31 มีนาคม 2551 17:35 น.

ยิ่งกว่าการฆ่า

แมงกุ๊ดจี่

ทางชีวิตลิขิตยาก2006910225214-Eternal_Summer_02.jpg"แกไปอยู่ไหนมา"เสียงพูดที่บ่งบอกถึงความดีใจผสมปนเปกับความแปลกใจ
"ชั้นอยากพบแก"เสียงส่งผ่านเครื่องมือสื่อสารทำให้ฉันสัมผัสได้ว่าบอบช้ำ
"อืม......งั่นชั้นจะไปหาแกเอง"เสียงนั้นฟังแล้วเจ็บปวดจังนึกในใจก่อนบอกไป
"ชั้นจะรอแก"เสียงนั่นเหมือนจะร้องไห้...ฉันใจไม่ดีเลยที่รู้สึกถึงเสียงนั้น
"ชั้นเคลียร์งานก่อนนะแล้วจะรีบไป"น้ำเสียงที่ส่งผ่านกลับไปยังเครื่องมือสื่อสารนั้นหนักแน่นว่านั่นจะเป็นคำมั่นจากเพื่อนคนนี้


หากจะย้อนกลับไปคิด...
อืม...คิดดูแล้วมันก็นานมากแล้วนานจริงๆ ที่เราไม่ได้ติดต่อกันเพียงแค่ความไม่เข้าใจกัน คลื่นความถี่ของความสัมพันธ์ของเพื่อนไม่มีสัญญา ไม่รับ ไม่ส่ง ถึงกัน  เนิ่นนานมากฉันเองก็รู้และเข้าใจว่าทุกคนมีทางชีวิตที่ต้องดูแลและรับผิดชอบ   "แกแต่งงานก็ไม่บอก"  มันเป็นเสียงที่ดังมาจากก้นบึ้งของใจและสายใยระหว่างกัน... แต่ฉันที่เดินทางเส้นเดิมนั้น ไม่มีการเปลี่ยนแปลงทุก ๆ วันยังเป็นเช่นเคยผ่านมา  และยังคงผ่านไป...


ระยะเวลาที่ผ่านมา...
แกทำหน้าที่ของตัวเองดีที่สุด  และชั้นก็ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดี  เราต่างต้องรับผิดชอบและดูแลกำหนดเส้นทางของตัวเอง  แกวุ่นวายกับชีวิตใหม่  แต่ฉันก็ยังวุ่นวายกับชีวิตเดิมเราต่างกัน แกสร้างชีวิตครอบครัวที่กำลังโตวัน โตคืน เพื่ออนาคตครอบครัวที่แกเคยฝันไว้แต่ชั้นสร้างตัวตนของตัวเองที่โตขึ้น  แต่ไม่รวดเร็วแต่ค่อย ๆ ซึมไปเรื่อย ๆ แบบเฉื่อย  ใช่! แกกับชั้นสร้างสิ่งที่แตกต่างกัน...  


ชั้นสร้างอิสระ  ให้กับตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ
แต่แกกลับสร้างกำแพงกักขังตัวเองแต่ชั้นรู้ว่าแกมีความสุขกับสิ่งที่ทำและชั้นเข้าใจมัน


ฉันนั่งคิดถึงอดีตที่ฝังลึกไว้...
และเรื่องราวที่เคยผ่านมา  ภาพความผูกพันและเรื่องราวต่าง ๆ เป็นภาพที่เด่นชัดในวันนี้ทั้งที่วันผ่านมามันเลือนลางเต็มที  เราไม่ได้ทะเลาะกัน  แค่เราไม่แคร์กัน  แต่เรายังผูกพันเสียงที่ส่งผ่านเครื่องมือสื่อสารมาฉันจำได้ว่านั้นเสียงใคร  และไม่เคยลืมเลย   ไม่ลืมจริง ๆ
"ถั่วงอก"  คือฉายาที่ถูกตั้งให้
"แตงกวา"  คือฉายาของแก
รีบเคลียร์งานทุกอย่างให้เสร็จเพื่อไปพบคนที่ไม่พบนาน  ความรู้สึกคือดีใจและแปลกใจรถจดนิ่งอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง  ซึ่งมองไปจากรั้วหน้าบ้าน มันเปลี่ยนแปลงไปเยอะมากฉันจำทางได้ดี   แม้จะนานมากที่ไม่ได้มาบ้านหลังนี้   เมื่อลงจากรถเดินเข้าไปผลักประตูคงเป็นสัญชาติญาณ  ที่ก่อนนั้นเคยทำประจำ  ความคุ้นชินยังมีอยู่ในความรู้สึกเสมอมา..


เดินเข้าไปก็มีหญิงวันกลางคนเดินยิ้มเข้ามากอดแน่นจนฉันอึดอัดพร้อมกับคำตำหนิ
"ไปอยู่ไหน?ไม่มาเยี่ยมแม่บ้างหายเงียบไปเลย"  เสียงแม่ของแตงกวาตำหนิมา
"หนูขอโทษ!  ไม่ได้อยากหายไปไหน? เลยค่ะ"  น้ำตาคลอเชียว...
"ไปข้างในกันป่ะลูก "   แม่แตงกวาจูงมือเข้าไปในบ้าน...


ฉันนั่งอยู่แป๊บเดียวก็ได้ยินเสียงสืบเท้ามาจากด้านหลัง  เป็นเสียงที่คุ้นเคย 
คุ้นหูทำให้ต้องหันกลับไปดูเพื่อความแน่ใจ  แต่ภาพที่เห็นกลับทำให้ใจหายน้ำตาไหลเอ่อมาภาพหญิงสาวสวยที่เคยเห็นตอนนี้ดูผอมโทรม ซูบซีด  ผิดกับที่เคยเห็นอย่างกับคนละคน
"แตงกวา..."  ฉันไม่สามารถเอ่ยคำอื่นได้เลยเพื่อนสาวก็พยักหน้ารับเหมือนสัญญาณบอกว่าเราผูกพันกันแค่ไหน? ฉันเดินเข้าไปกอดร่างผอมนั้นแน่นเราต่างร้องไห้โดยไม่อายกัน


เมื่อปรับความเข้าใจกันแล้วเรารู้เข้าใจกัน  และรับรู้ถึงเรื่องราวต่าง ๆ  ของกันและกันว่าเพราะอะไร คือสาเหตุที่ทำให้เราต้องเคืองกันมาและเป็นแผลในใจที่ไม่สามารถหายได้

ถั่วงอก.........."เป็นไงบ้าง มีอะไรจะเล่าให้ชั้นฟังบ้าง"  
แตงกวา........"เยอะแยะเลยล่ะ  แกจะฟังไหวป่าววววว "
ถั่วงอก.........."ไหวอยู่แล้ว  ไม่ได้ฟังเสียงแกนานมากแล้วนี่" ทุกอย่างเงียบไม่มีเสียงใด

แตงกวา........"นั่นดิเนาะ  ขอโทษนะที่ไม่เข้าใจแก"
ถั่วงอก.........."อย่าไปคิดถึงมันเลย ชั้นคิดถึงและเป็นห่วงแกตลอดมารู้ไว้"
แตงกวา........"อืม...ขอบใจแกมาก ๆ"
ถั่วงอก.........."แล้วเป็นไงบ้างที่ผ่านมา  มีอะไรจะพรีเซนป่าวล่ะ  เล่ามาเลย"
แตงกวา........"ชั้นแต่งงานแล้ว  และต้องขอโทษแกด้วยที่ไม่ได้บอก"
ถั่วงอก.........."แกใจร้ายมากเลย"
แตงกวา........"พอแต่งงานแล้ว  ชั้นก็ไม่มีเวลาคิดถึงแกเลยชั้นยอมรับ"
ถั่วงอก.........."อืม...ฉันเข้าใจ"
แตงกวา........"ฉันยุ่งอยู่กับการใช้ชีวิตใหม่  สิ่งใหม่ ๆ  ที่ต้องเผชิญเลยล่ะ
	    ชีวิตคนเราเหมือนนิยายจริง ๆ ทุกอย่างเกิดขึ้นได้"
ถั่วงอก.........."อิจฉาแกจังว่ะ"
แตงกวา........"หือ...ทำไมเหรอ?"
ถั่วงอก.........."ก็แกมีโอกาสได้เห็นชีวิต  รู้จักชีวิตมามากกว่าชั้น"
แตงกวา........"อืม...แต่ถ้าย้อนเวลากลับได้ชั้นจะเลือกกลับไปเป็นเหมือนเดิม
                        เหมือนครั้งที่ยังไม่แต่งงาน  แต่จะว่าไปมันก็สุขทุกข์คนละแบบ
                        แต่ชั้นอาจเป็นคนที่โชคร้ายกว่าครอบครัวอื่นๆ "
ถั่วงอก.........."อะไรทำให้แกคิดแบบนั้น"
แตงกวา........"ชีวิตนี้ชั้นคิดว่าตัวเองโชคดีที่สุด แต่ก็ไม่เลยที่ผ่านมาชั้นก็ไม่คิดนะ
                         ไม่เคยคิดเสียใจและเสียดาย   แต่ว่าฉันเรียกร้องมันกลับมาไม่ได้แล้ว"
ถั่วงอก.........."ชั้นเชื่อการตัดสินใจของแกเสมอ  ไม่ว่าที่ผ่านมา  หรือจนถึงวันนี้"
แตงกวา........"ขอบใจมาก  แกเข้าใจชั้นเสมอ"
ถั่วงอก.........."แต่น่าน้อยใจว่ะ  แกกลับไม่เคยเข้าใจชั้นเลย"
แตงกวา........"ก็แกมันคนเข้าใจยากนี่หว่า  ช่วยไม่ได้"  เราต่างหัวเราะในความต่างที่ลงตัว


ถั่วงอก.........."แล้วไงต่อ   แกเล่าถึงตอนแต่งงานแล้วงัย"
แตงกวา........"อ้อ....นี่ไง   รูปงานแต่งงานที่จัดขึ้นชั้นจะให้แกดู"
ถั่วงอก.........."ดู ดู  ถึงจะไม่ได้ไปก็เหอะ"
แตงกวา........"แกนี่ไม่เปลี่ยนเลยนะเรื่องแควะเนี๊ย"เสียงหัวเราะดังร่วน
ถั่วงอก.........."ขอบใจที่ชมกันซึ่ง ๆ หน้า"
แตงกวา........"งานแต่งงานชั้นจัดขึ้นแบบเรียบง่าย  มีเพื่อนในที่ทำงานของชั้น
                        และ..(เสียงพูดหายไจได้ยินเสียงถอนหายใจแผ่ว-แผ่ว)ของเค้า
                        มันดูดีนะในงานทุกคนต่างอิจฉาชั้นกันทั้งน๊านที่ได้พบผู้ชายดีดี
                        คนนี้   ทุกคนซึ้งกับบทเพลงที่เค้าร้องให้ฉันในวันนี้...  
                           
	     
                        (เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่คล้ายพยายามปลดปล่อย)  
                        ถึงจะเป็นงานเล็ก ๆ แต่อบอุ่นนะ  และเป็นความทรงจำที่สวยงาม
                        ชั้นคงจดจำไปจนตาย...
ถั่วงอก.........."ดูจากรูปพวกนี้แล้ว   ชั้นอิจฉาเลยอ๊ะ  เจ้าสาวสวยน่ารัก  
                        เจ้าบ่าวหล่อสุภาพ คนในงานดูมีความสุขจัง บรรยายกาศแบบนี้
                        เรียบง่ายเป็นสไตล์ครอบครัวโห!ใครเป็นคนคิดคอนเชปนี้เหรอ?"
แตงกวา........"เราสองคนเป็นวางแผนและลำดับขั้นตอนทุกอย่าง"  
ถั่วงอก.........."อืม...เดี๋ยวขอยืมคอนเชปบ้างนะ  เผื่อได้แต่งกะเขาบ้าง"  
                        ฉันหัวเราะร่วนเชียว
แตงกวา........"ได้ชั้นให้ยืม...ไม่คิดค่าลิขสิทธิ์เลยสักแดง"  ยิ้มหวาน...
ถั่วงอก.........."เอ้อ...ยังไม่ได้ถามเลยว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่  ลืมสนิท"
แตงกวา........"ชั้นมาได้หลายวันแล้ว  ฉันไปบวชชีพราหมณ์มา"
ถั่วงอก.........."ห๊ะ  อะไรนะ  แกว่าไงนะ  แกเนี๊ยนะ"
แตงกวา........"ใช่......แกยังไม่เห็นสภาพชั้นตนที่มาถึงบ้านดูไม่ได้เลย"
ถั่วงอก.........."อืม..."
แตงกวา........"ไอ้ก๊วก(เป็นศัพท์ที่พี่น้องเค้าเรียกกัน) เห็นสภาพฉันแล้วกลัวชั้นบ้า"
ถั่วงอก.........."เลยเอาไปหาที่สงบ...ขั้นนั้นเลยเหรอ?"
แตงกวา........"ใช่...ฉันอยากพบแกแต่ตอนที่มาถึงชั้นเหมือนตายไปแล้ว
                         ตัวชั้นเองหน่ะยังไม่รู้เลยว่ากลับมาถึงบ้านได้ยังไง? 
                         ชั้นเสียหลักล้มลงลุกแทบไม่ขึ้น"
ถั่วงอก.........." "__?   งง  ดับเบิ้ล  งง เลย" แต่ยังคงเงียบเพื่อรับฟังเรื่องราวต่อ...
แตงกวา........"ฉันคิดว่าเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุด  ใคร ๆ  ต่างอิจฉาทั้งนั้น  
                          ที่มีเค้าร่วมชีวิต เค้าเป็นผู้ชายแสนดีที่สุด  ที่ชั้นเคยพบมา  
                          ไม่ว่าวันนี้ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป แต่เค้ายังแสนดีในความรู้สึก
                           ของฉัน  และจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง....
ถั่วงอก.........."แกก็รักกันดีนินา "
แตงกวา........"ใช่เรารักกันมาก เรารักกันจนใคร-ใครต่างอิจฉา 
                          แต่ความสุขคนเรามันสั้นนะ ก่อนที่ชั้นกลับมาหาแม่  
                          เราก็ยังรักกันดี  แต่อาจห่างเหินกันไม่มีเวลาให้กัน
                          เวลาพูดคุยกันน้อยลง  ชั้นก็ยุ่งกับการเตรียมงานจนลืมคิดถึง
                          ช่องว่างที่เกิดขึ้น ชั้นเคลียดด้วย  และหงุดหงิดใส่เค้าบ่อย
                          พักหลังมานี้  คงเป็นความผิดฉันที่ไม่ได้เอาใจใส่เค้าเท่าที่ควร 
                          ทำให้ขาดความรัก"  (เสียงสั่นเพราะร้องไห้)
ถั่วงอก..........----- มองหน้า  ทำตาปริบ ๆ  น้ำตาก็ไหลเอ่อร้องตามเพื่อน ------
แตงกวา........"แต่ทุกอย่างพังทลายลง  หัวใจสลาย  ฉันเสียหลักล้มพับลุกไม่ขึ้น
                          งานที่เตรียมเพื่อเปิดตัวสินค้า  ทุกอย่างพังลงในวันนั้นวันที่..
                          เค้ามากอด...(เสียงสะอื้นและแล้วก็ปล่อยโฮออกมา)
                          เค้าเข้ามากอดชั้นแน่น  ชึ้นก็รู้สึกว่า..แปลกทำไม? เค้าร้องไห้
                          แต่ทุกอย่างมีคำตอบเสมอ..เค้าสารภาพว่า..เขาเปลี่ยนไป
                          เค้าไม่เหมือนเดิม  เค้าไม่สามารถรักผู้หญิงคนนี้ได้อีกแล้ว  
                          แต่ชั้นยังคงเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดสำหรับเค้า...แต่เค้ารัก
                          ผู้ชายคนนั้นที่เค้าได้พบกัน
                      " (เสียงร้องไห้ปล่อยโฮเหมือนจะขาดใจ)เค้าพบกันมาระยะหนึ่ง
ถั่วงอก.........."พอเถอะพอ  นิ่งซะนะ" อ้อมกอดของความผูกพันระหว่างเพื่อนอาจทำให้คลายความทุกข์บ้าง
แตงกวา........--------------มีแต่เสียงสะอื้น   ร่ำไห้-----------------



ฉันเจ็บปวดกับสิ่งที่ได้รับรู้  มันบรรยายไม่ถูกเลยจริง ๆ  แล้วแตงกวาล่ะ  เจ็บปวดแค่ไหน?ความเจ็บของฉันไม่ได้เสี้ยวของแตงกวาเลย   โชคชะตาเล่นตลกกับชีวิตคนจริง ๆ  และเราก็ไม่สามารถกำหนดและล่วงรู้อนาคตได้ว่าจะพบเจอกับอะไรบ้าง...  แตงกวาเองก็ไม่อาจรู้ว่าตัวเองจะพบเจอกับความล้มเหลวของชีวิต...  



แตงกวา........"ฮัลโหล   แกอยู่ไหน?"   เสียงสดชื่นส่งผ่านมือถือมา
ถั่วงอก.........."หือ...อยู่ที่ทำงาน   ทำไม?เหรอ?"  
แตงกวา........"มารับหน่อยสิ  อยากไปช๊อป"   
ถั่วงอก.........."เดี๋ยวนะดูงานก่อนว่ามีค้างมั้ย?  แล้วจะโทร.บอกนะ"
แตงกวา........"ได้ ๆ  เดี๋ยววันนี้ชั้นจะค้างบ้านแกนะ  โอเค.ป่าวว"
ถั่วงอก.........."ได้เดี๋ยวจะไปรับนะ"
แตงกวา........"จ้า  บ๊ายบายเพื่อน"


ทุกวันนี้แตงกวายืนได้แล้ว  และมีกำลังพร้อมจะก้าวกับการมีชีวิตอยู่ต่อไปข้างหน้า
ความทุกข์ทำให้คนเข้มแข็งเสมอ  หากได้ผ่านพ้นมันไปได้   และจะแกร่งยิ่งกว่าเดิมแต่กว่าลุกขึ้นได้อย่างนี้ก็ใช้เวลาพอควร    แตงกว่าไปบวชชี อยู่นานกว่าจะทำใจได้ทุกวันนี้ยังคงคิดถึงอยู่แต่ก็ไม่หมดอาลัยตายอยากเหมือนครั้งที่เกิดเรื่องแล้ว...  และรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร  กรรมนำพาโชคชะตาของมนุษย์ไม่มีใครผิดใครถูก...

				
25 กุมภาพันธ์ 2551 19:37 น.

ทัวร์กระจอก

แมงกุ๊ดจี่


เดือนนี้ชีพจรลงเท้า  เดินทางไกลไม่ได้หยุดหย่อนเลย...
เดินทางไป  กทม.  นี่รวมแล้ว  3   รอบแล้วเดือนนี้   มีภาระกิจหนักหนา
ต้องทำให้น้อง  เสร็จต้องทำให้พี่ "เอ๊าเอาเข้าไป...เฮ้อ"   ขอบ่นหน่อยแร่ะกัน
เตรียมกำหนดการทุกอย่างไว้ล่วงหน้าแล้ว   จำได้ว่าแจ้งสาว ๆ  ไว้ก่อนแล้ว
แต่ลืมยืนยันการเดินทาง    ไม่ใช่ลืมหร๊อก  แต่บอกแล้วนี่นา  คริ ๆ  ๆๆ  เอาหน่านะกำหนดการจะเดินทางตั้งแต่เย็นวันที่  20 - 24  กุมภาพันธ์   เพื่อไปทำภารกิจตัวเองและภารกิจของพี่ชายคนรอง  เรื่องย้ายทำเล คิ ๆ   ไปอยู่ที่อื่น  ที่ไกลผู้คน อิอิ ๆ


เท้าเหยียบพื้นแถวรังสิต  เวลา  04.50  น.  ของวันที่  21  กุมภาพันธ์  เดินทางจากรังสิตไปบ้านพี่ชายคนโตที่สายไหม   เพื่อไปพักเอาแรงก่อนค่อยทำภารกิจ
แต่เหมือนภารกิจจะเยอะจัดรอบนี้  ทั้งของตัวเอง  และของพี่ชายด้วย...การพักผ่อนก็ไม่ได้พักเสียเลย   เพราะเจ้าตัวยุ่งแท้ ๆ "น้องภูมิ" หลานชายสุดโปรดก็พ่อเล่นกวนจนอาไม่เป็นอันทำอะไร  ขยับไปไหน? ก็ไม่ได้   จะไปด้วยตลอดเชียว...


Image%28412%29.jpg?et=9XzDgZfZLK8xYEkLu4



เล่นกับหลานเสียจนลืมโทรไปยืนยันการเดินทางเสียสนิทเลยล่ะ  ลืมจริ๊ง ๆ จริง ๆ นะเออ..เลี้ยงหลานเลยมาวันแรก  ไม่ได้ทำอะไรช่วงเช้า  โทรศัพท์ที่ไม่ได้รับเพระไม่ได้ยินเสียง..ก็วางไว้บนห้องนอนนี่นา   คนก็อยู่ข้างล่างอ่าา    ทำไงได้  ก็คนมันไม่ได้ยินนี่นา   อิอิ ๆ..(มีคนบ่นว่าไม่รับสายไม่โทรกลับถ้าเป็นเพื่อน ๆ  ที่ทำงานนะ  มันเรื่องปกติ  อิอิ)..บ่ายโมงครึ้งก็ออกไปทำภาระกิจที่ปากเกล็ด หายไปตลอดบ่ายเลยล่ะ  อิอิ


วันที่  22  กุมภาพันธ์   เช้ารอน้องชายคนเล็กพาแฟนสาวมาแนะนำ  น้องสะใภ้ในอนาคต..ช่วงเช้าเขาพากันไปทำบุญวันเกิด  กว่าจะมาก็เกือบเที่ยงแร่ะ  วันนี้พี่ชายคนโตดีใจใหญ่...เลี้ยงสุกี้   กับปิ้งย่างอาหารทะเลทำกินกันเอง  จะได้มีเวลาพูดคุยกันไปด้วย  อบอุ่นดี..


วันที่  23  กุมภาพันธ์  เช้า ๆ  น้องชายมาส่งเพื่อทำภาระกิจของตัวเองพอเสร็จภารกิจประมาณเที่ยงก็โทรศัพท์กลับไปหาพี่สาวจ๋า  ที่พัทยา   ว่าจะไปถึงประมาณบ่าย  3  โมง  เหมือนคนโกหกอีกแร่ะ..เพราะต้องรอเอาของพวกกระเป๋าเสื้อผ้า   อะไรต่าง ๆ   ที่ฝากไว้ในรถน้องชาย  รอจนบ่าย  2  ตาย  ตาย.. ตายแน่!   ทุกอย่างผิดคาดไปหมด   ความกังวลเกิดขึ้นผสมปนเป   อารมณ์ก็เริ่มหงุดหงิดแร่ะ คนขี้กังวลเสียด้วย  น้องชายโทรมาบอกเจ๊มารับของได้แล้วกลับจากไปซ่อมงานแล้ว   เร็ว ๆ "มันยังมีหน้ามาเร่งฉานอีกนะ  "  อยากบ่นดัง ๆ  เสียจริง ๆ  ให้ตายเถอะ  อิอิ.. (ป่าวแก้ตัวนะ จะบอกไว้)  


เมื่อรับของเสร็จเรียบร้อยก็เดินทางต่อ  ไปจองตั๋วกลับสกลนคร   และจองตัวไปพัทยาที่หมอชิต...เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น  "ตกลงจะมาไหม ? ยายมะกรูดเน่า"   เสียงแปร๋ ๆ   มาจากพัทยาตามสัญญาไร้สาย"หนูกำลังตีตั๋วเนี๊ย   รอแป๊บดิ"   โว้ยกลับมั่งอิอิ   แหมเราก็กังวลเหมือนกันนะ "มาถึงสองทุ่มพอดี"เสียงเจ้แกบอกมาตามสาย  "โห  "   ฉันร้องออกมางี้เลย  อิอิ...


อด ๆ   อดเลย   อดกินเอ็มเค ฯ   เลย...แล้วก็ไอศกรีมด้วย  แย่ ๆ  ได้ไปกินส้มตำแทน  มาไกลจากสกลนคร..ยังไม่พ้นส้มตำ  น้ำตก  จิ้มจุ่ม   "เวรกำตรู"   ลาวของแท้หนีไม่พ้นอาหารบ้านเฮา  เอาเสียเลย อิอิ..จริง ๆ  ก็ชอบนะ  ของโปรดมันอยู่ในสายเลือดเสียแล้ว  อิอิ   ขาดไม่ได้เอาเสียเลยล่ะ

0109.jpg?et=Dtwge2rRCCyTEM7lSGvdRA&nmid=



เดินทางมาถึงพัทยาก็  เกือบทุ่มนึง   คนมารับยังมะมาเร้ย  โห...เราก็ชำเลืองมองคนไทยกะฝาหรั่งจูจู๊บกัน  อิอิ  เขิลแท้ ๆ  อิอิ    ต้องหันหน้าไปทางอื่นคิ ๆ   ก็แอบอิจฉาด้วยล่ะ  อิอิ...(สะออน/ออนซอน)..อันนี้ปาสบกาน  ริมทาง   แต่ยังไม่เคยมีปาสบกานตง   อิอิ   แต่ยังไม่รีบมีหร๊อกปาสบกานนี้  อิอิ   กัว...เป็นครั้งที่สองที่มาพักกระท่อมน้อยแต่มากด้วยความรัก  ความน่ารัก  และความประทับใจ  ที่ลืมไม่ลง  คิ ๆ และได้พบพี่อ้อ  คนดี   ดีอีหลีเด้อ   มาคบพี่สาวจ๋าได้งายหว่า   อิอิ(ก็พี่เขาดี  ผิดกะพี่สาวจ๋า  คนละฝาเร้ย)

01011.jpg?et=Tq2PBlN6KQu4c%2BNM7N9yPQ&nm



มาพักกระท่อมน้อย  ยังไม่พอมาบังคับใส่สีชมพูอีก  "กำของตรู"  ยอม ๆ ใส่ ๆ ไปเถอะ  อิอิ แต่ก็โอเค(เบตง)..พี่อ้อม๊ะรู้เต็มใจอ๊ะเป่า   อิอิ   แต่ก็หลวมตัวคบแร่ะ  ก็ต้องใส่ให้เขาล่ะ  คิ ๆ  เสร็จถ่ายรูปกับชุดชมพูหน่อยสิ..มีเสียงคนบ่นอุ๊บ "ใส่ชมพูสวยเพราะพวกนี้มันขาว"  อิอิ   ก็เลยได้ ๆ  อภัยให้ที่บังคับให้ใส่ อิอิ  เอาหน่านะ
คุยกันจบหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้ตัวเลยมีคนบอกว่าได้ยินเสียงโรงสี   "ก็คนมันนั่งรถเหนื่อยนี่นา"  ข้ออ้าง อิอิ

0104.jpg?et=X0FYbjTrL5Vc47RAQdZeAA&nmid=



เราสองคนกับพี่อ้ออยากรู้ว่าคนชอบสีชมพูนี่เขามีเยอะขนาดไหน?  เลยลองพิสูจน์ดู  โหตู้เสื้อผ้ามีแต่สีชมพู เสียงพี่แกดังมาจากข้างหลัง"นี่น้อยแล้วนะ"   และยังบ่นว่าไม่ค่อยมีเสื้อใส่ก็เลยหาดูกันซะเลยว่าที่ไม่มีมันยังไง..ดูแล้วก็ลอง  ลองหลายชุดเหมือนกัน  อิอิ   จนทำซิปชุดสวยเขาแตก  ก็บอกแล้วน้ำหนักขึ้น  อิอิ  ซิปแตกรีบยัดคืนตู้เลย   ไม่รับผิดชอบ  ไม่รู้ว่ามันแต่ก่อนอ๊ะเป่า    เล่นมาอำป่าวเจ้...

01010.jpg?et=Z4G8k%2B%2BO2pp3nKYMHb5HBg&
ไม่เคยเห็นปลาตาย  คิ ๆ


เมื่อยลองเสื้อกันแล้วก็เตรียมอาบน้ำ   เตรียมไปทัวร์เมืองพัทยา ชื่อทัวร์ทริปนี้ว่า "กระจอกทัวร์" แอบขำ ๆ กระจอกทัวร์ก็เพราะ "ทัวร์กระจอก"  อิอิ  จิ๊บ ๆ   แต่สนุกมาก ๆ   ไม่ต้องหรูดูดีมีระดับก็ประทับใจได้..แต่ว่าไกด์ที่นำทัวร์ไม่กระจอกจะบอกไว้   ไกด์นำเที่ยวได้สนุกและประทับใจมาก ๆ  ทุกครั้งที่ไปเที่ยวเลยและเป็นตากล้องใจดีมาก ๆ "ขอบคุณ  คุณไกด์มา  ณ โอกาสนี้ด้วย  และคงรู้แล้วว่ามะกรูดเป็นคนยังไง? " คิ คิ   

0102.jpg?et=MiX%2BB%2BNUepMrro1GgJiH2A&n


ทีมลูกทัวร์กระจอกทั้งหมดรวมแล้ว  9  ชีวิตแต่อีกสองสาวจากสมุทรปราการจะตามมาทีหลัง   เราเจ็ดคนก็เดินเล่นริมหาดพัทยากลางกลับมาพัทยาเหนือเดินถ่ายรูปกับเรือกับปลาริมทะเลเก็บภาพมาเรื่อย ๆ  จนสองสาวมาสมทบจึงทัวร์ไปต่อที่หาดวงศ์อมาตย์...เปลี่ยนทริปตามสภาพการณ์  อิอิ   "ขอบคุณหล๊าย  หลายเด้อ"  เพราะเราแท้ ๆ  แต่สนุกมากเดินถ่ายรูปจนเหนื่อย วิญญาณนางแบบเขาสิง  เออ...ไม่ใช่มีคนบอกว่ามันอยู่ในสายเลือด   5 5 5   เห็นกล้องไม่ได้เชียว  เป็นต้องวิ่งใส่แหม...ก็คนเขามั่นใจในความสวยนี่นา   คิ ๆ   

0106.jpg?et=7mijDww2KhzW%2BFbiZ5RLug&nmi



เดินมาเรื่อย ๆ  จนถึงทางเขาหาดวงศ์อมาตย์    ก็พบร้านไก่ย่างส้มตำก็แว่ะซื้อกันก่อน "ทัวร์กระจอกก็งี้แร่ะนะ" "ส้มตำ  ไก่ย่าง  อีกแร่ะตรู"   ลาวตลอดกาลอีกแร่ะ   ไม่พ้นเลยอาหารพื้นเพของฉาน  จะบ้าหนีไม่พ้นเสียเลยแต่ความเป็นจริงก็อร่อยดีของโปรดขาดไม่ได้อยู่แล้วชาตินี้     ซื้อเสร็จก็มาปูเสื่อกินกันฝาหรั่งมองกันใหญ่  5 5  แกะส้มตำกันหน้าตาเฉยเลย  5 5 5  แต่ก็สั่งอาหารเพิ่มสองสามอย่าง   แต่ขอบอกตรงนี้เร้ย  ไม่สู้ส้มตำจริง ๆ

0105.jpg?et=yrhpCM0xlOIFC%2BzR177clg&nmi



อิ่มหนำกันก็ลงทะเลไป   มาคราวนี้แร่ะได้เล่นน้ำทะเลทั้งที่เป็นลาวพ้อทะเลบ่อย  ๆ   แต่ไม่เคยเล่นซักทีมาครั้งก่อนก็ไม่ได้เล่นน้ำทะเล   แค่เอาเท้าแตะน้ำทะเลให้สมกับที่มาเท่านั้นเอง  สนุกมากเลยเพิ่งรู้ว่าน้ำทะเลเค็มและแสบตามาก ๆ   มุดน้ำไม่ได้เลย  ตัวดำอีกต่างหาก  อิอิ (ยังกะขาวมากมาย)  เล่นน้ำเสร็จก็มีกิจกรรมเพื่อความบันเทิง  แต๋น  แต๊น...  คือหาหอยเสียบ   มันมากเลยขุดทรายมันระเบิดระเบ้อไปเลยเชียว..ได้เวลากลับแร่ะ  (ตัวเองแร่ะรีบกว่าชาวบ้านเขา) ก็ไปแวะถ่ายรูปกันต่อ  อีกประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนกลับ..เพื่อเตรียมกลับเขากรุงเทพฯ   กลัวจะไม่ทันรถเที่ยว สองทุ่มตรงต้องยกเลิกภาระกิจที่ตั้งใจไปเสียเพื่อย่นเวลา

0107.jpg?et=EG5cRNCvJpNlGMBwBLGYZw&nmid=



เวลา  16.40 น.ได้เวลาขึ้นรถกลับแล้วใจก็หวิวๆ บั๊บบายเมืองพัทยาแล้วจะมาอีกนะจะเก็บความประทับใจ..ทุกคนน่ารักมาเลยเพื่อนร่วมทริปน้องกล้วย  น้องใหม่   น้องมายด์  พี่อ้อ  คุณไวท์ริลลี่   คุณนุช  พี่เหน่ง..ทุกคนคือความประทับใจ  และจะอยู่ในความทรงจำที่ดี ๆ  ตลอดไป...


0108.jpg?et=IlnKlG5nRiLNiQlCRmsOig&nmid=
  
โหพอขากลับมาเป็นกระต่ายตื่นตูนได้ไงไม่รู้  5 5 5  เหตุเพราะรถคันที่ขึ้นมันไปอีกเส้นทางหนึ่งซึ่งไม่คุ้น ไม่ใช่  ไม่ใช่  ความกังวลก่อตัวขึ้นบิดผ้าม่านบนรถบัสเสียจนเป็นเกลียวเชียว  ทั้งที่เส้นทางที่ไปมันใกล้กว่าอีก..กังวลว่าจะไม่ทันรถ  กระส่ายกระสับเชียว จนคุณรีมาบอกที่หลังว่าอีก  30  นาที  จะถึงแล้ว  โหเหมือนมาก ๆ เหมือนยกภูเขาออกจากอก  5 5 5 "ปล่อยไก่ตัวบะเหร่อเลยตรู"   


0103.jpg?et=WCEgXURu9GF0UYTUl%2C2hrg&nmi



พี่สาวจ๋า...ขอบคุณมาก ๆ   
พี่เหน่ง...ไกด์ไม่กระจอก  สำหรับทิปนี้  และตากล้องใจดี   ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ
พี่อ้อ...น่ารักมากเลยค่ะ  ยิ้มเก่งมาก ๆ  
น้องกล้วย...ขอบคุณหลาย  ที่เป็นบอร์ดี้การ์ดที่น่ารักมาก ๆ
น้องใหม่...น่ารักมาก  คุยเก่งด้วย...
คุณรีกับเพื่อนน่ารักมาก  ๆ   เล่นน้ำสนุกมากนะ ขอบคุณสำหรับความประทับใจนี้

ลาวสกล ฯ  ขอบคุณสำหรับความประทับใจในครั้งนี้
ทัวร์กระจอก : กระจอกทัวร์ ไม่ต้องหรูดูดีมีระดับแต่ประทับใจและงดงามในความทรงจำ 

0101.jpg?et=%2Ba9ZMdvRFIt9knY6kKX0nQ&nmi				
2 พฤศจิกายน 2550 13:09 น.

เปลือยใจแมงกุ๊ดจี่(ต่อ)

แมงกุ๊ดจี่



1193984002.jpg


สวัสดีค่ะ พี่ๆ   เพื่อนๆ   สมาชิก   บ้านกลอนไทย...

....กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว    นานมากจริง ๆ  นะ  คิ ๆ
ช่วงนั้นแมงกุ๊ดจี่ถูกมรสุมชีวิตหลายด้านมารุมเร้า   มีการสูญเสียหลายอย่าง
ทุกอย่างเกิดขึ้นฉับพลันและรวดเร็ว   แบบตั้งตัวไม่ทัน...ช่วงเวลานั้นทุกข์มากจริง ๆ

ช่วงนั้นเปลี่ยนงานใหม่   โดยท่านผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่แมงกุ๊ดจี่รักและเคารพ
ท่านให้โอกาสทำงานในองค์กรหนึ่ง    จึงได้รู้จักอินเตอร์เน็ตและได้ใช้มัน   
อาจจะหลงไหลด้วยซ้ำในช่วงระยะเวลาหนึ่ง  

ช่วงที่หลงไหลนั้น   ก็คือที่นี่  http://www.thaipoem.com  
วันที่แรกรู้จัก    เพราะค้นหาบทกลอนเกี่ยวกับคำอวยพร     เกี่ยวกับงานเกษียณ...
ทำให้พบ    http://www.thaipoem.com      และประทับใจในสมาชิกที่มีความน่ารัก
และปรารถนาดีต่อกัน   ซึ่งช่วงนั้นเรามองว่าโลกแห่งนี้มันมีความจริงใจกันแค่ไหน?
 หลังจากที่เข้ามาขโมยกลอนไป  1  บท   (กลอนบทนั้นของพี่ราชิกา   ไม่รุ้ว่าพี่เขาจำได้มั้ย?
ว่าเคยบอกไปแล้ว)   ก็เข้ามาบ่อย ๆ   แต่ไม่ได้สมัครสมาชิกหรอก  มาอ่านอย่างเดียวเพราะชอบ
แต่เขียนไม่เป็น   ก็อ่านให้ความทุกข์มันเบาบางในหัวใจ   เพราะรู้สึกละมุนละไมดีจัง
เมื่อได้ไล้สายตาไปตามตัวอักษรแต่ละบรรทัด....

เกือบสองปีที่อ่านอย่างเดียว....
จากนั้นก็อยากเขียนเป็นบ้าง    ก็สมัครสมาชิก    และก็เป็นสมาชิกที่แย่มาก ๆ 
มะกรูดทำผิดหลายอย่าง   ผิดกด   ผิดกติกาของที่นี่   หลายอย่าง... (อันนี้ผู้ดูแลระบบคงรู้)
สมัครสมาชิกครั้งแรกชื่อกิ่งไผ่  แต่ลืม password ไปแล้ว (พอมีทางได้คืนมามั้ยคะ ผู้ดูแลระบบ)

รู้สึกว่าที่นี่อบอุ่น   สนุกสนาน   และมีมิตรภาพที่งดงาม...
มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นที่นี่    ซึ่งสมาชิกเก่า  ๆ   คงรู้กันดี   และเข้าใจกันดี  
(ถ้าไม่เข้าใจกันดีก็อาจหาย ๆ  ไป)   เพราะหลากเรื่องราวที่เกิดขึ้น....

----------------------------------------------------------------------------------------------------
(ต่อจากกระทู้  ความคิดเห็น)

ตั้งแต่วันแรกที่รู้จัก  http://www.thaipoem.com   
มีโอกาสได้รู้จักมิตรภาพ    ความรัก    และความเจ็บปวด    ที่หลากหลายเหลือเกิน
โลกโซเบอร์บางคนก็คิดว่าเป็นโลกเสมือนจริง   ไม่มีใครจะจริงใจให้แก่กันสักเท่าไหร่
อันนี้มันก็จริงนะ    เพราะในบ้านกลอนเชื่อมั้ย    เคยเจอคนที่หลอกลวงสารพัดเลยล่ะ
และเจอคนที่จริงใจกับเราจริง ๆ    ประสบการณ์มันมากมายเหลือเกิน   สิ่งที่เกิดขึ้นเหรอ?
เสียใจนะ   แต่ก็ต้องยิ้มรับมันแม้นว่าจะเจ็บปวดสักเท่าใด....

เริ่มต้นการเขียนกลอนนี้ไม่เพราะนะ  (ปัจจุบันก็จับพลัดจับพลู ) เพราะเขียนไม่เป็นเลย
ได้ผู้ใหญ่ใจดีหลายท่านที่สอนและแนะนำการเขียนให้      ซาบซึ้งและระลึกถึงเสมอ
และเพื่อน  ๆ   พี่ ๆ   น้อง ๆ   ต่างให้กำลังใจในการเขียนในช่วงเวลานั้น
ทุก  ๆ  คน  คงมีความสุขสนุกสนาน  และมีแต่มิตรภาพงาม   เต็มบ้านกลอนไทย...
เราต่างได้เพื่อน  ได้กำลังใจ   ได้รับความอุ่นใจ  จากเพื่อน  ๆ   สมาชิก  ณ  บ้านแห่งนี้

อยากบอกความนัยเปิดใจรัก  thaipoem.com  
 http://www.thaipoem.com...
ทำให้มะกรูดมีกำลังใจ   และคลายความเศร้าหมองในจิตใจได้อย่างปาฏิหารย์   

 http://www.thaipoem.com  
ทำให้มะกรูดรู้จักความรัก   และรู้จักการให้   และรักใคร   ใคร   คนอื่นเป็น

 http://www.thaipoem.com  
ทำให้มะกรูดผิดหวัง  จากการคาดหวังจากใครบาง   คนบางใคร    เหล่านั้น

 http://www.thaipoem.com  
ทำให้มะกรูดได้รับมิตรภาพงาม     ความจริงใจ  ที่ปรารถนาดีที่มอบให้ซึ่งกัน
V
V
V
V
และสุดท้าย  
 http://www.thaipoem.com  
ทำให้มะกรูดเสียตังค์     5 5 5    ล้อเล้ง.....

I Love  http://www.thaipoem.com        เท่านี้แร่ะค่ะ

แต่ว่า....เง้อ อ อ ....อ
จากนี้คงไม่ได้เข้ามาแล้ว   "กรุณาอย่าลืมฉัน"   คนเรามีเรื่องราวมากมายใช่มั้ยค่ะ
ต้องมีสิ่งที่เลือก   และยอมรับ    เพื่อก้าวต่อสู้ไปในวังวนของวัฏจักรการดำรงชีพ
ความอยู่รอดของมนุษย์   ขึ้นอยู่กับตัวเอง  ไม่ได้ขึ้นอยู่กับใครเราจำเป็นต้องเลือก
แมงกุ๊ดจี่ก็ต้องเลือกทางเดินสำหรับต้อง   และยอมรับเพื่อปล่อยวาง   ปลดปล่อย
เรื่องราวต่าง  ๆ   ให้ผ่านไป   และแก้ไขมันด้วยสติปัญญา.....

ได้โปรดอย่าลืมฉัน....
ตอนนี้มะกรูดเหนื่อย   เหนื่อยเหลือเกิน...
ขอหลบไปเพื่อค้นหาตัวเองสักพัก   ตั้งหลักได้แล้วจะกลับมาใหม่....
เพื่อน  ๆ    http://www.thaipoem.com   คงไม่ลืมกัน    มะกรูดมั่นใจ
บางอย่างต้องการเวลาเพื่อค้นหา   อาจช้า    อาจเร็ว   หรืออาจหาไม่เจอ
ทางออกคงมีให้เราก้าวเดิน......   
รักษาใจหายดีแล้วจะมาหา      ฉันสัญญา....

--------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอให้ทุกคนมีความสุข   
มิตรภาพงามล้ำ  ซาบซึ่งจิต
ขอบคุณ   มิตรภาพงาม   จากหัวใจงามทุกดวง
--------------------------------------------------------------------------------------------------

ปล่อยวางเว้น...เลิกละ...เพื่อสะสาง
เรื่องทุกอย่างเว้นวรรคตั้งหลักใหม่
พร้อมพินิจ...รู้คิดตรอง...ลองแก้ไข
คิดครวญใคร่ฝ่าฟัน    *ด้วยปัญญา*

ปล่อยวางเว้น...เรื่องราวสิ่งร้าวราน
ให้พ้นผ่าน....เลยล่วง....อย่าห่วงหา
มองปัญหารอบคอบคิด *พิจารณา*
มั่นศัทธา....แห่งหัวใจ....ก้าวไปต่อ

ปล่อยวางเว้น...ทุกสิ่งแล้วนิ่งเฉย
เรื่องใดเคย....ทำผิด....อย่าคิดท้อ
บอกเตือนตน....ทำให้ดีเท่านี้พอ
เพื่อสิ่งรอ....คืออนาคตอันงดงาม

ปล่อยวางเว้น...ความทุกข์ที่จุกอก
อย่าสะทกสะท้านหากใครหยาม
รู้จักข่ม...เตือนตนไว้...ในทุกยาม
ให้คอยปราม...ความคิดใช้จิตตรอง...

ปล่อยวางเว้น...หยุดถือ...หรือยึดติด
ปลดดวงจิตต์...ของตนที่หม่นหมอง
ดำเนินชีพ....เรียบง่ายปลายครรลอง
เพียงประคอง....ดวงจินต์ถึงสิ้นลม...				
26 ตุลาคม 2550 09:10 น.

เทศกาลออกพรรษาเที่ยวงานแห่ปราสาทผึ้ง

แมงกุ๊ดจี่

11-20071026090001.jpgมะกรูดรับโทรสับ...(สับแหลกเลยวุ้ยส์)  เสียงดังมาจากข้างหลัง
"จ้า ๆๆๆ "   รีบถลาไปรับทันที  จริง ๆ  มันก็เบอร์ภายในนั้นแร่ะ
แต่ตื่นเต้นผิดปกติไปง้าน ๆ   เอิ๊ก ๆ 
"สวัสดีค่ะ....โห!  ตรูอุตส่าห์พูดเพราะ ๆ  นึกว่าหนุ่ม"   ฉันตอบไป
เมื่อรู้ว่าใครโทรหา...
"เอ่อเนาะแกนิ   จะไปกินพาแลงบ่"   เสียงคุณหญิงเธอขู่มา
"ไป ไป  ไปดิ...."  รีบปฏิเสธ  ฮ่าาๆ    รีบตอบตกลงทันทีเดี๋ยวมีโมโห

เทศกาลออกพรรษา
ทางจังหวัดจัดงานยิ่งใหญ่เพราะเป็น   งานประจำจังหวัด   ก็คือ....
"งานแห่ปราสาทผึ้ง"   ปีนี้ก็จัดยิ่งใหญ่ไม่แพ้ปีไหน  ไหน   สวยงามและ
ตระการตาอย่างยิ่ง    

มะกรูดเองก็ไม่ค่อยได้มีโอกาสไปสักเท่าไหร่หรอกในแต่ละปี
วันนี้จึงอยากร่วมงานพาแลงปีนี้   ขบวนแห่คงต้องไปอยู่แล้ว  คิ ๆ

งานพาแลงจะมีการแสดง  แสง สี เสียง
ซึ่งจะเป็นการแสดงตำนานหนองหาร  และการละเล่น  การแสดงต่าง ๆ  
สวยงามดี....
และทางวัด หรือคุ้มต่าง ๆ  ก็จะนำปราสาทผึ้งที่เตรียมแห่มาให้ชมในวันนี้ด้วย

บรรยายไม่คอยเก่ง   และมะกรูดไม่ค่อยมีเวลา  เอาภาพมาปันเพื่อน ๆ  ชม
อยากบรรยายให้ดีกว่านี้  แต่ไว้โอกาสต่อไปนะคะ  คิ ๆ

11.jpg11-20071026084615.jpg11-20071026084634.jpg11-20071026090001.jpgพานบายศรี   ตั้งเรียงเป็นแถวยาวเลยล่ะ

11-20071026084154.jpg11-20071026084211.jpg11-20071026084653.jpgอาหารพาแลง...  


11-20071026084709.jpgมือไม่นิ่งแต่ก็อยากอวด


11-20071026084823.jpg11-20071026084912.jpg11-20071026084937.jpg11-20071026084957.jpg11-20071026085039.jpg11-20071026085101.jpg11-20071026085940.jpg
ชอบภาพนี้ที่สุด   ไม่ได้เอาขาตั้งกล้องไป   
มันเลือนนิดหนึ่งนะคะ   ฝีมือไม่ค่อยมีเท่าไหร่   แต่ใจรัก   คิ ๆๆๆ 

.				
17 ตุลาคม 2550 07:56 น.

เมื่อลมหนาว...

แมงกุ๊ดจี่

เสียงลมพัดพลิ้วมาเป็นระลอกริ้ว
ส่งผลทำให้กิ่งไม้  ใบไม้ปลิวอยู่ไหว ไหว...  
แต่เหตุใด   หัวใจจึงไหวตามการเคลื่อนไหวของใบไม้...
ดึกสงัดแล้ว   แต่ทำไม ?  ดวงตาจึงแข็งทื่อไม่ยอมปิดลงเลย...

ฉันนั่งรับลมอยู่ระเบียงหลังบ้าน....
นั่งอยู่เป็นนานแล้ว   ตั้งแต่หัวค่ำจนดึกดื่น...
คอยเหม่อมองดูดวงตะวันยอแสง   จนกระทั่งลาลับไปไร้สิ้นแสง

ก้มซบหน้ากับเข่า  ท่านั่งชันขึ้นบนเก้าอี้โยก  ตัวโปรดของพ่อ...
ผ่านไปอีกแล้วหนึ่งวันอีกไม่นาน"พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว" ฉันบอกตัวเองพรึมพรำอย่างเบา
เร็วจังอีกไม่นานก็จวนจะสิ้นปีแล้ว   "ตุลาคม  พฤศจิกายน  และธันวาคม"  จะพ้นไป
นั่งทอดถอนลมหายใจหลายรอบแล้ว   แต่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังวิตกกังวลกับสิ่งใดหนอ?
ฤดูกาลผ่านผันเร็วบ้าง  ช้าบ้าง   บางครั้งก็ไม่รู้สึกเลยว่ามันผ่านพ้นไป  ถึงไหน  ไหน.

ฉันเงยหน้ามองท้องฟ้า...
ฟ้าสวยดี  ฤดูกาลนี้    น้ำค้างกำลังเริ่มลงอากาศเย็นวาบกระทบผิวยามลมโชยมาแต่ละที
เสียงเพลงที่เปิดไว้คลอแว่วมาตามสายลม    เหงาดีแท้   บรรยากาศนี้บทเพลงก็ช่างเหลือ
ช่างบังเอิญเล่น  ถึงเพลงที่เข้ากับบรรยากาศแท้....


"ผ่านลมหนาว   จะกี่คราวก็ยังเหมือนเดิม  ไม่มีใครให้ใจอุ่น
อยากจะหา   คนที่ทำให้ใจสมดุลย์  แต่ไม่เคยสมหวังสักที... "


ลมหนาววาบหวิว   น้ำค้างก็หนาววูบวาบแท้   แต่อารมณ์นี้ไม่เห็นกลัวเป็นไข้สักนิดเลย
ฟังเพลงแล้วทำให้คิดย้อนกลับไป    เมื่ออดีต   เจ็บร้าวหนาวเหน็บแบบสะใจไร้คำตอบ
ความปวดร้าวบวกกับอากาศเย็นทำให้สะท้อนผิวกายร้าวไปถึงหัวใจเชียว   เง้อความรัก
ทำให้คิดถึงประโยคหนึ่งที่เคยเห็นบ่อย ๆ   ในหน้าเว็ป     "อารมณ์คนในอารมณ์เพลง"
มันก็จริงนะคน   "เหงาได้ขนาดนี้เชียว   อารมณ์คนอ่อนไหว"   


"ใกล้หน้าหนาวทุกครั้ง   ไม่มีคนคอยคิดถึง
อยากมีใครให้รัก  ให้ซึ้ง   เหมือนคนอื่นเขา
ใกล้หน้าหนาวทุกครั้ง  คล้ายฤดูกาลยิ่งเหงา
ต้องทนหนาวกับใจที่เหงา  คนเดียวอย่างเดิม... "


อากาศแบบนี้    บรรยายเหงา  ๆ      มองดาวบนฟ้าก็พอทำให้ผ่อนคลายได้บ้างในรู้สึก   
"ความคิดถึงเกิดขึ้นเมื่อคิดถึง"   ทำให้คิดถึงประโยคนี้จัง   อารมณ์เหงารุมเร้ายกใหญ่
หัวใจสั่นคลอน   ปลดล่องลอยไป  ตามลมหนาวที่พัดพลิ้ว   ลิ้วล้อกับน้ำค้างกลางหาว
บนฟ้าดวงดาวสวยงามฟ้าเปิดปลอดโปรงดีจัง  ระยิบระยับแวววาวแสงดาวพราวเต็มฟ้า


"ลมหนาวมาเมื่อใด  ใจฉันคงยิ่งเหงา
คืนวันที่มันเหน็บหนาว  ไม่รู้จะทนได้นานเท่าไร
ลมหนาวมาเมื่อใด   กลัวฉันกลัวขาดใจ  เพราะหัวใจ
ที่มันอ่อนไหว   ไม่เคยได้รักจากใคร  เสียที... "



แม่จ๋า.....
บางเสี้ยวอารมณ์   ยากจะข่มให้ความแปรปรวนในอารมณ์คงดังเดิมเช่นปกติยากจริง
นานแล้วที่ไม่ออกมารับบรรยากาศแบบลูกทุ่ง ๆ  บ้านนาของบรรยากาศที่จิตสำนึกนั้น   
คอยโหยหาอยู่เสมอ ๆ   แต่ไม่ค่อยได้มาสัมผัสกับบรรยากาศนี้สักเท่าไหร่   เนิ่นนาน...
เนิ่นนานมาก   จนทนอาการร่ำร้องของหัวใจตัวเองไม่ไหว...

หมอกควันคละคลุ้งมันรู้สึกเย็นวาบแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างกาย   ฉันลืมหายใจหรือ  ? 
ก็ไม่นิ   แต่ในรู้สึกเหมือนฉันไม่ได้หายใจ   ไม่มีการสูบลมเข้าปอดและไม่รู้สึกว่า...
ผายลมออกจากปอด  รู้สึกตัวเบาสบายคล้ายล่องลอยอยู่กลางอากาศ   ฉันมองรอบตัว
เห็นแต่ควันสีขาว   แต่สักพักเริ่มจาง ๆ   กลายเป็นสว่างจ้า...

"แหลม...แหลม  " ฉันรู้สึกตกใจและระคนดีใจที่ได้ยินเสียงคุ้นเคยที่ดังมาจากด้านหลัง
ฉันรีบหันหลังกลับไปดู    เพราะคนที่จะเรียกฉันมีแค่สองคน  มีแม่  และพ่อ เท่านั้น     
ภาพที่ปรากฏตรงหน้านั้นทำฉันยิ้มดีใจ  นั้นแม่นี่นา วันนี้แม่สวยจังแม่ใส่ผ้าซิ่นไหมแท้
สีเม็ดมะขามเป็นไหมมัดหมี่ที่ท่านทอเองกับมือ และใส่เสื้อผ้าหางกระรอกสีออกน้ำตาล
ที่พี่สาวซื้อผ้าฝากจากกรุงเทพ ฯ แล้วนำไปตัดเป็นเสื้อให้เข้าชุดกับผ้าซิ่นไหมแท้ของแม่ 
ท่านสวยมาก  หน้าตาผ่องใส  ผิวพรรณดูผุดผาด แววตาแจ่มใส ยิ้มอบอุ่นให้ฉันแต่ไกล  


"แหลม แหลม " ได้ยินเสียงดังมาจากข้างหลังทำฉันสะดุ้ง  นี่มันเสียงพ่อนี่นา เง้อ..อ..อ  
ฉันทำหน้าตางัวเงีย   ค่อย ๆ   หรี่ตาข้างนึ่ง อ้าวสว่างจ้าแล้วนี่หว่า   เง้อ.อ..อ     พ่อเปิดไฟ
"บ่ย่านติ  มานั่งหยังอยู่หนี่ โอโต๋นิเนาะ" เสียงพ่อเอ็ดดังก่อนเดินไปเปิดหลอดไฟอีกดวง
"ฟืนไฟกะบ่เปิดน้อ   อยู่คนเดียวกะ   บ่ย่านหยังเนาะ"    คำพูดของพ่อทำให้ฉันนึกขึ้นได้  
ว่าตัวเองนั่งตั้งหัวค่ำจนดึกดื่นแล้วก็เผลอหลับไป....
"ฮาดดดดด   เช๊ย.ย..ย...ย  "  คัดจมูกจริงวุ้ยส์....
"เปนได๋   เปนไข่คั๊กบาดนิ   ใหย๋ปานนิกะบ่จักความเนาะ"    เสียงพี่แกบ่น  ๆ   เง้อ.อ..อ
ฉันไม่มีข้อโต้แย้งใด ใด   เพราะตัวเองก็ผิดจริง  โตขนาดนี้แล้วยังมานั่งตากน้ำค้างอยู่อีก
มิหน่ำซ้ำ   นั่งตากลมจนมือซีดเลย   หวัดรับประทานละคร๊าบบบบทั่น...

ฉันนั่งมองสังเกตอาการกริยาของพ่ออยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรกับท่านได้แต่มอง
"ไป๋แมะไปนอน   ยังมานั่งหยังอยู่หนี่ "   แล้วท่านก็เดินไปปิดหลอดไฟ   ที่อยู่ด้านใต้ถุน
แล้วเปิดไว้แต่ระเบียงหลังบ้าน  ฉันเข้าไปในบ้านแบบไม่มีอาการขัดเคือง  ให้ท่านว่าต่อ
"หายากินซะเด้อ."เสียงพี่แกตะโกนสั่งตามมาจากข้างหลัง ฉันเองไม่ได้หันกลับไปมอง..

ฉันงอนพ่อมานานแล้ว   มันได้หลายเดือนแล้ว...
มันมีวันหยุดติดกันหลายวัน  จึงออกมาเปลี่ยนบรรยากาศที่บ้าน  มันเป็นครั้งแรกเลยล่ะ
ในรอบหลายเดือน   ฉันไม่เคยโผล่หัวมาเลย   พ่อให้พี่สาวโทร.ตามก็ไม่ยอมออกไปหา
แต่ท่านก็รู้ว่าฉันเป็นคนที่ได้อุปนิสัยของท่านมากที่สุดในจำนวนลูกทั้งหมด  ฉันถอดมา   
ถอดแบบพิมพ์เดียวกับท่านเลยเชียว  ซึ่งท่านก็รู้ว่าฉันดื้อ รั้น เลี้ยงยาก  และนิสัยเด็ดขาด
กว่าใคร ๆ   ซึ่งมากกว่าพี่ชายของฉันเสียอีก...

เดินเข้ามาถึงห้องนอนทำให้นึกถึงสิ่งที่กึ่งฝัน  กึ่งตื่นก่อนนี้...
แม่คงดีใจ    ที่ฉันกลับมาบ้าน   ฉันคงบาปไม่น้อยที่ทำตัวแบบนี้     แต่ทำไงได้ล่ะเน้อ...
ก็คนเรามันมีเหตุผลนี่นา   แม่ก็รู้นี่....ว่าพ่อเป็นไง     เง้อ.อ..อ...อ   ไม่วายแก้ตัวแล้วตรู
แต่ฉันก็ไม่ลืมสัญญา   ที่รับปากกับแม่ไว้หรอกหน่า...  ก็ฉันยังโทร.ถามข่าวคราวของพ่อ
กับพี่สาวประจำ  ๆ    เพียงแต่ไม่ได้ออกมาพบปะหน้าเท่านั้นเอง...

แม่จ๋า...
หนูจะไม่ลืมสัญญา... 


 
----------------------------------------------------------------------------------------------

สัญญาณลมหนาวอีกครา "ตุลาคม"
ถึงคราวขม...เมื่อเข้าสู่...ฤดูหนาว
คนเดียวดายหนาวเหน็บเร้นเจ็บร้าว
เมื่อทุกคราว...ยังคงเป็นเช่นผ่านมา...

---------------------------------------------------------------------------------------------- 				
Calendar
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟแมงกุ๊ดจี่
Lovings  แมงกุ๊ดจี่ เลิฟ 2 คน
Calendar
Lovings  แมงกุ๊ดจี่ เลิฟ 2 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแมงกุ๊ดจี่