงไกล..ในความจริง..

เมฆมายามองดูน่าจับต้อง
ให้ฝันปองให้มองเพ้อเผลอทุกสิ่ง
มิทันไรก็สลายคล้ายหยุดนิ่ง
เผยม่านจริงม่านใจอย่าไหวรอ..

ก้มดูดินที่เท้าเจ้าย่างเหยียบ
รู้รักเปรียบคือจริงทิ้งเพ้อพ้อ
หยุดความฝันหันคืนบ้านนานเกินรอ
ทิ้งแม่พ่อแก่เฒ่าหนาวรอใจ..

เจ้าคือนกผกจากรังหวังสู่ฟ้า
จากดงหญ้านาข้าวพราวไสว
ทิ้งวัวควายน้ำตาคลอรอน้อยใจ
สู่ศิวิไลซ์หวังสร้างค่าหาชีวิต...

แต่รู้ไหมใจดวงเดิมเริ่มอ่อนล้า
ฟ้าคือฟ้าใช่!คำตอบชอบด้วยสิทธิ์
เพียงฝันฝันฝันฝันสร้างชีวิต
ใจดวงนิดดวงน้อยคอยคืนวัน...

ด้วยสมองสองมือคือโลกแท้
เป็นของแน่ของตายใช่เพียงฝัน
ดวงดอกไม้รอเจ้าเก็บอยู่ทุกวัน
อย่าเพียงฝันมองฟ้าหาบันดาล...

อ้อมกอดจริงอ้อมกอดใจใครคนหนึ่ง
เทพีซึ้งหนึ่งในใจงามแสนหวาน
รินน้ำใจใส่พรอ้อนชั่วกาล
หวังเติมหวานให้เจ้าได้ก้าวไกล..

เลิกตะลึงหลงละไมในมายา
เลิกโหยหาคืนหลังฝังหวามไหว
โลกความจริงอยู่ตรงหน้าท้าดวงใจ
พาเจ้าไปสู่ความดีที่นิรันดร์...

หน้าต่างเมฆแหวกม่านผ่านสู่ว่าง
ใจทอดวางร้างไร้คล้ายดั่งฝัน
อย่ายึดติดมายาเมฆแปรทุกวัน
เพียรสร้างฝันในวันนี้พลีเพื่อรัก...

โลกหมุนไปใจหมุนวนให้ค้นหา
โลกมายาโลกมาลัยใจแน่นหนัก
วันนี้ชังพรุ่งชอบออดอ้อนรัก
สุดสิ่งภักดิ์หอมหวานวิมานดิน..

มองดูดินเลิกดูดาวหนาวเมมฝัน
สุขนิรันดร์ในวันนี้ที่ถวิล
ใช้สมองสองมือระบายจินต์
หวังมิสิ้นดาวดวงร่วงสู่มือ..คือพรพรหม!
**********



http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=496
เพลงรักอมตะ แม้ตาเธอจะบอดเขาก็ยังรักภักดิ์มิทอดทิ้ง

หยาดรุ้ง   ชรินทร์ นันทนาคร : : Key Cm  

หยาดรุ้งงามราวดวงดาวรุ่งจิต
รุ่งความโสภิต รุ่งชีวิตชายแม้เงา
ดวงตาคมซึ้งซึ้งดังเพชรวาว
เนตรงามอคร้าว
หยาดรุ้งราวหยาดน้ำริน
หยาดรุ้งคนดีปราณีพี่หน่อย
อย่าลอยสูงนัก พี่ปองรักยอดยุพิน
ลมครวญคำหวานเสียงธารระริน
คร่ำครวญถวิล ว่ารักยุพินเช่นกัน
เธอหอมความดี เป็นที่คละคลุ้ง
ประหนึ่งสายรุ้งรุ่งดวงตะวัน
ยามยิ้มแย้มยวน ชวนให้ชายฝัน
สยบใจนั้นรักเหลือคณา
หยาดรุ้งงามราวดวงดาวกระจ่าง
รุ่งดังน้ำค้าง ที่ยังค้างตามพฤกษา
เธอคือความหวังฝังใจทุกครา
พี่ครวญใฝ่หา พี่รักบูชาหยาดรุ้ง
เธอหอมความดี เป็นที่คละคลุ้ง
ประหนึ่งสายรุ้งรุ่งดวงตะวัน
ยามยิ้มแย้มยวน ชวนให้ชายฝัน
สยบใจนั้นรักเหลือคณา
หยาดรุ้งงามราวดวงดาวกระจ่าง
รุ่งดังน้ำค้าง ที่ยังค้างตามพฤกษา
เธอคือความหวังฝังใจทุกครา
พี่ครวญใฝ่หา พี่รักบูชาหยาดรุ้ง... 


 


 

				
4 เมษายน 2547 22:12 น.

หากหัวใจปลิดได้คล้ายดอกฝน

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=336
************
ฟ้าหลังฝนหลงฤดู พรูพร่างกลางสนธยาฝัน
ไร้เรียวรุ้ง..คุ้งโค้งพาดผืนฟ้าไกล
งามดวงใจไยหมองเศร้ายามแหงนเงยดูเมฆหม่น
ไม่มีจินตนาการ ไม่มีหวานใด ไม่มีใครคิดถึงคะนึงหา
ไม่มีกาลเวลาแห่งอดีตลาเลยลับกลับมาเตือนใจให้จำจด
ไม่มี ห่วงหาอาวรณ์ ไม่มีอ้อมแขนอ้อมกอดใคร ให้ถวิลหา
ไม่มีคำตอบจากสวรรค์ ไม่มีฝันไม่มีหวัง..
ไม่มี ไม่มี และไม่มี...
เหลือเพียงความว่างเปล่า มองโลกเหงางามเงียบ
เพียงสีเดียว สีเดียวดาย
สีสิ้นไร้ คล้ายโลกสีน้ำเงินเพียง ลำพัง...และลำพัง
เด็ดลั่นทม ชมพู พราว เสียบแซมผมริมเรียวแก้ม
ดูใบไม้แล้งไร้คล้ายใจคนแล้งน้ำ
หักใจรัก..สลัดใจ..สลัดกลีบทั้งดอกใบ..ดอกใจ..ร่วงกระจาย!
************



หากหัวใจปลิดได้คล้ายดอกฝน
คงปลิดหล่นปลิดหล่นคล้ายชีพนี้
เพราะหัวใจไม่ใช่ดอกฝนนะคนดี
จึงวันนี้แหลกยับดับภายใน

หากหัวใจปลิดกลีบได้คล้ายดอกไม้
คงปลิดร่ายพรายพรมลมพัดไหว
เพราะหัวใจมิใช่ดอกไม้นะดวงใจ
จึงหวั่นไหวเสียใจเพียงลำพัง..

หากหัวใจปล่อยได้คล้ายสายฝน
คงปล่อยหล่นปล่อยหล่นหมดสิ้นหวัง
แตกกระจายคล้ายแก้วแล้วกระมัง
ไร้ฝั่งฝันฝั่งใจใครเฝ้ารอ...

เพราะหัวใจปลิดไม่ได้ในวันนี้
จึงต้องมีหัวใจไหวเพ้อพ้อ
จึงต้องทนคนไม่รักใจดำพอ
จึงต้องขอกล่าวคำลาว่าเสียใจและเสียใจ...ไปจนตาย!

***********


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=336
ปีศาจวสันต์ .....  สุนทราภรณ์ บุษยา รังษี : : Key F  

เรา จากกันวันนั้นยังจำ
จากกันวันนั้นฝนพรำ
พรางม่านกรรม คล้ำครึ้มคลุมเวร
ลมครางฝนครวญ ไพรสั่นชวน รวนระเนน
ความกดดัน ขั้นเดน เหมือนจะเค้น ฆ่า กัน
เรา จากกันวันนั้นนานมา
แต่เมื่อวสันต์ลีลา ฤาสร่างซาฝนฟ้าฟูมฟาย
ฤดู ฤดี มันไม่มี วันคืนวาย
มันสาปใจ สาปกาย คล้ายมนต์ร้าย พรายผี
ผี วสันต์ มันหลอก มันหลอน
ปีศาจวสันต์วันก่อน ยังสังวรณ์ เวรนี้
ฟัง โถฟัง ฟังฝนตกซี เหมือนนรกตกตี
ย้ำ ขยี้ ใจ ตรม
ไป จากไป ไปแล้วไปเลย
อย่ามาชวนชิดชวนเชย
ปีศาจเอย ร้างเลยอารมณ์
ลมมา ฝนมา จงอย่ามา พาระทม
เพียงโศกทราม เศร้าซม ฉันจะล้ม ตายแล้ว... 


				
4 เมษายน 2547 00:20 น.

บึงบัวบึงใจ

พุด


URL http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=347
*********
บันดาลใจจากงาน*หอมกลิ่นปทุมลานลุ่มธาร*
งานงามของลำน้ำน่านค่ะ
รจนาเพื่อจะตอบบทกวีนั้น
หากทว่ามันยาวไป..ก็เลยนำมาไว้นะที่นี่นะคะ
ด้วยรักค่ะ
*************



บัวกลางใจไหวช่อรอน้ำค้าง
อุษาสางแว่ววิหคนกไพรฝัน
คืนสู่ถิ่นถวิลนาตามตะวัน
อรุณขวัญรอรับรักกลับรังใจ...

บัวคลี่ดอกจากเปลือกตมระทมทับ
นานเนิ่นนับเหยื่อมัจฉาน่าเศร้าไหว
บัวแล้งน้ำรอวสันต์พลันพร่างใบ
รอน้ำใจหยาดรินสิ้นฤดี..

บัวพ้นน้ำได้อย่างไรไม่มีน้ำ
รอสายธารหวานระรินสิ้นชีพนี้
มีสายธารราวสายทองล่องชีวี
นำทางที่แสนงามนิยามใจ


บัวสีขาวบานพราวหน้าพระพุทธ
พระผู้พิสุทธิคุณศรัทธาใส
ดอกบัวงามตามแย้มติดเตือนใจ
ดอกบัวใจพลันคลี่พร่างกลางสายธรรม


เป็นความงามเรียบง่ายทางสายเซ็น
น้อมใจเห็นธรรมชาติยามเช้าค่ำ
งามแสนงามแสงเทียนในโบสถ์คร่ำ
สมาธินำทางใจเลิกไหวรับ


เหมือนอรุณหมุนดาวศุกร์แสนสุกใส
งามพร่างใจในยามเช้าน้ำค้างจับ
แหงนเงยมองผ่านดอกบัวคลี่หวานรับ
งามรำงับดับดวงใจไหวรู้ทัน


ขุดบ่อบัวบานกลางใจรับงามเงียบ
กลางเย็นเยียบงามงอกดอกดวงขวัญ
ไม่มีสุขทุกข์ก็หายกลางเงียบงัน
ไร้สวรรค์สิ้นนรกยกว่างใจ


ขอเพียรธรรมนำทางสร้างกุศล
กลางกมลบัวตระการบานไสว
พลีรักสิ้นหยาดน้ำตาล้างเท้าเจ้าดวงใจ
เดินตามไปในร่มธรรมนำนิพพาน..




เคย..เคยมั้ยคะ..
ที่คุณปลุกร่างและหัวใจ
ให้ลุกขึ้นมาจากนิทราฝัน 
มาดูน้ำค้างพร่างกลางกลีบเกสรดอกไม้
หรือกลางกลีบบัว ใบบัว ที่ชูช่อชันไสว
เฝ้าดูดาวพรายฉายแสง
ตอนเช้าตรู่ ดูรัศมีแข รัศมีดาวประกายพฤกษ์อันสุกใส
และรับพร่างไสวไว้เต็มนัยน์ตาเติมจิตวิญญาณ
ผ่านความงามอย่างสงบนิ่ง ลึกล้ำในสมาธิ
อย่างที่พระเซ็นเชื่อกัน



*ยามเช้าในความหมายของพระเซ็น...โดยชานีในนิตยสารดิฉัน*..

พระเซ็นเชื่อกันว่า..พระพุทธเจ้าตรัสรู้เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม
ขณะพระองค์ทอดพระเนตรไปยังดาวที่ฉายแสงเมื่อตอนเช้าตรู่
ดาวดวงนี้ คือดาวพระศุกร์ 
พระองค์ทอดพระเนตรเห็นรัศมีอันสุกใส
ของดวงดาวนี้ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ทรงอยู่ในสมาธิ
และ
ทรงรับเอาแสงสว่างสุกใสนั้นไว้
จนกระทั่งรัศมีเรื่อเรืองนั้นแทรกเข้าไปในพระเนตรของพระองค์
และทำให้พระองค์ตรัสรู้..
และนับแต่นั้นมา..พระเซ็นจะยึดถือเอาการตรัสรู้
ของพระองค์เป็นแบบอย่างในการปฏิบัติ
และฝึกสมาธิกันอย่างเข้มข้น
จนกระทั่งถึงสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคม
ซึ่งเปรียบเสมือนการสอบไล่
ที่จะใช้ทดสอบการปฏิบัติที่ผ่านมาทั้งหมด
และรอว่าตนจะได้รู้แจ้งแทงตลอดแบบเดียวกับพระพุทธเจ้าหรือไม่*

****************



และ
เคย เคยมั้ย 
ที่คุณยอมสลัดผ้าห่มคลุมร่าง
และปอกเปลือกความสุขจากเนื้อหนัง

ให้ตื่นมาทันได้ เติมพลังใจไฟฝัน 
พลังสด พลังปราณในยามเช้าอย่างผู้เข้าใจโลก 
เข้าใจธรรมชาติรักธรรมชาติ รักธรรมะธรรมดาชีวิต

ที่ต้องเพียรใช้พลังจิตภายในอันสวยใสสงบงาม..เพียงนั้น
จึ่งจักได้มา ซึ่งซึ้ง นาทีทรงค่า
ที่จะเติมต่อบ้านภายใน นวลเนื้อใจ
ให้เงียบเรียบเย็นแนบสนิทเนียน..


ยามเช้า..ที่
เคย..เคยมั้ย..ที่คุณ
เปิดเพลงบรรเลงฝันฟัง 
อย่าง*สายน้ำนิรันดร์ ริมฝั่งเนรัญชรา
สายธารธรรม พระโพธิแก้ว*และ แล้วล้วนตามใจรักใจชอบ
หรือฟังบทเพลงกลิ่นอายลูกทุ่งอย่าง..
ดอกจานบานรอ..สี่ในสี่ห้องหัวใจ และสาวชาวสวนส้มโอ..

เพื่อเปิดใจพลีพร้อม..รอ..
ดวงตะวันอ่อนอุ่น
ที่จะหมุนโผล่พ้นดงไม้รำไรดงไผ่ ดงดอกหญ้า
ระเรื่อเรื่องเหลืองละออละอองทองผ่องผุด
หรือ
ตะวันแดงฉ่ำตัดฉับรับกับทะเลผืนงามสีมรกตสีเทอร์ควอย์..
อันเงียบงามสงบใจ
หรือ
ดงป่าปูนกลางกรุงกรง 
ก็ยังคงให้แสงละมุนงามใจ
ในแบบมากับเหลี่ยมมุมตึกดูงามลึกลับ
ไม่เลือกที่รักมักที่ซ่อนดวงอ่อนหวาน 
บานโตเท่ากระด้งฝัดข้าวในราวเมืองใหญ่



และกับไพรพนา 
ที่มีบึงบัวหลากสีพร่างพรรณ 
เหมือนอย่างในงานงามลำน้ำน่าน
ที่หวานพิสุทธิ์แฝงคำสอนของพระพุทธองค์
ให้พุทธศาสนิกชนทุกดวงใจ
เตือนใจงามตามธรรมชาติใจธรรมดาคน


ที่ผสานผสม ทั้งดินน้ำลมไฟ
ให้เรา ถึงพร้อมยอมรับความเป็นจริง
ว่าทุกสิ่งไม่มีอะไรแน่นอน เท่าสัจจธรรม
อันเป็นคำสอนจากพระบรมศาสดา
จากพระธรรมทองธรรมทานนานนับ
มาเกินกว่าสองพันห้าร้อยห้าสิบกว่าปีแล้ว
และจักเป็นความจริงอมตะนิรันดร์ชั่วกัลป์กัปป์..


				
2 เมษายน 2547 16:04 น.

ร่อนเร่ใจไปกลางทะเล..

พุด


URL http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=1305
*******

อ่านอ.ส.ทฉบับใหม่แล้วใจเศร้า
ใจดวงร้าวราวเบื่อโลกโศกหลงฝัน
กับผู้คนมากมายหลั่งไหลกัน
สู่คืนฝันวันพระจันทร์หวานผลาญพะงัน..

ใจดวงเดิมเสียดายโลกใบเก่า
โลกงามเหงาเงียบใจราวสวรรค์
ไร้ผู้คนใจร้ายทำลายวัน
คืนงามฝันจันทร์งามใจในโลกจริง...

มาวันนี้พะงันมีทั้งสองด้าน
ทั้งตระการธรรมชาติฝากใจนิ่ง
ทั้งปาร์ตี้พี้ยาฝันกันระวิง
ทั้งสองสิ่งราวสวรรค์นรกตกพร้อมกัน..

น้ำตาฉันจึงหลั่งล้นท้นใจรับ
หนาวใจนับนึกย้อนคืนเยาว์ฝัน
ภาพเด็กหญิงน้อยนอนนับดาวนับร้อยพัน
กับทะเลฝันตรงหน้าสุดตารัก..

เขาบอกว่าใครมีที่งามดั่งทองของแหนหวง
ใจสาวดวงกลับแล้งโรยโหยไห้หนัก
ใจดายเดียวแปลกแยกแผกใครนัก
เมินเงินรักกลับอยากเห็นเน้นงามใจ...

ไม่อยากขายที่ดินผืนดินเกิด
ใช้ชีวิตเลิศสุดหรูสักปานไหน
ใจดวงดีดวงงามนิยามใจ
ไม่หวั่นไหวโลกวัตถุใจรู้พอ..

จึงตัดใจไม่คืนถิ่นแผ่นดินฝัน
น้ำตาขวัญหวั่นพร่างทะเลพ้อ
หนีนิยามงามเรืองรุ่งรู้รักรอ
พาร่างขอไกลห่างทางมากคน..

พาหัวใจไหวหวั่นพลันสู่พฤกษ์
ในยามดึกหนาวน้ำค้างหนีสับสน
ไร้เสียงใดไร้ใครคนวนวกวน
มีหยาดฝนใสพร่างกลางใจจำ..

อาจจะโง่อาจจะหยิ่งทิ้งเงินล้าน
อาจจะหวานอาจจะเศร้าหนาวเจ็บช้ำ
ขอเดียวดายดายเดียวไม่ครวญคร่ำ
รินระกำลำพังหวังเงียบงาม

จึงหนีโลกย์โศกสุขยอมเปลี่ยวร้าง
กระท่อมว่างไร้สิ่งใดใจวาบหวาม
รจนาบทกวีฝากโลกนี้ถึงเงียบงาม
ฝันทุกยามคืนโลกนี้มิเสียใจ...

ขอสยบพบทางออกลบชอกช้ำ
สวดมนต์พร่ำหน้าพระพุทธพิสุทธิ์ใส
ลูกยอมรับเงียบงามสงบใจ
ท่ามกลางไพรไร้ใครสิ้นถวิลลา...

ปลูกดอกไม้ให้หอมใจในร่มรัก
เรือนแห่งภักดิ์ฝากวิญญาณผ่านโหยหา
ห่างไกลโลกย์หนีรักโศกชั่วชีวา
ยอมเหว่ว้าจนยากหากภูมิใจ...

***********



อ.ส.ท.ฉบับล่า พาไปเที่ยวผืนดินเกิด
เปิดดู ความเพลิดเพลินของผู้คน
ที่พากันหลั่งไหลไปผลาญพร่าพรหมจรรย์พะงันงาม
ใจดวงฝันพลันน้ำตาก็ร่วงก็ริน
อธิบายใจมิหมดสิ้น ถึงถวิลถึงเสียดาย..



คล้าย*โลกใบเล็ก*งามเงาในวัยเยาว์ในอดีต     
ลาลอยลับแหลกยับนับธุลี ในไม่ช้า ลาไกล

อาจจะคิดไม่เหมือนใคร
ที่ยอมถอดใจไม่อยากหวนคืนหลัง
ให้น้ำตาละหลั่งรินด้วยเสียใจเสียดาย
ให้ฝั่งฝันรอรับเพียงร่างรักนิรันดร์
ในวันหนึ่งที่ปราศจากลมหายใจ



แต่..
สำหรับวันนี้ ขอแค่หนีผู้คนอลวนอลเวง
กระเตงมากันแทบล้นทะลักเกาะ
ทั้งหวังมาพักพึ่งพิง ทายทัก 
และทำลาย งามง่ายให้หมดสิ้นไปในเร็ววัน
แบบไม่ไยดี แบบผู้ที่ผ่านมาแล้วผ่านไป
มิใช่เนื้อใจเนื้อดินเดียวเกี่ยวเกาะรักร้อยสร้อยโซ่รัก



ใจดวงร้าวจึงเศร้ายับจนสุดรำพันรำพึง
กับคืนฝันวันแสนดีที่ใจดวงงามนี้
เคยสัมผัสร้อยรัดรึงตรึงใจไปตราบชั่วกาล
ให้ใจดวงร้าวยิ่งคะนึงเจ็บลึกยามนึกย้อน
ยามนอนดายเดียวร้างไร้ผู้ใดและดวงใจแสนสงบงาม



ไกลห่างนิยามโลกวัตถุโลกศิวิไลซ์
ห่างไกลแววตาทะเยอทะยานอยาก
มากด้วยกิเลสแห่งน้ำเงินงาม
แทนที่จิตวิญญาณรักผืนดินพื้นพสุธา
ไม่รู้ค่า..สงวนไว้..
ให้งามตราบชั่วกาลนานนิรันดร์
**********


หัวใจละเหี่ย....... มาลีฮวนน่า : : Key G  

บางครั้ง หัวใจ ละเหี่ย
เหนื่อย ท้อแท้
นั่งเศร้า คนเดียว
หนทาง ยาว ไกล
หนทาง ยาว ไกล
ก้าวไป คนเดียว
โลกนี้ มันสับสน
ผู้คน ผู้สร้าง
เยื้อแย่ง ปิดเส้นทาง
เส้นทาง ที่เดิน
ย้อนมอง กันบ้างไหม
เหนื่อยล้า กันเท่าไร
กี่ครั้ง ที่คุณ
น้ำตาไหล ออกมา
บางครั้ง หัวใจ สะอื้น
เหนื่อย สุดฝืน
สะอื้น คนเดียว
ขอเพียง หนึ่งเดียว
คือใจ ของเธอ
เพียงเพื่อปลอบโยน
คนที่เดียว ดาย

โลกนี้ มันสับสน
ผู้คน ผู้สร้าง
เยื้อแย่ง ปิดเส้นทาง
เส้นทาง ที่เดิน
ย้อนมอง กันบ้างไหม
เหนื่อยล้า กันเท่าไร
กี่ครั้ง ที่คุณ
น้ำตาไหล ออกมา
บางครั้ง หัวใจ สะอื้น
เหนื่อย สุดฝืน
สะอื้น คนเดียว
ขอเพียง หนึ่งเดียว
คือใจ ของเธอ
เพียงเพื่อปลอบโยน
คนที่เดียว ดาย... 

 

				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด