12 มิถุนายน 2547 09:08 น.

ก่อดวงดอกน้ำค้างนะกลางใจเจ้าดวงดอกไม้

พุด


บันดาลงามนามน้ำใจในมิ่งมิตร..มิตรภาพจากงานคุณก่อพงษ์ที่มอบให้ค่ะ
http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_55140.php
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=2380

คลิ๊กบทเพลง*หนึ่งในร้อย*ให้กระหึ่มใจ
อ่านคลอใจเคลียเศร้าดายเดียวยามเช้านี้นะคะทุกดวงใจรัก
URLhttp://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=72

.....................


ตื่นมารับ..
อุษาหม่น...
กับบทเพลง*มนต์รักลูกทุ่ง*
และกับอีก*หนึ่งในร้อย*

เมฆหมอกเคลียยอดไผ่
ยอดไพรทิวไม้สล้างหอม
ให้งามแผก..งามเศร้า

แตะแต้มด้วยฟ้าสีไพลละไมหมอง
น้ำตานางฟ้าค้างบนร่องเรียวหญ้า
น้ำตาใจค้าง..ในเรียวตาร่องแก้ม
ไหลละหลั่งรินจากบึ้งใจ
จากซึ้งใจจากงามห้วง
แห่งใจดวงร้าวดวงเศร้า
*สาวไพล..สาวงามแห่งไพรพฤกษ์..อัญมณีไพร*
ราวเพชรหยาดสายพรายพร่างระริน

งามน้ำใจใครละหนอ
ที่พลีค่าคำย้ำสายใยให้ใจดวงร้าวจรัสเรือง

ราว
ดวงดอกทานตะวัน
คลี่สยายกลีบรับ
บานพรึบพรับรับดวงดอกแดด
ดวงดอกฝนหยาดน้ำค้าง
ที่รินพร่างกลางวสันตฤดู

นกเขาร้องกรุ๊กกรูๆยามเช้าตรู่
จับคู่คอนกิ่งจำปีไกวไหวกอราวพ้อเพ้อหารัก
ไพเราะยิ่งนักนะเจ้านกน้อย


นึกถึงนกไพรพเนจร
ร้างแรมรักลาเลือน
เพื่อนผู้ให้..น้ำใจ
ด้วยอาลัยรัก

กล้วยกอใหญ่ไหวเอน
พ่ายสายฝนและลมแรง
ราวแกล้งเซ...


โอ้ละเห่..บทกวีงาม
จากกระท่อมหวานริมชายทุ่งระริน
พรายพากลิ่นละอองเกสรป่ามาถึงนี่
ให้ฤดีอิ่มงาม..งามน้ำใจมิ่งมิตร..คนดี
ทุกนาทีตราบอุทัยโลกหมุน
นับจากนี้


หวังมีสายใจสายใยงามตามต่อเติม
เพิ่มพลังใจรักรจนานะดวงใจ..นะคนดี
เราจะพลีพรักพร้อม
ร้อยพวงบุปผามากำนัล
เป็นฝันพลีฝันฟรี..
ดับร้อนนี้ให้โลกเย็น...งามละมุน...

*********


และขอ
แถมให้อ่าน
เอาอิ่มเอาใจเอางามในวันหยุดนะคะ
ทุกดวงใจ




http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=6189
(บทเพลงพระราชนิพนธฺ*ใกล้รุ่ง*ค่ะ)
URL :http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=6881
(น้ำเซาะทราย ..คุณจำรัส เศวตาภรณ์)
*********
ถึงคนดี...
มีคำถาม..
จากดวงใจใสสวยแสนงาม..แสนสดชื่น
จากคนที่แสนดีแสนเก่ง..
ที่ยังมองโลกนี้เป็นสีชมพู..
ถามพุดพัดชามาว่า

* สวัสดีพี่พุดครับ
ทำไมงานมักจะออกมาแนวเศร้าๆเสมอหล่ะครับ
ส.ธันวันตรี  
จาก : รหัสสมาชิก : 5338 - หมึกมรกต *
และ.อีกหนึ่งค่ะ
* 
หวัดดีจ๊ะ พุด  สาวบ้านนา
 ผม ...... นะ
 อยากรู้จักหนะ 
เอ่อ  พูดไม่เก่งอะนะ แนะนำตัวพุดให้ฟังหน่อยสิ
 เอ่อ แค่นี้ก่อนนะ 
 บาย.. *

เป็นคำถาม
ที่พุดพัดชาไม่มีคำตอบค่ะ..
เพียงขอกระซิบบอก..
ในความเป็นพุดพัดชาและสาวบ้านนานั้น
ทุกคำถาม
มีคำตอบในงานที่ร่ายรจนาแล้ว

หากรักและอยากรู้จักพุดพัดชาอย่างจริงแท้
ก็ให้ตามติด ตามคิด ตามอ่านหัวใจ
จากงานงามรจนา
ที่พยายามเพียรฝากธรรมชาติธรรมะธรรมดาคน
ไว้อย่างให้มองโลกนี้

แบบมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาๆ
*ที่ยังคงต้องมีรักในบางวันฝันในบางที
และในที่สุดดวงชีวาชีวีก็
ปลงตกยอมรับชะตากรรมได้กับทุกเรื่องราว*
และท้ายสุดสุดท้าย
ที่ได้พยายามเพียรบอกคือ
ให้ใช้ธรรมะปลุกปลอบใจ..น้อมนำใจ
สู่เส้นทางสายใสสายงามสว่างสงบ..
พบสุขว่างทุกฤดี..ดวง

และ
น่าแปลกใจ
เป็นมหัศจรรย์รัก
มหัศจรรย์ใจ
เชื่อไหมว่า
อดีต..
มีเพียงผู้เดียว..
ที่ตั้งใจอ่านงาน
แบบเก็บรายละเอียดมายาวนานนัก..
เป็นที่รักเป็นหนึ่งเดียวในดวงใจ
ที่รู้ใจรู้จักและอาจจะรักงานพุดพัดชา
อย่างถึงแก่นก้นบึ้งถึงดวงใจ
ประทับใจตราตรึงใจจำจด..

และแล้ว..
ที่นะวันนี้วันหนึ่ง..
เขาก็ถึง*อิ่มงามพบนิยามความเบื่อ*
และ
นี่ก็คือคนในโลกฝันโลกรจนา 
โลกมายาอีกด้านหนึ่งของชีวาชีวิต
โลกนักอยากจะลิขิตเขียน..
เพียรฝันค้างอ้างว้างแสนว้าเหว่ใจ
แสนเปลี่ยวดาย

ที่หมุนมาสอนใจมนุษย์
ว่าเรามิอาจยึดมั่นถือมั่นอะไรได้เลย
ไม่ว่าเขาไม่ว่าใคร
แค่ผ่านมาฝากหวามหวังพลังใจ
ให้มีทั้งรักทั้งชังทั้งหวานขมขื่น
ทั้งรื่นอภิรมย์ใจ 
เพียงนั้น....
ก็เท่านั้นก็เท่านี้..
กับฤดีคนคนคนวนวนมิรู้จบให้พบเจอมิรู้สิ้น

แค่มาฝากบทเรียนให้ไหวหวั่นฝันระทม
ให้...เรียนรู้รัก..หักใจ..พักใจ
รู้งามให้.รู้เมตตา..อภัย..
รู้ทันเท่าความเป็นไป
และในที่สุด
รู้ปล่อยวาง ..ว่าง...

ไม่ว่าค่าคำใด..
สรรเสริญ เยิรยอ ด่าทอ 
หรือให้กำลังใจ
แท้ไซร้คือลม..ลม....และลม
ที่พุดพัดชา
ไม่ตรม..ไม่เศร้านานเลยไม่ว่ากับสิ่งใด

เหลือเพียงดวงใจ
ที่พร่ำสวดมนต์ภาวนา
ขอเมตตาขอพรพระ
ให้ใจดวงร้าวที่เฝ้า
หวังเพียรพยายาม
ให้ค้นพบเส้นทางสายงาม 
ให้รู้วาง ว่าง มากขึ้นและมากขึ้น
ในทุกขณะจิตแห่งชีวิตหนึ่งนี้
ที่มากมีมากมายเรื่องราว
ผ่านเศร้าผ่านสุข
เข้ามาคลุกเคล้าให้ชีวิตมีรสชาติ

ที่ใจจริงแท้..นาทีนี้
พุดวาดหวังแค่ลืมทุกสิ่งทิ้งทุกอย่าง
วางไว้ข้างนอกเหลือก็เพียง
*บ้านภายในลั่นดาลรักตอกสลักตรึง*
ขอแค่ดำรงซึ่งร่างใจ
ทำหน้าที่ทั้งในโลกจริงและโลกฝัน
ให้ดีที่สุด

และหวังเพียงดวงชีวี
หากจะมีเหลือ
ไม่ขอมีรสชาติขอเพียงสะอาดสว่างสงบ..
พบว่างในบั้นปลายเพียงแค่นั้น
ฝันเพียงแค่นี้ค่ะ

และเป็นฝันพลี..สุดท้าย
จากดวงใจพุดพัดชา.
นักรจนาฝากไว้มากมายมากมี..
มาจนถึงนาทีนี้
ที่คิดว่าไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน
ในโลกฝันมากขึ้นทุกที และทุกวัน
ที่ไฟฝันราวริบหรี่ลางเลือน
เหมือนใกล้จะมอดลงทุกทีแล้วละค่ะ

ไม่รู้ว่านาที*อิ่มฝัน*นั้นจะผันมาถึงในวันใด
ที่คงพรากจากไปแบบไม่จับปากกาอีกเลยแล้ว
เหมือนกำลังค้นพบว่า

หากจะยังคงเหลือแรงใจแรงรักรจจนา
ก็แค่อยากใช้เวลาให้มีค่า
ได้มีก่อเกิดงามฝันบันดาลใจ
รจนางานที่พอมีค่าคืนกลับโลก
เรียนรู้โศกลบทุกข์

ฝากให้ทุกดวงใจ
พบสุขในความเย็นรื่นชื่นฉ่ำชื่นทรวง
ดั่งธารน้ำใส..
มีดวงดอกไม้หวานหอมหลอมลอย
ประดับรับขวัญงามให้ทุกดวงใจ
ในร่มรักเรือนไทยแห่งนี้

ที่ยิ่งอยู่ไปๆนานนาน
ก็พานพบน้ำใจมิ่งมิตร
ที่มิชิดกายหากใกล้ใจมากมายเลยค่ะ

และ
สำหรับวันนี้
ชีวิตพุดพัดชายังคงมีคงฝาก
*เพลงบทเศร้ามิรู้จบ! * 


บทเพลงเศร้ามิรู้จบลบลาเลือนจากโลกนี้
ตราบชีวียังมีรักและมีฝัน
บทเพลงเศร้ายังร้าวรอนอ้อนรำพัน
บทเพลงฝันวันเดียวดายไร้คู่ใจ..

บทเพลงเศร้าสอนสุขทุกข์คลุกเคล้า
นัยน์ตาเจ้ามีเงาใจไยหวั่นไหว
ดวงจันทราหยาดหวานสักปานใด
ม่านฝนในแววตาพาหม่นงาม..

บทเพลงเศร้าหลายดวงใจในโลกฝัน
ราวคืนวันคู่กันไปจนไหวหวาม
ทั้งมืดมนปนสุขสันต์ทุกโมงยาม
ทั้งต้องหามดามใจไอซียู..

บทเพลงเศร้าเคล้ากลอนฝันคืนวันนี้
แด่คนดีในดวงใจไร้ใครคู่
มากล่อมขวัญว่าวันหวานยังมีอยู่
ให้รับรู้คู่โลกนี้มีตะวันมีจันทร์งาม..ให้ชื่นใจ..(ไทยโพเอมทุกทุกคน) 
**********


และ
ขอฝากเริ่มรุ่ง..อีกคราครั้ง
มอบหวังให้กำลังใจพลังใจทุกดวง
จากดวงใจพุดพัดชา..
ตราบที่ดวงใจรักรจนายังมิพรากลานะคะ
**********

เริ่มรุ่ง! ....   พุดพัดชา  

เริ่มรุ่ง.....
ในราวเมือง..
ที่มิใช่..ราวป่าใหญ่ไพรกว้าง.
ที่ฉันนี้ฝันใฝ่
อยากฝากกายใจไปเริ่มรุ่ง..ในราวพฤกษ์ไพรพนา..

เริ่มรุ่ง..... 
เช้าวันใหม่ ทุกดวงใจ ทุกผืนดิน ทุกถิ่นที่..
ต่างมีฝัน ต่างมีหวัง
ต่างยังมีลมหายใจต่อดวงใจรักไปอีกวัน

เริ่มรุ่ง....
ที่ยังมีเสียงนกร้องขันคู จู้จุ๊กกรู 
จู้จุ๊กกรูเพราะพริ้งพราว 
บรรเลงเพลงแห่งราวไพร. 
เพราะยังมีต้นไม้ใหญ่
ให้เกาะคอนขัน..ในบ้านของฉันเอง..

เริ่มรุ่ง..... 
ฟ้าหวาน ลมหนาว  เย็นฉ่ำ  เมฆอิ่มใส  
อาบไรแสง สายไหม ลมชื่น อวลหอมดอกไม้ 
บานเบิกชูช่อชัน ขันแข่งกันกับใบไม้เขียว   
ล้อลมไสว..รอหวานใจชื่นชม..ดมดอม

เริ่มรุ่ง.....
บ้านนี้ ที่ยังมีงามดวงใจใครจะรู้
ที่ทำให้ดวงใจใสชุ่มฉ่ำ
ราวหยาดน้ำค้างหยดพราว
มาให้ดอกไม้ฝัน..สดสว่างกลางใจ  
บานแย้มรับหวัง พลังใจ 
ไฟฝัน ในโลกหวัง โลกอนาคต 
ที่หมดจดแสนดี ..มิมีท้อแท้แพ้พ่าย...
กับกาลเวลาและการเปลี่ยนแปลง..

เริ่มรุ่ง.....
ที่ยังมีฝันว่า สักวัน 
ใครบางคนที่พิเศษสุดในใจ     
ที่เราแสนภาคภูมิใจในคุณค่าความดี 
ที่มีรักแท้ หนักแน่นมั่นคงจะก้าวมาร่วมชายคา  
พาให้ใจเราทุกคนฝันแสนดีร่วมกัน วันเคียงหมอน  
มิจากลาเลยลับไปไกล ไปหนไหนอีกแล้ว...

เริ่มรุ่ง.....
ที่ยังมีกลิ่นดอกไม้หวานหอม 
จรุงใจลอยฟุ้งคละเคล้า
มากับสายลมหนาว
หวานอมเศร้าพราวกับหยาดน้ำค้าง
ที่รอระเหยหาย..ยามอรุณร่ำลา..
พายามสายมาเยือนเยี่ยมแทน...

เริ่มรุ่ง.....
ที่มีเช้าแสนดี มีละอองหมอกเย็น  
แสนสบาย มาทายทัก ในบางวัน 
พร้อมกับความฝันความรักมากมี
จากทุกดวงใจที่ใสงาม  
มากด้วยรัก..ด้วยจริงใจ 
ที่ยินดีมอบให้ไร้ร้องขอ...

เริ่มรุ่ง.....
กับใจดวงดี ที่รู้จักมองโลกให้เป็น 
แลเห็นงาม ไม่มืดบอด รู้รัก รู้ให้ รู้ห่วงใย 
เข้าใจอดทนต่อความเป็นไป ผันแปร  
ไม่แน่ไม่นอนของโลกที่หมุนวน 
ยอกย้อนลวงหลอนหลอกใจ ให้มากบทเรียน 
มากประสบการณ์สอนใจฝากจำจด..

เริ่มรุ่ง.....
ที่รู้ค่าการมีชีวิต ที่ถูกลิขิตมาให้แสนโชคดี 
มีดวงตาดวงใจเห็นในธรรมชาติเงียบสงบงาม
มีพลังใจว่าได้เกิดมาในแผ่นดินร่มเย็น 
ได้พบพระพุทธศาสนาที่ส่องสว่างนำเส้นทางใจ
ให้แลเห็นในความว่างความพอดี พอดี..

เริ่มรุ่ง.....
ในวันนี้..ขอทุกชีวี คิดแต่เรื่องดี 
ให้เรามีพลังสร้างฝันให้เป็นจริง  
พบทุกสิ่งที่หวัง
และมีความสุข กับคนดี คนเดียวในดวงใจ.. 
ขอให้มีใครสักคนนอนเคียงข้างยามเริ่มรุ่ง..
ตราบวันนี้ ตราบชั่วชีวี และชั่วฟ้าดินสลาย...				
12 มิถุนายน 2547 09:08 น.

ยอดหญิงงามกล้ากลางใจพุดพัดชา

พุด


คุณวัชรี สายสิงห์ทอง..ผู้ร้อยเรียงค่ะ

อ่านตอน1..ก่อนนะคะ
http://www.thairath.co.th/thairath1/2547/column/famous/jun/5_6_47.php
ความรักของซู-1
*********
มองจากการแต่งกาย 
เขาก็รู้ว่าเธอเป็น ผู้หญิงเอเชีย 
เป็นนักศึกษาที่เดินเข้าออก มหาวิทยาลัย อ็อกซ์ฟอร์ดทุกวัน 

เด็กสาวเจ้าของเรือนร่าง โปร่งบาง 
ผิวเนียนละเอียดสีน้ำผึ้งคนนี้ 
มักสวมเสื้อแขนยาวสีขาว 
ปลายแขนบานน้อยๆ คอกลมผ่าหน้า 
ตัวเสื้อสั้นแค่เอว นุ่งโสร่งยาวกรอมเท้า 
ลวดลายแปลกและสีไม่เคยซ้ำ 

มุ่นมวยผม ไว้ที่ท้ายทอยแล้ว เสียบช่อดอกไม้ทุกวัน 
เขาไม่เคยเห็นว่าผมของเธอ ขาดดอกไม้แม้แต่วันเดียว 
มันเป็น เอกลักษณ์ของเธอ

 ชายหนุ่มเดินตามเธอมาหลายเดือนแล้ว 
อยากทำความรู้จักแต่ไม่กล้า
 เพราะเธอไม่มีทีท่าว่าจะชอบใคร 
อีกทั้งมีนักศึกษาหนุ่มหลายคน
ที่พยายามทอดไมตรี กับเธอ 

จนกระทั่งวันหนึ่งเขาเกิดใจกล้า
เดินเข้าไปทักทาย 
ในที่สุดทั้งสองก็กลายเป็นเพื่อนกัน
 เธอบอกว่าเธอชื่อ ซู ยี มาจากพม่า 
***************



คลิ๊กอ่านต่อให้จบเองนะคะ
http://www.thairath.co.th/thairath1/2547/column/famous/jun/5_6_47.php
ความรักของซู-1
http://www.thairath.co.th/thairath1/2547/column/famous/jun/12_6_47.php
และ
ความรักของซู-2

โดย..วัชรี สายสิงห์ทอง
****************


พุดพัดชา....
หลั่งน้ำตาสังเวยทุกคราที่อ่านประวัติค่ะ
หวังทุกดวงใจงาม
นามนิยามดวงดอกไม้
ที่หวังประดับงามประดับใจ
ด้วยนิยามมากล้นค่า..คน
ในหล้าโลก..

ขอพลีพร้อมน้อมใจดวงดอกไม้ไทยดอกไม้ไพร
น้อมใจคารวะแด่เธอ!นะคนดี..ของโลก!
***********



ซู ยี ถูกกักบริเวณ
อยู่ในบ้านริมทะเลสาบ อิลยา
มานานหลายปีแล้ว 
เธอทุกข์ทรมานใจมาก 

จดหมายของ สามีและ ลูกจากอังกฤษเท่านั้น 
ที่ปลอบใจให้สู้ชีวิตต่อไป 
ยามว่างเธอทำสมาธิ เขียนบันทึก 
และอ่านวรรณกรรมของเจน ออสเตน 

ขณะเดียวกันทหารเผด็จการ 
ก็ได้ออกข่าว บิดเบือนทำลายในทำนองว่า

 ขอประชาชนอย่าเชื่อถือซู ยี 
ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ดีเด่อะไร 
ตอนอยู่อังกฤษก็เป็นโสเภณี 
คบผู้ชายไม่เลือกหน้า 
เป็นผู้หญิงไร้สาระที่เรียกว่า Party Girl 
ซ่าส์อยู่ตามงานต่างๆ จนมีผัวเป็นฝรั่ง 
และได้สัญชาติอังกฤษไปแล้ว 

มันไม่ได้เป็นพม่า 
แต่กลับมาสร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง
เพื่อความดังให้ตนเอง 

ซู ยี ไม่มีโอกาสจะรู้ข่าวบิดเบือนนี้ 
เพราะต้องอยู่ในโลกแคบๆที่ขัดสนของตนเอง 

เธอส่งข่าวถึง สามีว่าไม่มีเงินซื้ออาหาร 
ต้องกินสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ 
ร่างกายเริ่มอ่อนแอลงเพราะ ขาดสารอาหาร 
เธอเป็นลมบ่อยๆ และคิดว่าเป็นโรคหัวใจ 
เวลาเดิน รู้สึกหูอื้อ สายตาพร่า มัวลงเรื่อยๆ 

ซึ่งทางทหารก็เยาะเย้ยว่า
พ่อมันถูกฆ่าตาย 
แต่เราจะไม่โหดร้ายขนาดนั้น 
ปล่อยให้มันตายคาบ้านหลังนั้น ไปก็แล้วกัน นี่ก็จวนแล้ว!

คิม, ลูกชายคนเล็กเขียนมารำพันว่า 
รู้สึกเหงาและคิดถึงแม่เหลือเกิน 

พ่อมีแต่ความทุกข์ 
ต้องทำงานหนักมากและเลี้ยงลูกทั้งสองคน 

บ้านที่ อ็อกซ์ฟอร์ดไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว 
สมัยอยู่ด้วยกัน
แม่เคยทำอาหารจนส่งกลิ่นหอมไปทั่วบ้าน
เพราะแม่ปรุงอาหารเก่ง 
เราพ่อลูกเคยได้กินอาหารที่อร่อยๆ จากฝีมือแม่ 

แต่เวลานี้กินแบบ กันตาย 
ตอนนี้เขาโต ขึ้นจึงเข้าใจเหตุผลของแม่
ที่ยังกลับอังกฤษไม่ได้ 

เพราะแม่ มีภารกิจที่ต้องทำให้สำเร็จ 
พม่าต้องการ เสรีภาพ และควรมีการเลือกตั้งทั่วไป

มันเป็นเรื่องยาก คิมให้ สัมภาษณ์ 
ผมอยากช่วยแม่ 
แต่ไม่สามารถช่วยได้ 
และแม่ก็ไม่ ต้องการให้ช่วย 
มันเป็นสิ่งที่แม่ต้องทำด้วยตัวของแม่เอง
 แม่มีจิตวิญญาณในการต่อสู้และ เสียสละ
 แม่ทำให้พวกเราเข้มแข็ง

ไมเคิลพาลูกๆ มาเยี่ยมซู ยี 
เท่าที่สามารถจะทำได้ 
แต่ค่าเครื่องบินไป-กลับแพงมาก 

อีกทั้งคณะทหารก็หาทางกลั่นแกล้ง
โดยอนุญาตให้เข้าประเทศได้ 

แต่อีก 2-3 วันต่อมาบอกว่าไม่อนุญาต 
ไมเคิลหมดปัญญาที่จะช่วยภรรยาสุดที่รัก 

เขาทำได้แค่ให้กำลังใจ 
และปลอบโยนเธอ 
บางครั้งก็อ้อนวอน
ให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเสียที 

ผู้หญิงตัวคนเดียว 
จะไปสู้รบตบมือกับทหารโหดไม่ได้ 
อย่างไรก็ตามเขาทราบดีว่า 
เธอไม่เลิกล้มความตั้งใจ อย่างเด็ดขาด 

ไม่มีสิ่งใดในโลกสามารถขัดขวางเธอได้

ต่อมาเกิดเหตุการณ์รุนแรง 

รัฐบาลทหารสลายตัวไป 
เกิดมีสภาปฏิรูปกฎหมาย
ที่เรียกว่า สล็อร์ก
 (State Law and Order Restoration Council) 
โผล่ขึ้นมาแทนที่ 
เริ่มแรกก็ประกาศกฎอัยการศึก
และให้สื่อของรัฐประโคมข่าวใส่ร้ายซู ยี, สามีและลูกๆ 
อย่างต่อเนื่อง 

แต่ด้วยเหตุอื่นกดดัน
ให้สภาสล็อร์กจัดการเลือกตั้งในปี 1990 

ซู ยี ก็ลงสมัคร ผลปรากฏว่า
เธอชนะการเลือกตั้งอย่างขาดลอยถึง 82% 
ทำให้สภาสล็อร์กเสียศักดิ์ศรี อย่างรุนแรง 

จึงกักตัวเธอไว้ในบ้านดังกล่าวต่อไป 

แต่การต่อสู้อย่างทรหดของซู ยี ไม่เสียเปล่า 
โลกต่างรับรู้ และเอาใจช่วยเธอ 

จนในที่สุดเธอได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพในปี 1991

แต่แล้ววันหนึ่งในปี 1999 
โลกทั้งโลกของซู ยี ก็พังทลายลงมา 

ไมเคิลโทรศัพท์ไปหา เพื่อนสนิทชื่อปิเตอร์ แครี่
 ผมมีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายจะบอก 
เขาเล่า เอาข่าวร้ายก่อนนะเพื่อน, 
คือ...หมอตรวจพบว่า
ผมเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก 
และข่าวดี...ก็คือ ผมจะต่อสู้กับโรคร้ายนี้ 
จนสุดความสามารถ ผมไม่ยอมแพ้!

เพื่อนๆที่อังกฤษตกใจมาก 
ต่างขอร้องให้ซู ยี กลับไปอยู่ใกล้สามี 

แต่เธอไม่ยอม 

ไมเคิลเองกระเสือกกระสนขอวีซ่า 
เพื่อเดินทางไปพม่าทั้งๆ ที่กำลังป่วย
 เพียงเพื่อพบภรรยา เป็นครั้งสุดท้าย 

หวังเพียงกล่าวคำอำลาต่อเธอ 
แต่อาการของเขาทรุดหนักลง 
ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและ 
พยายามโทรศัพท์ถึงเธอทุกคืน 


แต่คู่สายโทรศัพท์ของเธอถูกทหารสั่งตัด 
จนไมเคิลไม่สามารถติดต่อกับภรรยาได้ 
ครั้นในวันรุ่งขึ้น เ
ธอได้รับข่าวจากสถานทูตอังกฤษว่า ไมเคิลสิ้นใจเสียแล้ว!

ซู ยี ร้องไห้จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด 
ศพของสามีได้ทำพิธีฌาปนกิจ 
ที่อ็อกซ์ฟอร์ดตามประเพณีในศาสนาพุทธ 

เธอเขียนไปหาเพื่อนๆที่นั่นว่า

ฉันเป็นคนโชคดีมาก 
ที่มีสามีดีเลิศอย่างไมเคิล 
เขาให้ความเข้าใจเห็นใจ 
ในสิ่งที่ฉันทำ 

ความทรงจำที่ดีเหล่านี้
ไม่มีวันลบเลือนไปจากหัวใจ ของฉันตลอดชีวิต

จนกระทั่งเมื่อเดือนมีนาคม 
มีข่าวจากทูตแห่งสหประชาชาติ 
รวมทั้งนายพลขิ่น ยุ้นต์ นายกฯคนใหม่ ว่า 
ซู ยี จะได้รับอิสรภาพในเดือนเมษายน 2004

 แต่นี่ย่างเข้าเดือนมิถุนายนแล้ว
 อิสรภาพก็ยังริบหรี่ 
ไม่มีวี่แววว่าเธอจะรอดพ้น
จากเงื้อมมือของเผด็จการทหารไปได้ 
ในขณะที่ โลกต่างรอคอย
การคืนสู่เสรีภาพที่มนุษย์อย่างเธอควรต้องมี 

เผด็จการทหาร 
กลับรอคอยการตายของเธอ 
พวกเขากลัวผู้หญิงร่างเล็กคนนี้ที่สุด!

********************




พุดพัดชา
และทุกดวงใจในหล้าโลกนี้
ที่รักสันติภาพ
แสนเงียบงาม
และโดยเฉพาะ
ทุกยอดดวงใจที่ได้ชื่อว่าคืออิสตรี
ขอพลีใจน้อมคารวะ
แด่
คุณวัชรี สายสิงห์ทอง..ผู้ร้อยเรียงด้วยค่ะ


พุดหวังงานงามนี้จะเป็นดั่งบทเรียน
พร่ำเพียรสอนใจเพื่อนมนุษย์

ให้รู้สร้างคุณค่าในตัวเองเพื่อโลก
และสร้างความงามความดี
ความรักภักดิ์พลียามเราได้มาพานพบกัน
ขอให้ถือเป็นขวัญเป็นโชค
สร้างสุขลบโศก
และเอื้อใจน้ำใจพร่างใสเมตตา
ใช้ศาสนาบ่มเพียรภาวนา
และให้รู้ค่าน้ำใจรัก
เพราะ..ชีวินี้แสนสั้นนักนะทุกดวงใจ..
ก่อนสายเกิน...

				
10 มิถุนายน 2547 10:33 น.

ถึงพสุธากว้างใหญ่ก็ไปไม่พ้นคุณ!!

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=374


ดวงข้ามเรือไปสู่เกาะในฝัน
ริมฝั่งฝันริมฝั่งชล...เจ้าพระยา
อีกคราครั้ง..ในวันนี้..
ณ..
ใต้ร่มพิกุลนวลพราว
ที่ค่อยๆปลิดดอกร่วงควงพลิ้วพราย
ราวสายฝนสีทองพร่างพรม
ห่มหอมให้ห้อมห้วงใจ



ดวง..พาร่างมาฝากใจรจนา
ด้วยรักเหว่ว้าดายเดียว
ที่สุขสงบเงียบงาม

ให้สายน้ำเย็นระรินร่ำรดลงกลางใจ
รินใสให้งามฉ่ำเย็น
ไล่ทุกความหมางหมอง..

ให้น้ำดี น้ำใจ น้ำใส
แห่งการให้แห่งความรัก

จงพัดผ่านเย็นไปถึงทุกดวงใจ 
ไปกระซิบบอก
ไปตอกย้ำความดี..
พลีเพื่อเพื่อนมนุษย์..ร่วมโลก
ร่วมโศกสุขทุกข์เหงาเปลี่ยวดาย
ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น..นะทุกดวงใจ



ดวง
ค่อยๆเดินช้าช้า..ช้าช้า
พาตัวเข้าไปในโบสถ์คร่ำ

วางช่อดวงดอกไม้ไทยที่รัดร้อย
ด้วยสายสร้อยใจจากดวงใจศรัทธายิ่ง..นิ่งบูชา

ก้มศิระกรานกราบนาน..
ด้วยหวานละมุนละไม
จากใจใสสว่างสะอาดสงบ
ด้วยระรินน้ำตาแห่งปิติ
ที่ริมเรียวตา
พร่ำภาวนาหน้าพระพักตร์พระพุทธ...สวดมนต์...


ในงามเงียบ...ไร้ร้าง
ในว่างงามหอมห่ม
มีเพียงสายลมบางเบา

กับเงาวูบไหวของละอองดวงแดดอ่อนอุ่น
กรุ่นกระจายพรายพร่างส่อง
พระสิริไสยาสน์
ที่ทรงงามทองงามผ่องงามผุด..
งามพระพักตร์พิสุทธิ์พริ้มอิ่มบุญ
ส่อง..ไสวสว่างกระจ่าง..ไปทั้งโบสถ์



ดวงหลับตา..
ราวฝากฟ้าสั่งดินเป็นพยาน

อธิษฐาน..ความในใจ...

ด้วยน้ำใสเต็มนัยน์ตาวะวาววับ
รับหยาดเพชรร่วงรินพร่างแก้ม
อวลแกมแกล้มกลิ่นหอม
ละมุนเศร้าเคล้ามาลัยมะลิพวง

ในงามตรึงงามซึ้งงามนิ่ง
ช่างรินเย็นเฉียบงามร่ำ..งามลึกล้ำล้ำเลิศในหล้า
หางามใดเทียบเปรียบปานหามีไม่แล้ว
เจ้าแก้ว..หอมจอมสุดา..ดวง..
***********
และ


ดวงคิด..ถึงคำทำนายทายทักของ
ซินแส...
ที่ดวงไม่ค่อยเคยแม้
จะอยากหมายกรายกล้ำ
อยากรับรู้ดูดวงชะตาตนเอง

เพราะ
ดวงมีความศรัทธาเชื่อมั่น
ในกรรมดีในการกระทำ.
ดวงเชื่อว่าความดีเพียงนั้น
คือฉัตรแก้วกั้นเกศก็น่าจะพอ..


แต่ณ.เย็นวันหนึ่ง
ในกระท่อมไม้สน
ที่ดวงมักเอื้อกมลรัก
รินน้ำใจใสงามให้ทุกดวงใจได้ดื่มริน

ก็พลันพาให้
น้ำใจใสย้อนหวนคืนกลับ

ให้*เขา*ซินแส*
อยากสนองชอบ
ตอบแทนคุณ
ที่เคยกรุ่นหวานหว่านพลังใจกำลังใจ
ที่ดวงเคยมอบให้กับลูกสาวแสนหวงแสนรัก
ของเขาที่เหว่ว้านักเพราะไร้แม่

ซินแส..คนดี..คนนี้
ขอดูดวงให้ดวง..แบบละเอียดละออ
และไม่ขอคิดค่าดู



เขาทำนายทายทัก..ว่า
ธาตุชีวีดวงนั้น
คือธาตุทองส่องประกายกล้า
นะใต้ผืนหล้าผืนพสุธา
รอ...
ผู้กล้าใช้ธาตุไฟในใจในเตามาหลอม
ให้สุกปลั่งพรั่งแพรวพราววะวาววะวับ




โอ้..กระไรนะ
ดวงชะตา..ฟ้าดิน...
ไยลิขิต
ให้ชีวิตดวงต้องเป็น...*ดวงทองถวิลรอ..ไฟ!*
กระไรเลยกระนั้นหรือ

แล้วไฉน?เล่า
จะมีใครไหนละหนอละนี่
ที่กล้าจะก้าวเข้ามา

และดวงชีวาดวงคงรับบทเหว่ว้า
ให้ดวงหลงรอท่า รอ รอ  รอ  อีกนานนัก
และดวง..ดวง
คงต้องพักอยู่ใต้ดินอีกนานอาจจะชั่วกาลปาวสานต์
หรือไม่ละหนอละนี่

คงต้องเป็นดวงทอง...ดวงผ่องผุดพิสุทธิ์งาม
ที่เพียงให้คนย่างเหยียบจมพสุธา
หาผู้กล้าใดไม่มีมาหลอมละลาย
ให้ก่อประกายเจรืองจรัส
ร้อยรัดใจให้ไสวพร่าง
นะกลางใจรักกลางใจใคร
ไปเป็นนิรันดร์เล่าเจ้าคนดี..เจ้าจอมใจ..



แต่..มิว่าฟ้าดินให้ชะตาชีวินมาเฉกเช่นไร
ก็ช่างเถอะนะ ช่างเถอะใจ
ไม่เห็นเป็นไรเลย
หาก
ดวงก็แสนภูมิใจในค่าทองของตน
ค่ากมลละมุนเนียนนวล
หวลหอมงามละออดวงนี้

แม้นจะมีชีวีรักอัปรา
ต้องฝังชีวาใต้พสุธาดั่งธุลีดิน
ต้องอาลัยมิรู้สิ้นถวิลหารักมิรู้ลา
ต้อง
ดายเดียวเหว่ว้าเปลี่ยวเหงา
ชั่วกัป์ปกัลป์..ก็ตามที..




ดวงก็แสนดีใจ..ภูมิใจ

ที่ได้มีชีวินคลุกดิน..เคลียให้
หลายร่างได้ก้าวเดิน..ได้หยัดยืน
ได้ฝืนทายท้าชะตาโลกลบโศกสร้างสุข

ให้มีวันแหงนเงยดูดวงดาวหวานพราวเต็มอ้อมฟ้า
ให้มีหวังหวานหามาประดับร่างประดับรักประดับใจ..
นำทางสว่างไสวกระจ่างใจ
ไปสู่สิ่งแสนดี..แสนมากมีค่า..เกินคณานับนึก
และ



ดวงพร้อมพลี
มอบพลังใจกำลังใจเคียงข้างมิร้างรา

แม้นร่างร้าวใจร้าง
จะถูกน้ำคำดั่งคมมีดกรีด
ดั่งน้ำกรดรดราดรินเสมอมา..ก็..หาท้อไม่

ให้ทุกคนดี
กล้าเอื้อมคว้าไขว่ดาวดวงร่วงลงสู่อุ้งมือหมาย
ไว้ประดับอ้อมใจอ้อมฝัน
ประดับเกียรติ์..ล้ำเลอค่าสักดวง...นะทุกดวงใจนะทุกคนดี



ในวันนี้
ดวง..มีความสุข..แล้วกับการรอ
และขอยอมรับทุกชะตากรรม
มาตรแม้นมี
โลกเศร้าดายเดียวไร้หวานสิ้นหวัง
ก็
คือโลกเงียบงามสงบ
รอร่างกลบพบพสุธาเป็นหนึ่งเดียว
ลาทุกใจที่ทอดทับดับดวงใจ..ให้หนาวใจ....
ให้รานร้าวให้เศร้ามิรู้สิ้น
ให้.ใจแหว่งวิ่น..ราญแยกแหลกร้าวราวธุลี...
ก็ตามที..
**********



http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_36673
ถึงโลกกว้างใหญ่ผมก็ไปไม่พ้นคุณ!!    


ผม....รัก....คุณ
ผม....รักคุณ....ด้วยจิตวิญญาณ....
เป็นคนแรก และ ไม่สัญญาว่า..จะรักคุณเป็นคนสุดท้าย

ผม....ไม่สัญญาด้วยคำพูดใดใด 
เพราะผมมิอาจจะล่วงรู้ กำหนดของโชคชะตาฟ้าดินได้
ผม....รู้เพียงว่า...
ผม....รักคุณ วันนี้ เวลานี้ นาทีแห่งลมหายใจเข้าออกนี้

ผม....รักคุณ   โดยไม่รู้  
จะอีกกี่วัน กี่เดือน กี่ปี กี่ภพ กี่ชาติ 
ว่านานสักเพียงใดที่สายสวาทจะสิ้นสุด

แต่...ทุกนาทีที่ได้รักคุณ ผมรู้เพียงว่า...
คุณคือพลังแห่งลมหายใจ ของผม ต่อชีวิตให้ยืนยาว
มองโลกและทุกสรรพสิ่ง..แสนสดชื่น 
รื่นเริงใจมีชีวิตชีวา  ตลอดมาทุกคืนวัน...

ผม....รักคุณ...
คุณคือบทเรียนรัก บทแรกในชีวิตหนุ่มของผม..

ผม....รักคุณ..
และพร้อมที่จะรับบทเรียนทุกบท..
ที่คุณมอบให้ไม่ว่าจะสุขสม เปรมปรีย์  
นรก..หรือสวรรค์เศร้าแสนเศร้า..
หรือรานร้าวใจสิ้นดี ด้วยใจดวงนี้ที่พลีสิ้นแล้ว

ผม....รักคุณ..และ..มิมีวัน จะหมดสิ้นรักคุณ..
เพียงอาจจะผันแปรไปตามที่คุณเลือกตัดสินใจเอง..

ผม....รักคุณ..
และยินดีรับคำพิพากษารักจากคุณ โดยไม่อุทธรณ์ ใดใดทั้งสิ้น

ผม....รักคุณ..
แม้คุณอาจจะเป็นเพียงแค่ความทรงจำ
อันงดงามหวานหอม 
ที่ผมไม่มีสิทธิ์จับต้องลองลิ้มชิมเชย 
แม้ใจจะต้องการสักเพียงใด

ผม....รักคุณ...โดยไม่มีข้อแม้ โดยไม่มีเงื่อนไข..และข้อต่อรอง..ใดใด
ผม....รักคุณ ...เพราะผมรักคุณ..
ผม....รักคุณทั้งตัวของคุณและจิตวิญญาณที่เป็นชีวิตคุณ...

รัก....เส้นผมงามราวเส้นไหม
รัก....ริมฝีปากนุ่มละมุนราวกลีบดอกไม้
รัก....รอยยิ้มพริ้มเพรา สว่างตา กระจ่างใจ
รัก....เรือนร่าง..ที่เป็นคุณ..ของคุณ..
รัก....ลีลา ท่าทาง รักเสียงหัวเราะ
รัก....และรักทุกอณู เนื้อนาง เนื้อใน ของคุณ
รัก....ใจดวงงาม รักความดี 
รัก....ทัศนคติที่มีต่อโลกและต่อเพื่อนมนุษย์ของคุณ
รักและรักและรักทุกสิ่งที่เป็นคุณ..
ผมรักคุณ....และอยากบอกคุณว่า....

     
    ถึงโลกกว้างใหญ่ ผมก็ไปไม่พ้น
สุดแผ่นดิน สิ้นกระแสชล ไม่พ้นคุณ
    ทุกลมหายใจ ทุกอุทัยโลกหมุน
ต้องด้านหน้า  กลับมาหาคุณ โปรดจุนเจือ
     เพราะ..รักคุณ เหลือดี สุดจะหนีรักแรมไกล
หนีใจตน พ้นไปเมื่อไหร่ ทุกลมหายใจ ใฝ่คะนึงถึงคุณ
     เห็นใจผมด้วย นึกว่าช่วยเกื้อหนุน
ต้องซมซาน  กลับมาหาคุณ  โปรดจุนเจือ
 
				
10 มิถุนายน 2547 05:10 น.

สักสายเศร้าพราวระรินลาถิ่นธาร

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=137
*******


หน้าฝนหนึ่ง...
ฉันได้ไปล่องเรือในลำน้ำแควน้อย..
ที่แสนเชี่ยวกราก
เพื่อไปดูที่ดินผืนงาม ริมน้ำ..
ที่ต้องนั่งเรือเข้าไปไกลมาก


แต่บรรยากาศของสองฟากฝั่งนั้นแสนงดงาม
ด้วยไพรรกโตรกธาร
ผาและถ้ำ และป่าที่ยังเป็นป่าจริงๆ  
ที่ยังมีเถาวัลย์รกเรื้อ เกี่ยวพัน..
ราวกับจะอยู่กันคนละโลกกับโลกแห่งความจริง 
ที่ฉันอยากจะวิ่งหนีอยู่ทุกคืนวัน....


ฉันจำได้..แต่เพียงว่า 
ที่เราต้องลงไปต่อเรือนั้นคล้ายๆอุทยาน 
ที่สองข้างทาง
เต็มไปด้วยป่าสัก 
สักทองต้นโตหลายคนโอบ..สูงเสียดฟ้า ท้าแดดลม..
และลดหลั่นมากมายหลายขนาดจนเป็นดงสวย...
กำลังได้ฝนออกดอกชูช่อ
ล้อสายฝนและลมแรง...ในยามวสันตฤดู..


สายฝน..พาให้ดงดอกสัก 
ที่มีช่อเล็กๆขาวๆเจือเขียวอ่อนๆ 
ที่รวมช่อดอกดกพราวพราย
ทอประกายเลื่อมพรายสวยสุดใจ
ยามต้องแสงแดดอ่อนๆมากระทบ...
กลิ่นหอมหวานจางๆ ของดอกสัก 
อวลหวานละเมียด ในทุกอณูของความรู้สึก
จนฉันต้องเดินลงไป..ดอมดมพรมจูบด้วยรัก



ใต้ต้นนั้น...กลีบหวานของดอกสัก
ที่หล่นเกลื่อนกล่น..แตะแต้มพสุธา
ราวพรมที่ถักทอด้วยมือนางฟ้า..ช่างนุ่มละมุน...เสียนี่กระไร...

ฉันใช้มือค่อยๆกอบกำความงามนั้นไว้ในอุ้งมือน้อย..
แล้วค่อยๆละเมียดบรรจงจูบ..อย่างรู้รัก..รู้ค่า
ในหอมงามนั้นที่หายากยิ่งนัก.....                                                           
กับใจดวงนี้ที่แสนซึ้งซาบใจ......

ดอกสัก..แย้มหวานบานอวดดอกดวงในพงพฤกษ์ไพร 
ราวสาวบ้านป่าผู้บริสุทธิ์สวยใส
ราวหยาดน้ำค้าง..ที่รอวันให้ผู้รู้ค่า..
มาเด็ดดมพรมจูบมัดจำ ให้ชื่นฉ่ำใจ...


ในวันนี้.นะนาทีนี้.ฉันเองยังหวนหา 
ในเสน่หาของดอกสัก 
ยามนี้เมื่อมองเห็นสายฝนพรำกับชีวิตคนเมือง.......

ดอกไม้ป่า..ที่หาดูได้ยากยิ่งในป่านี้
 ที่ได้ชื่อว่าป่าคอนกรีต ป่าคนเมือง
ที่เห็นงามก็แค่ดอกเบี้ย......       .

ดอกสัก..คงรอวันให้ฉันได้กลับไปเชยชมและพินิจดู 
ถึงความงามซึ้งที่ซ่อนอยู่อีกสักคราครั้ง
นะเจ้าดอกสัก...
ดอกไม้หวาน....
ที่บานกลางไพรและกลางใจดวงนี้ที่นับวันรอ....

*****************



ดวง...ฝันร้าย

http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_36211.php
**********

ซึ่งเป็นคำถาม?    


คืนนี้รอบข้างเงียบมาก...
ฉันไม่ได้แหงนมองจันทร์เช่นทุกคืน..
ท้องฟ้าดูเงียบเหงา เทาทึมตั้งแต่เย็นแล้ว
ฉันตาฝาดไปรึเปล่าหนอ..
ที่วันนี้..ดูโลกรอบข้าง
และท้องฟ้าราวทาบทาด้วยสีน้ำเงิน..
อีกคราครั้ง..ในรอบสิบปี..

เย็นมาก ใกล้ค่ำ ได้ยินเสียงจิ้งหรีดกรีดร้องระงม..
ฉันจุดเทียนอาบน้ำ..
ปล่อยให้สายน้ำจากฝักบัวกระหน่ำหนัก..รินรด..
มืดทั้งบ้าน...ฉันพยายาม...เช็ดผมให้แห้ง...
ทั้งๆที่มือและใจทำไมอ่อนแรงไร้พลัง...

ทรุดตัวลงนั่งนิ่งๆ ทิ้งใจและตัว
ในความความมืดมิด..ดิ่งจม..ในห้องนอน
ริมหน้าต่าง มีใบจำปีซัดส่าย ไหวไกวกล่อมเป็นเพื่อน...

ในภวังค์ ฉันง่วงงุน...งีบหลับไป..
ฉันฝันร้าย น่ากลัว..ฝันว่าตัวเอง 
วิ่งหนีอีกแล้ว วิ่ง..วิ่ง..วิ่ง..หนีจากผู้ชายคนเดิม..
ที่เคยฝันเห็นหลายครา.....

ฝันนี้..ฉันไม่โชคดีเหมือนคราวก่อน..
เขาไม่ได้ปรานี..ปล่อยฉันไป..
แต่กลับจ้วงแทงตรงกลางใจฉัน..หนักหน่วง..รุนแรง..อย่างสาสะใจ..

ในฝัน..ฉันมิได้กรีดร้อง..
แต่..
แค่แหงนมองเขาด้วยสายตาที่เป็นคำถามและหยาดน้ำตา!.. 
*************



 ตื่นมาด้วยหยาดน้ำตาพร่าง
แว่วดุเหว่าหวาน
แผ่วเพลงครวญขลุ่ยคลอ
พ้อมากับฟากฟ้ากว้าง

เดินย่ำน้ำค้างดายเดียว
รับอุษาระริน
ดาวประจำเมืองริบหรี่
ฟ้ามืดหม่น
โน้มช่อดวงดอกพุดซ้อนหอมพร่าง
ดอมดมพรมจูบด้วยรักละมุนละม่อม

ประโลมใจดวงงาม
แหงนเงย
ฝากจูบจากใจละมุน
ผ่านกรุ่นกลิ่นหอมหอมของพวงพยอม
ดวงดอกไม้ที่กำลังสยายกลีบบาน
หวานจากห้วงใจรัก
ทายทักหน้าต่างเมฆ..แมกไม้..สายลมเย็นฉ่ำ
พร่ำกระซิบรักระริน
ถึงทุกดวงใจคนดีในสายใจสายถวิล
ที่อาจยังนิทราสู่ฉิมพลี

ถึง..แทน..ทุกใจ
ที่ให้พลังใจ
ที่ให้น้ำใจรักมากล้นรจนา
***********



ฉันเห็นเธอในดอกไม้สายลมไหว
มวลนกไพร ในฝนพราย แมกไม้ฝัน
ในดวงดาว ในอุ่นแสง แห่งตะวัน
ในความฝัน ในยามตื่น ชื่นฉ่ำใจ..

ฉันเห็นเธอ ในดวงจันทร์ ฝันเคียงฟ้า
ในเมฆา ในเรียวรุ้ง กระจ่างใส
ในผีเสื้อ ในสายน้ำ ในขุนเขา ในเงาใจ
เธอสถิตอยู่กลางใจในเรียวตาในศรัทธาในรักนี้ มิมีวันจะลบเลือน!




				
6 มิถุนายน 2547 15:08 น.

ร้อยรวงดวงบุปผามาคล้องใจ

พุด


http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4689
(ร้อยบุปผา)
*********

อุษานี้ฝนตกนะคะ
ราวพรำพรมรินรดหวานฉ่ำชื่นใจ
ให้แมกไม้ไพรและ
แมกไม้กรุงบานไสวรับเย็นงาม
คลี่ดวงดอกละออละอองเกสรพร่าง   
อวลสายระรินรัก

ให้ทุกดวงกมลรัก
ในร่มรักเรือนไทยเรือนใจเรือนสามัคคี
ดั่งน้องพี่บนถนนสายฝันสายสวรรค์สายดอกไม้งาม

เอนหลังนอนฟังเสียงฝน
ดอมดมดวงดอกไม้สยายกลีบพร่าง
ให้ใจดวงงามดวงใสไสวหวาน
บานหอมธรรมชาติหอมความดี

ที่ใจดวงงามเงียบเฉียบเย็นฉ่ำใสเพียงนั้น
จะรับรินรสหมดจดใจได้

ให้สายพระพิรุณสอนใจ
จะให้น้ำใจรักให้น้ำใจใคร
ก็ให้เย็นใสค่ะ..ดั่งเฉกเช่นหยาดฝนพรำ
อย่าเป็นดังฝนกรดรดราดรินใจ
แก่กันและกันเลยนะคะ
เพราะว่า
เราคือ
เพื่อนผู้ร่วมเกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นค่ะคนดี


จงระรินสายหวาน..บานดวงดอกเมตตาปรานีอภัย
ค่อยๆให้ค่อยค่อยประคองใจประคองรัก
ทิ้งอัตตาทิ้งตัวตนทิ้งความหลง

และทิ้งความเข้าใจไปตามความคิดตัวเอง
จงคิดว่าทุกผู้ที่เกิดมาล้วนมีกรรม
ล้วนต้องอบร่ำบ่มใจตัวด้วยตัวเองทั้งสิ้นทั้งนั้นค่ะ
และมาตรแม้นฝันไกล..
ใจก็รู้หยุดนิ่งรู้คิดเป็นเห็นงาม

หากเราควรเคารพสิทธิมิพาดพิงใจ
ไม่ล่วงล้ำก้ำเกินใครหากมิรู้ใจมิรู้จริง
รู้นิ่งรู้ให้รู้รำงับ
ดับด้วยดวงดอกความดี
ที่ควรค่อยๆพลี..หยาดเย็นให้
นะคะ
ทุกคนดี..ทุกดวงใจ..
และสำหรับ


พุดมีโลกไพร
โลกน้ำใจใสงามเงียบรอรับ
โลกแสนสุขอันสงบงาม
กับเรือนหลังเล็กของพุด
มีแต่น้ำใจใสเย็นค่ะ
ใครร้อนเข็ญ
มานอนเล่นนับดาวพร่างพราวนับพัน
ดูหวานจันทร์ดูหวานดาว
เฝ้าฟังดุเหว่าพร่ำหวานแว่ว
แผ่วแผ่วฟังบทเพลงขลุ่ยเพลงพิณระรินฝัน
ยามสายแสงจันทร์พ้อพลิ้วลอดทิวไผ่งาม

ดูบึงบัวพร่างกลางพรายจันทร์อันงาม
เรืองรองผ่องผุดสร้างพิสุทธิ์ในเงาใจเงาฝนเงาฝัน
พลันบรรเจิด
ราวสวรรค์ไพรสวรรค์ใจ.นะคะ
และสัมผัส

ทุ่งนาที่สาวนาหว่านกล้าดำไว้
ให้รวงเรียวไสวชูช่อรอทุกรักมาเกี่ยว
ด้วยเคียวรักรัดร้อยวิถีไพรวิถีงามเดิมดิบติดดิน

ให้ได้สัมผัสวิถีชีวินงาม
ให้ธรรมชาติบ่มหอม
และหวานล้อมด้วยดวงดอกไม้
ให้มีพลังใจมีไฟฝันร่ายรจนามนตราเสน่หา
ให้
มองโลกนี้แสนสวยแสนงามแสนดีค่ะ
ด้วยดวงตาที่สาม
มาตรแม้นชีวีจะผ่านชื่นรื่นเรียวเศร้าดายเดียว
ด้วยนวลเนื้อใจละมุนละเมียดนะคะ
และ


จงเป็นน้ำใสดับร้อน
จงค่อยค่อยสอนค่อยค่อยสร้างทางงาม
อย่างตรงไปตรงมา
และมิล่วงล้ำพิพากษาชีวิตใคร

ตราบใดที่เรายังมิเคยได้สัมผัสเหตุผลและปัจจัย
ในชีวีชีวิตของเขาอย่างแจ่มแจ้งนะคะ
พุด..
เพียรสร้างเรือนภาวนา
หวังหมดทุกดวงชีวา
ได้พักพิงเอนอิงไหล่
เกื้อใจเกื้อขวัญฝันฝัน
ด้วยพลังจิตดี..
พลีพากันสร้างสมาธิ..สู่สติ..มีปัญญา
และพาพบฝั่งฝันนิรันดร์รักไปด้วยกัน
และ

ด้วยหวัง..ด้วยรักล้นใจ
ทุกน้องพี่เพื่อนรัก
มาพักเรือนน้อยกลางบึงของพุดนะคะ
เราจะพายเรือไปเด็ดดอกบัวมาถวายพระด้วยกัน
มาแบ่งฝันปันใจ
มาตั้งใจอธิษฐานจิต
มาลิขิตถ้อยหอมค่า
มาหาความงามเย็นใส
มาร่วมกันสร้างสรรดี


นะที่แห่งนี้..ร่มรักนิรันดร์
อย่างคนที่มีหัวใจราวดวงเดียวกัน
ดั่งบทเพลงร้อยบุปผา
ที่พุดฝากกระชิบมานะบัดนี้ค่ะ
ด้วยรักจริงใจล้นใจใสงามในทุกยามทุกคราค่ะ

**********
พุดหวังใจ
ให้อ่านคลอแกล้มเรื่องนี้นะคะ
คืนเรือนรับขวัญค่ะ
ที่เคยฝากฝังรักฝากฝังใจดับร้อนให้งามเย็นร่ำระรินรัก
แด่ทุกดวงใจรักเรือนไทยเรือนใจเรือนในฝันชั่วนิจนิรันดรค่ะ
http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_47468.php




http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4689
ร้อยบุปผา   
สุนารี ราชสีมา : : Key F#m  

ร้อยบุปผา บานพร้อมพรัก
ร้อยสำนัก ประชันแข่งใจ
มวล ดอก ไม้ พร่างพรายมา พ้อง พาน
ร้อยดอกงาม เด่นตระการ
แย้มบานในดวง ใจ
ชู่ ช่อ ธรรม สง่า งาม ในนาม ศิลปิน

มาสร้าง งาน ศิลป์ ชุบชีวิน มนุษย์ชาติ
สะอาดสดสวย ด้วยบทเพลง แห่งสวรรค์
ให้มาลัย ฝากรัก มอบใจภักดิ์ ร่วมกัน
จุดไฟ ความฝัน พร่างพลัน ประกาย เพลิง

มาเถิด พี่น้อง ร่วม ร้อง เพลงเพื่อ
กลั่นจาก เลือด เนื้อ หยาดเหงื่อ เร่าร้อน
เราจะเร่ง แนวรบ ไม่สยบ อ้อนวอน
เริงระบำ รำฟ้อน ร้อยกรอง กวี กานต์

มาร่วม ใจรัก พร้อม พรักพลีชีวาตม์
ผงาด อาจ หาญ สร้างตำนานตระการฟ้า
แต่งเติม โลกศิลป์ ให้ผ่องพิณ โสภา
ด้วยวิญ ญานท้า ทรนงเทิดคง ธรรม

ร้อยบุปผา บานพร้อมพรัก
ร้อยสำนักประชันแข่งใจ
มวล ดอก ไม้ พร่างพรายมา พ้อง พาน
ร้อยดอกงาม เด่นตระการ
แย้มบานในดวง ใจ
ชู่ ช่อ ธรรม สง่างาม ในนาม ศิลปิน 



				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพุด
Lovings  พุด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพุด